วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 03:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกบเขียน

อ้างคำพูด:
ตกลง.....ไม่มีใครให้ความเห็นเรื่องเสื้อผ้า...ผี...บ้างเลยรึครับ


ไม่เข้าใจ :b10: ทำไมคุณกบถึงให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่ผีใส่ค่ะ
วิญญานที่เราเห็นที่เมืองไทย คนเป็นผู้หญิงที่ให้เราเห็น ชุดที่เค้าใส่ก็คือชุดที่เค้าตายนั่นหล่ะ
ส่วนน้องชายเค้า ใส่ชุดเรียนเทคนิค ก็คือชุดที่เค้าใส่แล้วเกิดอุบัติเหตุนั่นหล่ะ
ส่วนพ่อกับแม่ของเค้า ใส่ชุดที่พวกลูกๆของเค้าเปลี่ยนชุดให้

คือพี่สาวเรา ถามคนที่เป็นน้องชายเค้า ตอนมารื้อบ้านเอาไม้ไปถวายที่วัด
พี่สาวเราเล่าให้น้องชายเค้าฟัง น้องชายเค้าบอก สิ่งที่เราเห็นถูกทุกอย่างเลย
แต่ที่น้องชายเค้าแปลกใจคือ ทำไมวิญญานพ่อกับแม่ของเค้า มาอยู่ที่บ้านหลังนี้
เพราะพ่อกับแม่เค้า ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ทำไมพวกเค้าเสียชีวิตแล้ว
วิญญานมาอยู่รวมกันได้

วิญญานจัดงานปาร์ตี้ยังมีเลย ใส่ชุดสูทใส่ชุดราตรีเต้นรำร้องเพลงยังมีเลย
เรื่องนี้คือ เรื่องคนที่เป็นเซลแมนตอนเช้าเค้าถามที่เคาเตอร์ว่า
เมื่อคืนชั้นดาดฟ้าบนโรงแรมจัดงานอะไรกัน ผู้ชายใส่ชุดสูทผู้หญิงใส่ชุดราตรีร้องเพลงเต้นรำกัน

เค้าบอกว่าเค้ากลับมาจากเที่ยว ดึกแล้วหล่ะเค้าเจอผู้ชายใส่ชุดสูทในลิฟ
เค้าก็ถามว่า"ไปงานที่ไหนมาครับ" ผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทก็บอกว่า " จะขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของโรงแรม
พวกเค้าจัดงานปาร์ตี้กัน คุณจะขึ้นไปด้วยกันไม๊"
เซลแมนคนนั้นก็ขึ้นไปกับเค้า

พอตอนเช้ามาถามหน้าเคาเตอร์ ทุกคนเงียบหมดเลย
ไม่มีใครกล้าตอบ ทุกวันนี้เซลแมนคนนั้น เค้าคงยังไม่รู้หรอกว่า
ที่เค้าเห็นนะ ไม่ใช่คน
ในโลกวิญญานมีจัดงานปาร์ตี้ด้วย :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 21:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณกบเขียน

อ้างคำพูด:
ตกลง.....ไม่มีใครให้ความเห็นเรื่องเสื้อผ้า...ผี...บ้างเลยรึครับ


ไม่เข้าใจ :b10: ทำไมคุณกบถึงให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่ผีใส่ค่ะ

:b13: :b13:

เสื้อผ้าของคน....ถ้าผ้าฝ้าย....ก็ต้องปลูกฝ้าย...เก็บฝ้ายเข้าโรงปั่นเส้นด้าย...เส้นด้ายเข้าโรงทอ...ผ้าจากโรงทอเข้าโรงตัดเย็บ...แล้วจึงมาเป็นเสื้อผ้าให้เราสวมใส่..

ขั้นตอนเยอะนะครับ..กว่าจะได้มาใช้

แล้วเสื้อผ้าของผี....ถูกสร้างมาจากอะไร?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


น่าสนใจดีครับ อยากบอก บองตรงๆ เลยก็ได้ว่า วรรณะ หรือศีล นี่เป็นเครื่องหมายของอาภรณ์ เสื้อผ้า ที่หมู่สัตว์อย่างเราๆ จะพึ่งได้พึ่งมีครับ พวกเวมานิกเปรตที่มีวิมานที่อยู่อาศัย แต่ก็ยังมีวิบากทำให้ ข้างแรมต้อง ได้รับความทุกข์ ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ข้างขึ้นก็หล่อสวยเหมือนคนที่ดูหล่อสวยขาวใส แต่งตัวตามสมัยดี อย่างตัวอย่างในปัจจุบัน

เปรตที่พอมีบุญมีวิมาน อย่างข้างขึ้นข้างแรมก็มีผลมีวิบากต่างกันออกไปตามแต่บุญกรรมที่ทำ ตอนข้างขึ้น มีหิริ โอตัปปะ มีศีล มีศรัทธา ประกอบคุณงามความดี ก็ไปอย่าง เวลาเกิดอิจฉาริษยา กลัวใครได้หน้า แย่งซีน แย่งคุณงามความดีคนอื่น เหมือนนางขัลลฏิยะ ที่อดีตชาติเพราะความประมาทในกุศล เคยลักขโมยผ้า อาภรณ์คนอื่น บาปกรรมเลยไม่มีเสื้อผ้า แต่เคยตั้งจิตถวายทาน ขอให้ผมยาวสลวยเหมือนเดิม ทำให้เป็นเปรตมีผมยาวแต่ไม่มีเสื้อผ้าอย่างนี้ก็มี



ถ้าบุญบาปที่ทำเป็นตัวกำหนดวัด ว่าสัตว์ผู้นี้ๆ จะมีวรรณะดีหรือว่าวรรณะทราม ก็แปลว่าไม่แปลกอะไรที่ ผีหรือเทวดา จะมีหรือไม่มีเสื้อผ้าก็ได้! เปรตบางจำพวกก็ไม่มีเสื้อผ้า ตัวไหนมีบุญมีกรรมสัมพันธ์กับท่านผู้รู้ผู้เห็นผู้หนึ่งผู้ใด เป็นเนื้อนาบุญที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้ ก็จะไปปรากฏดลใจ ต่อผู้มีบุญ (เช่นนายสำเภาในเรื่องขัลลฏิยชาดก) แล้วก็ขอให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปใ้ห้ ผู้มีบุญ รู้ความเป็นไปของสัตว์นั้นว่า กรรมที่ทำมีประพฤติไม่ดีงามเป็น(ขาด)ทุน ติดตัว ก็อาศัยส่วนแห่งบุญที่ประพฤติชอบ แล้วให้เปรตอนุโมทนารับ(ถ้ารับรู้,ถ้ารับ) ก็เป็นอันได้เสวยผลบุญ บางตนได้ข้าวได้น้ำ บางตนได้เสื้อผ้าที่อยู่อาศัย บางตนได้วิมาน ได้ยานพาหนะ ฯลฯ :b39:


ส่วน ผี เทวดา ที่เกิดจากสัญญาที่อาศัยรูป เสียง กลิ่น เกิดเป็นความยินดียินร้าย เกิดเป็นความปรุงแต่งใจในภายใน ที่ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ เป็นสัญญาและสังขารในอดีต ในปัจจุบัน ในอนาคต หากยังประกอบด้วยสัญญาสังขารที่ประกอบ ฉาบทาไปด้วยตัณหาและ(มิจฉา)ทิฏฐิ เกี่ยวกับตายแล้วเกิดอีก หรือว่าตายแล้วไม่เกิดอีก ส่วนใหญ่ก็จะไขว้เขว่ไปกับเรื่อง อัตตา ผี วิญญาณในความหมายที่ไกลจากความเป็นจริง หากสงสัยในเรื่องผี วิญญาณที่เนื่อง ที่เกี่ยวข้องกับ ตัณหาทิฏฐิอยู่ ก็ย่อมก็ยังสามารถ วิตกวิจารพอเป็นพิธี พอให้ได้พูดได้คุยสนุก ก็ตามแต่จริตและอัธยาศัยแต่ละบุคคล :b44:


ทำไมญาติเห็น คนที่ตายไปแล้ว ในชุดเดิมที่ตาย โลกตะวันตกมีคำอธิบายเรื่อง ความจำระยะสั้น(shot-term memory - STM) ความจำระยะยาว(long-term memory - LTM) หรือที่เรียกว่า Memory System.

รูปภาพ


____________________________________
ชัยพร วิชาวุธ.ความจำมนุษย์.(ออนไลน์)กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชวนพิมพ์,2520
แห่งที่มา http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/Memory.htm. ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗.

สามารถศึกษาเพิ่มเติม ตาม link ที่อ้างอิงเอาไว้นะครับ ก่อนจะเกิดเป็นสัญญาระยะสั้น หรือระยะยาวได้ ต้องเกิดจาก ความจำจากการรับสัมผัส (sensory memory) คือตอนที่อายตนะกระทบกับสสารพลังงาน ในรูปแบบหยาบๆ เช่นเขาว่ากันว่า การบอกเล่า จากสัญญา จากสังขารภายนอก (หมายถึงบุคคลอื่นบอกมา) การตีความกระบวนการรับรู้และเข้าใจของเรา เป็นแบบตัณหาทิฏฐแบบไหน ถ้าขาดสูญแบบอุทเฉจทิฏฐิ ก็ปฏิเสธว่า ไม่จริงผีไม่มีในโลก ถ้าเป็นแบบสัสสตทิฏฐิก็ว่า จริง! ฉันเห็นมา (ซึ่งแท้จริงที่เห็นนั่นไม่จริง (ด้วยเงื่อนไขของสามัญลักษณะ!!!))

อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้ขณะเราเห็น คนเป็นๆ ยืนอยู่ พอเขาเปลี่ยนอิริยาบถ เดินจากไปจากจุดเดิม แต่เราอาจเข้าใจว่า สสารพลังงาน(คน) หายไปทั้งๆ ที่เดินไปที่อื่น(นี่พูดถึงคนจริงๆ) ก็ไปเข้าใจ เอาสัญญาในอดีต สังขารในอดีตมาตีความ ด้วยตัณหาทิฏฐิอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็รับเชื่อบ้าง สะสมความรู้ความเข้าใจยิ่งขึ้นไปอีกบ้าง แม้ขนาดคนจริงๆ ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงของวัตถุ ของร่างกาย มีอิริยาบถสืบต่อ ไม่เที่ยงแท้ มีแต่ความแปรปรวน ตลกดี ที่พุทธฏีกาเอง เมื่อก่อน ก็ยังเข้าใจในสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้สึกคิดนึก ที่ฉาบทาด้วยตัณหาทิฏฐิทั้งสองอย่าง ก็ขัดแย้งไปมาในตัวเอง ระหว่างมี กะไม่มี เถียงกะตัวเอง จนมาศึกษาพุทธศาสนา มาทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวิญญาณจริงๆ ตามที่พระองค์สอน ถึงค่อยหายโง่ลงบ้างแล้วนิดนึง :b9:

ยกตัวอย่างก่อนบวช ไปลองบ้านเฮี้ยนต่างๆ ยกพวกกันไป ยังไม่ทันเข้าบ้าน การประมาลผล ของใจเรา ความไม่รู้จัก อายตนะ ประสาทสัมผัส วิญญาณการรับรู้อารมณ์ทั้ง ๖ ทวาร เวลาเจอเสาไฟฟ้า เจอต้นไม้ ได้กลิ่น ได้ยินเสียง มันพร้อมเสียเหลือเกินในการ ยึดตัณหาทิฏฐิที่ฉาบทาเอาไว้ ว่าที่เห็นแว๊บๆ ชั่วขณะสั้นๆ จากสัมผัส sensory memory ไปบอกใครต่อใครว่า​​ จริงนะเฮี้ยนจริงๆ เห็นมา เอาสัญญาสังขารสั้นๆ มาทำเป็น STM และ LTM บอกใครต่อใครไปเรื่อย สนุกสนานอย่างคนไม่รู้ :b30:


ดังนั้น คนที่สูญเสียคนในครอบครัวไป ขึ้นอยู่กับว่า คนบอกเล่า หรือคนที่ประสบเห็นในฝัน หรือท้ายสุดแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น (ชนิดหลังนี่แรงสุด ค่อนข้าง เป็นตัวเป็นตนชัดเจน จนปักใจ) ก็จะอาศัยสัญญาระยะสั้น จากที่พึ่งสัมผัสพบเห็น sensory memory จาก STM ความจำระยะสั้นๆ ว่ามาชุดไหน ไปชุดไหนได้นั่นเอง ส่วนประเ็ด็นอื่น ที่ลืมคิดเรื่องเสื้อผ้า ไม่เปลี่ยน ขนาดตอนเป็นคน ยังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ ทำไม การตายในความหมายในระบบ ฉาบตัณหาทิฏฐิ เรื่องผี เทวดา จะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างเลยอย่างนั้นหรือ? หรือประเด็นไม่รู้ว่าตัวเองตาย อันนี้น่าจับมาเป็นประเด็นในลักษณะที่ว่า การที่เรา ปฏิบัติมรรค ๘ ทำตามคำสอนพระพุทธเจ้า การเห็นตัว เห็นใจตนเองประเสริฐที่สุด ในการเห็น การรู้จักความเกิดความตาย เห็นสามัญลักษณะ ตามที่พระองค์สอนก็คงประเสริฐที่สุดเช่นกัน :b39:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านพุทธฏีกา เขียน :b8:

อ้างคำพูด:
ยกตัวอย่างก่อนบวช ไปลองบ้านเฮี้ยนต่างๆ ยกพวกกันไป ยังไม่ทันเข้าบ้าน การประมาลผล ของใจเรา ความไม่รู้จัก อายตนะ ประสาทสัมผัส วิญญาณการรับรู้อารมณ์ทั้ง ๖ ทวาร เวลาเจอเสาไฟฟ้า เจอต้นไม้ ได้กลิ่น ได้ยินเสียง มันพร้อมเสียเหลือเกินในการ ยึดตัณหาทิฏฐิที่ฉาบทาเอาไว้ ว่าที่เห็นแว๊บๆ ชั่วขณะสั้นๆ จากสัมผัส sensory memory ไปบอกใครต่อใครว่า​​ จริงนะเฮี้ยนจริงๆ เห็นมา เอาสัญญาสังขารสั้นๆ มาทำเป็น STM และ LTM บอกใครต่อใครไปเรื่อย สนุกสนานอย่างคนไม่รู้ :b30:


:b8:

แล้วถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ดิฉันเห็นที่บ้านร้างที่เมืองไทยคืออะไรค่ะ
เพราะดิฉันเห็นพวกเค้า2วัน เห็นช่วงตอนเย็น6โมงเย็นนี่หล่ะคะ
คือดิฉันก็ยืนมองพวกเค้ายืนมองนานครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ ใจก็คิดว่าพวกเค้าอยู่กันเงียบๆดีเน๊อะ
พอตอนกลางคืนนั่งคุยที่ศาลาสนามหญ้ากัน ก็เห็นเค้ายืนมองพวกเราที่ตรงหน้าต่าง
ซึ่งทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังคิดว่าทำไมเราถึงเห็นภาพนั้น

ซึ่งพี่สาวของดิฉันก็อยากจะรู้ว่าผีมีจริงหรือปล่าว ก็เล่าให้น้องชายเค้าฟัง
น้องชายเค้าก็ยืนยันว่าถูกทุกอย่าง ก็ยังแปลกใจว่าเค้าให้ดิฉันเห็นภาพของพวกเค้า
ซึ่งดิฉันก็อุทิศผลบุญให้พวกเค้าค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
ท่านพุทธฏีกา เขียน :b8:

อ้างคำพูด:
ยกตัวอย่างก่อนบวช ไปลองบ้านเฮี้ยนต่างๆ ยกพวกกันไป ยังไม่ทันเข้าบ้าน การประมาลผล ของใจเรา ความไม่รู้จัก อายตนะ ประสาทสัมผัส วิญญาณการรับรู้อารมณ์ทั้ง ๖ ทวาร เวลาเจอเสาไฟฟ้า เจอต้นไม้ ได้กลิ่น ได้ยินเสียง มันพร้อมเสียเหลือเกินในการ ยึดตัณหาทิฏฐิที่ฉาบทาเอาไว้ ว่าที่เห็นแว๊บๆ ชั่วขณะสั้นๆ จากสัมผัส sensory memory ไปบอกใครต่อใครว่า​​ จริงนะเฮี้ยนจริงๆ เห็นมา เอาสัญญาสังขารสั้นๆ มาทำเป็น STM และ LTM บอกใครต่อใครไปเรื่อย สนุกสนานอย่างคนไม่รู้ :b30:


:b8:

แล้วถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ดิฉันเห็นที่บ้านร้างที่เมืองไทยคืออะไรค่ะ
เพราะดิฉันเห็นพวกเค้า2วัน เห็นช่วงตอนเย็น6โมงเย็นนี่หล่ะคะ
คือดิฉันก็ยืนมองพวกเค้ายืนมองนานครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ ใจก็คิดว่าพวกเค้าอยู่กันเงียบๆดีเน๊อะ
พอตอนกลางคืนนั่งคุยที่ศาลาสนามหญ้ากัน ก็เห็นเค้ายืนมองพวกเราที่ตรงหน้าต่าง
ซึ่งทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังคิดว่าทำไมเราถึงเห็นภาพนั้น

ซึ่งพี่สาวของดิฉันก็อยากจะรู้ว่าผีมีจริงหรือปล่าว ก็เล่าให้น้องชายเค้าฟัง
น้องชายเค้าก็ยืนยันว่าถูกทุกอย่าง ก็ยังแปลกใจว่าเค้าให้ดิฉันเห็นภาพของพวกเค้า
ซึ่งดิฉันก็อุทิศผลบุญให้พวกเค้าค่ะ


เรื่องนี้ มีคนเคยเล่าให้ฟังนะว่าที่บ้านเขามีผี (พูดตามเขาเล่า) คนในบ้านเคยเห็น (เห็นคนเดียว) แต่คนอื่นไม่เห็น เขาจุดธูปบอกว่าไปๆเสีย อย่ามารบกวน แต่ก็ยังเห็นอยู่ (ตามเขาเล่า) จึงบอกเขาว่า วิธีทำยังไม่ถูก คือเราพูดยังงั้นเหมือนไล่ส่งเขา เอาใหม่จุดธูปดอกหนึ่งปัีกนอกชายคาบ้าน (กลางแจ้ง) บอกพูดดีๆ (พูดเองเออเองนั่นแหละ) ว่า หากถึงเวลาเกิดก็ไปเกิดสะนะ ไปเกิดในภพภูมิที่ดีนะ ....หากยังไม่ถึงเวลาเกิดจะอยู่ด้วยกันก็ได้ มีอะไรก็กินด้วยกัน คอยช่วยเหลือกันอยู่ด้วยกันเหมือนญาติพี่น้อง....บอกแนะนำเขายังงี้ เขาก็ทำตาม ...หลังจากนั้น ก็ไม่เคยมีใครเห็นอย่างนั้นอีกเลย

ยังมีอีกแต่วิธีก็ทำนองเดียวกัน

ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะใครนำไปใช้ก็ได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 23:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


bbby เขียน:
ท่านพุทธฏีกา เขียน :b8:

อ้างคำพูด:
ยกตัวอย่างก่อนบวช ไปลองบ้านเฮี้ยนต่างๆ ยกพวกกันไป ยังไม่ทันเข้าบ้าน การประมาลผล ของใจเรา ความไม่รู้จัก อายตนะ ประสาทสัมผัส วิญญาณการรับรู้อารมณ์ทั้ง ๖ ทวาร เวลาเจอเสาไฟฟ้า เจอต้นไม้ ได้กลิ่น ได้ยินเสียง มันพร้อมเสียเหลือเกินในการ ยึดตัณหาทิฏฐิที่ฉาบทาเอาไว้ ว่าที่เห็นแว๊บๆ ชั่วขณะสั้นๆ จากสัมผัส sensory memory ไปบอกใครต่อใครว่า​​ จริงนะเฮี้ยนจริงๆ เห็นมา เอาสัญญาสังขารสั้นๆ มาทำเป็น STM และ LTM บอกใครต่อใครไปเรื่อย สนุกสนานอย่างคนไม่รู้ :b30:


:b8:

แล้วถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ดิฉันเห็นที่บ้านร้างที่เมืองไทยคืออะไรค่ะ
เพราะดิฉันเห็นพวกเค้า2วัน เห็นช่วงตอนเย็น6โมงเย็นนี่หล่ะคะ
คือดิฉันก็ยืนมองพวกเค้ายืนมองนานครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ ใจก็คิดว่าพวกเค้าอยู่กันเงียบๆดีเน๊อะ
พอตอนกลางคืนนั่งคุยที่ศาลาสนามหญ้ากัน ก็เห็นเค้ายืนมองพวกเราที่ตรงหน้าต่าง
ซึ่งทุกวันนี้ ดิฉันก็ยังคิดว่าทำไมเราถึงเห็นภาพนั้น

ซึ่งพี่สาวของดิฉันก็อยากจะรู้ว่าผีมีจริงหรือปล่าว ก็เล่าให้น้องชายเค้าฟัง
น้องชายเค้าก็ยืนยันว่าถูกทุกอย่าง ก็ยังแปลกใจว่าเค้าให้ดิฉันเห็นภาพของพวกเค้า
ซึ่งดิฉันก็อุทิศผลบุญให้พวกเค้าค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:



ไม่ทันได้เห็น ที่คุณโยม bbby โพสนะครับ และไม่ได้ยืนยันบอกว่ามีหรือไม่มี เพียงกำลังชี้ว่า จะเห็นจะได้ยิน จะรู้สึกนึกคิดอะไรยังไง จริงๆ อาศัยเหตุอาศัยปัจจัยนั่นเองมากกว่า เอาเป็นขออธิบายในสิ่งที่พุทธฏีกา เห็น! เป็นตัวอย่าง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทางเสียง หรือกลิ่น ก็แล้วแต่ว่าจะหาคำอธิบายในลักษณะไหนมาอธิบายนะครับ แต่อยากบอกว่า คนที่เราเห็นทั่วๆ ไปทรงบัญญัติว่า รูป แม้รูปเหล่านั้นยังไม่เที่ยง แปรปรวนมีสภาพสืบต่อ พุทธฏีกาเปรียบเทียบจากประสบการณ์ตัวเองที่พออธิบายได้นะครับ ที่สอดคล้องกับความเข้าใจของตนเอง คงยากไปที่จะไปสาวหารายละเอียด ที่คุณโยมเล่า ว่าน้องชายของอีกบ้านเล่า ว่าที่เห็นตรง ถูกต้องอะไรยังไง ก็เหมือนกับที่พุทธฏีกาเห็น ที่บ้านร้างบ้านเฮี้ยน เพียงแต่ สภาวะที่เราเห็นน พลังงานที่เราเห็น

ตั้งอยู่บนพื้นฐานในเรื่องสามัญลักษณะ ที่ว่ารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาไ่ม่ใช่ สภาพสัตว์บุคคลตัวตน แต่ก่อนพุทธฏีกา ไม่เข้าใจสามัญลักษณะ ไตรลักษณ์ ตอนเห็นชัดก็ดี ไม่ชัดก็ดี ได้ยินคนอื่นบอกว่าเห็นก็ดี ก็ชวนเกิดความสงสัยในสิ่งที่ตนเห็น ว่าจริง ไม่จริง มีไม่มี ตามที่เล่าไปข้างตนนะครับ ว่าเถียงกะตัวเอง ตอนนั้นยังเด็กไม่เข้าใจ เอาแต่สนุกคะนอง ก็ไม่ได้ ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ แต่พอรู้อะไรเป็นอะไรขึ้นมาบ้าง ก็หาทางทำบุญให้ แต่ยังเข้าใจในสิ่งที่เห็น ว่าเป็นสัตว์บุคคลอยู่ดี แท้จริง เป็นสัญญาสังขารที่เกิดจากภายในใจเรา ซึ่งเพื่อนที่ไปด้วย ไม่เห็นก็มี แต่รุ้แต่ว่า พอกลัว ก็พากันวิ่ง ทั้งกลัวทั้งขำปนสนุกคึกคะนอง

เรื่องที่ยกมาตอบ มาสนทนา จึงเป็นประเด็นที่อยากสนทนาในเรื่อง เห็นตน เห็นกรรมผลของกรรมตามจริงมากกว่า ส่วนที่ต้องไล่วิ่ง เที่ยวตาม สัญญาสังขาร ที่ประกอบด้วยตัณหาทิฏฐิ ความไม่รู้ ทั้งของตนของคนอื่น ทั้งในภายในหรือ ภายนอก หรือเป็นคำถามที่พระองค์ไม่ทรงพยากรณ์ เพราะตอบหรืออธิบายว่ามี ก็กลายเป็นยืนยันความเที่ยง เพราะตอบว่าไม่มีก็กลายเป็นยืนยันความสูญ

ทรงสอนให้รู้จัก เหตุปัจจัยมากว่า คือเมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ึจึงมี เมื่อพุทธฏีกาเห็น ได้ยิน แต่เพื่อนไม่ได้เห็นไม่ได้ยิน เราจะไปเข้าใจว่า มีเพราะเราเชื่อเราปักใจในสิ่งที่เห็น เป็นการด่วนสรุปเกินไป หรือเมื่อคนอืื่นไม่เห็น ไม่ไ้ด้ยินแล้วเขาจะด่วนสรุปว่า ไม่มีเพราะตนไม่เห็นไม่ได้ยินจึงเป็นการป่วยการ ทุ่มเีถียง เสียเวลาเปล่า เพราะสิ่งที่สำคัญคือ เห็นตน รู้ตน ว่าเพราะหากไม่อาศัย ตากระทบรูป หูได้ยินเสียง จมูกดมกลิ่น รู้อารมณ์ทางใจ และเรามีพื้นฐานความเชื่อที่ถูกที่ผิดอย่างไร นั่นแหละ จะเป็นตัวชี้ต่อสิ่งที่เห็นได้ยิน ว่าเป็นอะไรยังไง โดยรีบทำความเข้าใจต่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณในอดีต อนาคต ปัจจุบัน ภายใน ภายนอก ไกลใกล้ ตามความหมายที่ถูกต้อง

เพราะเรื่องสำคัญจริงๆ คือ เห็นผีเห็นเทวดาตามที่พระองค์สอน ตามที่ทรงบัญญัติ ว่ากรรมและผลของกรรมเป็นอย่างนี้ๆ (กัมมัสสกตาญาณ) อ่อ ผีเทวดา หมู่สัตว์ในสังสารวัฏฏ์ มีบุญบาป มีอาภรณ์ เพราะอย่างนี้ๆ ไม่มีเพราะอย่างนี้ๆ ส่วนการจะทำความเข้าใจเรื่อง ผีเทวดา ที่เราเข้าใจ(คิดเอง ถึงพุทธฏีกาจะเคยเห็นก็ตาม) เราเห็นเอง คนอื่นเห็นบอกต่อ (เหมือนพุทธฏีกา) ที่เกิดจากอายตนะภายในภายนอก ก็ดูกันอีกทีว่า มีความเข้าใจในเรื่อง "ทิฏฐิว่าเที่ยง ว่าสูญอย่างไร" เพราะเงื่อนไข สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ที่พ้นโลก ไม่ควรติดข้องอยู่ในข่าย ความเห็นว่ามีอัตตา ตัวตนเที่ยง หรือมีอัตตาตัวตนนี่แหละว่าสูญ การเห็นหรือไม่เห็น ไม่เกี่ยวกับ ทิฏฐิว่ามีหรือไม่มีนะครับ การเห็นคนไม่เชื่อก็เห็น คนกลัวก็เห็นได้ เรื่องกลิ่น เสียงก็นัยเดียวกัน คนเชื่อก็มีโอกาสเห็นได้ยินได้กลิ่น คนไม่เชื่อก็มีโอกาสได้เห็นได้ยินได้กลิ่น แต่ต้องแยกจาก ความเห็นที่เป็นทิฏฐิว่าอัตตาเที่ยงหรือสูญอีกที เพราะอาศัยการเห็นนั่นแหละ บวกกับพื้นฐาน ว่าวิญญาณอัตตา ตัวตนล่องลอย ก็สัมพันธ์กับสิ่งที่เห็น แม้เป็นสัญญา เป็นรูปในอดีต ก็ยังคงทำความเห็นชอบ ต่อรูปและสัญญานั้นๆ ไม่ได้ ป่วยการกล่าวถึง สิ่งที่เป็นมโน นึกคิดที่ยังข้องติดอยู่ในใจ เพราะไม่รู้เห็นตามเหตุตามปัจจัยตามความเป็นจริงได้นั่นเอง (หมายถึงตัวเองนะครับ พุทธฏีกาในตอนยังไม่เข้าใจ) แต่การเข้าใจว่า มีวิญญาณตัวตน ทรงตรัสว่าก็ยังดีกว่า เข้าใจว่าวิญญาณตัวตนสูญ เพราะยังน้อมนำให้เชื่อเรื่องกรรมและผลของกรรมมากกว่า เป็นสัมมาทิฏฐิส่วนข้องกับโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงยังจะเป็นการดำเนินตามมัชฌิมาปฏิปทา ประพฤติชอบได้อยู่นั่นเองครับ เจริญพร. :b39:



ป.ล. สนใจก็หลังไมค์เพิ่มเติมครับ ต้องรื้อถอนความเห็นเดิมกันยาว :b44:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2014, 23:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2014, 00:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
student เขียน:
ปลีกวิเวก เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
มีใครเคยเห็นผี...บางครับ...

เอา...เทวดา...ก็ได้...

ทำไม...ผี...หรือ..เทวดา...ก็มีเสื้อผ้าใส..ด้วยครับ

บางที...ญาติเห็น...มักเห็นผีใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับตอนตาย...ก็เยอะ...โดยเฉพาะเพิ่งตายใหม่ๆ


tongue สวัสดีคุณกบ

ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยเห็นเป็นตัวๆ (หมายถึงรูปร่าง) แต่จากประสบการณ์จริงทั้งตื่นและหลับ(ฝัน)
สัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ในรูปแบบของพลังงาน ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ในระยะที่เรารับได้ก็จะรู้ว่ามีพลังงานเหล่านี้อยู่ในบริเวณนั้นๆ...

ผมเคยคิดคำถามอยู่ตลอดว่า ผีมีฤทธิ์ต่อคนอย่างไร
1มีฤทธิ์ต่อธาตุ?
2 มีฤทธิ์ต่อนามขันธ์
เช่น พริกมีฤทธิ์ต่อธาตุ ทำให้เกิดอาการเผ็ด


แต่ก่อน...เด็กๆ....ผมคิดว่า..ผีมีผลกับระบบประสาทของคนมากกว่า...(ยังไม่มีความรู้เรื่องนามขันธ์...)
เพราะ...ปรากฎ..ณ. ที่เดียวกัน....คนหนึ่งเห็น...อีกคนไม่เห็น..เป็นต้น

ทุกวันนี้....ผมคิดว่ามีผลกับ..ขันธ์
แต่ก็อีกนั้นแหละ.....คนหนึ่งเห็นเป็นสีทอง...อีกคนเห็นเป็นเพชร...(เห็นสิ่งเดียวกัน..เวลาเดียวกัน)

ก็ยังไม่เข้าใจดี...นัก...กลายเป็นว่า...ขึ้นอยู่กับคุณภาพของอายตนะภายใน..อีก

ตกลง.....ไม่มีใครให้ความเห็นเรื่องเสื้อผ้า...ผี...บ้างเลยรึครับ
:b32: :b32:


มีคืนหนึ่ง ผมนั่งอยู่ในห้องนอน แต่เปิดไฟห้องน้ำเอาไว้ ไฟในห้องน้ำจะส่องลอดใต้ช่องประตูเข้ามาในห้องนอน
แล้วผมก็จ๊ะเอ๋กับเงาบางอย่างเคลื่อนผ่านนอกห้อง ก็เริ่มใจเสีย แล้วมานึกว่าตาฝาดหรือปล่าว ก็เก็บความสงสัยเอาไว้
พอวันต่อมาผมก็พบคำตอบ เพราะผมอาบน้ำเสร็จเปิดประตูห้องน้ำจะเดินเข้าห้องนอน (ชั้น2) ผมก็จ๊ะเอ๋กับสิ่งที่ลี้ลับเมื่อคืน
มันคือแมลงสาบ ที่ออกหากินกลางคืน คืนนั้นก็คงเป็นตัวนี้ ไล่จับไม่ทันจะได้เอาไปปล่อยทิ้งที่อื่น

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2014, 07:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มีผลต่อนามนันธ์...จริงๆ.. :b32:

ตินเด็ก...ไปนอนเฝ้าปู่ที่ รพ. ปกติ..เช้าก็เดินกลับบ้าน...ซึ่งไม่ไกลจาก รพ. แต่วันหนึ่งต้องกลับเร็วหน่อย..ประมาณ ตี5 ...เพราะสีการสอบ.....ก่อนถึงบ้าน..จะผ่านวัด...ปกติขับรถผ่านวัดก็จะมองเข้าไปใสัดทุกครั้ง...(เป็นคนกลัวผีมาก)...

วันนั้น....เดินผ่านก็มองเข้าไปอีก...ก็ปกติคือ...ไม่เห็น(ผี). ก็โล่งใจ...แต่พอหันกลับมานี้ซิครับ...เข่าแทบทรุด...ใจตกมาอยู่ที่ตาตุ่ม..(เห็นๆ..เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ใจตกมาตาตุ่ม)...ขยับขาไม่ได้เลย....
(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2014, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหนๆกระทู้นี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับผี แฟนน้าคุนน้องซึ่งเป็นชาวต่างชาติก็เคยเห็น และเค้าไม่ได้เห็นคนเดียวเค้านั่งกินข้าวกับเพื่อนข้างทาง ที่เวียดนามโฮจิมิน ซึ่งเค้าไปทำงานที่นั่นเมื่อก่อน เห้นเป็นร่างเดินผ่านไปต่อหน้าต่อตาและหายไปเลย ซึ่งทั้งสองคนคือแฟนน้าคุนน้องกับเพื่อนร่วมงานก็ถามว่าเมื่อกี้เห็นมั้ย ทั้งสองคนก็ตอบเห็นเหมือนกัน ลักษณะเดียวกัน ทำให้ฝรั่งทั้งสองที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีกลับเชื่อทันที เพราะเห็นเองกับตา แล้วแฟนน้าคุนน้องเป็นวิศวะกรสร้างสะพานที่ถล่มนี่แหละ :b5: ที่เคยถล่มท่เวียดนามเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเป็นเหตุให้คนตาย และน้าคุนน้องเกิดลางสังหรฝันไม่ดี ฝันเห็นแฟนกำลังนอนขอร้องให้น้าช่วยและมีแต่ผีวิญญาณห้อมล้อม น้าคุนน้องเลยบอกแฟนออกมาจากประเทศเวียดนามทันที และก็เกิดเหตุการณ์สะพานถล่ม
http://www.youtube.com/watch?v=EV8YvuCnBNM&feature=kp
คลิปนี้คุนน้องลองค้นหาดูและเจอ ช่วงนาทีที่ 0.4 คุนน้องเห็นเงาบางอย่างวิ่งผ่านและลงจากสะพาน :b14:
ปล.คุนน้องแปลกใจตรงที่ แฟนน้าคุนน้องก็เป็นคนสร้างสะพานแขวนที่กรุงเทพเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร สาเหตุคงไม่ใช่เพราะคนสร้างไม่ดีหรอก คงเป็นที่ตัววัสดุไม่ได้ตรงตามสเปครึเปล่า แล้วใครเป็นคนออกแบบหละ ใครเป็นคนคัดเกรดวัสดุละ แฟนน้าคุนน้องคงไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ในเรื่องนั้น เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแฟนน้าคุนน้องคงติดคุกแล้ว
น่าจะเป็นอันนี้มากกว่า ที่แฟนน้าคุนน้องเป็นคนดำเนินการก่อสร้าง คลิปอันนั้นคงไม่ใช่เพราะดูจากสะพานคงไม่ใช่ฝีมือเจฟ เพราะสะพานพระราม8 ก็ฝีมือเจฟ


สะพานถล่มในเวียดนามทำให้คนงานก่อสร้างเสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 60คนละอีก 100 คนหายสาบสูญ



โดย กรมประชาสัมพันธ์ วัน พุธ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550 19:11 น.



เกิดเหตุสะพานถล่มในเวียดนามในวันนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 60 คน และอีกกว่า 100 คนหลายสาบสูญ สถานีโทรทัศน์เวียดนามได้แพร่ภาพความเสียหายของสะพานดังกล่าวซึ่งเป็นสะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำโฮในเมืองคันโทที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางการพาณิชย์ของนครโฮจิมินห์ซิตี้ไปทางใต้ราว 170 กิโลเมตร และสะพานดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างของบริษัทรับเหมาที่ร่วมทุนกับบริษัทของจีน นอกจากผู้เสียชีวิตดังกล่าวแล้วยังมีผู้ติดอยู่ในซากสะพานอีกจำนวนหนึ่ง และในระหว่างเกิดเหตุมีคนงานทำงานอยู่บนสะพานราว 150 คน ส่วนสาเหตุของการถล่มของสะพานดังกล่าวยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์เวียดนามสันนิษฐานว่า ฝนที่ตกลงมาอาจทำให้ฐานของสะพานทรุดตัวลงได้ .


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2014, 09:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b14: :b14: :b14:
เจฟ..ยังมีบุญ..ช่วยเน๊าะ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2014, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b14: :b14: :b14:
เจฟ..ยังมีบุญ..ช่วยเน๊าะ..

เจฟไม่ได้มีบุญช่วยค่ะ แต่ตอนนั้นเจฟทำตามที่เมียสั่ง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2014, 04:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1387510599-1476545186-o.jpg
1387510599-1476545186-o.jpg [ 7.11 KiB | เปิดดู 3201 ครั้ง ]
เห็นเขาพูดถามเรื่องผีกันเหมือนกัน แต่ไม่ถามว่านุ่งผ้านุ่งผ่อนมั้ย เขาถาม

อ้างคำพูด:
อยากทราบว่า ทำไมผี ตอนที่จะมา หรือก่อนที่จะเจอผี ทำไมไฟต้องดับด้วยอะ หรือว่าผี กลัวไฟส่องหน้า


คห.หนึ่งว่า

อ้างคำพูด:
...ผี ก็เหมือนสาวๆรุ่นเอ๊าะๆ ทั้งหลายนั่นแหละ...ถ้าดับไฟแล้วจะเจอของจริง

บรื๊ออวว์ว์ๆๆๆ....

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2014, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

เคยเห็นครั้งหนึ่งครับ แต่คิดว่าน่าจะเกิดจากเขาทำให้เห็นเป็นหลักนะครับ
ตอนอธิฐานบุญกุศลให้กับวิญญาณในวัด เป็นผู้ชายนั่งอยู่ใส่ชุดเสื้อสีขาวโบราณ มีแสงสีขาวผ่อง
ส่องกระจายออกมาจากตัว เลยสงสัยลืมตาหันหลังกลับไปดู
เห็นแต่ฝรั่งเดินขึ้นมาบนเจดีย์ วัดพระศรีสรรเพชร

ส่วนอีกครั้งหนึ่งในค่ายทหาร เห็น เพียงเงาดำๆ คนหนึ่งยืนอยู่ด้านขวามือ
ส่วนเงาดำๆประมาณสี่ห้าคนกำลังนั่งอยู่ด้านหน้า ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูครับ ทำสมาธิต่อ
แล้วอุทิศบุญกุศลให้ครับ ผมไปนั่งตรงฐานเสาธง หน้าสนามหญ้า มีต้นไม้พอสมควรครับ
อากาศดี

เป็นคนกลัวผีครับ แต่ถ้าจิตมีอาการสว่างพอถึงช่วงหนึ่งจะหายกลัวครับ
มันเหมือนกลางวัน (ความรู้สึกเหมือนที่กว้างโล่งแจ้งดี)
แต่พอความรู้สึกเหมือนกลางวันหาย ใจวอกแวกหวาดหวั่น กลับมากลัวผีเหมือนเดิม :b41: :b46: :b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2014, 23:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นเทวดาแล้วละมั่งครับ....ชุดขาวนะ...อิอิ....อยากเห็นบ้างจัง....จะได้ถามว่า..เป็นเทวดาแล้วช่วยชาติอย่างไรบ้าง..อิอิ.

เสื้อผ้าผี.....มีเพราะ..ความยึด...ยึดอย่างไร...จิตก็สร้างไปอย่างนั้น....และก็ยังขึ้นกับภพที่เป้นอยู่ขณะนั้นด้วยว่า...กำลังอยู่ในอะไร...บุญหรือบาป....

ผีฝรั่ง....เสื้อผ้าก็เป็นแบบฝรั่ง....สวรรค์ฝรั่ง...ก็เป้นแบบที่สอนๆกันใว้
ผีไทย..เสื้อผ้าก็เป้นแบบไทย...สวรรค์ไทย..หลังคาแหล่มๆทั้งนั้น...

เรียกว่า..ยึดแบบไหน...คุณก็เป้นหรือได้เห้น...แบบนั้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 96 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร