ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=45228
หน้า 2 จากทั้งหมด 8

เจ้าของ:  nongkong [ 22 เม.ย. 2013, 14:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
ตอนเราฝัน..นี้....เราในฝัน...เป็นอัตตาหรืออนัตตา..

ถ้าเป็นอัตตา....อะไรเป็นอัตตา
ถ้าเป็นอนัตตา...ฝันว่าหมาไล่กัดอย่าวิ่งหนี...นะเอ้า

อิอิ...

ขนาดคุนน้องไม่กลัวความเจ็บไม่กลัวความตาย แต่ฝันเห็นงูดันวิ่งหนีเพราะกลัว(ไหนบอกไม่กลัวตาย :b14: )คนเราชอบหลอกตัวเองเชื่อป่ะ :b13: ไว้มีเหตุปัจจัยมาประจวบเหมาะ จิตในปัจจุบัณขณะนั้นแหละ :b32: เอาไว้ลุ้นตอนเวลาใกล้ตายจริงๆดีกว่าว่าจะสามารถรอดอุ้งมือพยามารไปได้รึเปล่า :b13:
อย่าลืมว่าวัฏฏะสงสารเป็นสมบัติของพญามาร :b31:

เจ้าของ:  ปลงซะ [ 22 เม.ย. 2013, 14:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

เอ๋ นั่นน่ะสิ่ ทำไมคนเราจึงกลัวงู กลัวแมลงสาบ กลัวหนู กลัวความมืด กลัวแม่กระทั่งน้ำแข็ง กลัวถั่วงอกก็มี :b14:

กลัวสัตว์มีพิษก็พอเข้าใจ ว่ากลัวโดนมันกัดตาย แต่พวกกลัวแมลงเล็กๆ กลัวแม้กระทั่งถั่วงอก แม้กระทั่งน้ำแข็งนี่สิ่ เป็นเพราะอะไรหว่า :b7:

มันน่าขำ น่าฮา :b13:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 15:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

อัตตา....

เราเกิดมา...จำความได้....ก็ไอ้ที่อยู่ในกระจก...เรารู้สึกมาตลอดว่า..นั้นคือเรา...และอะไรที่เกี่ยวข้องกะมัน..ก็ว่าเป็นของเรา
มาโดยตลอด...เช่น...พ่อเรา...แม่เรา...พี่เราน้องเรา...บ้านของเรา...เงินในกะเป่ามันของเรา

หากเรามีอดีตังคญาณย้อนไปอดีตชาติ...จะเห็นว่า..หน้าตาเราไม่เป็นอย่างปัจจุบัน...แล้วอนาคตก็จะเปลี่ยนไปอีก....
จะเห็นว่า....รูปเราเปลี่ยนไปตลอด...อย่างนี้...ควรจะถือว่ารูปไหนเป็นเราอย่างแท้จริงมั้ย?

เมื่อรูปนี้...ยังไม่ใช่เราอย่างแท้จริง...แล้วของที่เนื่องจากรูปนี้จะเป็นของเราอย่างแท้จริงได้อย่างไร

อัตตวานุปาทาน....

เมื่อเป็นเช่นนี้...สิ่งที่ตามมาไม่ว่า..

สัญญา...ก็จำแต่สิ่งผิด ผิด
สังขาร....ก็คิดแต่สิ่งผิด ผิด
เวทนา..ก็ย่อมรู้สึกไปแต่ในแนวทางผิด ผิด

หากสิ่งใด...มีสิ่งผิด ผิด เจือปนอยู่....จะเรียกทั้งหมดนั้นเป็นอัน้ดียวกันได้หรือ...ในชั้นแรก...เราต้องปฏิเสธสิ่งนั้นก่อนว่า...มันไม่ใช่ตัวตนของจริง

จิตอวิชชา...หรือ..นามทั้ง4 นั้น...ก็ยังไม่ใช่เรา

ความคิดฝั่งหัวมาตลอดว่ารูปนี้คือเรา...ความรู้สึกทั้งหลายที่เป็นนามนั้นก็คือเรา...อันนี้คือความยึดผิด...มีอัตตาตัวตนที่แน่นอน
พระจึงชี้ให้เห็นว่า...มันไม่ใช่...มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรแน่นอน...โดยมีกรรมเป็นเหตุเป็นปัจจัย...มันอนัตตา

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 15:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

ความรู้สึกว่ามีตัวตนที่แน่นอน...เป็นความรู้สึก...เป็นสภาวะของใจว่ามีอัตตา
มันไม่เป็นอย่างนั้น...มันอนัตตา..คือมันเปลี่ยนไปเรื่อยแหละ...ถ้ามีเกิด

อันนี้..จะเห็นว่า...อนัตตาเป็นสภาวะปกติในวัฏฏะสงสาร

เมื่อ...ไม่เกิด...จะมีอะไรให้เปลี่ยรแปลงไปได้อีก

อัตตา..เป็นสิ่งไม่มีอยู่จริงในวัฏฏะ
อนัตตา..เป็นสภาวะในวัฏฏะ

แล้วมันจะถูกต้องหรือ..ที่จะเอาทั้งคู่ไปใว้ที่นิพพาน

อิอิ

เจ้าของ:  nongkong [ 22 เม.ย. 2013, 16:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
ความรู้สึกว่ามีตัวตนที่แน่นอน...เป็นความรู้สึก...เป็นสภาวะของใจว่ามีอัตตา
มันไม่เป็นอย่างนั้น...มันอนัตตา..คือมันเปลี่ยนไปเรื่อยแหละ...ถ้ามีเกิด

อันนี้..จะเห็นว่า...อนัตตาเป็นสภาวะปกติในวัฏฏะสงสาร

เมื่อ...ไม่เกิด...จะมีอะไรให้เปลี่ยรแปลงไปได้อีก

อัตตา..เป็นสิ่งไม่มีอยู่จริงในวัฏฏะ
อนัตตา..เป็นสภาวะในวัฏฏะ

แล้วมันจะถูกต้องหรือ..ที่จะเอาทั้งคู่ไปใว้ที่นิพพาน

อิอิ

อ่านแล้วคุนน้องสงสัยอธิบายให้เข้าใจหน่อยสิเจ้าค่ะ ที่บอกว่าอัตตา..เป็นสิ่งไม่มีอยู่จริงในวัฏฏะ ท่านเห็นยังยัง
และอนัตตา..เป็นสภาวะในวัฏฏะ ท่านเห็นยังงัย :b10:
คือพูดธรรมอย่าสักแต่ว่าหยิบหยกคำพูดศัพทางธรรมมะมาพูดเพื่อให้มันดูดี เพราะยิ่งพูดมันยิ่งทำไห้ผู้อื่นหลง

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 17:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

:b32:

ตอนนี้...เรายืนอยู่ตรงไหน?...เราก็ควรพูดจากจุดที่เรายืนก่อน

เรายืนบนวัฏฏะ.....แล้วเห็นอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปรมั้ย?
ถ้าหาไม่มี...มันก็ง่าย ๆ..ที่จะบอกว่า...อัตตาไม่มี...มีแต่อนัตตา...ในวัฏฏะ

เจ้าของ:  nongkong [ 22 เม.ย. 2013, 21:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
:b32:

ตอนนี้...เรายืนอยู่ตรงไหน?...เราก็ควรพูดจากจุดที่เรายืนก่อน

เรายืนบนวัฏฏะ.....แล้วเห็นอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปรมั้ย?
ถ้าหาไม่มี...มันก็ง่าย ๆ..ที่จะบอกว่า...อัตตาไม่มี...มีแต่อนัตตา...ในวัฏฏะ

มีใครเข้าใจสิ่งที่ท่านกบพูดมั้ยเจ้าค่ะ คำพูดของท่านกบบอกตรงๆอันตรายต่อนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าไม่ถึงพระไตรลักษณ์และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาท วัฏฏะเกิดเพราะวงจรปฏิจสมุปปาท แล้วมาพูดได้ไงว่าอัตตาไม่มีจริงในวัฏฏะ :b14: อย่าอธิบายธรรมในลักษณะจินตนาการณ์เลยนะเจ้าค่ะ คนอื่นฟังเค้างง เหมือนที่ท่านพูดเรื่องห้องว่าง พูดไปพูดมาจะทุบบ้านพัง รื้อหลังคาออก เอาเสาลง ดีนะที่ไม่จุดไฟเผาบ้าน บ้านจะได้ไม่มีตัวตนเป็นอนัตตา :b32:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 22:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

nongkong เขียน:

มีใครเข้าใจสิ่งที่ท่านกบพูดมั้ยเจ้าค่ะ คำพูดของท่านกบบอกตรงๆอันตรายต่อนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าไม่ถึงพระไตรลักษณ์และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาท วัฏฏะเกิดเพราะวงจรปฏิจสมุปปาท แล้วมาพูดได้ไงว่าอัตตาไม่มีจริงในวัฏฏะ :b14: อย่าอธิบายธรรมในลักษณะจินตนาการณ์เลยนะเจ้าค่ะ คนอื่นฟังเค้างง เหมือนที่ท่านพูดเรื่องห้องว่าง พูดไปพูดมาจะทุบบ้านพัง รื้อหลังคาออก เอาเสาลง ดีนะที่ไม่จุดไฟเผาบ้าน บ้านจะได้ไม่มีตัวตนเป็นอนัตตา :b32:


คุณน้องลองยกตัวอย่าง...อัตตา..คือตัวตนที่แท้จริงที่ไม่เปลี่ยนไป...ว่ามีในวัฏฏะ..มาสักอย่าง..ดูหน่อย...จะได้มั้ย?

เพื่อน ๆ จะได้พิจารณาตาม

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 22:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

ส่วนเรื่องห้องว่าง... :b32: :b32:

เจ้าของ:  nongkong [ 22 เม.ย. 2013, 23:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:

มีใครเข้าใจสิ่งที่ท่านกบพูดมั้ยเจ้าค่ะ คำพูดของท่านกบบอกตรงๆอันตรายต่อนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าไม่ถึงพระไตรลักษณ์และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาท วัฏฏะเกิดเพราะวงจรปฏิจสมุปปาท แล้วมาพูดได้ไงว่าอัตตาไม่มีจริงในวัฏฏะ :b14: อย่าอธิบายธรรมในลักษณะจินตนาการณ์เลยนะเจ้าค่ะ คนอื่นฟังเค้างง เหมือนที่ท่านพูดเรื่องห้องว่าง พูดไปพูดมาจะทุบบ้านพัง รื้อหลังคาออก เอาเสาลง ดีนะที่ไม่จุดไฟเผาบ้าน บ้านจะได้ไม่มีตัวตนเป็นอนัตตา :b32:


คุณน้องลองยกตัวอย่าง...อัตตา..คือตัวตนที่แท้จริงที่ไม่เปลี่ยนไป...ว่ามีในวัฏฏะ..มาสักอย่าง..ดูหน่อย...จะได้มั้ย?

เพื่อน ๆ จะได้พิจารณาตาม

ไปหยิบพุทธพจน์เกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาทมาสิ ไอ้ที่มันยึดกันอยู่ในวัฏฏะเป็นอัตตารึอนัตตา ถ้าตัดวงจรปฏิจสทุปปบาททัน นั่นก็เท่ากับเราไม่ได้ไปยึด ลืมแล้วหรอว่ากิเลส กรรม วิบาก ทำไห้เกิดวงจรวัฏฏะ ก็เราเห็นอยู่รู้อยู่ว่ามีอัตตาในวัฏฏะไม่ไช่หรอ ถึงไม่ถึงพระนิพพานซะที
ปฏิบัติธรรมนี้ไม่ได้คิดเอาฝันเอานะเจ้าค่ะ ถึงจะทำให้เป็นอย่างที่คิด ถ้าท่านบอกคนอื่นว่าวัฏฏะมันเป็นอนัตตายกตัวอย่างมาให้คุนน้องพิจารณาสิ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2013, 23:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

nongkong เขียน:

ไปหยิบพุทธพจน์เกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาทมาสิ ไอ้ที่มันยึดกันอยู่ในวัฏฏะเป็นอัตตารึอนัตตา ถ้าตัดวงจรปฏิจสทุปปบาททัน นั่นก็เท่ากับเราไม่ได้ไปยึด ลืมแล้วหรอว่ากิเลส กรรม วิบาก ทำไห้เกิดวงจรวัฏฏะ ก็เราเห็นอยู่รู้อยู่ว่ามีอัตตาในวัฏฏะไม่ไช่หรอ ถึงไม่ถึงพระนิพพานซะที


ผมถามว่า...คุณน้องลองยกตัวอย่าง..อัตตา..ตัวตนที่แท้จริงไม่เปลี่ยนแปรมาสักอย่างซิ..จะได้พิจารณาตาม

เพราะคุณน้องกล่าวหาผมว่า..
อ้างคำพูด:
คำพูดของท่านกบบอกตรงๆอันตรายต่อนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าไม่ถึงพระไตรลักษณ์และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาท วัฏฏะเกิดเพราะวงจรปฏิจสมุปปาท แล้วมาพูดได้ไงว่าอัตตาไม่มีจริงในวัฏฏะ อย่าอธิบายธรรมในลักษณะจินตนาการณ์เลยนะเจ้าค่ะ

ก็เลย..อยากดูตัวอย่าง...ว่ามันจะเป็นอะไรบ้าง...หมูเห็ดเป็ดไก่...คนสัตว?สิ่งของ..วัตถุธาตุชนิดไหน..จะได้รู้

ถ้ายกมาไม่ได้..ก็กรุณาคิดก่อนพูดนะ

เจ้าของ:  ฝึกจิต [ 23 เม.ย. 2013, 00:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

แค่พยายาม หาความหมาย หรือ สร้างความหมายให้นิพพาน ความเป็นนิพพานก็หมดไปแล้ว

นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง ... สามารถทดลองได้ โดยการพิจารณา อารมณ์อันน้อมไปนิพพาน คือ การปฏิบัติ สมาธิ โดยการเทียบอารมณ์ ในแต่ละ ฌาน ที่ค่อยๆละเอียดขึ้น หรืออย่างง่ายก็เทียบอารมณ์ระหว่างที่ฟุ้งซ่าน กับตอนสงบนิ่ง อยู่ก็ได้ว่า อันไหน สุขกว่ากัน

หลุดพ้นจากอัตตา ไม่ติดข้องกับอนัตตา .... นิพพาน
:b8:

เจ้าของ:  student [ 23 เม.ย. 2013, 02:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

ในความเข้าใจของเรา อนัตตา นั้น หากเป็นวัฏฏะ ก็คือสภาวะของธรรมอยู่แล้ว ความเกิดดับของธรรมเป็นทุกข์ แต่ก็เป็นอนัตตา เช่น ขนแมว แมวทุกตัวมีขน ความเกิดเป็นทุกข์คือแมว การแปรสภาพจากอ่อนเป็นแก่ของแมวคืออนิจจัง สภาพที่ปรากฏเป็นอนัตตา แต่สภาพที่ปรากฏก็อาศัยเหตุ เช่น ขนแมว ปรากฏเป็นเช่นนั้น ไม่ปรากฏเป็นขนหมา เพราะเหตุเกิดของธรรมนั้นมีปรากฏ ขนแมวก็เป็นอย่างนั้น แมวทุกตัวจะปรากฏว่าสภาพของขนแมวมีลักษณะอย่างนั้น

อาการคันหลัง เป็นทุกข์ เป็นอนิจจังคือเกิดดับ แต่อาการนั้นปรากฏขึ้นเพราะเหตุ เพราะมีเหตุ สภาพของธรรมจึงปรากฏออกมาลักษณะอย่างนั้น คือ ปรากฏขึ้นได้กับทุกๆคน หมา แมว คน คันได้เหมือนกันหมด คือจะบอกไม่ได้ว่า อาการคันนั้น มีขนาดเท่าใด บอกได้ว่า คันน้อย คันเยอะ ตามเหตุเกิด แต่จับออกมาเป็นรูปร่างไม่ได้

พระนิพพาน ผมจึงเข้าใจว่าเป็นอนัตตา เพราะเกิดขึ้นด้วยอาศัยเหตุ คือ ความบริสุทธ์ของจิต มีมาก่อนไหมหรือติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดไหม ก็ไม่มี ไม่ปรากฏ แต่ถามว่ามีโอกาสที่จะปรากฏขึ้นได้ไหม ก็ได้แต่ต้องอาศัยเหตุ ไม่ปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีเหตุมาก่อน ธรรมทั้งปวงอาศัยเหตุเกิด แต่ไม่ได้วัดเป็นขนาด ไม่เป็นรูปร่างที่ถาวร แต่พระนิพพานเป็นสภาวะธรรมที่อาศัยเหตุคือความบริสุทธ์ คนที่จิตยังไม่บริสุทธ์จึงไม่สัมผัสกับสภาวะนี้ แต่หากจิตบริสุทธ์ พระนิพพานก็ปรากฏขึ้นมา จึงเป็นอนัตตา หากจะบอกว่าเหนืออนัตตา ก็หมายถึงกำลังวัดค่าของพระนิพพานให้เป็น ขนาดบ้าง รูปร่างที่แท้จริงบ้าง ซึ่งกลายเป็นอัตตาไป เช่น ร่างกายเราเป็นอนัตตาอยู่แล้ว แต่ตัวเรายึดมั่นเป็นอัตตา เพราะไปกำหนดเอาความเป็นรูปร่าง ความรู้สึกที่ถูกบังเกิดในรูปร่าง จึงกลายเป็นอัตตา

ความเป็นอนัตตา เป็นสัจธรรมอยู่แล้ว จึงไม่มีอะไรเหนือกว่าสัจธรรม รวมทั้งพระนิพพานก็เป็นสัจธรรม สัจธรรมจึงเป็นอนัตตา (หากยกค่าคือความบริสุทธ์ ก็แสดงว่ากำลังสร้างอัตตา เพราะค่าความบริสุทธ์เป็นสภาวะที่ตรงข้ามกับค่าของความเกี่ยวพัน)

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 23 เม.ย. 2013, 04:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
:b32:

ตอนนี้...เรายืนอยู่ตรงไหน?...เราก็ควรพูดจากจุดที่เรายืนก่อน

เรายืนบนวัฏฏะ.....แล้วเห็นอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปรมั้ย?
ถ้าหาไม่มี...มันก็ง่าย ๆ..ที่จะบอกว่า...อัตตาไม่มี...มีแต่อนัตตา...ในวัฏฏะ

กะลาพูดธรรมเรื่อยเปื่อย รู้มั้ยว่า วัฏฏะก็คือปฎิจจ์สมุบาท ในทางปฏิบัติถ้าจะพูดถึงวัฏฏะ
หรือปฏิจจ์สมุบาท เราจะต้องกล่าวถึงขันธ์ห้าด้วย
ปฏิจจ์สมุบาทเป็นธรรมชาติ ขันธ์ห้าเป็นบุคคล(ผู้ปฏิบัติ)

ถ้ากะลาจะพูดถึงจุดที่ยืนในวัฏฏะ เราจะต้องแยกแยะก่อนว่า บุคคลนั้นอยู่ในสถานะใด
เช่นปุถุชนยังมีขันธ์ห้า วัฎฎะหรือปฏิจจ์ก็คือจุดยืนของบุุคคลนั้น

แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ จุดยืนของพระอรหันต์ไม่ได้ยืนอยู่บนวัฏฏะหรือปฏิจจ์
พระอรหันต์ยืนอยู่ต่างหาก เป็นธรรมชาติคนละส่วนกัน

เรื่องการมองวัฏฏะ(ปฏิจจ์ฯ) ผู้ที่ยังมองไม่เห็นวัฏฏะว่าเป็นอนัตตาหรือผู้ที่มองเห็น
วัฏฏะเป็นอนัตตา......บุคคลทั้งสองประเภทนี้ล้วนแล้วแต่เป็น....อัตตา

การมองอย่างไรจึงจะไม่เป็น....อัตตา
นั้นก็คือ....การมองตนเองเป็นอนัตตา

มองธรรมภายนอกเป็นอนัตตาของสังขาร(สัพเพสังขารา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
มองธรรมภายในเป็นอนัตตาของธรรมชาติ(สัพเพธัมมาอนัตตา)



เจ้าของ:  โฮฮับ [ 23 เม.ย. 2013, 04:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ถามมีความเห็นอย่างไรกับนิพพาน

กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:

มีใครเข้าใจสิ่งที่ท่านกบพูดมั้ยเจ้าค่ะ คำพูดของท่านกบบอกตรงๆอันตรายต่อนักปฏิบัติธรรมที่ยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ยังเข้าไม่ถึงพระไตรลักษณ์และยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับวงจรปฏิจสมุปปบาท วัฏฏะเกิดเพราะวงจรปฏิจสมุปปาท แล้วมาพูดได้ไงว่าอัตตาไม่มีจริงในวัฏฏะ :b14: อย่าอธิบายธรรมในลักษณะจินตนาการณ์เลยนะเจ้าค่ะ คนอื่นฟังเค้างง เหมือนที่ท่านพูดเรื่องห้องว่าง พูดไปพูดมาจะทุบบ้านพัง รื้อหลังคาออก เอาเสาลง ดีนะที่ไม่จุดไฟเผาบ้าน บ้านจะได้ไม่มีตัวตนเป็นอนัตตา :b32:


คุณน้องลองยกตัวอย่าง...อัตตา..คือตัวตนที่แท้จริงที่ไม่เปลี่ยนไป...ว่ามีในวัฏฏะ..มาสักอย่าง..ดูหน่อย...จะได้มั้ย?

เพื่อน ๆ จะได้พิจารณาตาม

ที่ยัยน้องเขางงก็เป็นเพราะ กะลาพูดธรรมผิดจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้าครับ
แล้วสิ่งที่กะลานำมาพูด กะลาไปเอาสมมุติบัญญัติมาปนกับสภาวะที่เป็นปรมัติ
ยัยน้องเขาก็เลยงงครับ

อยากแนะนำครับ จะพูดธรรมที่เป็นปรมัตถ์ จะต้องคำนึงหรือให้อยู่ในกรอบของ
สมมุติสัจจะด้วย ไม่ใช่เอาสมมุติบัญญัติที่ไม่เกี่ยวกับสมมุติสัจจะมาอธิบายความ
ที่ยัยน้องเขาว่ากะลา "อธิบายธรรมในลักษณะจินตนนาการ" มันก็มาจากสาเหตุนี้ครับ

วงจรปฏิจจ์ฯก็คือวัฏฏะ และมันมีความหมายเป็นอัตตา พูดให้ชัดก็คือ
วัฎฎะของคุณกะลาที่กล่าวมาก็คืออัตตานั้นเอง การรู้หรือไม่รู้ว่าว่าวัฎฎะเป็นอนัตตา
มันไม่สำคัญ เพราะถ้ารู้แล้วไม่วางมันก็เป็นอัตตา

ดังนั้นการพูดว่า..."อัตตาไม่มีอยู่จริงในวัฏฏะ"
เป็นการไม่รู้ธรรม เอาบัญญัติมาพูดแบบจินตนาการแบบที่ยัยน้องว่า
อัตตาเป็นธรรมชาติของขันธ์ห้า วัฏฏะก็เป็นธรรมชาติ มันก็มีอยู่ของมันเอง
มันอยู่ที่เหตุปัจจัย เมื่อเราทำให้เกิดเหตุ ผลก็ย่อมตามมา ทุกอย่างล้วนเป็นจริงโดยธรรมชาติ
เมื่อเราเอาขันธ์ห้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับวัฎฎะ ผลที่ตามมาก็คือ อัตตา
ดังนั้นวัฏฏะของใครก็เป็นอัตตาของคนนั้นครับ

หน้า 2 จากทั้งหมด 8 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/