วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 11:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




114.jpg
114.jpg [ 51.5 KiB | เปิดดู 5182 ครั้ง ]
พุทธศาสนาในสายตาเด็กรุ่นใหม่

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 11:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




61054.jpg
61054.jpg [ 42.8 KiB | เปิดดู 5180 ครั้ง ]
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนติวิทย์ โชติไพศาล ชื่อเล่น แฟรงก์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค username ว่า Netiwit Ntw แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศาสนาพุทธในโรงเรียนว่า "ศาสนาเป็นเรื่องของปัจเจกชน ดังนั้น คุณจะนับถืออะไรก็แล้วแต่คุณ หรือคุณจะไม่นับถือศาสนาก็ควรทำได้ จะบังคับนั้นหาได้ไม่ ตอนสวดมนต์ เขาให้ผมสวด ผมก็ไม่สวด ไม่ยกมือสวดมนต์ไหว้พระ เพราะเห็นเป็นการบังคับกัน เป็นการรวมหมู่ ไม่ทำให้คนเข้าใจพระรัตนตรัยที่เนื้อหาสาระ เป็นแต่พิธีกรรม ใช้ศรัทธาเพื่อหาเงิน"

นายเนติวิทย์ โพสต์ต่ออีกว่า "ลัทธิศาสนาพุทธในโรงเรียนเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่สอนให้คนเผชิญความจริง และกล้าคิดกล้าแย้ง ทั้งพวกพระเทศน์ก็ตลกอย่างฝืดๆ และเปี่ยมด้วยอบรมศีลธรรม อบรมให้คนมีความกลัว เช่น นำลัทธิกรรมเก่ามาเข้ามา ไม่ให้คนรู้เท่าทันสังคม เท่าทันตนเองจริงๆ จังๆ ควรเลิกสอนลัทธิศาสนาพุทธในโรงเรียนได้แล้ว อาจจะแทนที่ด้วยการสอนลัทธิศาสนาสากล และเปิดให้มีการโต้แย้งวิพากษ์ได้ทุกลัทธิศาสนา ให้นักเรียนได้เลือกอย่างเสรี"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 293

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนในสังคมเปรียบเหมือนบัวห้าเหล่า
พวกบัวใต้คอนกรีตนี่ก็อย่าไปถือสามากเลยครับ

แต่จะว่าไปแล้ว นับวันศาสนาในทางมิจฉาทิฐิจะมีมากขึ้นทุกวันๆ
ก็ไม่แปลกอะไรที่พวกบัวใต้คอนกรีตไม่สามารถโผล่ขึ้นมาได้
เพราะคอนกรีตในปัจจุบัน ช่างแข็งแกร่งเหลือคณา :b8:

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


เห็นด้วยตรงที่ว่า ศาสนาเป็นเรื่องของปัจเจกชนครับ ใครจะนับถืออะไรก็เป็นเรื่องของเขา
นอกนั้นก็เป็นเรื่องของมุมมองครับ น้องเขาอาจไม่เข้าใจหลักของศาสนาพุทธ เขาก็วิจารณ์
ไปตามที่เขาเห็น เขาพบเจอ เขาสัมผัสมา น้องเขาไม่ได้ผิดอะไรที่คิดแบบนี้ ถ้าจะผิดก็ผิด
ตรงที่น้องเขาเข้าใจผิด ควรมีคนชี้ทางที่ถูกต้องให้น้องเขา แต่คนที่ชี้ทางก็ต้องมีความรู้
ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน ถามได้ตอบได้ ถ้าคนที่ไปสอนน้องไม่รู้ไม่เข้าใจเป็นอย่าง
ดี น้องเขาก็ยากที่จะเปิดใจเพราะเดี๋ยวจะพากันเข้าป่า

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ศาสนาพุทธนี่แหละที่กล้าท้ากล้าให้ลองมาพิสูตรความจริงกันเถิดดังที่มีใน
บทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณที่ว่า เอหิปัสสิโก แปลว่า ท่านจงมาดูเถิด
เป็นบทสวดสรรเสริญพระธรรมคุณ ที่ชี้ชัดว่า พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนนั้น
สามารถนำมาปฏิบัติได้ทุกเมื่อ ได้ผลทันทีที่ปฏิบัติ เป็นการปฏิบัติที่พิสูจน์กันได้ด้วย
ประสบการณ์จากการปฏิบัติของตนเอง มิใช่สิ่งที่บังคับให้เชื่อกันอย่างหลับหูหลับตา
โดยไม่ใช้สติปัญญาไตร่ตรอง พระธรรมคุณข้อนี้ เป็นหลักสำคัญที่พุทธบริษัทพึงใช้ในการตรวจสอบ
ปรากฏการณ์ทางศาสนาแปลกๆที่พุทธบริษัทหรือ คนทั่วไปสงสัยว่า
เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าแท้จริงหรือไม่ ปัจจุบันนี้
เรื่องที่ชวนให้สงสัยว่า สิ่งที่วัดวาอารามต่างๆ นำมาโฆษณาชวนเชื่อว่า
เป็นเรื่องในทางพระพุทธศาสนามีอยู่มากมายก่ายกอง จนบางครั้งพุทธบริษัทพากันสับสน
ถึงกับถกเถียงกันอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาทแบ่งแยกกลุ่มพุทธบริษัทออกไป
ตามความเชื่อถือโดยไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ มาตัดสิน เมื่อผู้ที่ยังไม่ได้ทดลองก็มองไปไกล ไปต่างๆ นาๆ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา ใช้ได้นะ ผมว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 15:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ยังกะบังคับให้ใส่แว่นเชียว
เมื่อถึงเวลา เขาก็เดินเข้าร้าน ไปตัดแว่นเอง

“ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้า อาตมาคงไม่ติดคุก”
วาทะ ของพระรักเกียรติ
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1289719810

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ปรมัตถธรรม มี ๔ อย่าง คือ

๑. จิต เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์
๒. เจตสิก เป็นธรรมชาติที่ประกอบกับจิต ปรุงแต่งจิต
๓. รูป เป็นธรรมชาติที่แตกดับด้วยปัจจัยที่เป็นข้าศึกแก่กัน
๔. นิพพาน เป็นธรรมชาติที่พ้นจากเครื่องร้อยรัด คือ ตัณหา

ทั้ง ๔ นี้ เป็นปรมัตถ เป็นของจริง มีจริง ไม่แปรผันเปลี่ยนแปลง
มีลักษณะ พิเศษเฉพาะตัวทรงสภาพของตนเองไว้ ไม่เสื่อมสลาย
ธรรมชาติใดที่ทรงไว้ซึ่งสภาวะ ของตนเองไม่เสื่อมสลายไป
ธรรมชาตินั้นเรียกว่า " ปรมัตถ " นี่แหละคือของจริงที่กล้าท้าให้ลอง
และพิสูจน์โดยไม่จำกัดกาล ไม่ว่าจะอยู่ในศาสนาใดๆก็ตาม

สนฺทิฏฺฐิโก เป็นธรรมที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง
อกาลิโก เป็นธรรมที่พึงปฏิบัติได้และให้ผลทันทีในลำดับนั้นเลยทีเดียว
เอหิปสฺสิโก เป็นธรรมที่ให้ผลได้อย่างแท้จริง
โอปนยิโก เป็นธรรมที่ควรน้อมนำมาให้บังเกิดแก่ตน
ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญู เป็นธรรมที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตนเอง

จะเห็นได้ว่าจะมีแต่คำเชิญชวนกล้าท้าให้ลอง และก็ไม่มีการบังคับใดๆเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 18:25 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


เด็กคนนี้อาจจะไม่ไ่ด้นับถือศาสนาพุทธก็ได้ค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 22:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
จริงอย่างเด็กว่าไหม


ก็เรื่องของมัน....

แต่ถ้าจะหาประเด็น.ว่า...นี้เป็นการบ่งบอกว่า....ภัยของศาสนากำลังก่อตัวขึ้นหรือไม่..นั้น

มองว่า.....ไม่เลย
โดยเนื้อแท้แล้ว.....ภัยของศาสนาไม่มี
แต่นี้...บ่งบอกว่า...สังคมกำลังมีภัย..ต่างหาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่างคนต่างความคิด
ในสมัยพุทธกาล บรรดาทิฏฐิต่างๆ มี 62 ประการ
เจ้าลัทธิต่างๆ ก็เห็นว่า สิ่งที่ตนคิดนั้นถูกต้อง จริงไหม???

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 22:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


คนตาบอด...พาเดินหลงทาง...ตกเขาตาย....เราก็ตายเพียงอัตตภาพนี้..ครั้งเดียว
คนโง่....ไม่รู้ว่า..ทำกรรมชั่วแล้วให้ผลเป็นทุกข์...พาเราทำบาปทำกรรมไม่ดี....มีชีวิตอยู่ชีวิตก็เดือดร้อน..แม้ตายไป..ยังเดือดร้อนต่อในนรก...

คนโง่ทุกคน....ไม่เคยรู้เลยว่าตัวโง่

คนโง่. จึงน่ากลัวกว่าตาบอด....สุดสุด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2013, 23:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ.....
ไม่สงสัยในนรกสวรรค์...เพราะรู้แล้ว...ก็น่าจะแง้มกะลา..กว่าคนไม่รู้...แหละเน๊าะ...
555..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2013, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเห็นผมนั้น มันมีความไม่รู้ และมันมีความประมาท

ความไม่รู้นั้น มีเหตุเพราะความไม่เข้าถึงธรรม ความไม่รู้จึงนำไปสู่ความเชื่อแบบต่างๆ

แต่ความประมาทนี้คือ ความไม่เห็นตามความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ มีเกิดขึ้น ตั้ง อยู่ ดับไป

น้องเขาที่บอกว่าพุทธไม่ตั้งอยู่บนความจริงนั้น แล้วความจริงของน้องนั้นคืออะไร?

นักภาวนาทุกวันนี้ล้วนแต่ถูกสอนให้เผชิญความจริงทั้งหมด และพุทธศาสนาก็ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ความจริงนั้นมีสภาพเป็นอย่างไร

แต่ที่ไม่เห็นความจริงนั้น เพราะสิ่งที่ปิดบังนั้นมีอยู่

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2013, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เด็กมันเข้าใจธรรมชาติครับ แค่มีกัลยาณมิตรชี้แนวทางให้
รับรองได้เกิดสัมมาทิฐิเร็วกว่าคนที่กำลังวิจารณ์ :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร