วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 01:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2013, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้งตัวสภาวะ และสมมติ เป็นสิ่งจำเป็น ตัวสภาวะ (นิยมเรียกกันว่า ปรมัตถ์) เป็นเรื่องของธรรมชาติ ส่วนสมมติเป็นเรื่องของประโยชน์ในทางปฏิบัติสำหรับความเป็นอยู่ของมนุษย์ แต่ปัญหาเกิดขึ้น เพราะมนุษย์เอาสภาวะ กับ สมมติมาสับสนกัน คือ เข้าไปยึดเอาตัวสภาวะ จะให้เป็นตามสมมติ จึงเกิดวุ่นวายขึ้น ตัวสภาวะไม่วุ่น เพราะมันเป็นไปอย่างนั้นเอง ตามปกติธรรมดา ไม่เกี่ยวกับใครจะไปยึดหรือไม่ มนุษย์เป็นผู้วุ่นไปฝ่ายเดียว และเพราะมันไม่วุ่นด้วย มนุษย์จึงยุ่งวุ่นใหญ่ เพราะขัดความปรารถนา ถูกบีบคั้น จึงเกิดเป็นปัญหาแก่มนุษย์เอง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2013, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“สมมติ ไม่มีใครหลุด ไม่ต้องไปพ้น เอาแค่รู้ทัน และใช้มันให้เป็น”

“รู้ทันสมมติ ก็จะวิมุตติ” :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2013, 23:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


smiley smiley smiley

ขอบคุณลุงหมาน แล้วท่านกรัชกาย

มีแต่คนแสดงวาทะทางธรรมดี ๆ

:b17: :b17: :b17:

อิอิ ตับแก่ร์ ... หายไปไหนมาหลายวัน
ไปกะท่านอ๊บซ์รึเปล่า...
แล้วไหง๋โผล่กลับมาแค่คนเดียว...

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 06:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
smiley smiley smiley

ขอบคุณลุงหมาน แล้วท่านกรัชกาย

มีแต่คนแสดงวาทะทางธรรมดี ๆ

:b17: :b17: :b17:

อิอิ ตับแก่ร์ ... หายไปไหนมาหลายวัน
ไปกะท่านอ๊บซ์รึเปล่า...
แล้วไหง๋โผล่กลับมาแค่คนเดียว...

:b12:

อยู่แถวนี้แหละ .. แบบว่าพรางตัวอ่ะ :b32:
ท่านกบฯ ไม่รู้ไปไหน ตอนนี้หน้าฝนด้วย .. อิอิ


:b32: :b32: :b13:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
“สมมติ ไม่มีใครหลุด ไม่ต้องไปพ้น เอาแค่รู้ทัน และใช้มันให้เป็น”

“รู้ทันสมมติ ก็จะวิมุตติ” :b1:

ถามกรัชกายหน่อย ถ้ามีคนอยู่สองคน ต่างคนต่างเป็นผู้ปฏิบัติด้วยกันทั้งคู่
กรัชกายบอกได้มั้ยว่า ระหว่างคนสองคนอะไรเป็นสมมุติ แล้วอะไรเป็นปรมัตถ์

เห็นแย่งกันคุย มีแต่น้ำหาเนื้อไม่มีสักชิ้น :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
“สมมติ ไม่มีใครหลุด ไม่ต้องไปพ้น เอาแค่รู้ทัน และใช้มันให้เป็น”

“รู้ทันสมมติ ก็จะวิมุตติ” :b1:

ถามกรัชกายหน่อย ถ้ามีคนอยู่สองคน ต่างคนต่างเป็นผู้ปฏิบัติด้วยกันทั้งคู่
กรัชกายบอกได้มั้ยว่า ระหว่างคนสองคนอะไรเป็นสมมุติ แล้วอะไรเป็นปรมัตถ์

เห็นแย่งกันคุย มีแต่น้ำหาเนื้อไม่มีสักชิ้น :b32:



คำว่า "คน" เป็นสมมติ เขาสมมติเรียกกันว่า "คน" สิ่งที่ถูกเรียกว่า "คน" เป็นปรมัตถ์ :b1: พอเข้าใจมั้ยขอรับ

หรือเอาง่ายๆอีกก็ได้ เอาคำว่า คน ออกไปเสีย เอาชื่อที่สมมติบัญญัติว่า กรัชกาย โฮฮับ ออกไป นั่นแหละปรมัตถธรรม พอใจเข้าไหมขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


"ถ้ามีคนอยู่สองคน ระหว่างคนสองคนอะไรเป็นสมมุติ แล้วอะไรเป็นปรมัตถ์"


ตากระทบรูป รูป เป็นปรมัตถ์



บัญญัติบดบังสภาวะ

เหตุของอวิชชาหรือความไม่รู้ที่มีอยู่ เมื่อตากระทบรูป จึงมองเห็นสิ่งที่ปรากฏ ที่สมมุติเรียกว่า คน มากกว่า จะมองเห็นว่าเป็นรูป

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คำว่า "คน" เป็นสมมติ เขาสมมติเรียกกันว่า "คน" สิ่งที่ถูกเรียกว่า "คน" เป็นปรมัตถ์ :b1: พอเข้าใจมั้ยขอรับ

หรือเอาง่ายๆอีกก็ได้ เอาคำว่า คน ออกไปเสีย เอาชื่อที่สมมติบัญญัติว่า กรัชกาย โฮฮับ ออกไป นั่นแหละปรมัตถธรรม พอใจเข้าไหมขอรับ

ว่าแล้วต้องเหลว ไอ้ตัวหนังสือ ที่เขียนว่า คน กรัชกาย หรือโฮฮับนั้น่ะ
เขาเรียกว่า....บัญญัติ

ส่วนเรื่องความเป็นสมมุติกับปรมัตถ์ มันขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้รับผัสสะ

ถ้ากรัชกายเป็นผู้รับผัสสะ อย่างเช่นตาของกรัชกายมองเห็นโฮฮับ
สภาวะที่เป็นปรมัตถ์เกิดกับกรัชกาย ตัวตนของโฮฮับที่กรัชกายมองเห็นเรียกว่า...สมมุติ

ในทางกลับกัน ถ้าโฮฮับเป็นผู้มองผัสสะย่อมเกิดกับโฮฮับ สภาวะปรมัตถ์ย่อมเกิดกับโฮฮับ
ส่วนตัวตนของกรัชกายที่โฮฮับมองเห็น เขาเรียกว่า....สมมุติ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 14:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คำว่า "คน" เป็นสมมติ เขาสมมติเรียกกันว่า "คน" สิ่งที่ถูกเรียกว่า "คน" เป็นปรมัตถ์ :b1: พอเข้าใจมั้ยขอรับ

หรือเอาง่ายๆอีกก็ได้ เอาคำว่า คน ออกไปเสีย เอาชื่อที่สมมติบัญญัติว่า กรัชกาย โฮฮับ ออกไป นั่นแหละปรมัตถธรรม พอใจเข้าไหมขอรับ

ว่าแล้วต้องเหลว ไอ้ตัวหนังสือ ที่เขียนว่า คน กรัชกาย หรือโฮฮับนั้น่ะ
เขาเรียกว่า....บัญญัติ

ส่วนเรื่องความเป็นสมมุติกับปรมัตถ์ มันขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้รับผัสสะ

ถ้ากรัชกายเป็นผู้รับผัสสะ อย่างเช่นตาของกรัชกายมองเห็นโฮฮับ
สภาวะที่เป็นปรมัตถ์เกิดกับกรัชกาย ตัวตนของโฮฮับที่กรัชกายมองเห็นเรียกว่า...สมมุติ

ในทางกลับกัน ถ้าโฮฮับเป็นผู้มองผัสสะย่อมเกิดกับโฮฮับ สภาวะปรมัตถ์ย่อมเกิดกับโฮฮับ
ส่วนตัวตนของกรัชกายที่โฮฮับมองเห็น เขาเรียกว่า....สมมุติ :b13:



เอาโดดๆเลย ไหนบอกความหมาย คำว่า สมมติ บัญญัติ ปรมัตถ์ ดิอ้าวว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b11:
อ้างคำพูด:
ไม่ต้องไปแบ่งแยกดอกขอรับว่า อันไหนเป็น สมมุติสัจจะ ,อันไหนเป็น ปรมัตถ์สัจจะ เหตุเพราะ หลักธรรมทั้งหลาย ก็ล้วนมาจากสิ่งสมมุติ เพื่ออธิบายให้เกิด ปรมัตถ์ ฉะนี้

:b20:
เป็นคำสรุปที่น่าฟังจริงๆนะครับท่านพี่ Sriariya
:b27:
อีกสำนวนหนึ่งนั้น......สมมุติ......คือการตั้งชื่อให้กับสิ่งต่าง

สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงตามธรรม.......เรียกว่า.......สมมุติบัญญัติ....เช่น คน...หมา....นก....เก้าอี้....สมุด ...ดินสอ

สิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรม เรียกว่า ......ปรมัตถบัญญัติ......เช่น ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นิพพาน สุข ทุกข์ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา
:b39:
onion onion
เราจะพบเห็นปรมัตถ์ได้ที่ไหน?

เราจะพบเห็นปรมัตถ์ได้เมื่อ ความนึกคิด หยุดทำงาน เหลือแต่สภาวธรรมที่เป็นปรมัตถ์ แสดงให้รู้ที่ใจตรงๆ
:b48:
ปรมัตถธรรมนี่เขาจะรู้ที่ใจตรงๆ อธิบายเป็นคำพูดได้ยากหรือไม่ได้ ต้องสัมผัสที่ใจ บางที หรือจริงๆแล้วก็เรียกว่า "ธรรม"
:b38:

คุณขอรับ ใครเป็นคนตั้งขึ้นขอรับ ที่ว่า สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงตามธรรม ,หรือสิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรม
สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงตามธรรมที่ใครเป็นผู้กำหนดขึ้นมานั้น มันเกี่ยวข้องกับธรรมหรือไม่ขอรับ
แล้วสิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรมที่ใครเป็นผู้กำหนดขึ้นมานั้น มันเกี่ยวข้องกับธรรมหรือไม่ขอรับ
ธาตุทั้ง ๔ ใครเป็นผู้สมมุติเรียกว่า ธาตุทั้ง ๔ แล้วใครเป็นผู้ตั้งขึ้นว่า อย่างนั้น เรียกว่า ขันธ์ ๕ หรือ อื่นๆ มันไม่ใช่สิ่งสมมุติหรือขอรับ แล้ว คน สัตว์ สิ่งของ สมุด ดินสอ มันไม่มีอยู่จริงหรือขอรับ แล้ว คน สัตว์ สิ่งของ สมุด ดินสอ ไม่ใช่ สิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เกิดสุข หรือขอรับ โปรดได้พิจารณา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 04:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาโดดๆเลย ไหนบอกความหมาย คำว่า สมมติ บัญญัติ ปรมัตถ์ ดิอ้าวว

ปฏิบัติปะสาอะไร ชอบดึงปัญญาลงต่ำ ไอ้"สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์"ของกรัชกาย
ไม่ใช่มาถามหาความหมาย เพราะพุทธศาสนา เน้นหลักเรื่อง ...การทำให้แจ้งในสภาวะ


แบบกรัชกายทำไมเรียกดึงปัญญาลงต่ำ ก็เพราะชอบดึงธรรมที่เป็นปรมัตถ์
ไปหาบัญญัติ กรัชกายไม่รู้หรือว่า ปรมัตถ์ที่คนหลายคนในนี้กล่าวถึง
มันก็เป็นเพียงบัญญัติ เรียกว่าปรมัตถ์บัญญัติและสมมุติบัญญัติ

การสนทนาในลักษณะธรรมสากัจฉา จะต้องเป็นไปเพื่อแจ้งในสมมุติบัญญัติและปรมัตถ์บัญญัติ
แจ้งอย่างไร ก็คือแจ้งในสภาวะของบัญญัตินั้นๆ
ส่วนวิธีก็คือบอกเหตุปัจจัยที่มาของปรมัตถ์บัญญัตินั้น
ที่สำคัญให้ผู้ถามมองลงไปที่กายใจตนเองตามไปด้วย


หลายคนบอกว่า คน สัตว์ โต๊ะ กรัชกาย โฮฮับฯลฯ เป็นเพียงสมมุติ
ถ้าเอาชื่อเหล่านี้ออกไป ก็จะไม่มีสิ่งเหล่านี้.....พูดจาเหลวไหลครับ

คน สัตว์ โต๊ะ กรัชกาย โฮฮับ มันเป็นบัญญัติ และมันเป็นบัญญัติของอะไร
ก็คือเป็นบัญญัติแห่งสมมุติ สมมุติบัญญัติเหล่านี้มันมีอยู่จริง
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันมีอยู่จริง นั้นก็คือ....ทำสมมุติบัญญัตินั้นให้แจ้ง

ที่พี่โฮยกตัวอย่างให้กรัชกายพิจารณา เรื่องคนสองคนที่เป็นผู้ปฏิบัติ
ผลัดกันมอง ตัวอย่างนี้ชี้ให้เห็นว่า .......สมมุติไม่ใช่ไม่มีแบบที่หลายคนเข้าใจ

พูดให้เข้าใจง่ายๆ สมมุติก็คือ อายตนะภายนอกที่มากระทบกายใจ
ซึ่งพูดตามเหตุปัจจัย ปรมัตถ์เกิดจากสมมุตินั้นเอง ถ้าไม่มีสมมุติย่อมไม่มีปรมัตถ์
ฉะนั้นอย่างบอกว่า สมมุติไม่มีอยู่จริง ใครพูดแบบนี้เขาเรียกว่า พูดจาเหลวไหล
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาโดดๆเลย ไหนบอกความหมาย คำว่า สมมติ บัญญัติ ปรมัตถ์ ดิอ้าวว



ปฏิบัติปะสาอะไร ชอบดึงปัญญาลงต่ำ ไอ้"สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์"ของกรัชกาย
ไม่ใช่มาถามหาความหมาย เพราะพุทธศาสนา เน้นหลักเรื่อง ...การทำให้แจ้งในสภาวะ


แบบกรัชกายทำไมเรียกดึงปัญญาลงต่ำ ก็เพราะชอบดึงธรรมที่เป็นปรมัตถ์
ไปหาบัญญัติ กรัชกายไม่รู้หรือว่า ปรมัตถ์ที่คนหลายคนในนี้กล่าวถึง
มันก็เป็นเพียงบัญญัติ เรียกว่าปรมัตถ์บัญญัติและสมมุติบัญญัติ

การสนทนาในลักษณะธรรมสากัจฉา จะต้องเป็นไปเพื่อแจ้งในสมมุติบัญญัติและปรมัตถ์บัญญัติ
แจ้งอย่างไร ก็คือแจ้งในสภาวะของบัญญัตินั้นๆ
ส่วนวิธีก็คือบอกเหตุปัจจัยที่มาของปรมัตถ์บัญญัตินั้น
ที่สำคัญให้ผู้ถามมองลงไปที่กายใจตนเองตามไปด้วย


หลายคนบอกว่า คน สัตว์ โต๊ะ กรัชกาย โฮฮับฯลฯ เป็นเพียงสมมุติ
ถ้าเอาชื่อเหล่านี้ออกไป ก็จะไม่มีสิ่งเหล่านี้.....พูดจาเหลวไหลครับ

คน สัตว์ โต๊ะ กรัชกาย โฮฮับ มันเป็นบัญญัติ และมันเป็นบัญญัติของอะไร
ก็คือเป็นบัญญัติแห่งสมมุติ สมมุติบัญญัติเหล่านี้มันมีอยู่จริง
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันมีอยู่จริง นั้นก็คือ....ทำสมมุติบัญญัตินั้นให้แจ้ง

ที่พี่โฮยกตัวอย่างให้กรัชกายพิจารณา เรื่องคนสองคนที่เป็นผู้ปฏิบัติ
ผลัดกันมอง ตัวอย่างนี้ชี้ให้เห็นว่า .......สมมุติไม่ใช่ไม่มีแบบที่หลายคนเข้าใจ

พูดให้เข้าใจง่ายๆ สมมุติก็คือ อายตนะภายนอกที่มากระทบกายใจ
ซึ่งพูดตามเหตุปัจจัย ปรมัตถ์เกิดจากสมมุตินั้นเอง ถ้าไม่มีสมมุติย่อมไม่มีปรมัตถ์
ฉะนั้นอย่างบอกว่า สมมุติไม่มีอยู่จริง ใครพูดแบบนี้เขาเรียกว่า พูดจาเหลวไหล
:b13:



อ้างคำพูด:
ปฏิบัติปะสาอะไร ชอบดึงปัญญาลงต่ำ ไอ้"สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์"ของกรัชกาย
ไม่ใช่มาถามหาความหมาย เพราะพุทธศาสนา เน้นหลักเรื่อง ...การทำให้แจ้งในสภาวะ


โฮฮับเอ้ย เราไม่รู้ความหมายของเขาเอาแต่พูดไปเรื่อยเปื่อยตามอำเภอใจ นึกอะไรได้ก็โยงไปพูดไป เหมือนคนนอนละเมอ นึกว่าเทห์ว่าถูก ไร้เดียงสาแท้ๆหนอ :b1:


สภาวะ ที่โฮฮับพูด ได้แก่ อะไร สภาวะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




images  1.jpg
images 1.jpg [ 10.15 KiB | เปิดดู 3080 ครั้ง ]
พวกเราเตลิดไปไกลจนกลับบ้านไม่ถูก ดังนั้น จะพาย้อนกลับไปบ้านเดิม :b32:


พูดโดยภาษาสมมติว่า เมื่อเราเกิดมาก็มีแค่นั้น (ดูรูปประกอบ) ภาษาทางธรรม เรียกว่า สภาวะ (เรียกเต็ม สภาวธรรม ปรมัตถ์ ปรมัตถธรรม) ซึ่งไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัว ตน เรา เขา เป็นสภาวะ (เป็นปรมัตถ์)

ต่อมาเขาจึงสมมติเรียกสภาวะนั้นว่า “คน” (ใช้สื่อสารกันเข้าใจ) มิใช่แค่นั้นนะ ยังบัญญัติชื่อเรียกคนนั้น คนนี้ ว่า ดช. ก. ดญ. ข. เป็นต้น ซ้อนๆขึ้นอีก (เอาแล้วๆ เริ่มมีสิ่งบดบังสัจธรรมแล้ว)

หยุดหลับตาทบทวนกันหน่อย :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ปฏิบัติปะสาอะไร ชอบดึงปัญญาลงต่ำ ไอ้"สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์"ของกรัชกาย
ไม่ใช่มาถามหาความหมาย เพราะพุทธศาสนา เน้นหลักเรื่อง ...การทำให้แจ้งในสภาวะ


โฮฮับเอ้ย เราไม่รู้ความหมายของเขาเอาแต่พูดไปเรื่อยเปื่อยตามอำเภอใจ นึกอะไรได้ก็โยงไปพูดไป เหมือนคนนอนละเมอ นึกว่าเทห์ว่าถูก ไร้เดียงสาแท้ๆหนอ :b1:
สภาวะ ที่โฮฮับพูด ได้แก่ อะไร สภาวะ


ถึงได้บอกปฏิบัติปะสาอะไร พระพุทธองค์ทรงสอนให้เอาปัญญามาพิจารณา ให้แจ้งในธรรม
นี่มันอะไรดันมาชุดกระชากลากถูไปหาอวิชา

แล้วที่บอกความหมาย"ของเขา" มันของใคร เรากำลังศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ไม่ได้สอน ไวยากรณ์ ไม่ได้สอนภาษานาๆชาติแก่สาวกน่ะ

พระพุทธองค์สอนเรื่องธรรมชาติของสัตว์โลก คนที่มีปัญญามองสภาวะของใจตนเองได้
ทำไมต้องไปนั่งแปลคำศัพท์ แถมผู้แปลก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้า

ถามว่าสภาวะคืออะไร ถ้ากรัชกาย ไม่หูหนวก ตาบอด ลิ้นขาด จมูกบี้

ผิวหนังไม่เป็นขี้เรือนกุดฐัง และไม่ได้เป็นบ้า มันต้องรู้จักสภาวะธรรม

ถ้าไม่รู้แสดงว่า กรัชกายเป็รบุคคลจำพวกที่พี่โฮกล่าวมา :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2013, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ปฏิบัติปะสาอะไร ชอบดึงปัญญาลงต่ำ ไอ้"สมมุติ บัญญัติ ปรมัตถ์"ของกรัชกาย
ไม่ใช่มาถามหาความหมาย เพราะพุทธศาสนา เน้นหลักเรื่อง ...การทำให้แจ้งในสภาวะ


โฮฮับเอ้ย เราไม่รู้ความหมายของเขาเอาแต่พูดไปเรื่อยเปื่อยตามอำเภอใจ นึกอะไรได้ก็โยงไปพูดไป เหมือนคนนอนละเมอ นึกว่าเทห์ว่าถูก ไร้เดียงสาแท้ๆหนอ :b1:
สภาวะ ที่โฮฮับพูด ได้แก่ อะไร สภาวะ


ถึงได้บอกปฏิบัติปะสาอะไร พระพุทธองค์ทรงสอนให้เอาปัญญามาพิจารณา ให้แจ้งในธรรม
นี่มันอะไรดันมาชุดกระชากลากถูไปหาอวิชา

แล้วที่บอกความหมาย"ของเขา" มันของใคร เรากำลังศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ไม่ได้สอน ไวยากรณ์ ไม่ได้สอนภาษานาๆชาติแก่สาวกน่ะ

พระพุทธองค์สอนเรื่องธรรมชาติของสัตว์โลก คนที่มีปัญญามองสภาวะของใจตนเองได้
ทำไมต้องไปนั่งแปลคำศัพท์ แถมผู้แปลก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้า

ถามว่าสภาวะคืออะไร ถ้ากรัชกาย ไม่หูหนวก ตาบอด ลิ้นขาด จมูกบี้

ผิวหนังไม่เป็นขี้เรือนกุดฐัง และไม่ได้เป็นบ้า มันต้องรู้จักสภาวะธรรม

ถ้าไม่รู้แสดงว่า กรัชกายเป็รบุคคลจำพวกที่พี่โฮกล่าวมา :b13:



บ่นงึมงำๆเป็นหมีกินผึ้งเชียร์ คิกๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 57 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร