วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 03:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 00:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


wic เขียน:

ก็เพราะมันต่างกัน, ไม่เหมือนกัน สังคมจะได้ไม่สับสน,ไม่เข้าใจผิด

คุณกบสนใจจะลองไปศึกษาดูไหมละครับ อยากชวนไปชม ตลาดอาริยะ

ในตลาดนี้ผู้ขายต้องขายต่ำกว่าราคาทุนที่ซื้อมา เช่น ซื้อของมาราคา 100บาท จะขายเกิน 100ไม่ได้

ตลาดนี้จะเปิดขายในวันที่13-15เมษายนนี้ที่อุบลราชธานี ปีนี้(ครั้งที่34 พศ.2556)จัดที่ริมมูล

สรุปงานตลาดอาริยะครั้งที่ ๓๓ ปีพศ. ๒๕๕๕


ไกลเหลือเกิน...แถมมาเปิดเอาช่วงวันครอบครัวซะด้วย...ต้องเอาใจ ส.ว. ในบ้านก่อนครับ...ขีวิตจะได้รุ่งโรจน์ ... :b9: :b9: :b9:

สุขที่แท้จริง....เป็นอย่างไร??

ที่ผ่านมา...เราเจอแต่ของปลอมมา..ทั้งหมด...สุข..ก็สุขปลอม....ทุกข์...ก็ทุกข์ปลอม

สุขปลอม...เป็นงั้ย?.....ก็พอเราไปถึงจุดที่หวังว่าจะมีสุข....มันก็สุขแว๊ปเดียว..แล้วก็หายไปแล้ว

จะกินสเต็กเนื้อสันนอกออสเตรเรีย มีเดี้ยมแรนิ่ม ๆ...ตอนมันอยู่ที่ลิ้น นะ....อื้มม... :b20:

เพียงคล้อยจากลิ้นไปนิดเดียวเท่านั้นเอง...ไอ้ที่..อื้มม...เมื่อตะกี้ก็หายไปเสียแล้ว

แล้วเราก็ฝากความหวังใว้กับชิ้นต่อไป....หรือครั้งต่อ ๆ ไป :b6: :b6:

สุขแบบนี้หรือที่เราควรไขว่คว้า??....ควรหรือที่จะฝากความหวังใว้กับสิ่งที่...เกิดขึ้น...ตั้งอยู่..แล้วก็ดับไป

สุขจริง....มันต้องมีได้..ณ..ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ปัจจุบัน...ตลอดไปไม่ขาดสาย...ซิ

เคยได้ยินมาว่า....มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น....มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่....มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป....

แสดงว่า...หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น..เพิ่มขึ้น...งอกขึ้น...แม้เพียงเล็กน้อย..นั้นคือทุกข์

เกิดขึ้น...งอกขึ้น...เพิ่มขึ้น....ขึ้นมาจากอะไร?....ขึ้นจากความว่าง..ความไม่มีอะไร..อะไร

ความว่าง...ความไม่มีอะไร...ก็น่าจะเป็นธรรมชาติแท้...ธรรมชาติพื้นฐานที่ไม่ทุกข์

สุขแท้...ก็ควรจะเป็น..ความไม่มีอะไรตลอดไป...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

ระวัง อย่าติดที่ภาวะขาดสูญ

:b8:

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b12:
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ห้า,กายใจ, เป็นความปรุงแต่ง)อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันขึ้นมาของแต่ล่ะสิ่ง
วัฏสงสาร อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง(วัฎสงสาร ความปรุงแต่งของสิ่งต่างๆ)


ขันธ์ห้า (กาย,ใจ)ความปรุงแต่ง อยู่ในวัฏสงสารความปรุงแต่ง
ระบบทั้งระบบ เป็นความปรุงแต่งของเหตุปัจจัยกันขึ้นมา

เมื่อทั้งระบบเป็นความปรุงแต่ง ความไม่ปรุงแต่ง.. s006




ขณะปัจจุบัน
นึกถึงดอกทานตะวัน ปรุงแต่งสีเขียวสีเหลืองสีอื่นๆ จัดวางสีเป็นรูปทรงปรุงแต่งเป็นลักษณะดอกทานตะวันอาศัยจากความทรงจำ
โลกทั้งโลกของเขาตอนนั้นหรือความรู้ของเขาขณะปัจจุบันนั้นมีแต่ สีเขียวสีเหลืองสีอื่นๆเป็นรูปทรงขึ้นมา

รูปทรงที่ประกอบจากสีเขียวเหลืองสีอื่นๆเป็นความปรุงแต่ง
การที่นึกขึ้นมานั้น ความเข้าไปรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้รู้ (ความเข้าไปรู้กับสิ่งที่รู้อยู่ ก็เป็นความปรุงแต่ง)

ขณะปัจจุบันมาจากสิ่งปรุงแต่ง มีแต่สิ่งประกอบ อาศัยกันประกอบ(อาศัยเหตุปัจจัย)


จิตยังไม่คลายจากความยึดติด ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา
ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา ตั้งขึ้นมาได้ชั่วขณะ
ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา ตั้งขึ้นมาได้ชั่วขณะโดนสภาวะสิ่งประกอบต่างๆบีบคั้นให้เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอด :b48:

จิตไม่เข้าใจไม่เบื่อหน่ายไม่คลาย ฝังลึกมากอยู่ภายใน :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 16:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โกเมศวร์ เขียน:
ระวัง อย่าติดที่ภาวะขาดสูญ

:b8:


:b8: :b8: :b8:
ใช่ครับ....ใกล้กันมาก....หากหลงไปก่อความไม่มีอะไรขึ้นมา....แล้วก็เข้าไปยึดความไม่มีอะไรที่ตนก่อขึ้น...ไปอรูปภพเป็นอรูปพรหม...แหง่ ๆ :b2: :b2:

ความไม่มีอะไร..อะไร...ที่ไม่ได้เกิดจากการสร้างขึ้น...ก่อขึ้น....น่าจะเป็นการทำไปลายแรงจูงใจอะไรสักอย่าง..ที่มีเพื่ออะไรสักอย่างหนึ่ง...นะ
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 16:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rotala เขียน:
:b8: :b12:
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ห้า,กายใจ, เป็นความปรุงแต่ง)อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันขึ้นมาของแต่ล่ะสิ่ง
วัฏสงสาร อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง(วัฎสงสาร ความปรุงแต่งของสิ่งต่างๆ)


ขันธ์ห้า (กาย,ใจ)ความปรุงแต่ง อยู่ในวัฏสงสารความปรุงแต่ง
ระบบทั้งระบบ เป็นความปรุงแต่งของเหตุปัจจัยกันขึ้นมา

เมื่อทั้งระบบเป็นความปรุงแต่ง ความไม่ปรุงแต่ง.. s006

:b34:


ก็น้านนะซิ... s006

มันคงเข้าถึงด้วยคิด...ไม่ได้มั้ง?
:b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 16:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

ความไม่มีอะไร..อะไร...ที่ไม่ได้เกิดจากการสร้างขึ้น...ก่อขึ้น....น่าจะเป็นการทำไปลายแรงจูงใจอะไรสักอย่าง..ที่มีเพื่ออะไรสักอย่างหนึ่ง...นะ
s006


อะไรคือแรงจูงใจนะ?....แล้วแรงจูงใจนี้มุ่งไปที่จุดไหนหนอ?

:b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 20:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ที่ผ่านมา...เราเจอแต่ของปลอมมา..ทั้งหมด...สุข..ก็สุขปลอม....ทุกข์...ก็ทุกข์ปลอม

สุขปลอม...เป็นงั้ย?.....ก็พอเราไปถึงจุดที่หวังว่าจะมีสุข....มันก็สุขแว๊ปเดียว..แล้วก็หายไปแล้ว


สุขแบบนี้หรือที่เราควรไขว่คว้า??....ควรหรือที่จะฝากความหวังใว้กับสิ่งที่...เกิดขึ้น...ตั้งอยู่..แล้วก็ดับไป


สุข ทุกข์เป็นของคู่กัน ถ้าต้องการหมดทุกข์ ก็ต้องหมดทั้งสุขและทุกข์ด้วย เหลือแต่ความสงบ เป็นอุเบกขาอยู่

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2013, 23:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rotala เขียน:
:b8: :b12:
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ห้า,กายใจ, เป็นความปรุงแต่ง)อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันขึ้นมาของแต่ล่ะสิ่ง
วัฏสงสาร อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง(วัฎสงสาร ความปรุงแต่งของสิ่งต่างๆ)


ขันธ์ห้า (กาย,ใจ)ความปรุงแต่ง อยู่ในวัฏสงสารความปรุงแต่ง
ระบบทั้งระบบ เป็นความปรุงแต่งของเหตุปัจจัยกันขึ้นมา

เมื่อทั้งระบบเป็นความปรุงแต่ง ความไม่ปรุงแต่ง.. s006




ขณะปัจจุบัน
นึกถึงดอกทานตะวัน ปรุงแต่งสีเขียวสีเหลืองสีอื่นๆ จัดวางสีเป็นรูปทรงปรุงแต่งเป็นลักษณะดอกทานตะวันอาศัยจากความทรงจำ
โลกทั้งโลกของเขาตอนนั้นหรือความรู้ของเขาขณะปัจจุบันนั้นมีแต่ สีเขียวสีเหลืองสีอื่นๆเป็นรูปทรงขึ้นมา

รูปทรงที่ประกอบจากสีเขียวเหลืองสีอื่นๆเป็นความปรุงแต่ง
การที่นึกขึ้นมานั้น ความเข้าไปรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นมาให้รู้ (ความเข้าไปรู้กับสิ่งที่รู้อยู่ ก็เป็นความปรุงแต่ง)

ขณะปัจจุบันมาจากสิ่งปรุงแต่ง มีแต่สิ่งประกอบ อาศัยกันประกอบ(อาศัยเหตุปัจจัย)


จิตยังไม่คลายจากความยึดติด ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา
ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา ตั้งขึ้นมาได้ชั่วขณะ
ไม่เข้าใจว่าเป็นสิ่งประกอบกันขึ้นมา ตั้งขึ้นมาได้ชั่วขณะโดนสภาวะสิ่งประกอบต่างๆบีบคั้นให้เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอด :b48:

จิตไม่เข้าใจไม่เบื่อหน่ายไม่คลาย ฝังลึกมากอยู่ภายใน :b34:


ก็เหมือนร่างกายคนเรา ขณะที่เห็นแขนตัวเองก็บอกว่านี่ไงแขน จะบอกว่าไม่มีตัวตนได้อย่างไร แต่หากพิจารณาจะพบว่าเหตุเกิดของธรรมคือ จักษุวิญญาณเกิดผัสสะ อารมณ์เกิดขึ้นเพราะอาศัยการมองเห็น ไม่ได้เข้าไปเห็นรูปตามความเป็นจริง แต่เป็นการปรุงแต่งของจิต โดยจิตนั้นตั้งอยู่ที่ปสาทรูปคือ ตา ไม่ใช่แขน การเห็นจริงคือ การมองเป็นทุกข์ แต่จิตก็ตั้งอยู่ไม่นาน เดี๋ยวก็ย้ายไปที่นั่นที่นี่ พอย้ายไปที่แขน ธรรมก็ดับลงที่จักษุธาตุ ผัสสะได้มาเกิดที่แขน การปรากฏขึ้นของธรรมก็ย่อมมาจากความเป็นใหญ่ของธาตุ เช่น ธาตุไฟเป็นใหญ่ ก็รู้ถึงความอุ่น ธาตุดินเป็นใหญ่ก็รู้ถึงความแข็งความอ่อน แต่เพราะว่ารูปเป็นทุกข์ จึงเกิดการปรากฏขึ้นของธาตุเห็นความเป็นอนัตตา จิตได้ไปตั้งอยู่ที่แขน แต่ก็ไม่เที่ยงเดี๋ยวก็ดับลงไปตั้งอยู่ที่อื่น เดี๋ยวย้ายไปที่การได้ยิน หรือโสตธาตุเกิดการได้ยิน เกิดผัสสะขึ้น เพราะความเป็นทุกข์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2013, 00:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
Rotala เขียน:
:b8: :b12:
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ห้า,กายใจ, เป็นความปรุงแต่ง)อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันขึ้นมาของแต่ล่ะสิ่ง
วัฏสงสาร อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง(วัฎสงสาร ความปรุงแต่งของสิ่งต่างๆ)

ขันธ์ห้า (กาย,ใจ)ความปรุงแต่ง อยู่ในวัฏสงสารความปรุงแต่ง
ระบบทั้งระบบ เป็นความปรุงแต่งของเหตุปัจจัยกันขึ้นมา

เมื่อทั้งระบบเป็นความปรุงแต่ง ความไม่ปรุงแต่ง.. s006

จิตไม่เข้าใจไม่เบื่อหน่ายไม่คลาย ฝังลึกมากอยู่ภายใน :b34:


ก็เหมือนร่างกายคนเรา ขณะที่เห็นแขนตัวเองก็บอกว่านี่ไงแขน จะบอกว่าไม่มีตัวตนได้อย่างไร
แต่หากพิจารณาจะพบว่าเหตุเกิดของธรรมคือ จักษุวิญญาณเกิดผัสสะ
อารมณ์เกิดขึ้นเพราะอาศัยการมองเห็น ไม่ได้เข้าไปเห็นรูปตามความเป็นจริง
แต่เป็นการปรุงแต่งของจิต โดยจิตนั้นตั้งอยู่ที่ปสาทรูปคือ ตา ไม่ใช่แขน


เห็นท่านคุยกันผมก็แค่ได้อ่านได้รู้ แต่การปฏิบัติผมคงง่วนอยู่กับศีล ๕ ละอบายมุข
และอยากจะสำรวมอินทรีย์ รู้ประมาณในการบริโภค แค่นี้ก็ยากแล้ว

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2013, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rotala เขียน:
:b8: :b12:
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ขันธ์ห้า,กายใจ, เป็นความปรุงแต่ง)อาศัยเหตุปัจจัยประกอบกันขึ้นมาของแต่ล่ะสิ่ง
วัฏสงสาร อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง(วัฎสงสาร ความปรุงแต่งของสิ่งต่างๆ)


ขันธ์ห้า (กาย,ใจ)ความปรุงแต่ง อยู่ในวัฏสงสารความปรุงแต่ง
ระบบทั้งระบบ เป็นความปรุงแต่งของเหตุปัจจัยกันขึ้นมา

เมื่อทั้งระบบเป็นความปรุงแต่ง ความไม่ปรุงแต่ง.. s006

:b34:


ก็น้านนะซิ... s006

มันคงเข้าถึงด้วยคิด...ไม่ได้มั้ง?
:b7: :b7:


:b6: คิดถึงอีกฝั่งหนึ่ง คิดไม่ออกจริงๆด้วย cry
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2013, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 00:22
โพสต์: 223

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ก็เหมือนร่างกายคนเรา ขณะที่เห็นแขนตัวเองก็บอกว่านี่ไงแขน จะบอกว่าไม่มีตัวตนได้อย่างไร แต่หากพิจารณาจะพบว่าเหตุเกิดของธรรมคือ จักษุวิญญาณเกิดผัสสะ อารมณ์เกิดขึ้นเพราะอาศัยการมองเห็น ไม่ได้เข้าไปเห็นรูปตามความเป็นจริง แต่เป็นการปรุงแต่งของจิต โดยจิตนั้นตั้งอยู่ที่ปสาทรูปคือ ตา ไม่ใช่แขน การเห็นจริงคือ การมองเป็นทุกข์ แต่จิตก็ตั้งอยู่ไม่นาน เดี๋ยวก็ย้ายไปที่นั่นที่นี่ พอย้ายไปที่แขน ธรรมก็ดับลงที่จักษุธาตุ ผัสสะได้มาเกิดที่แขน การปรากฏขึ้นของธรรมก็ย่อมมาจากความเป็นใหญ่ของธาตุ เช่น ธาตุไฟเป็นใหญ่ ก็รู้ถึงความอุ่น ธาตุดินเป็นใหญ่ก็รู้ถึงความแข็งความอ่อน แต่เพราะว่ารูปเป็นทุกข์ จึงเกิดการปรากฏขึ้นของธาตุเห็นความเป็นอนัตตา จิตได้ไปตั้งอยู่ที่แขน แต่ก็ไม่เที่ยงเดี๋ยวก็ดับลงไปตั้งอยู่ที่อื่น เดี๋ยวย้ายไปที่การได้ยิน หรือโสตธาตุเกิดการได้ยิน เกิดผัสสะขึ้น เพราะความเป็นทุกข์


อนุโมทนาครับ
พิจารณากาย
แบบ ตั้งสติสัมปชัญญะรู้อยู่ในปัจจุบันในกาย
กับแบบ กาำรดำเนินเรื่อง (เหมือนพิจารณาเริ่มตั้งแต่ร่างกายเริ่มตายไปจนร่างกายเสื่อมสลาย นวสีเก้า ม้างกาย อศุภะ อาการ32 หรือพิจารณาเฉพาะส่วน อื่นๆ )
เป็นความต่างในความเหมือน
บางอย่างเหมือนกันคือการส่งข้อมูลเข้าไปยังจิต เพื่อให้จิตคลายตัวในการยึดถือ จากความเห็นที่เป็นวิปลาส 4 ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข ไม่เป็นตัวตน ว่าเป็นตัวตน ไม่งาม ว่างาม

แบบที่สองจะัพัฒนาเข้าไปสู่แบบที่หนึ่ง เวลาพิจารณาถ้าเหตุปัจจัยดีส่งให้จิตคลายตัวลงบางช่วง
ถ้าน้อมไปรู้ภาวะปัจจุบัน เหมือนปัจจุบันการกระทบทางกาย ก็จะรู้ได้ชัดขึ้นลงสู่ในความเป็นกลาง
อารมณ์จิตมันจะมีลักษณะถูกคลุมอยู่ เหมือนแสงที่ส่องผ่านกระดาษแก้วที่เป็นสี แสงที่ออกไปมันก็จะเจือปนด้วยสีนั้น พอจิตคลายในช่วงนั้นความเจือปนก็จะน้อยลง ทำให้สภาวะที่ถูกรู้ รู้ด้วยความเป็นกลาง
มากขึ้น ชัดขึ้น จะคล้ายกับการทำสมาธิก่อนแล้วมากำหนดรู้จะชัดแต่จะต่างกันบางส่วน เหมือนความเป็นเป็นอิสระจะต่างกัน
แบบแรกกำหนดปัจจุบัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป .....มีแต่สิ่งที่หมดไป....ดับไป....ดับไป...
จะเกิดอาการความคลายตัวของจิต

:b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2013, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b12: :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2013, 00:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


จะสังเกตุได้เมื่อมีสติ เมื่อจิตรู้ จะเกิดสมาธิตั้งมั่นขึ้น (ธรรมชาติจึงมีส่วนสำคัญ เช่น อุณหภูมิ แรงดึงดูดของโลก ความหนาแน่น) ที่ยกมาก็เพราะเป็นเหตุเกิดของทุกข์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2013, 09:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2013, 09:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rotala เขียน:

บางอย่างเหมือนกันคือการส่งข้อมูลเข้าไปยังจิต เพื่อให้จิตคลายตัวในการยึดถือ จากความเห็นที่เป็นวิปลาส 4 ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข ไม่เป็นตัวตน ว่าเป็นตัวตน ไม่งาม ว่างาม



ส่งข้อมูลเข้าไปยังจิต....ชั่งเป็นคำที่น่าสนใจ..จริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 65 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร