วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 03:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2013, 06:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกชีวิต..มีกรรมเป็นของตัวเอง...
มีกรรม.เป็นที่พึ่ง...
มีกรรมเป็นตัวกำเนิด..
มีกรรม.เป็นที่อยู๋อาศัย.
ทุกชีวิต.ทำกรรมใดไว้
จะดี..จะชั่ว..จะมาก.จะน้อย.
ก็ตามก็จะได้ร้บผลของกรรมนั้นไปอย่างแน่นอน...
ไม่วันไดก็วันหนึ่ง จงอย่าได้หลงไปแก้กรรมวัดไดเลย
จงตั้งใจทำบุญใหม่หนุนบุญเก่าที่เราใช้ไปทุกๆวัน
และกรวดน้ำอุทิศผลบุญกุศล แล้วแผ่เมตตา ปราถนาให้พ้นทุกข์เถิด



เคล็ดลับในการรักษาศีลแบบวิธีง่าย ๆ
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

● คนที่มีกำลังใจเข้มแข็ง

แนะให้ตั้งใจรักษาศีลให้ครบ ๕ ข้อวันละ ๓ ชั่วโมง คือตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ถึง ๙ โมงเช้า ในเวลาเท่านี้จะอย่างไรก็ตามจะไม่ยอมละเมิดศีลเด็ดขาด

ถ้าเธอปฏิบัติตามนี้ได้ ไม่เกิน ๓ เดือน มีหวังรักษาศีล ๕ ครบทุกสิกขาบทได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพราะการระมัดระวังศีลทั้ง ๕ ข้อ วันละ ๓ ชั่วโมงนั้น เป็นการทรงฌานในสีลานุสสติวันละ ๓ ชั่วโมง เพราะเป็นอนุสสติ ไม่ต้องไปนั่งหลับตาภาวนา เอาใจคอยระวังไม่ให้พลั้งพลาด เท่านี้เป็นฌานแล้ว

คำว่า ฌาน นั้น ความหมายจริง ๆ ก็คืออารมณ์ชิน คือ มีอารมณ์ทรงอย่างนั้นเป็นปกติ อย่างพวกเราชินกับความทุกข์จนไม่เข้าใจว่ามันเป็นความทุกข์ นั่นก็คือ ความหิว ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ เป็นต้น มีทุกวันจนชิน เลยไม่เข้าใจว่าเป็นทุกข์ เห็นเป็นของธรรมดาไป คำว่าฌานก็เหมือนกัน มีอารมณ์ปกติจนไม่มีอะไรต้องระวังหรือมีความหนักใจ


● คนที่มีอารมณ์เข้มแข็งน้อย

หรือที่เรียกว่ามีกำลังใจค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีแววที่พอจะทำได้ ให้เลือกปฏิบัติเอาจริงเอาจังเป็นข้อ ๆ ที่พอจะทำได้ ให้เอาชนะจริง ๆ ข้อใดข้อหนึ่งไปเลย เมื่อชนะข้อใดข้อหนึ่งแน่นอนแล้ว ก็ค่อย ๆ เลือกเอาข้อที่เห็นว่าง่าย ไม่นานเท่าไรก็ชนะหมดทุกข้อ

สำหรับศีล บางทีญาติโยมจะหนักใจ ก็ไม่เป็นไรวันหนึ่งรักษา ๒๔ ชั่วโมงไม่ได้ ก็รักษาวันละ ๓ ชั่วโมง มันก็เป็นศีล เรารักษาได้จริงๆ ด้วยการอดใจจริง ๆ ๑ ชั่วโมง มันก็เป็นศีล ถ้าวันหนึ่งเรารักษาได้จริง ๆ ใครจะด่าจะว่า จะทำอะไรก็ช่างมัน ช่างมัน ช่างมัน ๑ ชั่วโมง ใช่ไหม แล้วเหลือ ๒๓ ชั่วโมง ใช่ไหม

อย่าลืมว่าไอ้วันละ ๑ ชั่วโมงนี่ มันจะกดอารมณ์ลงไปเรื่อย ๆ ไม่ช้ามันก็เต็ม ๒๔ ชั่วโมง ใช่ไหม ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า น้ำฝนตกลงมาทีละหยดละหยาด สามารถทำให้ภาชนะเต็มได้ฉันใด การอดใจหรือการทรงใจในอำนาจของศีลวันหนึ่ง วันหนึ่งเราได้ ๑ ชั่วโมง ต่อไปอารมณ์มันก็ชิน มันก็เป็น ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมง ๑๐ ชั่วโมง ไปตามสภาพ

ฉะนั้น ภายใน ๓ ชั่วโมงนี่ ฉันจะทรงศีล ๕ ให้ทรงตัว การระมัดระวังอย่างนี้ อย่าลืมนะท่านผู้นั้นเป็นผู้ทรงฌานในสีลานุสสติกรรมฐานวันละ ๓ ชั่วโมง แล้วก็ทำอย่างนี้ หลายคนมารายงานไม่ถึง ๓ เดือน ศีล ๕ ครบถ้วนตลอดวัน


ให้ทานคือ การปล่อยวาง

จุดสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมก็คือ ทรงสอนให้ปล่อยให้วาง ไม่ยึดถือ คนรู้มากก็ปล่อยได้มาก รู้น้อยก็ปล่อยได้น้อย ขั้นแรกทรงสอนให้ "บริจาคทาน" เพื่อเป็นอุบายอันหนึ่งที่จะให้ปล่อยวางได้ ต่อมาก็ "จาคะ" คือความเสียสละ ซึ่งเหล่านี้เป็นอุบายให้มนุษย์เรารู้จักการปล่อยวาง

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและฉลองเจดีย์หลวงปู่สีโห เขมะโก ณ วัดพุทธาวาส บ้านสว่าง ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556

ขอบอกบุญถมดิน อีก 250 รถเพื่อสร้างฐานประดิษสถานพระพุทธชินราช 119 นิ้ว
โทร. 088-1562310


ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตราหาร เช้า เพล และน้ำปานะ แด่พระภิกษุผู้เข้ารับอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ ศูนย์ปฎิบัติธรรม ธรรมโมลี จ. นครราชศรีมา


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ บูรณะเมรุเผาศพ วัดโพนแพง จังหวัดขอนแก่น

ขอเชิญถวายผ้าป่าวัดหนองประชุม

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทานเสบียงบุญมหาชน งานปฏิบัติธรรมวัดสันป่าสักวรอุไร (22 ธ.ค. 56)
โทร. 081-8696068


ขอเชิญร่วมบุญมหาสังฆทาน 9 วัด ครั้งที่ 13
โทร. 081-8696068

กลุ่มสมาธิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญนิสิตจุฬาฯ บุคลากร และญาติธรรมทุกท่าน
ร่วมฟังพระธรรมเทศนา จากพระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย)
ณ ห้องธรรมวิศว์ ตึก3 ชั้น3 คณะวิศวกรรมศาสตร์
ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2556


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2014, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ก.ค. 2013, 19:24
โพสต์: 29

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรม ก็คือ อาการปรากฎของรูปนาม ก็คือขันธ์5 ก็คือทุกข์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2014, 21:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b8: :b8: :b8: :b39:

:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2014, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


tel1998 เขียน:
กรรม ก็คือ อาการปรากฎของรูปนาม ก็คือขันธ์5 ก็คือทุกข์


:b12: :b8: :b8: :b8: :b12:

สั้น ๆ แต่สะท้อน .... อุทยัพพยานุปัสนาญาณ
เพราะ การเห็นกรรมในแง่นี้จะปรากฎเนื่องด้วย วิปัสสนาญาณ

Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓
ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค


[๑๐๔] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเบญจขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเบญจขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่ง
เบญจขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร ฯ
พระโยคาวจร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเบญจขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๒๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเบญจขันธ์
ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๒๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความ
เสื่อมไปแห่งเบญจขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕๐ ประการ ฯ

[๑๐๕] พระโยคาวจร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่ง
รูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิด
ขึ้นแห่งเวทนาขันธ์ แห่งสัญญาขันธ์ แห่งสังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่ง
วิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะเท่าไร

พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็น
ลักษณะ ๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์ ย่อมพิจารณา
เห็นลักษณะ ๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่ง
รูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๑๐ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่ง
เวทนาขันธ์ แห่งสัญญาขันธ์ แห่งสังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็น
ลักษณะ ๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อม
ไปแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๑๐ ประการ ฯ

[๑๐๖] พระโยคาวจร เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ เป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ โดยความเกิด
ขึ้นแห่งปัจจัยว่า เพราะอวิชชาเกิดรูปจึงเกิด เพราะตัณหาเกิดรูปจึงเกิด เพราะ
กรรมเกิดรูปจึงเกิด เพราะอาหารเกิดรูปจึงเกิด แม้เมื่อพิจารณาเห็นลักษณะ
แห่งความเกิด ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ พระโยคาวจรเมื่อ
พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งรูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ ฯ

[๑๐๗] พระโยคาวจร เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์
ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการเป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์โดยความดับ
แห่งปัจจัยดับว่า เพราะอวิชชาดับรูปจึงดับ เพราะตัณหาดับรูปจึงดับ เพราะ
กรรมดับรูปจึงดับ เพราะอาหารดับรูปจึงดับ แม้เมื่อพิจารณาเห็นลักษณะแห่ง
ความแปรปรวน ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์ เมื่อพิจารณา
เห็นความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ เมื่อ
พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่งรูปขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็น
ลักษณะ ๑๐ ประการนี้ ฯ

[๑๐๘] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเวทนาขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการเป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเวทนาขันธ์ โดยความ
เกิดขึ้นแห่งปัจจัยว่า เพราะอวิชชาเกิดเวทนาจึงเกิด เพราะตัณหาเกิดเวทนาจึง
เกิด เพราะกรรมเกิดเวทนาจึงเกิด เพราะผัสสะเกิดเวทนาจึงเกิด แม้เมื่อ
พิจารณาเห็นลักษณะแห่งการเกิด ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเวทนา
พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเวทนาขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็น
ลักษณะ ๕ ประการนี้ ฯ

[๑๐๙] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเวทนาขันธ์
ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการเป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเวทนาขันธ์ โดยความ
ดับแห่งปัจจัยว่า เพราะอวิชชาดับเวทนาจึงดับ เพราะตัณหาดับเวทนาจึงดับ
เพราะกรรมดับเวทนาจึงดับ เพราะผัสสะดับเวทนาจึงดับ แม้เมื่อพิจารณาเห็น
ลักษณะแห่งความแปรปรวน ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเวทนาขันธ์
พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเวทนาขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็น
ลักษณะ ๕ ประการนี้ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่งเวทนา
ขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๑๐ ประการนี้ ฯ

[๑๑๐] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดแห่งสัญญาขันธ์ แห่ง
สังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ
เป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเกิดแห่งวิญญาณขันธ์ โดยความ
เกิดขึ้นแห่งปัจจัยว่า เพราะอวิชชาเกิดวิญญาณจึงเกิด เพราะตัณหาเกิดวิญญาณ
จึงเกิด เพราะกรรมเกิดวิญญาณจึงเกิด เพราะนามรูปเกิดวิญญาณจึงเกิด แม้
เมื่อพิจารณาเห็นลักษณะแห่งความเกิด ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่ง
วิญญาณขันธ์ พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ ฯ

[๑๑๑] พระโยคาวจร เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งสัญญาขันธ์
แห่งสังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ
เป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจร ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งวิญญาณขันธ์ โดย
ความดับแห่งปัจจัยว่า เพราะอวิชชาดับวิญญาณจึงดับ เพราะตัณหาดับวิญญาณ
จึงดับ เพราะกรรมดับวิญญาณจึงดับ เพราะนามรูปดับวิญญาณจึงดับ แม้
เมื่อพิจารณาเห็นลักษณะแห่งความแปรปรวน ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเสื่อมไป
แห่งวิญญาณขันธ์ พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งวิญญาณขันธ์
ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและ
ความเสื่อมไปแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๑๐ ประการนี้ เมื่อ
พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งเบญจขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๒๕ ประการ
นี้ เมื่อพิจารณาเห็นความเสื่อมไปแห่งเบญจขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ
๒๕ ประการนี้ เมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่งเบญจขันธ์
ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕๐ ประการนี้ ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรม
นั้น ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ารู้ชัด เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
ปัญญาในการพิจารณาเห็นความแปรปรวนแห่งธรรมทั้งหลายที่เป็นปัจจุบัน เป็น
อุทยัพพยานุปัสนาญาณ ฯ


รูปขันธ์เกิดเพราะอาหารเกิด ขันธ์ที่เหลือ คือ เวทนา สัญญา
สังขาร เกิดเพราะผัสสะเกิด วิญญาณขันธ์เกิดเพราะนามรูปเกิด ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2014, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาบุญด้วยครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 81 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร