ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อุเบกขา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48709 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 11 พ.ย. 2014, 05:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | อุเบกขา |
#อุเบกขา ◆คือความวางใจเป็นกลาง,ไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง,ความวางใจเฉยได้,ไม่ยินดียินร้าย,เมื่อใช้ปัญญาพิจารณาเห็นผลอันเกิดขึ้นสมควรแก่เหตุและรู้ว่าพึงปฏิบัติต่อไปตามธรรมหรือตามควรแก่เหตุนั้น,ความรู้จักวางใจเฉยดู,เมื่อเห็นเขารับผิดชอบตนเองได้หรือในเมื่อเขาควรต้องได้รับผลอันสมควรแก่ความรับผิดชอบของเขาเอง,ความวางทีเฉยคอยดูอยู่ในเมื่อคนนั้นๆ,สิ่งนั้นๆ,ดำรงอยู่หรือดำเนินไปตามควรของเขา,ตามควรของมัน,ไม่เข้าข้าง,ไม่ตกเป็นฝักฝ่าย,ไม่สอดแส่,ไม่จู้จี้สาระแน,ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงหรือความรู้สึกเฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์เรียกว่า'อุเบกขาเวทนา'¤ พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์:ป.อ.ปยุตฺโต ◇#เงินกับเกียรติมิใช่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน,มิใช่เป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้,#คนไม่มีเงินแต่มีเกียรติก็มีอยู่,#ความสำคัญอยู่ที่ว่า,#เงินที่มีหรือได้มานั้น,#เป็นเงินที่จะทำให้เกียรติยศชื่อเสียงสิ้นไปหมดหรือไม่,#ควรจะพิจารณาให้รอบคอบในเรื่องนี้,โดยเฉพาะผู้ที่ยังคำนึงถึงชื่อเสียงเกียรติยศของตนและวงศ์ตระกูล¤ [สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่๑๙] "#บุคคลหว่านพืชเช่นใด,#ย่อมได้รับผลเช่นนั้น, ผู้ทำดี,ย่อมได้ดี,ผู้ทำชั่ว,ย่อมได้ชั่ว." (ส.ส.๑๕/๙๐๓/๓๓๓) "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!ถ้าภิกษุไม่ฉลาดในปริยาย(เรื่องราว)แห่งจิตของผู้อื่น,เมื่อเป็นเช่นนั้น,พวกเธอก็พึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า,เราจักเป็นผู้ฉลาดในปริยาย(เรื่องราว)แห่งจิตของตน.".. ทสกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๔/๑๐๒-๑๐๕ ◇กาเยน กุสลํ กตฺวา วาจาย กุสลํ พหุํ มนสา กุสลํ กตฺวา อปฺปมาณํ นิรูปธึฯ ตโต โอปธิํก ปุญฺญํ กตฺวา ทาเนน ตํ พหุํ อญฺเญปิ มจฺเจ สทฺธมฺเม พฺรหฺมจริเย นิเวสย◆ ( ขุ.อิติ.๒๕/๒๖๒/๒๙๐) ◇ท่านจงทำให้มาก,ทั้งด้วยกาย,ด้วยวาจา,และด้วยใจ,ซึ่งกุศลอันประมาณมิได้,แต่ท่านจงทำบุญ,อันระคนอุปธิให้มากด้วยทาน,แล้งจงชักจูงแม้คนอื่นๆให้ตั้งอยู่ในพระสัทธรรม,ในพรหมจริยะ◆ #การบวชที่แท้จริงแล้ว:#ก็เพื่อจะละความโลภ,#โกรธ,#และหลง พระด้วยกันก็มีคุณธรรมแตกต่างกัน,จึงเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน.บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา,มีศีลปาติโมกข์สังวร๒๒๗ข้อนั้น,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสเรียกว่าเป็น"พระ",แต่เป็นเพียงพระสมมุติเท่านั้น,เรียกกันว่า"#สมมุติสงฆ์" #พระที่แท้จริงนั้นหมายถึงบุคคลที่บรรลุคุณธรรมตั้งแต่ขั้นโสดาบันเป็นต้นไป,#ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะได้บวชหรือเป็นฆราวาสก็ตาม,#นับว่าเป็น"#พระ"#ทั้งสิ้น และพระด้วยกันก็มีคุณธรรมต่างกันหลายระดับชั้น,จากน้อยไปหามากดังนี้พระโสดาบัน,พระสกิทาคามี,พระอนาคามี,พระอรหันต์,พระปัจเจกพุทธเจ้าและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,ย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่แตกต่างกันออกไป. [สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙] ไม่นานหนอ,กายนี้จักนอนทับแผ่นดิน,ถูกทอดทิ้งปราศจากวิญญาณ,เหมือนท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์ฉะนั้น." ธรรมบท๒๕/๒๐ #ห้วงน้ำใหญ่-#มฤตยู "มฤตยูย่อมพานรชนผู้มัวเก็บดอกไม้คือกามารมณ์,มีใจข้องในอารมณ์ต่างๆไป,เหมือนห้วงน้ำใหญ่พัดเอาชาวบ้านที่กำลังนอนหลับไปฉะนั้น" ธรรมบท ๒๕/๒๑ เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ |
เจ้าของ: | JANDHRA [ 11 พ.ย. 2014, 07:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขา |
..อนุโมทนาแล้วๆๆ.. |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 พ.ย. 2014, 07:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขา |
รสมน เขียน: #อุเบกขา ◆คือความวางใจเป็นกลาง,ไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง,ความวางใจเฉยได้,ไม่ยินดียินร้าย,เมื่อใช้ปัญญาพิจารณาเห็นผลอันเกิดขึ้นสมควรแก่เหตุและรู้ว่าพึงปฏิบัติต่อไปตามธรรมหรือตามควรแก่เหตุนั้น,ความรู้จักวางใจเฉยดู,เมื่อเห็นเขารับผิดชอบตนเองได้หรือในเมื่อเขาควรต้องได้รับผลอันสมควรแก่ความรับผิดชอบของเขาเอง,ความวางทีเฉยคอยดูอยู่ในเมื่อคนนั้นๆ,สิ่งนั้นๆ,ดำรงอยู่หรือดำเนินไปตามควรของเขา,ตามควรของมัน,ไม่เข้าข้าง,ไม่ตกเป็นฝักฝ่าย,ไม่สอดแส่,ไม่จู้จี้สาระแน,ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงหรือความรู้สึกเฉยๆไม่สุขไม่ทุกข์เรียกว่า'อุเบกขาเวทนา'¤ พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์:ป.อ.ปยุตฺโต กระผม....งง...ครับ อ่านเริ่มแรก...ก็คิดว่า...จะเป็นอุเบกขาในพรหมวิหาร4... แต่พอเห็น..อุเบกขาเวทนา...ก็เลย..งง ตกลง...เป็นอุเบกขาในพรหมวิหาร 4 หรือ...เป็นอุเบกขาของอทุกขมสุขเวทนา...อย่างไหนครับ ใครมีคำแนะนยังงัย..ให้เข้าใจ...ช่วยบอกที..ครับผม |
เจ้าของ: | toy1 [ 11 พ.ย. 2014, 12:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขา |
อุเบกขาของปุถุขนผู้ยึดถือเขาถือเราอยู่ มิใช่อุเบกขาจิตอันไพบูลย์ กว้างขวาง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มี พยาบาท ไปยังสัตวโลกทั้งปวง เพราะเป็นผู้มีจิตเสมอในสัตว์ทุกหมู่เหล่า |
เจ้าของ: | รสมน [ 12 พ.ย. 2014, 13:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขา |
อุเบกขาแปลว่าการวางเฉย แต่เวทนานั้นแปลว่าความรู้สึก มี 3 คือ สุข ทุกข์ และไม่สุขไม่ทุกข์ สามารถดูรายละเอียดของเวทนาได้ที่ http://nkgen.com/378.htm |
เจ้าของ: | รสมน [ 12 พ.ย. 2014, 13:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อุเบกขา |
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |