วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 04:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 18:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พอดีเห็นวาทะหลายๆท่านสนทนาเรื่องกรรม Kiss

เลยเกิดคำถามว่าเมื่อสัจธรรมสูงสุดของพุทธศาสนาว่าสิ่งทั้งปวงไม่ใช่ตนอยู่แล้ว

แล้วกรรมมีจริงหรือแล้วทำไมต้องมีกรรมเป็นของตนด้วยนะ s006

เอ...... :b10: หรือเรื่องนี้มีความนัย :b14:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 18:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b6: :b6: :b6:

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 18:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ถามยากจัง

ก็ ถ้าแก้ว วางอยู่ แล้วเรายื่นมือไปหยิบแก้ว แก้วอยู่ในมือ ก็กรรมจากการยื่นมือไปหยิบแก้ว
ก็ ถ้าแก้ว ไม่มีอยู่ เราก็ไม่ยื่นมือไปหยิบแก้ว แก้วก็ไม่อยู่ในมือ ก็กรรม
ก็ ถ้ามีแก้ว แต่เราไม่ยื่นมือไปหยิบแก้ว แก้วก็ไม่มีอยู่ในมือ ก็กรรม

มันก็ กรรม ทั้งนั้น

พิจารณา องค์ประกอบของ กรรม
ก็จะเห็นลักษณะของ กรรม
ก็จะเห็นลักษณปัจจัยของ กรรม

จึงมีที่ว่า ผัสสะ เป็น กรรม

ผัสสะ ปรากฎแก่อะไร ก็นั่นล่ะ ที่ปรากฎแห่ง กรรม

เมื่อไรที่ "ผัสสะ" เป็น "สักแต่ว่า"

หรือ วางจิตเสมอกันในทุกผัสสะ ได้

จะเห็น สายธารแห่ง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ก็จะเห็น การปรากฎแห่งกรรม ที่สอดรับกันกับ อิทัปปัจยตา-ปฏิจจสมุปบาท

:b8: :b8: :b8: :b8:

อิอิ เดาอีกแล้วครับท่าน

:b9: :b13: :b13: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b9: :b9: น่าสน น่าสน ได้ใจความ :b17:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 18:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
:b9: :b9: น่าสน น่าสน ได้ใจความ :b17:


อันนี้เขาก็ฝากมา หน่ะ

:b32: :b9: :b9: :b32:

เห็นว่าจะโพสต์ตั้งแต่ตอนเช้าแย๊ววววว

แต่ไม่คิดว่า หน่ะจิตจะเป็นคนถาม

:b32: :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:

อิอิ เดาอีกแล้วครับท่าน

:b9: :b13: :b13: :b9:

.. เห็นด้วยครับท่าน .. :b9: :b32:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2010, 15:59
โพสต์: 390

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
พอดีเห็นวาทะหลายๆท่านสนทนาเรื่องกรรม Kiss

เลยเกิดคำถามว่าเมื่อสัจธรรมสูงสุดของพุทธศาสนาว่าสิ่งทั้งปวงไม่ใช่ตนอยู่แล้ว

แล้วกรรมมีจริงหรือแล้วทำไมต้องมีกรรมเป็นของตนด้วยนะ s006

เอ...... :b10: หรือเรื่องนี้มีความนัย :b14:


นั่นน่ะสิ่

ทำไมทำผิดแล้วถึงต้องโดนลงโทษ

ฆ่าคนตายทำไมจึงต้องติดคุก

สงสัยมั๊ยล่ะ

.....................................................
บุรุษใดพึงเห็นแดน"โลก" เขาจักอยู่ในแดน"โลก"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"สวรรค์" เขาจักอยู่ในแดน "สวรรค์"
บุรุษใดพึงเห็นแดน"นรก" เขาจักอยู่ในแดน"นรก"

บุรุษใดพึงเห็นแดนทั้งสาม เขาจักพึงสิ้นภพจบแดน...แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
พอดีเห็นวาทะหลายๆท่านสนทนาเรื่องกรรม Kiss

เลยเกิดคำถามว่าเมื่อสัจธรรมสูงสุดของพุทธศาสนาว่าสิ่งทั้งปวงไม่ใช่ตนอยู่แล้ว

แล้วกรรมมีจริงหรือแล้วทำไมต้องมีกรรมเป็นของตนด้วยนะ s006

เอ...... :b10: หรือเรื่องนี้มีความนัย :b14:

:b12:
ก่อนที่จะเข้าถึงสัจธรรมสูงสุดคือ "สัพเพธัมมาอนัตตา" นั้น ปุถุชนทุกคนยังมีความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน
อยู่ ยังต้องอาศัยตัวตนเพื่อไปสู่ความหมดสิ้นตัวตนดังนั้นคำแปลในบทสวดมนต์จึงออกมาว่า

"เรามีกรรมเป็นของๆตน....มีกรรมเป็นผู้ให้ผล....มีกรรมเป็นแดนเกิด.......มีกรรมเป็นผู้ติดตาม....เราจักทำกรรมอันใดไว้.....เป็นบุญหรือเป็นบาป....เราจะต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป......."
onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 18:22
โพสต์: 70


 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญหาโลกแตก เพราะไปแปล อนัตตาว่า ไม่มีตัวตน มองเห็นอยู่ทนโท่ โด่เด่อยู่นี้แล้วบอกไม่มีตัวตนได้อย่างไร :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธงชาติ เขียน:
ปัญหาโลกแตก เพราะไปแปล อนัตตาว่า ไม่มีตัวตน มองเห็นอยู่ทนโท่ โด่เด่อยู่นี้แล้วบอกไม่มีตัวตนได้อย่างไร :b12:


:b9: น่าสนใจ งั้นอนัตตาควรแปลว่าอะไรครับ :b20:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 20:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ธ.ค. 2010, 18:22
โพสต์: 70


 ข้อมูลส่วนตัว


อนัตตา ควรจะแปลว่า เป็นของมีอยู่ แต่ไร้สาระ ไม่เที่ยง บังคับอะไรไม่ได้ ไม่ควรไปยึดไปถือ ถ้าไปยึดเอาถือเอา แล้วมันเป็นทุกข์ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

เออ มันก็ถูกของเขา แล้วล่ะ

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ม.ค. 2013, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


บทว่า อนิจฺจา ความว่า เพราะอรรถว่ามีแล้วไม่มี.

บทว่า อนิจฺจา ความว่า ชื่อว่า อนิจฺจา ด้วยอรรถว่า เป็นแล้วกลับไม่เป็น.

บทว่า อนิจฺจ? ได้แก่ชื่อว่าไม่เที่ยง โดยอาการที่มีแล้วก็ไม่มี.

อีกนัยหนึ่ง ชื่อว่าไม่เที่ยง ด้วยเหตุแม้เหล่านี้ คือ

เพราะมีความเกิดขึ้นและความเสื่อมไป.

เพราะเป็นของเป็นไปอยู่ชั่วคราว

เพราะมีความแปรปรวนเป็นที่สุด

เพราะปฏิเสธความเที่ยง.

บทว่า ทุกฺขา ความว่า เพราะอรรถว่า เบียดเบียน.

บทว่า ทุกฺขา ความว่า ชื่อว่าทุกข์ด้วยอรรถว่า บีบคั้นเสมอ

บทว่า ทุกฺข? ได้แก่ ชื่อว่าทุกข์ด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ

ด้วยอรรถว่า ทนได้ยาก

ด้วยอรรถว่า เป็นวัตถุที่ตั้งแห่งความทนได้ยาก.

ด้วยอรรถว่า บีบคั้นสัตว์ ด้วยการปฏิเสธความสุข.

บทว่า สพฺเพ ธมฺมา ความว่า ท่านกล่าวทำแม้พระนิพพานไว้ภายใน.

บทว่า อนตฺตา ความว่า เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปในอำนาจ.

ชื่อว่า อนตฺตา เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปตามอำนาจ.

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2013, 01:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ธงชาติ เขียน:
อนัตตา ควรจะแปลว่า เป็นของมีอยู่ แต่ไร้สาระ ไม่เที่ยง บังคับอะไรไม่ได้ ไม่ควรไปยึดไปถือ ถ้าไปยึดเอาถือเอา แล้วมันเป็นทุกข์ :b12:



เห็นด้วยครับ เพราะอาศัยเหตุ ธรรมจึงปรากฎขึ้นมา ถ้าไม่มีเหตุ ธรรมนั้นก็ไม่เกิด แต่เมื่อเกิดเพราะปัจจัยปรุงแต่ง จึงได้ชื่อว่าทุกข์ จึงต้องกำหนดรู้ทุกข์ควบคู่กันไป แม้ธรรมที่ลึกซึ้งก็อาศัยเหตุ แต่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2013, 03:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2010, 23:55
โพสต์: 55

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้ตนเองว่ามีอัตตา แต่ก็มีอัตตา

เมื่อเห็นอนัตตา จึงเห็นอัตตา

เพราะมีอัตตา จึงสร้างกรรม

เพราะเหตุกรรม จึงเกิดวิบากกรรม

แม้แต่จิต ก็ยังมีวิบากจิต

ไม่เว้นแม้แต่พระเสขะบุคคล

เมื่อไม่รู้ในกรรม ก็รู้ตัวว่า ไม่รู้ในกรรม

เมื่อรู้ตัวว่ามีกรรม ก็จักรู้ตัวว่า มีกรรม


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 141 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร