ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47660
หน้า 16 จากทั้งหมด 18

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 16 มิ.ย. 2015, 19:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:
ก็เปิดอยู่นี้...ไม่งั้นจะรู้หรอว่า...ตรงไหนเป็นธรรม...ตรงไหนเป็นอธรรม

ตรงไหนเป็นอธรรม....ก็ไม่เข้าไปสุงสิงด้วย...ไม่ใช่กลัวว่ามันจะมาแปดเปื้อนอะไรหรอก....ก็แค่ไม่มีอารมณ์ไปสุงสิง..ก็แค่ นั้น...นี้แค่ปุถุชน...นะ...อริยะชน..จะเผลอไปทำบ้างเป็นบางครั้ง...ไม่ได้ทำเนืองๆ...อย่างที่บิ๊กทูคิด...มันจึงไม่มีทาง...งัย

แต่..ใครจะจับอริยะกรอกเหล้า...อันนี้เป็นไปได้อยู่...แต่กินเหล้าเข้าสังคม..ไม่อยากให้เขาว่า..นั้น...ไม่มีแน่

จะมีก็อริยะปลอม..อันนี้เป็นไปได้อยู่..555

:b12:


ก็ประเด็นเดิม. อริยะไม่กินเหล้าพระพุทธเจ้าก็ตอบ คฤหบดีบุตรว่า. อริยะไม่ประกอบเนื่องๆ กบยังสงสัยอะไรในคำตอบอยู่หรือ


กล่าวตู่พระพุทธเจ้า..อีกแล้วนะ...บิ๊กทู

พระพุทธเจ้ากล่าวว่า...อริยะสาวกไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ 6
แล้วก็จำแนกทางเสื่อมฯ...คือการประกอบเนืองๆ...มีอะไรบ้าง

นึกถึง....ปลาทองปากเหม็น....
มาเป็นปลาทองปากเหม็นได้นี้..ก็ผ่านนรกอเวจีมาก่อน...
(คำเตือน...ตกนรกที...จะถูกดำเนินคดีทุกๆบาปกรรมที่ทำ..มันถึงนานหลุดพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป...เลย..)

เจ้าของ:  bigtoo [ 16 มิ.ย. 2015, 19:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

Quote Tipitaka:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:
ก็เปิดอยู่นี้...ไม่งั้นจะรู้หรอว่า...ตรงไหนเป็นธรรม...ตรงไหนเป็นอธรรม

ตรงไหนเป็นอธรรม....ก็ไม่เข้าไปสุงสิงด้วย...ไม่ใช่กลัวว่ามันจะมาแปดเปื้อนอะไรหรอก....ก็แค่ไม่มีอารมณ์ไปสุงสิง..ก็แค่ นั้น...นี้แค่ปุถุชน...นะ...อริยะชน..จะเผลอไปทำบ้างเป็นบางครั้ง...ไม่ได้ทำเนืองๆ...อย่างที่บิ๊กทูคิด...มันจึงไม่มีทาง...งัย

แต่..ใครจะจับอริยะกรอกเหล้า...อันนี้เป็นไปได้อยู่...แต่กินเหล้าเข้าสังคม..ไม่อยากให้เขาว่า..นั้น...ไม่มีแน่

จะมีก็อริยะปลอม..อันนี้เป็นไปได้อยู่..555

:b12:


ก็ประเด็นเดิม. อริยะไม่กินเหล้าพระพุทธเจ้าก็ตอบ คฤหบดีบุตรว่า. อริยะไม่ประกอบเนื่องๆ กบยังสงสัยอะไรในคำตอบอยู่หรือ


กล่าวตู่พระพุทธเจ้า..อีกแล้วนะ...บิ๊กทู

พระพุทธเจ้ากล่าวว่า...อริยะสาวกไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ 6
แล้วก็จำแนกทางเสื่อมฯ...คือการประกอบเนืองๆ...มีอะไรบ้าง

นึกถึง....ปลาทองปากเหม็น....
มาเป็นปลาทองปากเหม็นได้นี้..ก็ผ่านนรกอเวจีมาก่อน...
(คำเตือน...ตกนรกที...จะถูกดำเนินคดีทุกๆบาปกรรมที่ทำ..มันถึงนานหลุดพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป...เลย..)
กบรู้จักแปลไทยเป็นไทยมั้ย. เห็นแปลไม่ค่อยจะเป็น. ก็จัดให้ความหมายตรงๆ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 16 มิ.ย. 2015, 21:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

ก็แปลตรง.ๆ..นี้งัย

แล้วก็ใช้ปัญญาด้วย...นะ..

rolleyes

เจ้าของ:  idea [ 16 มิ.ย. 2015, 21:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

Onion_L
แบ่งปันกัน รู้ อริยะ อยู่เหรอคะ ?
huh .... :b5: :b9: :b9:
:b46: :b12:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2015, 06:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

ผมถามว่า...ที่บิ๊กทูกล่าวอ้างต้องศึกษาพุทธวจน
แต่พอถาม..ว่า..ที่บิ๊กทูว่ามาอย่างข้างล่าง..นี้นะ...เอามาจากพุทธวจน..ตรงไหน?

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
การที่จะเป็นโสดาบันได้นั้นจะต้องละ อปายคมนิยธรรม(กรรมที่พาไปอบาย)ปฏิบัติถึงขั้นโสดาปัตติมัคคญาณเป็นต้น จนถึง อรหัตตมัคคญาณ จึงจะละอกุศลกรรมบถเหล่านี้ได้ โดยเด็ดขาด ดังมีหลักฐานในวิสุทธิมรรค ภาค ๓ หน้า ๓๓๘ รับรองไว้ว่า

กมฺมปเถสุ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุ มิจฉาจาโร มุสาวาโท มิจฺฉาทิฏฐีติ อิเม ปฐมญาณวชฺฌา

บรรดากรรมบถทั้ง ๑๐ นั้น ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ มิจฉาทิฏฐิ ๑

อกุศลกรรม ทั้ง ๕ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจ โสดาปัตติมัคคญาณ. (สุราไม่เห็นมี)


ในฐานะ..ที่บิ๊กทู...อ้างว่าต้องศึกษาพระพุทธวจน...
ที่บิ๊กทู..พูดมาข้างต้น..นี้นะ...เอามาจากที่พระองค์ตรัส..หรือว่า..คิดเอง?

อ้างคำพูด:
ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ ตโย ตติยญาณวชฺฌา

ปิสุณาวาจา ๑ ผรุสวาจา ๑ พยาบาท ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๓ นี้ ละได้โดยเด็ดขาดด้วยอำนาจ อนาคามิมัคคญาณ
]

อันนี้ก็เช่นกัน

อ้างคำพูด:
สมฺผปฺปลาปาภิชฌา จตุตฺถญาณวชฺฌา สัมผัปปลาปะ ๑ อภิชฌา ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๒ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจอรหัตตมัคคญาณ ดังนี้.


อันนี้ก็อีก


แต่พอจะหาที่อ้าง..ว่ายกมาจากไหน..กลับไปเอาจากที่อื่นมา..ซึ่งก็ไม่ตรงที่ตัวเองยกมาครั้งแรก
ตกลง...ครั้งแรก...เอามาจากไหน?...
ตัวเองคิดเอง..หรือ...ของพุทธโฆษาจารย์...ก็ว่ามาตรงๆ...

bigtoo เขียน:
พุทธวจนก็เอาให้ดูแล้วเรื่องอริยสาวกไม่เสพธรรมที่เป็นเพื่อความเสื่อมเป็นอย่างไร. นี่คือการศึกษาโดยรวมบริบทอื่นๆที่ยกมาให้ดูว่าอะไรๆที่ห้ามขาด. อะไรๆที่พอทำทำได้ในบริบทอื่น. ที่ยกตัวอย่างว่ามันมีเรื่องเจตนา. แม้ในอกุศลกรรมบท10. ก็ไม่มีเรื่อง สุรา การพนั้น คบมิตรเลว เที่ยวกลางคืน เกลียจคร้าน. เพราะว่าสิ่งทั้ง6นั้นแม้แต่สาวกก็สามารถทำได้ เป็นครั้งคราวเพราะเหตุอันควรแก่สถานะสังคมบริบทรอบข้างนี้คือธรรมะตามความจริง.

ละสังโยชน์สามและกรรมที่พาไปอบาย
คือ โสดาบัน
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไม่ละธรรม ๖ อย่างแล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา (ความเป็นโสดาบัน).
ไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่าไหนเล่า ? ไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้ คือ :-
ไม่ละ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตน); ไม่ละ วิจิกิจฉา (ความลังเลในปฏิปทาทางดับทุกข์); ไม่ละ สีลัพพตปรามาส (การถือเอาศีลและพรตผิดความมุ่งหมายที่แท้จริง); ไม่ละ อปายคมนิยราคะ (ราคะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ไม่ละ อปายคมนิยโทสะ (โทสะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ไม่ละ อปายคมนิยโมหะ (โมหะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย).
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้แล เป็นผู้ไม่ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา.

ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุละธรรม ๖ อย่างแล้ว เป็นผู้ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา.ง
ละธรรม ๖ อย่าง เหล่าไหนเล่า ? ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้ คือ :-
ละ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตน); ละ วิจิกิจฉา (ความลังเลในปฏิปทาทางดับทุกข์); ละ สีลัพพตปรามาส (การถือเอาศีลและพรต ผิดความมุ่งหมายที่แท้จริง); ละ อปายคมนิยราคะ (ราคะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ละ อปายคมนิยโทสะ (โทสะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ละ อปายคมนิยโมหะ (โมหะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย).
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุละธรรม ๖ อย่างเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา ดังนี้แล.
พุทธวจน คู่มือโสดาบัน หน้า ๓๑
(ไทย) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๐/๓๖๐. : คลิกดูพระสูตร
(บาลี) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๘/๓๖๐. : คลิกดูพระสูตร
กบอย่าอาจหาญคิดว่าตนเองเก่งกว่าท่านธรรมโฆษาจารย์นะครับ

แล้วยังมีหน้า..มาว่าคนอื่น..ว่าเก่งกว่าพระธรรมโฆษาจารย์..(คงหมายถึงพระพุทธโฆษาจารย์..?).อีก
วิธีชอบเฉ่ไฉ..ใส่ไคร่..ไม่ยอมรับตนผิด...เป็นนิสัยของอมิตร..ที่ไม่น่ารักเลย..นิ
grin

เจ้าของ:  bigtoo [ 17 มิ.ย. 2015, 07:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

กบนอกกะลา เขียน:
ผมถามว่า...ที่บิ๊กทูกล่าวอ้างต้องศึกษาพุทธวจน
แต่พอถาม..ว่า..ที่บิ๊กทูว่ามาอย่างข้างล่าง..นี้นะ...เอามาจากพุทธวจน..ตรงไหน?

กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
การที่จะเป็นโสดาบันได้นั้นจะต้องละ อปายคมนิยธรรม(กรรมที่พาไปอบาย)ปฏิบัติถึงขั้นโสดาปัตติมัคคญาณเป็นต้น จนถึง อรหัตตมัคคญาณ จึงจะละอกุศลกรรมบถเหล่านี้ได้ โดยเด็ดขาด ดังมีหลักฐานในวิสุทธิมรรค ภาค ๓ หน้า ๓๓๘ รับรองไว้ว่า

กมฺมปเถสุ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุ มิจฉาจาโร มุสาวาโท มิจฺฉาทิฏฐีติ อิเม ปฐมญาณวชฺฌา

บรรดากรรมบถทั้ง ๑๐ นั้น ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ มิจฉาทิฏฐิ ๑

อกุศลกรรม ทั้ง ๕ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจ โสดาปัตติมัคคญาณ. (สุราไม่เห็นมี)


ในฐานะ..ที่บิ๊กทู...อ้างว่าต้องศึกษาพระพุทธวจน...
ที่บิ๊กทู..พูดมาข้างต้น..นี้นะ...เอามาจากที่พระองค์ตรัส..หรือว่า..คิดเอง?

อ้างคำพูด:
ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ ตโย ตติยญาณวชฺฌา

ปิสุณาวาจา ๑ ผรุสวาจา ๑ พยาบาท ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๓ นี้ ละได้โดยเด็ดขาดด้วยอำนาจ อนาคามิมัคคญาณ
]

อันนี้ก็เช่นกัน

อ้างคำพูด:
สมฺผปฺปลาปาภิชฌา จตุตฺถญาณวชฺฌา สัมผัปปลาปะ ๑ อภิชฌา ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๒ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจอรหัตตมัคคญาณ ดังนี้.


อันนี้ก็อีก


แต่พอจะหาที่อ้าง..ว่ายกมาจากไหน..กลับไปเอาจากที่อื่นมา..ซึ่งก็ไม่ตรงที่ตัวเองยกมาครั้งแรก
ตกลง...ครั้งแรก...เอามาจากไหน?...
ตัวเองคิดเอง..หรือ...ของพุทธโฆษาจารย์...ก็ว่ามาตรงๆ...

bigtoo เขียน:
พุทธวจนก็เอาให้ดูแล้วเรื่องอริยสาวกไม่เสพธรรมที่เป็นเพื่อความเสื่อมเป็นอย่างไร. นี่คือการศึกษาโดยรวมบริบทอื่นๆที่ยกมาให้ดูว่าอะไรๆที่ห้ามขาด. อะไรๆที่พอทำทำได้ในบริบทอื่น. ที่ยกตัวอย่างว่ามันมีเรื่องเจตนา. แม้ในอกุศลกรรมบท10. ก็ไม่มีเรื่อง สุรา การพนั้น คบมิตรเลว เที่ยวกลางคืน เกลียจคร้าน. เพราะว่าสิ่งทั้ง6นั้นแม้แต่สาวกก็สามารถทำได้ เป็นครั้งคราวเพราะเหตุอันควรแก่สถานะสังคมบริบทรอบข้างนี้คือธรรมะตามความจริง.

ละสังโยชน์สามและกรรมที่พาไปอบาย
คือ โสดาบัน
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไม่ละธรรม ๖ อย่างแล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา (ความเป็นโสดาบัน).
ไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่าไหนเล่า ? ไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้ คือ :-
ไม่ละ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตน); ไม่ละ วิจิกิจฉา (ความลังเลในปฏิปทาทางดับทุกข์); ไม่ละ สีลัพพตปรามาส (การถือเอาศีลและพรตผิดความมุ่งหมายที่แท้จริง); ไม่ละ อปายคมนิยราคะ (ราคะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ไม่ละ อปายคมนิยโทสะ (โทสะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ไม่ละ อปายคมนิยโมหะ (โมหะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย).
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุไม่ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้แล เป็นผู้ไม่ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา.

ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุละธรรม ๖ อย่างแล้ว เป็นผู้ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา.ง
ละธรรม ๖ อย่าง เหล่าไหนเล่า ? ละธรรม ๖ อย่าง เหล่านี้ คือ :-
ละ สักกายทิฏฐิ (ความเห็นผิดว่าขันธ์ ๕ เป็นตัวตน); ละ วิจิกิจฉา (ความลังเลในปฏิปทาทางดับทุกข์); ละ สีลัพพตปรามาส (การถือเอาศีลและพรต ผิดความมุ่งหมายที่แท้จริง); ละ อปายคมนิยราคะ (ราคะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ละ อปายคมนิยโทสะ (โทสะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย); ละ อปายคมนิยโมหะ (โมหะที่ควรแก่การถึงซึ่งอบาย).
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุละธรรม ๖ อย่างเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรกระทำให้แจ้งซึ่งทิฏฐิสัมปทา ดังนี้แล.
พุทธวจน คู่มือโสดาบัน หน้า ๓๑
(ไทย) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๐/๓๖๐. : คลิกดูพระสูตร
(บาลี) ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๘/๓๖๐. : คลิกดูพระสูตร
กบอย่าอาจหาญคิดว่าตนเองเก่งกว่าท่านธรรมโฆษาจารย์นะครับ

แล้วยังมีหน้า..มาว่าคนอื่น..ว่าเก่งกว่าพระธรรมโฆษาจารย์..(คงหมายถึงพระพุทธโฆษาจารย์..?).อีก
วิธีชอบเฉ่ไฉ..ใส่ไคร่..ไม่ยอมรับตนผิด...เป็นนิสัยของอมิตร..ที่ไม่น่ารักเลย..นิ
grin
เข้าใจมั้ยครับพุทธวจนคืออะไร. คำกล่าวกล่าออกจากปากพระพุทธเจ้า. ซึ่งสาวกนำมากล่าว. พระธรรมโฆษาจารย์ที่ก็เอามากล่าวคือโสดาบันละอะไรได้บ้าง. อย่าคิดว่าพุทธวจนต้องวัดนาปาพงเท่านั้น. อย่ามีอคติ. ใจไม่กว้าง. มองก็ไม่กว้างตาม

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2015, 07:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

ผมถามว่า..เอามาจากไหน?

คุณบิ๊กทู..ก็บอกซิ..ตอนนี้เป็นพุทธพจน...ตรงนี้เป็นวิสุทธฺมรรค์ว่าอย่างนี้..เป็นต้น

คนอ่านจะได้รู้...ว่าตอนไหนเป็นอะไร..ตอนนี้เป็นอะไร...ฝากลิงคฺ์ด้วย..ถ้ามี..

รู้จักมั้ย..การอ้างอิงนะ...

ถ้าตัดต่อ..หรือพูดเอง..ก็ว่าพูดเอง

ดูซิ....อุตส่าถามชัดๆ....ก็เฉ่ไปเรื่อย..ทำเป็นไม่เข้าใจ
ปัดโธ่... s004

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2015, 07:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

อีกครั้ง....เอามาจากตรงไหน?

bigtoo เขียน:
การที่จะเป็นโสดาบันได้นั้นจะต้องละ อปายคมนิยธรรม(กรรมที่พาไปอบาย)ปฏิบัติถึงขั้นโสดาปัตติมัคคญาณเป็นต้น จนถึง อรหัตตมัคคญาณ จึงจะละอกุศลกรรมบถเหล่านี้ได้ โดยเด็ดขาด ดังมีหลักฐานในวิสุทธิมรรค ภาค ๓ หน้า ๓๓๘ รับรองไว้ว่า

กมฺมปเถสุ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุ มิจฉาจาโร มุสาวาโท มิจฺฉาทิฏฐีติ อิเม ปฐมญาณวชฺฌา

บรรดากรรมบถทั้ง ๑๐ นั้น ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ มิจฉาทิฏฐิ ๑

อกุศลกรรม ทั้ง ๕ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจ โสดาปัตติมัคคญาณ. (สุราไม่เห็นมี)



อ้างคำพูด:
ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ ตโย ตติยญาณวชฺฌา

ปิสุณาวาจา ๑ ผรุสวาจา ๑ พยาบาท ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๓ นี้ ละได้โดยเด็ดขาดด้วยอำนาจ อนาคามิมัคคญาณ



อ้างคำพูด:
สมฺผปฺปลาปาภิชฌา จตุตฺถญาณวชฺฌา สัมผัปปลาปะ ๑ อภิชฌา ๑

อกุศลกรรมบถทั้ง ๒ ข้อนี้ ละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจอรหัตตมัคคญาณ ดังนี้.


เป็นพุทธพจน์...รึ?

รึ...ของพระพุทธโฆษาจารย์?

รึ...ความเห็นตัวเอง?

รึ...สรุปเองจากพุทธพจน์บทไหน?

เอาให้แน่... s004 s004

เจ้าของ:  bigtoo [ 17 มิ.ย. 2015, 08:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

กบนอกกะลา เขียน:
ผมถามว่า..เอามาจากไหน?

คุณบิ๊กทู..ก็บอกซิ..ตอนนี้เป็นพุทธพจน...ตรงนี้เป็นวิสุทธฺมรรค์ว่าอย่างนี้..เป็นต้น

คนอ่านจะได้รู้...ว่าตอนไหนเป็นอะไร..ตอนนี้เป็นอะไร...ฝากลิงคฺ์ด้วย..ถ้ามี..

รู้จักมั้ย..การอ้างอิงนะ...

ถ้าตัดต่อ..หรือพูดเอง..ก็ว่าพูดเอง

ดูซิ....อุตส่าถามชัดๆ....ก็เฉ่ไปเรื่อย..ทำเป็นไม่เข้าใจ
ปัดโธ่... s004
ก็ต้องบรรยายกันก่อน. คนถามก็น่าจะเข้าใจนะ. ตอนที่ผมยกมาครั้งแรก ก็บอกแล้วว่ามาจากวิสุทธิมรรค บอกหน้าให้เสร็จแล้วจะมาถามอีกทำไม. ที่ท่านถามผมมันเหมือนว่าไหนบอกให้สนใจแต่พุทธวจน. ท่านไม่เข้าใจหรอกนั้นก็คือพุทธวจน ถึงออกจากปากท่านใดเมื่อเราตรวจสอบว่าตรงตามพระสูตรก็ถือว่าตรงตามพุทธวจน. พุทธวจนนั้นไม่ได้หมายความว่าวัดนาป่าพงนะ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2015, 13:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

ใช้..คำว่า..พุทธพจน...ซิ

อย่าไปใช่เครื่องหมายของเขาซิ....รึชอบโหนกระแส..เขาไปเรื่อย...

เจ้าของ:  bigtoo [ 17 มิ.ย. 2015, 13:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

กบนอกกะลา เขียน:
ใช้..คำว่า..พุทธพจน...ซิ

อย่าไปใช่เครื่องหมายของเขาซิ....รึชอบโหนกระแส..เขาไปเรื่อย...
นี่ก็อีกแยกแยะอะไรไม่เป็น ธรรมะก็ส่วนธรรมะ. บัญญัติก็ส่วนบัญญัติ ผมสนับสนุนสถาบันพุทธวจนด้วยครับ ถึงแม้จะไม่ได้สมบูรณไปซะทุกิอย่างแต่ก็เกิดประโยชน์แก่ชาวโลก

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 17 มิ.ย. 2015, 13:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

แห่ม..บัญญัติก็ส่วนบัญญัติ..รึ

งั้นก็ใช้คำว่า..พุทธพจน..ซิ...ถ้ามันมีค่าเท่ากัน..อิอิ

ทำไม..จึงเลือกใช้..คำ..คำเดียว..

เปลี่ยนไป..เปลี่ยนมา...ก็น่าจะได้....ไม่ยึดติด..มิใช่นิ..อิอิ

เจ้าของ:  bigtoo [ 17 มิ.ย. 2015, 13:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

ปลูกต้นพุทธวจนถึงออกมาเป็นแบบนี้ เมล็ดพันธุ์เขาดี. กบรู้เรื่องเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์มั้ย. https://m.youtube.com/watch?v=jP_7V3P2mzM

เจ้าของ:  bigtoo [ 17 มิ.ย. 2015, 13:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

กบนอกกะลา เขียน:
แห่ม..บัญญัติก็ส่วนบัญญัติ..รึ

งั้นก็ใช้คำว่า..พุทธพจน..ซิ...ถ้ามันมีค่าเท่ากัน..อิอิ

ทำไม..จึงเลือกใช้..คำ..คำเดียว..

เปลี่ยนไป..เปลี่ยนมา...ก็น่าจะได้....ไม่ยึดติด..มิใช่นิ..อิอิ
ก็นั้นแหล่ะการไม่ยึดติด. เพราะเข้าใจเรื่องเหตุผลในหลายบริบท

เจ้าของ:  bigtoo [ 18 มิ.ย. 2015, 07:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กินเนื้อสัตว์ไม่บาปจริงๆ หรือ?

กบนอกกะลา เขียน:
แห่ม..บัญญัติก็ส่วนบัญญัติ..รึ

งั้นก็ใช้คำว่า..พุทธพจน..ซิ...ถ้ามันมีค่าเท่ากัน..อิอิ

ทำไม..จึงเลือกใช้..คำ..คำเดียว..

เปลี่ยนไป..เปลี่ยนมา...ก็น่าจะได้....ไม่ยึดติด..มิใช่นิ..อิอิ
เคยได้ยินว่ากบหุงข้าวไปให้แม่หมาลูกหมากินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง คงโตมากแล้วซินะ จับไปขายสกลนครหรือยัง

หน้า 16 จากทั้งหมด 18 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/