วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 21:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 09:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มาอีกแล้วครับ คนขี้สงสัย...อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ มาแชร์กันเล่นๆ มาสนทนาแก้เหงา..เผื่อมันอาจเป็นธรรมทาน หรือ เป็นประโยชน์ เป็นความรู้แก่ท่านเพิ่งเริ่ม ศึกษา และ ปฏิบัติ และขออานิสงฆ์ที่ท่านได้เข้ามาเผยแผ่ ชี้แนะ บรรยาย ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ :b8:
เชิญ อาจารย์ ท่านผู้รู้ เพื่อนๆ พี่ น้อง ....
" ขณะที่มองไปเห็น ต้นไม้สีเขียว มีนกจับเกาะกลุ่มส่งเสียง เหมือนพูดคุยกัน ได้ยินเสียงไพเราะยิ่ง สีของใบไม้ท้ังเขียวอ่อน เขียวแก่ สลับกับเหลืองแดงของดอกไม้ป่า ดูแล้วเจริญตา สวยงามเหนือคำบรรยายยิ่งนัก "
ในประโยค หรือ วลีนี้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม ?? ขออนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 11:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2014, 11:55
โพสต์: 123

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่เก็บไว้เอามานึกมาคิดมาบรรยายออกมานั้นเป็นนาม หากคิดไว้จินตนาการไว้ในใจ ไม่ใช้รูปที่อาศัยนี้พิมพ์ข้อความสื่อสารออกมา ผู้อื่นก็ไม่อาจรับรู้ว่าตนเองกำลังคิดอะไร สงสัยอะไร กำลังวิตกวิจารณ์ด้วยเรื่องอะไรอยู่

การพิจารณารูป สักแต่ว่ารูป
ควรพิจารณาการเดินทางของรูปที่ รูปเกิด รูปเด็ก รูปหนุ่มรูปสาว รูปแก่ รูปเจ็บ รูปตาย รูปที่เราเคยเห็นเคยยึดอยู่หายไปไหน เป็นปัจจัยให้รู้จักใช้รูปนี้อย่างไรให้เป็นประโยชน์ก่อนที่รูปนี้จะเป็นอนัตตา ซึ่งคนทั่วไปใช้รูปนี้ไปตามราคะ โทสะ โมหะ หากรู้จักความเป็นจริงของรูปก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ นำรูปมาตั้งอยู่ในท่ามกลางสัจจธรรม ปฏิบัติธรรม ให้เกิดเป็นองค์สมาธิ ไม่ใช้รูปนี้เบียดเบียนตนและผู้อื่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
มาอีกแล้วครับ คนขี้สงสัย...อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ มาแชร์กันเล่นๆ มาสนทนาแก้เหงา..เผื่อมันอาจเป็นธรรมทาน หรือ เป็นประโยชน์ เป็นความรู้แก่ท่านเพิ่งเริ่ม ศึกษา และ ปฏิบัติ และขออานิสงฆ์ที่ท่านได้เข้ามาเผยแผ่ ชี้แนะ บรรยาย ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ :b8:
เชิญ อาจารย์ ท่านผู้รู้ เพื่อนๆ พี่ น้อง ....
" ขณะที่มองไปเห็น ต้นไม้สีเขียว มีนกจับเกาะกลุ่มส่งเสียง เหมือนพูดคุยกัน ได้ยินเสียงไพเราะยิ่ง สีของใบไม้ท้ังเขียวอ่อน เขียวแก่ สลับกับเหลืองแดงของดอกไม้ป่า ดูแล้วเจริญตา สวยงามเหนือคำบรรยายยิ่งนัก "
ในประโยค หรือ วลีนี้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม ?? ขออนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:


สิ่งที่ถูกเห็นเป็นรูป
สิ่งที่รู้เห็นเป็นนาม

เสียงเป็นรูป
รู้เสียงเป็นนาม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
มาอีกแล้วครับ คนขี้สงสัย...อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ มาแชร์กันเล่นๆ มาสนทนาแก้เหงา..เผื่อมันอาจเป็นธรรมทาน หรือ เป็นประโยชน์ เป็นความรู้แก่ท่านเพิ่งเริ่ม ศึกษา และ ปฏิบัติ และขออานิสงฆ์ที่ท่านได้เข้ามาเผยแผ่ ชี้แนะ บรรยาย ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ :b8:
เชิญ อาจารย์ ท่านผู้รู้ เพื่อนๆ พี่ น้อง ....
" ขณะที่มองไปเห็น ต้นไม้สีเขียว มีนกจับเกาะกลุ่มส่งเสียง เหมือนพูดคุยกัน ได้ยินเสียงไพเราะยิ่ง สีของใบไม้ท้ังเขียวอ่อน เขียวแก่ สลับกับเหลืองแดงของดอกไม้ป่า ดูแล้วเจริญตา สวยงามเหนือคำบรรยายยิ่งนัก "
ในประโยค หรือ วลีนี้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม ?? ขออนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:

ตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆผิดถูกช่วยชี้แนะนะเจ้าค่ะ คือคุนน้องเข้าใจจากปัญญาตนเอง
ต้นไม้คือรูป การปรากฏเห็นสี ว่าเป็นสีเขียวคือนาม
นกคือรูป การปรากฏรู้ใน..เสียงว่าไพเราะ..คือนาม
ใบไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ป่า คือรูป การปรากฏรู้ว่า สีแเดง สีเขียวอ่อน.. ว่าสวยงามเหนือคำบรรยาย ..คือนาม
ปล.เพิ่มอีกนิดการที่ตากระทบรูป แล้วปรากฏรู้ว่าเป็นนั่นเป็นนี ..ยกตัวอย่าง ตากระทบรูป สิ่งที่ปรากฏรู้ว่าเป็นนก แท้จริงนกคือสมมุติเพื่อใช้เทียบเคียงกับสิ่งที่เราปรากฏเห็น(ทางจักษุวิญาณ)ให้เรารู้และเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เพราะถ้าหลุดออกจากสมมุติว่านก มันก็คือรูป ที่จักษุวิญญานเข้าไปรู้ ไม่ว่าจะนก ต้นไม้ ดอกไม้ นี่คือสมมุติที่ใช้เทียบเคียงกับสภาวธรรมที่ปรากฏขึ้นจากจักษุวิญญาน(สิ่งที่ถูกรู้ด้วยประสาทตา)เพื่อให้ผู้อื่นได้รู้และเข้าใจเช่นเดียวกับเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ศรีสมบัติ เขียน:
มาอีกแล้วครับ คนขี้สงสัย...อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ มาแชร์กันเล่นๆ มาสนทนาแก้เหงา..เผื่อมันอาจเป็นธรรมทาน หรือ เป็นประโยชน์ เป็นความรู้แก่ท่านเพิ่งเริ่ม ศึกษา และ ปฏิบัติ และขออานิสงฆ์ที่ท่านได้เข้ามาเผยแผ่ ชี้แนะ บรรยาย ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ :b8:
เชิญ อาจารย์ ท่านผู้รู้ เพื่อนๆ พี่ น้อง ....
" ขณะที่มองไปเห็น ต้นไม้สีเขียว มีนกจับเกาะกลุ่มส่งเสียง เหมือนพูดคุยกัน ได้ยินเสียงไพเราะยิ่ง สีของใบไม้ท้ังเขียวอ่อน เขียวแก่ สลับกับเหลืองแดงของดอกไม้ป่า ดูแล้วเจริญตา สวยงามเหนือคำบรรยายยิ่งนัก "
ในประโยค หรือ วลีนี้ อะไรเป็นรูป อะไรเป็นนาม ?? ขออนุโมทนา :b8:
เจริญในธรรม :b8:


สิ่งที่ถูกเห็นเป็นรูป
สิ่งที่รู้เห็นเป็นนาม

เสียงเป็นรูป
รู้เสียงเป็นนาม

ลุงหมาน คุนน้องอยากรู้เสียงเป็นรูปเพราะเหตุใดค่ะ คุนน้องเข้าใจไรผิดไป เสียงเป็นคลื่นความถี่ไม่ปรากฏรูปร่าง รู้ได้จากโสตวิญญาณสิ่งที่ปรากฏรู้ทางหู เสียงไม่มีรูปร่างเป็นมวลสารเกิดขึ้นและดับอย่างรวดเร็ว อยากเช่นเราคุยโทรศัพท์ซึ่งอยู่กันคนละที่ เสียงอะไรบ่งบอกว่าคือรูปอ่ะค่ะ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ย. 2014, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


รอลุงหมานไม่มาตอบซะที
มีใครพอจะตอบข้อสงสัยคุนน้องได้บ้างค่ะ
เสียงเป็นรูป?..
รู้เสียงเป็นนาม
เสียงเป็นรูปยังไงค่ะ?
คุนน้องอยากเทียบเคียงกับสภาวะธรรมตนเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 02:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขออนุโมทนากับทุกคำตอบครับ ท่าน ลุงหมาน และ ท่าน nongkong
เจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 03:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
อลุงหมานไม่มาตอบซะที
มีใครพอจะตอบข้อสงสัยคุนน้องได้บ้างค่ะ
เสียงเป็นรูป?..
รู้เสียงเป็นนาม
เสียงเป็นรูปยังไงค่ะ?
คุนน้องอยากเทียบเคียงกับสภาวะธรรมตนเอง

ตอบยากอ่ะ คุณน้องเอ๊ย :b14: ก่อนลุงหมานจะมา ขออนุญาต อธิบายย้ำคำตอบของลุงหมานอีกที
เสียงเป็นรูป ได้ยินเป็นนาม
ถามว่าเสียงเป็นรูปยังไง?? มันละเอียด มันเป็นรูปอย่างละเอียดที่มองด้วยตาไม่เห็น แต่เมื่อมากระทบประสาทหูได้ แสดงว่ามันเป็นรูปชนิดนึง แม้อากาศ มันก็น่าจะจัดเป็นรูป ลมเป็นรูป เพราะมากระทบได้ แต่ลมเรามองไม่เห็นแต่สัมผัสด้วยกายได้ เอาเป็นว่า เสียง กับได้ยิน มันคนละธรรมชาติกัน ไม่ใช่อันเดียวกัน ได้ยินเกิดขึ้นมาก็ด้วยมีเหตุปัจจัย ประกอบประสาทหู ช่องหู มีเสียงมากระทบ ประชุม ผัสสะ จึงเกิดการได้ยิน จะเห็นว่า มีประสาทหู มีเสียง มีการได้ยิน คนละอย่างกันทั้งหมด คนละธรรมชาติกัน
เสียง...............จัดเป็นขันธ์................ก็เป็น รูปขันธ์
ได้ยิน..............จัดเป็นขันธ์................วิญญานขันธ์
ประสาทหู เป็นความใส ในการรับเสียง....จัดเป็นขันธ์.............รูปขันธ์
เป็น....อายตนะ.......เรียกว่า...โสตายตนะ
ผิดถูกยังไง คลาดเคลื่อน เดี๋ยวคงมี เกจิ อาจารย์ เข้ามาแก้ไข เพิ่มเติม อีกที หวังว่า คงได้รับความกระจ่างบ้าง....ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 06:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Rup28.gif
Rup28.gif [ 48.76 KiB | เปิดดู 4697 ครั้ง ]
nongkong เขียน:
รอลุงหมานไม่มาตอบซะที
มีใครพอจะตอบข้อสงสัยคุนน้องได้บ้างค่ะ
เสียงเป็นรูป?..
รู้เสียงเป็นนาม
เสียงเป็นรูปยังไงค่ะ?
คุนน้องอยากเทียบเคียงกับสภาวะธรรมตนเอง


เสียงเป็นสิ่งภายนอกที่มาปรากฏทางทวารหูเท่านั้น
เสียงเป็นอายตนะภายนอก หูเป็นเป็นอายตนะภายใน (= เสียง+หู) มากระทบกัน
จิต หรือ มนายตนะ จึงเกิดขึ้น (= เสียง + หู + จิต ) เมื่อทั้งสามอย่างมาประชุมพร้อมกัน
เรียกว่า "ผัสสะ" ตรงในผัสสะจึงมีทั้งรูปทั้งนาม (เสียง กับ หู) เป็นรูป (จิต) เป็นนาม

ซ้ำอีกที่เพื่อความเข้าใจง่ายๆแบบบ้านๆ เมื่อเสียงกลองมากระทบที่หู ถามว่าหูได้ยินไหม
ต้องตอบว่าหูไม่ได้ยินเสียงเลย เพราะเสียงก็เป็นรูป หูก็เป็นรูป เมื่อรูปต่อรูปกระทบกันจึงไม่ได้ยิน
รูปกับรูปจึงเป็นเพียงตัวถูกรู้ จิตเกิดขึ้นที่หูจึงรู้เสียงได้ เรียกว่านามเป็นตัวรู้ และสิ่งที่เรียกว่านาม
นั้นมี จิตกับเจตสิก ส่วนเสียงนั้นจัดเป็นรูปที่อยู่ในกลุ่มที่เป็นรูป ๒๘
:b8: ขอความเข้าใจและเจริญในธรรมจงบังเกิดขึ้นเถิด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 06:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




images.jpg
images.jpg [ 12.17 KiB | เปิดดู 4697 ครั้ง ]
nongkong เขียน:
ลุงหมาน คุนน้องอยากรู้เสียงเป็นรูปเพราะเหตุใดค่ะ คุนน้องเข้าใจไรผิดไป เสียงเป็นคลื่นความถี่ไม่ปรากฏรูปร่าง รู้ได้จากโสตวิญญาณสิ่งที่ปรากฏรู้ทางหู เสียงไม่มีรูปร่างเป็นมวลสารเกิดขึ้นและดับอย่างรวดเร็ว อยากเช่นเราคุยโทรศัพท์ซึ่งอยู่กันคนละที่ เสียงอะไรบ่งบอกว่าคือรูปอ่ะค่ะ?


เสียง ไม่ปรากฎเป็นรูปที่เห็นได้ด้วยตา แต่ปรากฏเป็นรูปได้ทางหู
กลิ่น ก็เช่นเดียวเป็นรูปที่ปรากฎทางจมูก รส ก็เป็นรูปปรากฎได้ทางลิ้น
โผฏฐัพพะ หรือ ธรรมารมณ์ หรือเรื่องราวต่างๆ ก็เป็นรูป ที่ปรากฎทางใจได้(หรือมโนวิญญาณ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
nongkong เขียน:
อลุงหมานไม่มาตอบซะที
มีใครพอจะตอบข้อสงสัยคุนน้องได้บ้างค่ะ
เสียงเป็นรูป?..
รู้เสียงเป็นนาม
เสียงเป็นรูปยังไงค่ะ?
คุนน้องอยากเทียบเคียงกับสภาวะธรรมตนเอง

ตอบยากอ่ะ คุณน้องเอ๊ย :b14: ก่อนลุงหมานจะมา ขออนุญาต อธิบายย้ำคำตอบของลุงหมานอีกที
เสียงเป็นรูป ได้ยินเป็นนาม
ถามว่าเสียงเป็นรูปยังไง?? มันละเอียด มันเป็นรูปอย่างละเอียดที่มองด้วยตาไม่เห็น แต่เมื่อมากระทบประสาทหูได้ แสดงว่ามันเป็นรูปชนิดนึง แม้อากาศ มันก็น่าจะจัดเป็นรูป ลมเป็นรูป เพราะมากระทบได้ แต่ลมเรามองไม่เห็นแต่สัมผัสด้วยกายได้ เอาเป็นว่า เสียง กับได้ยิน มันคนละธรรมชาติกัน ไม่ใช่อันเดียวกัน ได้ยินเกิดขึ้นมาก็ด้วยมีเหตุปัจจัย ประกอบประสาทหู ช่องหู มีเสียงมากระทบ ประชุม ผัสสะ จึงเกิดการได้ยิน จะเห็นว่า มีประสาทหู มีเสียง มีการได้ยิน คนละอย่างกันทั้งหมด คนละธรรมชาติกัน
เสียง...............จัดเป็นขันธ์................ก็เป็น รูปขันธ์
ได้ยิน..............จัดเป็นขันธ์................วิญญานขันธ์
ประสาทหู เป็นความใส ในการรับเสียง....จัดเป็นขันธ์.............รูปขันธ์
เป็น....อายตนะ.......เรียกว่า...โสตายตนะ
ผิดถูกยังไง คลาดเคลื่อน เดี๋ยวคงมี เกจิ อาจารย์ เข้ามาแก้ไข เพิ่มเติม อีกที หวังว่า คงได้รับความกระจ่างบ้าง....ขอเจริญในธรรม :b8:


สาธุครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาในคำตอบของผู้อาวุโสทั้ง2 smiley
เมื่อก่อนคุนน้องเข้าใจว่า รูป คือสิ่งสัมผัสจับต้องได้มาตลอดเลย อย่างลม หรือ อากาศ คุนน้องก็ไม่จัดว่าเป็ยรูป เพราะมันมองไม่เห็นอธิบายลักษณะไม่ได้ แต่จะบอกว่าไม่มีลมกับอากาศก็ไม่ได้เพราะว่ามันมีแต่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจับต้องไม่ได้อะไรแบบนี้น่ะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงๆคุนน้องยึดหลักปฏิบัติมากกว่าศึกษาในตำรา จึงมีความคลาดเคลื่อนจากอภิธรรมไปไม่น้อยหรืออาจจะเข้าใจไม่หมดก็ว่าได้ เพราะอะไรนะหรือเพื่อให้ความเข้าใจไม่คลาดเคลื่อนและเกิดความสงสัยกับตนเองมากและเราต้องสามารถอธิบายได้โดยยึดหลักความเป็นจริงของวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นการเอื้ออำนวยแก่การบรรลุธรรมได้ง่ายและไม่หลงติดสมมุติ
ยกตัวอย่าง คุนน้องกำลังรับประทานอาหารที่มีกลิ่นหอมน่าทานละรสชาติเอร็ดอร่อย
ประโยคสีแดงถ้าให้อธิบายว่าอะไรเป็นรูปอะไรเป็นนาม ?คุนน้องจะถอดสมการให้ดู
คุนน้อง (สมมุติบัญญัติ)มหาภูติรูป4 ที่ประชุดกันด้วยดิน น้ำ ลมไฟ มีหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เครื่องในตับไตไส้พุง บลาๆ
กำลังรับประทาน.. รูป+กริยา ในขนะปัจจุบันนั้น
อาหาร...อาหารคือรูป เพราะตากระทบสิ่งนั่นแล้วเห็นเป็น รูป เป็นสี เย็น ร้อน อ่อน เหลว(รูปที่สามารถเห็นได้ด้วยตาและอธิบายได้ถึงรูปนั้นว่าสี เย็น ร้อน อ่อน เหลวคือนามธรรม)
กลิ่นหอม..สิ่งที่มากระทบกับจมูกแล้วรู้ในกลิ่น ว่าหอมว่าน่าทานคือ นาม แต่กลิ่นไร้รูป ถ้าจะบอกจมูกคือรูปเพื่อให้ได้รับรู้กลิ่น อันนี้น่าจะใช่
รสชาติเอร็ดอร่อย.. เอร็ดอร่อยเป็นนามธรรม ความรู้สึกที่ถูกรู้ด้วยลิ้น (ลิ้นคือรูป)ทำให้รู้ในรสนั้นๆ

นี่คือหลักปฏิบัติของคุนน้องที่ทำให้เข้าใจง่ายและ
เอื้อแก่การผู้ฝึกเจริญสติเพื่อแยกรูปแยกนามตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ศรีสมบัติ เขียน:
nongkong เขียน:
อลุงหมานไม่มาตอบซะที
มีใครพอจะตอบข้อสงสัยคุนน้องได้บ้างค่ะ
เสียงเป็นรูป?..
รู้เสียงเป็นนาม
เสียงเป็นรูปยังไงค่ะ?
คุนน้องอยากเทียบเคียงกับสภาวะธรรมตนเอง

ตอบยากอ่ะ คุณน้องเอ๊ย :b14: ก่อนลุงหมานจะมา ขออนุญาต อธิบายย้ำคำตอบของลุงหมานอีกที
เสียงเป็นรูป ได้ยินเป็นนาม
ถามว่าเสียงเป็นรูปยังไง?? มันละเอียด มันเป็นรูปอย่างละเอียดที่มองด้วยตาไม่เห็น แต่เมื่อมากระทบประสาทหูได้ แสดงว่ามันเป็นรูปชนิดนึง แม้อากาศ มันก็น่าจะจัดเป็นรูป ลมเป็นรูป เพราะมากระทบได้ แต่ลมเรามองไม่เห็นแต่สัมผัสด้วยกายได้ เอาเป็นว่า เสียง กับได้ยิน มันคนละธรรมชาติกัน ไม่ใช่อันเดียวกัน ได้ยินเกิดขึ้นมาก็ด้วยมีเหตุปัจจัย ประกอบประสาทหู ช่องหู มีเสียงมากระทบ ประชุม ผัสสะ จึงเกิดการได้ยิน จะเห็นว่า มีประสาทหู มีเสียง มีการได้ยิน คนละอย่างกันทั้งหมด คนละธรรมชาติกัน
เสียง...............จัดเป็นขันธ์................ก็เป็น รูปขันธ์
ได้ยิน..............จัดเป็นขันธ์................วิญญานขันธ์
ประสาทหู เป็นความใส ในการรับเสียง....จัดเป็นขันธ์.............รูปขันธ์
เป็น....อายตนะ.......เรียกว่า...โสตายตนะ
ผิดถูกยังไง คลาดเคลื่อน เดี๋ยวคงมี เกจิ อาจารย์ เข้ามาแก้ไข เพิ่มเติม อีกที หวังว่า คงได้รับความกระจ่างบ้าง....ขอเจริญในธรรม :b8:


ถ้าเป็นสูญญากาศ เสียงก็ไม่สามารถเดินทางผ่านได้
เราไม่สามารถรับรู้เสียงได้ด้วยตา หรือทวารอื่นใดได้เลย นอกจากโสตทวารเท่านั้นที่สามารถรับเสียงได้ สิ่งที่เราไม่สามารถเห็นไม่ใช่ไม่มี เช่น คลื่นวิทยุ เราก็ไม่สามารถเห็นแต่เราก็เปิดวิทยุรับฟังรายการวิทยุได้ค่ะ

เสียงไม่ใช่รูปละเอียดในทางพระอภิธรรมค่ะ แต่เป็นรูปหยาบ คืออยู่ในกลุ่มของ โอฬาริกรูป ๑๒ หมายถึงรูปที่ปรากฏชัด มี ปสาทรูป๕ และ วิสยรูป๗ มีรูปารมณ์ เป็นต้นค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ย. 2014, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


SOAMUSA เขียน:
เสียงไม่ใช่รูปละเอียดในทางพระอภิธรรมค่ะ แต่เป็นรูปหยาบ คืออยู่ในกลุ่มของ โอฬาริกรูป ๑๒ หมายถึงรูปที่ปรากฏชัด มี ปสาทรูป๕ และ วิสยรูป๗ มีรูปารมณ์ เป็นต้นค่ะ

สาธุ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 40 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร