ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47895 |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | student [ 11 มิ.ย. 2014, 14:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
ท่านที่ไม่เจิมรถ ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร เพราะการยึดเอาโชคต่างๆหรือ ความเป็นมงคลต่างๆของวัตถุด้วยการเจิมบ้าง หรืออย่างอื่น มันเป็นการปฎิบัติที่หวังพึ่งโชค เป็นการเอากระแสโลกไปยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ใช่การลงมือปฎิบัติธรรมด้วยความเพียรตนเอง |
เจ้าของ: | student [ 11 มิ.ย. 2014, 14:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
อย่างการพูดลอยๆว่าเลข13 ไม่เป็นมงคล หรือเป็นเหตุให้เกิดความเป็นมงคล นั้นเป็นการพูดที่ไม่อิงสู่เหตุผลอะไร เหมือนเอาความเชื่อมาพูด เป็นการพูดโกหกเพราะไม่ใช่การหยั่งรู้ด้วยญาณ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 11 มิ.ย. 2014, 21:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กรัชกาย เขียน: เอารถป้ายแดงไปเจิมที่วัดมา หลวงพี่พุดซะไม่กล้าขับรถเลย ออกรถป้ายแดงมาคะ ก้เลยเอาไปเจิมเพื่อความสบายใจหน่อย จริงๆ ก้ไม่ได้เชื่ออะไรมาก. แต่ก้ไม่ลบหลู่ พอไปถึงวัดหลวงพี่ก้ดุทะเบียนป้ายแดงเรา มีเลข 13 อยุ่ในนั้น เค้าบอกเป็นเลขอันตราย อุบัติเหตุ เราก้บอกแค่ป้ายแดง คงไม่เป็นไร เพราะไงก้ต้องเปลี่ยน ท่านบอกก้ป้ายแดงนี่แหละ. คันก่อนหน้ามีเลขแบบนี้. ตอนนี้ชนขายซากไปเรียบร้อยแล้ว คือจริงๆ เราไปหาเพีอเป็นที่พึ่งทางใจป่าวคะ จริงๆ น่าจะเจิมแล้วก้พรมน้ำมนต์ให้พร ประมาณว่าอย่าประมาท แต่นี่พุดซะเราขาดความมั่นใจไปเลย. พอดีมือใหม่ด้วย ตอนนี้เลยไม่กล้าจะขับออกไปไหนเลย จิตใจสำคัญ จะต้องฝึก นี่เขาก็บอกอยู่ ว่าเธอไปให้พระเจิมให้เนี่ยเพื่อเป็นขวัญเป็นกำลังใจ แต่เผอิญพระผู้ทำพิธีไม่เข้าใจถึงจิตใจของผู้ไปหาไปพึง ผลก็เป็นยังงี้แหละ ชีรู้ดีนะว่า อ้างคำพูด: น่าจะเจิมแล้วก้พรมน้ำมนต์ให้พร ประมาณว่าอย่าประมาท แต่ให้กำลังใจตนเองไม่ไหว ใจไม่แข็งแรงพอ จึงต้องให้ผู้ที่ตนเคารพนับถือบอกสอน ประมาณว่า ขับรถเคารพกฎจราจรนะ อย่าใจร้อนอย่าประมาท อย่าแซงทางโค้ง อย่าขับตามหลังรถคันใหญ่ เพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้า |
เจ้าของ: | asoka [ 12 มิ.ย. 2014, 07:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
สร้างเรื่องมาให้ปรุงแต่งวิพากษ์วิจารณ์กันไปหลากหลายความคิดเห็นให้เป็นงาน เพราะฟุ้งซ่านหลุดจากทางที่พึงเดิน เราตกเป็นเมืองขึ้นของพราหมณ์มาตั้งแต่หลังสมัยพุทธกาลแล้ว จึงพากันมีสรณะอื่นที่นอกเหนือจากพระรัตนตรัย จะแก้ปัญหาของน้องที่ไปเจิมรถ ต้องแก้ที่ตัวเขาใจเขาเอง อย่าไปตัดพ้อต่อว่าและพยายามแก้พระแก้สังคม เพราะจะยิ่งจมลงในปัญหา บ้าไปกับเรื่องของโลก อย่างที่กรัชกายกำลังเป็น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 12 มิ.ย. 2014, 07:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
asoka เขียน: สร้างเรื่องมาให้ปรุงแต่งวิพากษ์วิจารณ์กันไปหลากหลายความคิดเห็นให้เป็นงาน เพราะฟุ้งซ่านหลุดจากทางที่พึงเดิน เราตกเป็นเมืองขึ้นของพราหมณ์มาตั้งแต่หลังสมัยพุทธกาลแล้ว จึงพากันมีสรณะอื่นที่นอกเหนือจากพระรัตนตรัย จะแก้ปัญหาของน้องที่ไปเจิมรถ ต้องแก้ที่ตัวเขาใจเขาเอง อย่าไปตัดพ้อต่อว่าและพยายามแก้พระแก้สังคม เพราะจะยิ่งจมลงในปัญหา บ้าไปกับเรื่องของโลก อย่างที่กรัชกายกำลังเป็น อ้างคำพูด: บ้าไปกับเรื่องของโลก ดูความคิดของอโศกแล้วนึกขำ อโศกเอ้ย เอ้ย คุณจะหนีโลกมนุษย์ไปอยู่โลกพระจันทร์หรือ เรืองของโลก คิกๆๆ เดี๋ยวว่าเสียคนเลย คิดตื้นๆคิดด้านเดียว ที่สังคมเป็นแบบนี้ เพราะไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แก้ที่ปลายเหต สังคมจึงจมอยู่กับปัญหาเดิมๆ |
เจ้าของ: | asoka [ 12 มิ.ย. 2014, 07:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กลับไปแก้ปัญหาแบบโลกๆต่อไปเน้อกรัชกาย วิธีแก้ปัญหาแบบทำธรรมเขามีอยู่ไม่ดูให้ดี เป็นอย่างนี้ใครจะพึ่งได้ ไม้ปักเลน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 12 มิ.ย. 2014, 08:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
asoka เขียน: กลับไปแก้ปัญหาแบบโลกๆต่อไปเน้อกรัชกาย วิธีแก้ปัญหาแบบทำธรรมเขามีอยู่ไม่ดูให้ดี เป็นอย่างนี้ใครจะพึ่งได้ ไม้ปักเลน อโศกเอ้ย เอ้ย เห็นพูดมาหลาย คห. โลก โลกๆ ไหนคุณลองเอาชัดๆ สิมันยังไง โลก มันยังไง ธรรมยังไง เอาว่าไป |
เจ้าของ: | asoka [ 12 มิ.ย. 2014, 10:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กรัชกาย เขียน: อโศกเอ้ย เอ้ย เห็นพูดมาหลาย คห. โลก โลกๆ ไหนคุณลองเอาชัดๆ สิมันยังไง โลก มันยังไง ธรรมยังไง เอาว่าไป เป็นแต่ถามน้อ กรัชกาย ไม่มีสมอง ไม่มีปัญญานึกหาคำตอบเอาเองได้เชียวรื้อ ที่กรัชกายยกมาเป็นกระทู้ไม่รู้กี่หัวข้อนั่นหนะเป็นเรื่องโลกแต่อ้างธรรมทั้งนั้น |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 12 มิ.ย. 2014, 11:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
asoka เขียน: กรัชกาย เขียน: อโศกเอ้ย เอ้ย เห็นพูดมาหลาย คห. โลก โลกๆ ไหนคุณลองเอาชัดๆ สิมันยังไง โลก มันยังไง ธรรมยังไง เอาว่าไป เป็นแต่ถามน้อ กรัชกาย ไม่มีสมอง ไม่มีปัญญานึกหาคำตอบเอาเองได้เชียวรื้อ ที่กรัชกายยกมาเป็นกระทู้ไม่รู้กี่หัวข้อนั่นหนะเป็นเรื่องโลกแต่อ้างธรรมทั้งนั้น บอกให้ว่าไปๆ เพราะกรัชกายไม่เข้าใจ เออ แทนที่ตอบคำถาม กลับมาเฉไปไฉมา เป็นงูดินไปได้ เออ เอาว่าไปขอรับ แยกโลก กับ ธรรม ตามที่อโศกคิดนึก พร้อมตัวอย่าง ท่านอโศก เคยศึกษาโลกธรรมมั้ยมีอะไรบ้าง ชี้แนวให้หน่อย |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 13 มิ.ย. 2014, 07:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กรัชกาย เขียน: asoka เขียน: กรัชกาย เขียน: อโศกเอ้ย เอ้ย เห็นพูดมาหลาย คห. โลก โลกๆ ไหนคุณลองเอาชัดๆ สิมันยังไง โลก มันยังไง ธรรมยังไง เอาว่าไป เป็นแต่ถามน้อ กรัชกาย ไม่มีสมอง ไม่มีปัญญานึกหาคำตอบเอาเองได้เชียวรื้อ ที่กรัชกายยกมาเป็นกระทู้ไม่รู้กี่หัวข้อนั่นหนะเป็นเรื่องโลกแต่อ้างธรรมทั้งนั้น บอกให้ว่าไปๆ เพราะกรัชกายไม่เข้าใจ เออ แทนที่ตอบคำถาม กลับมาเฉไปไฉมา เป็นงูดินไปได้ เออ เอาว่าไปขอรับ แยกโลก กับ ธรรม ตามที่อโศกคิดนึก พร้อมตัวอย่าง ท่านอโศก เคยศึกษาโลกธรรมมั้ยมีอะไรบ้าง ชี้แนวให้หน่อย โลก กับ ธรรม ดีมากๆ แต่อโศกก็หายจ้อย ไม่แวะเวียนมาอีกเลย อโศกขอรับ จิตใจ โลกหรือธรรม |
เจ้าของ: | asoka [ 14 มิ.ย. 2014, 21:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กรัชกายนี้ไม่เข้าใจธรรม การสื่อความหมายด้วยบัญญัติธรรมออกมาให้ผู้คนรู้ถึงแม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่มองมาจากมุมต่างกันก็ต้องอธิบายไปตามมุมที่เห็น เหมือนคนจะอธิบายลักษณะของสนามหลวง คนที่มองจากหน้าพระบรมมหาราชวัง กับคนที่มองมาจากสะพานปิ่นเกล้า หรือหัวถนนราชดำเนินก็ต้องอธิบายตามมุมมองที่ตนเห็น ซึ่งคงเห็นไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นลักษณะของสนามหลวงอันเดียวกัน กรัชกายจะมาบอกว่าสองคนนี้พูดขัดแย้งกันในสิ่งเดียวกัน ก็ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม โลก หรือ โลกย์ ในความหมายของอโศกะคือ เรื่องใดที่เป็นไปเพื่อความเกลือกกลั้ว มัวเมาอยู่กับการปรุงแต่ง ทำกรรม เพื่อความพอกพูน ฟุ้งกระจาย เวียนว่ายตายเกิด ธรรม คือเรื่องที่เป็นไปเพื่อความเรียบง่าย มักน้อย ละวาง ตรงแหลมไปสู่ทางแห่งความหลุดพ้น จนถึงนิพพาน ธรรมนี้หมายถึงธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนอันมีอยู่เพียงเท่าใบไม้ในกำมือ โลกย์นี้หมายถึงธรรมที่เปรียบเหมือนใบไม้ในป่า |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 15 มิ.ย. 2014, 04:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
อโศกนี่เป็นธรรมหรือโลก “พาหุสัจจะ ๑ สิปปะ ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว หรือฝึกอบรมเป็นอย่างดีแล้ว ๑ วาจาที่กล่าวได้ดี ๑ นี่เป็นอุดมมงคล ...การงานไม่คั่งค้างอากูล นี่เป็นอุดมงคล...กิจการที่ไร้โทษ นี่เป็นอุดมมงคล” [ขุ.ขุ.25/53 ฯลฯ ] -พาหุสัจจะ - ความเป็นผู้ได้สดับมาก หรือเล่าเรียนกว้างขวางลึกซึ้ง -สิปปะ - วิชาชีพ หรือความจัดเจนงาน |
เจ้าของ: | asoka [ 15 มิ.ย. 2014, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
กรัชกาย เขียน: อโศกนี่เป็นธรรมหรือโลก “พาหุสัจจะ ๑ สิปปะ ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว หรือฝึกอบรมเป็นอย่างดีแล้ว ๑ วาจาที่กล่าวได้ดี ๑ นี่เป็นอุดมมงคล ...การงานไม่คั่งค้างอากูล นี่เป็นอุดมงคล...กิจการที่ไร้โทษ นี่เป็นอุดมมงคล” [ขุ.ขุ.25/53 ฯลฯ ] -พาหุสัจจะ - ความเป็นผู้ได้สดับมาก หรือเล่าเรียนกว้างขวางลึกซึ้ง -สิปปะ - วิชาชีพ หรือความจัดเจนงาน เป็นได้ทั้งโลกย์และธรรม แล้วแต่ว่าจะเอาไปใช้ทางไหน |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 16 มิ.ย. 2014, 05:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครอ่านกระทู้แล้วจิตใจฟูๆ ฟุบๆ ลักษณะนี้บ้าง |
asoka เขียน: กรัชกาย เขียน: อโศกนี่เป็นธรรมหรือโลก “พาหุสัจจะ ๑ สิปปะ ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว หรือฝึกอบรมเป็นอย่างดีแล้ว ๑ วาจาที่กล่าวได้ดี ๑ นี่เป็นอุดมมงคล ...การงานไม่คั่งค้างอากูล นี่เป็นอุดมงคล...กิจการที่ไร้โทษ นี่เป็นอุดมมงคล” [ขุ.ขุ.25/53 ฯลฯ ] -พาหุสัจจะ - ความเป็นผู้ได้สดับมาก หรือเล่าเรียนกว้างขวางลึกซึ้ง -สิปปะ - วิชาชีพ หรือความจัดเจนงาน เป็นได้ทั้งโลกย์และธรรม แล้วแต่ว่าจะเอาไปใช้ทางไหน อโศกยกตัวอย่างแต่ละทางมาดูสิครับ ใช้ทางโลก ตัวอย่างเช่น ใช้ทางธรรม ตัวอย่างเช่น ว่าไปครับ นักปฏิบัติใหญ่ |
หน้า 2 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |