วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 13:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ธ.ค. 2012, 21:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ธ.ค. 2012, 20:55
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้หนูเรียนอยู่เป็นนักศึกษาคณะแพทย์  ที่ แถบภูมิภาคค่ะ  หนูอยู่ปีห้า  ซ้ำชั้น1ครั้งตอนปีสามเนื่องจากเกรดต่ำค่ะ ตอนนี้มีปัญหาทั้งเรื่อง การเรียน เรื่องเพื่อน และ สภาพจิตใจ  หนูจึงขอปรึกษาค่ะ

พื้นเดิมหนูเป็นคนกรุงเทพ  และ ก็เรียนในเกณฑ์ดีมาตลอด  แต่หนูเลือกสอบแพทย์เพราะตอนนั้นคิดว่าหนูมีความสามารถพอ ก็ควรเรียนสิ่งที่ทำประโยชน์กับสังคม  ประกอบกับแม่หนูเห็นว่าหนูเรียนเก่งเลยอยากให้เรียนค่ะ  ทั้งๆที่จริงๆแล้วหนูชอบวิชาเลขกับคอม  และไม่ถนัดวิชาชีวะ เคมี หรือะไรที่ท่องจำเลยซักนิด  สำหรับวิชาท่องจำแล้วหนูเรียนโดยการติวตามเซนเตอร์ดังๆและท่องเนื้อหาที่ติวเตอร์สอนทั้งหมดค่ะ  แต่สำหรับการเรียนแพทย์นี้  มันใช้วิธีนี้ไม่ได้  

ตอนปีหนึ่งหนูยังเรียนได้เกรดสามกว่่า(อาจเพราะคล้ายกับมอปลาย)  แต่หนูซ้ำชั้นได้เรียนปีสามสองครั้งค่ะ (ช่วงปีสามเกรดไม่ถึงสอง)  มาเรียนกับรุ่นน้อง  ทั้งที่หนูก็ไม่ได้เถลไถล   ตั้งใจอ่านหนังสือมาโดยตลอด  หนูเคยอัดเทปไปฟังซ้ำ  จดโน้ทย่อ ทำmymap หาโจทย์แบบฝึกหัดมาทำ  ไปปรึกษาอาจารย์  อ่านหลายๆรอบ หาติวเตอร์  แต่ผลการเรียนก็ยังคงแย่อยู่ดี หนูเลือกจำผิดประเด็นบ้าง จำสลับบ้าง บางทีรู้สึกว่าทำข้อสอบได้แต่สุดท้ายก็สอบตก   จนตอนท้ายๆ อาจารย์ที่หนูปรึกษา(เป็นจิตแพทย์พอดี) ให้หนูกินยาคลายเครียด  ลดซึมเศร้าค่ะ  และได้ทำพฤติกรรมบำบัดค่ะ  อาจารย์บอกให้หนูผ่อนคลาย  อย่าอ่่านหนักๆตั้งแต่ต้น  จะหมดแรงกลางทางและบอกวิธีการจำว่าให้หาเหตุผล  เชื่่อมโยงกับรอบตัว  ทำเป็นคำคล้องจอง  แต่ตลอดการทำตามที่อาจารย์แนะนำ  ผลการเรียนหนูก็ไม่ดีขึ้นค่ะ  แล้วเพื่อนก็ทักว่า หนูเรียนด้วยความกล้ำกลืนฝืนทนจนหนูอยู่ปีห้า ระหว่างนี้หนูได้ไปปรึกษาอาจารย์อีกท่าน  เป็นจิตแพทย์ท่านบอกว่า หนูเป็นโรคสมาธิสั้น ย้ำคิดค่ะ ให้ยาหนูมากินอีกแล้ว  แต่หนูก็ยังเรียนแย่ รู้สึกแย่เหมือนเดิม  "หนูจับประเด็นเรื่องที่เรียนไม่ได้ " ถึงตอนนี้การสอบวิชาชีพขั้นที่1 ที่เค้าสอบกันตอนปีสาม  หนูอยู่ปีห้า  สอบมาหกครั้งยังไม่ผ่านเลยค่ะ  ทุกๆครั้งจะขาดไปอีก  5-10%เสมอ   ในเดือนมีนานี้  หนูสมัครสอบไปขั้นที่1 (ผู้สมัครสอบต้องอยู่ปีสามขึ้นไป) และขึ้นที่2 (ผู้สมัครสอบต้องอยู่ปีห้าขึ้นไป)  ไม่รู้จะเป็นอย่างไร 

ตอนนี้หนูเรียนอยู่วอร์ดหนึ่ง  ต้องอยู่เวรทุกๆสามวัน  แล้วก็จะสอบในศุกร์นี้ค่ะ ยังอ่านหนังสือไม่ถึงไหนเลยT.T

ตลอดการเรียนนี้ หนูมีเรื่องรบกวนจิตใจเรื่องความเหงาและเพื่อน  คือ  หนูมาเรียนกับรุ่นน้อง  ไม่สนิทกับใครเลยค่ะ  อย่างในกลุ่มที่เรียนด้วยกันอยู่ (ปีสี่ขึ้นไปเรียนเป็นกลุ่มย่อย) ก็ไม่เห็นมีใครความสนใจตรงกับหนู คุยกันรู้เรื่อง  
( หนูสนใจเรื่องธรรมะ วิ่ง ว่ายน้ำ หนังสือพัฒนาตนเอง รายการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆที่ประสบความสำเร็จ นิยาย แต่เพื่อนในกลุ่มทึีหนูเรียนสนใจเกม บุฟเฟต์ ละคร หนูเคยเอาเกมที่เพื่อนๆเล่นกันมาเล่น คุยกับพวกเค้าเรื่องนี้ แต่หนูไม่รู้สึกสนุกซักกะนิด)แต่เพื่อนรุ่นเดียวกันที่สนิทหน่อยตอนนี้อยู่ปีหก ไปฝึกงานนอก รพ กันหมดเลย  แล้วต่อมาตอนนี้หนูก็ยังมีปัญหากับเพื่อนคนนึงในกลุ่ม  หนูเลือกที่จะเงียบ แต่เค้าคอยใส่ร้ายหนูให้คนในกลุ่มฟัง กระแหนกระแหนหนูตลอด แล้วคนในกลุ่มก็เชื่อ  และไม่มีใครมาถามหนู  หนูอยู่หอในคณะโดยอยู่คนเดียวค่ะ ไมได้มีคนรู้จัก ญาติพี่น้องที่สนิทอยู่ที่จังหวัดนี้ เพื่อนรอบห้องที่อยู่หนูเคยคุยแล้วค่ะ ก็สนใจไม่ตรงกัน  ว่างไม่ตรงกัน  คุยไม่ติด ส่วนนึงเพราะเรียนกันคนละชั้นปี  คนละกลุ่มด้วยค่ะ  

1.  หนูควรแก้ปัญหาเรื่องเรียนอย่างไร  คือ ตอนนี้หนูจดและฟังอาจารย์ไม่ค่อยทัน แต่หนูได้หาสไลด์ เลคเชอร์เพื่อนและพี่ หนังสืออ่านประกอบวิชานี้ และหนังสือสรุปมาแล้ว  รวมถึงข้อสอบเก่าจากเพื่อน  แต่ปัญหามันอยู่ที่หนูอ่านจับประเด็นไม่ได้  ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน  อ่านยังไงให้ทำข้อสอบได้ ให้ซักประวัติ ตรวจร่างกายวินิจฉัยได้ 

2. ทำยังไงหนูถึงจะฟังหรืออ่านแล้วจับประเด็นได้ดี  

3. หนูควรแก้ปัญหาเรื่องเพื่อนและความเหงาอย่างไร  ทุกวันนี้หนูเรียนคนเดียว อ่านหนังสือคนเดียว กินข้าวคนเดียวทุกๆวัน  หนูไม่อยากเป็นคนมนุษยสัมพันธ์แย่เลยค่ะ  แต่หนูก็ไม่รู้จักรุ่นน้อง รู้แค่ที่เรียนด้วย  เพื่อนก็ฝึกงานอยู่ข้างนอก  ปีหกเป็นปีที่หนักเลยค่ะของการเรียนหมอ หนูได้พยายามคุยกับคนที่เจอ  เช่น น้องปีสี่ ปีห้า  ป้าหอ พี่พยาบาล บ้าง

4. ทำอย่างไรหนูจะหายจากสภาพจิตใจ เศร้า กังวล เหงาแบบนี้คะ  หนูรู้สึกลึกๆว่าการกินยาไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้จะทำให้หนูไม่จมกับอรมณ์มากกว่าเดิมก็ตาม

ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2012, 00:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็เหมือนกับพ่อแม่ของคุณ ลูกสาวผมความจำดี ความเข้าใจแย่มาก ตอน ม.5เขาถามผมว่าอยากให้เขาเรียนอะไร ผมก็ว่าไม่แพทย์ก็วิศวกรรม เขาโทรฯไปฟ้องป้า พี่สาวผมมันก็โทรฯมาด่าผมยกใหญ่ พอ ม.6 เขามาบอกผมว่าเขาจะสอบแพทย์หรือวิศวกรรมให้ได้ แล้วเขาก็สอบวิศวฯได้ ทุกคนดีใจแต่ผมคนเดียวที่กังวล เพราะมหาวิทยาลัยนี้รับเด็กวิศวฯ 1500คน ปีแรกมักจะหายไปมากกว่าครึ่ง วันนี้เขาอยู่ปี 3 ด้วยคะแนน 2.5
สองสามวันนี้ก็เกิดอาการเครียดและอยากจะอาเจียนตลอดเวลาเพราะไม่เข้าใจวิชาหนึ่ง แต่หลังจากสอบแล้วก็หาย
ตลอดเวลาที่เรียนผมก็แนะนำเขาตลอด ผมจะลองแนะนำคุณคล้ายๆกันแบบที่แนะนำลูกสาวผมแล้วกัน แต่คุณอย่าคาดหวังมากเพราะผมมีอาชีพ เกษตรกร

1-2. คุณควรย้อนไปทำความเข้าใจวิชาหนึ่งตอนสอบเข้าแพทย์ซึ่งไม่เกี่ยวกับวิชาการเลยแต่เกี่ยวกับเหตุผลและการเชื่อมโยง น่าจะเป็น พาสเชื่อมโยง นี้คือหัวใจของการซักประวัติในวิชาแพทย์ และทุกสาขาอาชีพ

นี้ก็คือตัวอย่างที่ผมใช้ดูอาการสัตว์เลี้ยงและนาข้าวของผม

อาการของโรคน่าจะมีอาการคล้ายๆกันในแต่ละกลุ่ม
แยกอาการหลักออกเป็นกลุ่มๆในแต่ละกลุ่มมีโรคอะไรบ้าง
แยกกลุ่มอาการรองลงมาของกลุ่มอาการหลักว่ามีโรคอะไรบ้าง
แยกอาการย่อยออกจากกลุ่มอาการรองว่ามีโรคอะไร
ทำmind map มันเหมือนเล่นเกมสืบสวน

3.ข้อนี้เป็นปัญหาหลักของคุณ ถ้าคุณแก้ข้อนี้ไม่ได้คุณแย่แน่ๆ
ผมสอนให้ลูกสาวผมให้ครบเพื่อนทุกคนไม่ว่ารุ่นน้องรุ่นพี่ ทุกคนมีประโยชน์กับคุณในทุกเรื่อง มันก็เหมือนกับแบ่งกลุ่มอาการของโรค เพื่อนเรียน เพื่อนเที่ยว เพื่อนคุย ฯลฯ แสดงน้ำใจกับทุกคนก่อน ช่วยเหลือทุกคนตามความสามารถของคุณ ลูกสาวผมมันมีประโยชน์กับเพื่อนเรื่องเดียวคือ เพื่อนคุย เป็นกระโถนให้เพื่อนระบายปัญหาชีวิต และร้องเพลงกล่อมเพื่อน เพื่อนของมันก็เป็นห่วงไม่เข้าใจอะไรก็พยายามติวให้ ผมก็สอนว่าจะถามอะไรเพื่อนอย่าถามทั้งบทเพื่อนจะท้อ ให้ทำความเข้าใจเองก่อนติดตรงไหนค่อยถามแล้วกับมาทำความเข้าใจด้วยตัวเองต่อให้จบ

4.มองโลกในแง่ดี ปัญหาทุกอย่างมีทางออก ค่อยๆคิดค่อยๆทำ เรื่องไหนไม่ได้ก็อ่านผ่านๆไปก่อนค่อยถามคนอื่นที่หลัง เน้นเรื่องที่เราเข้าใจ ได้สามในสี่ก็น่าจะผ่านไปได้

ขอให้คุณโชคดี ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรค์ไปได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2012, 01:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำถามที่น่าเห็นใจครับ เป็นปัญหาที่ต้องหาทางผ่านไป

เรื่องการเรียนนั้นผมไม่เข้าใจวิชาต่างๆทางแพทย์จึงไม่ขอตอบเพราะจะสับสนยิ่งขึ้น

แต่เรื่องการเชื่อมโยงต่างๆ น่าจะเกี่ยวข้องกับหลักอิทัปปัจจยตาคือสิ่งหนึ่งมีเพราะสิ่งหนึ่งเป็นเหตุ

เกี่ยวข้องกันไปเป็นเส้นสาย ทั้งสิ่งที่เห็น และไม่เห็น แต่มันต้องเชื่อมโยงตามความจริง

ผมว่าการเรียนแพทย์คือการเรียนความจริงของโรคต่างๆ ถ้าเราเข้าใจที่มาที่ไป

เราคงเชื่อมโยงได้ตลอดสาย


ส่วนเรื่องคนนั้นผมก็ไม่ชอบอยู่กับคนหมู่มาก ถ้าคนที่ไม่ดีผมก็ไม่สุงสิงเกินหน้าที่

แต่การทำงานร่วมกันก็เหมาะสมตามหน้าที่ ต้องปล่อยวางเป็นอย่าสนใจคำพูดคนที่คุมปากไม่ได้


รื่องการซึมเศร้าคงเพราะคุณกังวลกับปํญหา ลองปล่อยวางโดยใช้วิธีแนวท่านพุทธทาส

น่าจะเหมาะกับแนวนักศึกษาสมัยใหม่อย่างคุณ มีหลายวิธี :b30:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2012, 02:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


1 ต้องเข้าใจแนวความคิดก่อนครับ เช่น คนที่สนใจในธรรมะ แนวความคิดก็จะเป็นแบบ ร่างกายเราไม่มี ที่เห็นเพราะการประกอบกันของธาตุทั้ง4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ นี่คือแนวความคิดครับ ทั้งๆที่เป็นแนวความคิดของคนที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ยังไม่ได้ปัญญา ก็ยังตอบว่าเป็นการประกอบกันของธาตุทั้ง4ครับ
เช่นเดียวกันกับวิชาที่คุณกำลังศึกษาอยู่ ต้องรู้แนวความคิดก่อนว่า จุดประสงค์ของวิชานี้ต้องการสื่ออะไรครับผม ก็จะได้คำตอบ แม้เรายังอาจจะไม่ได้รู้ลึกซึ้งแต่คำตอบของเราก็จะตรงกับจุดประสงค์ครับผม

2 ต้องรักษาสติครับ ไม่ใจลอย

3 พูดแต่ความจริงครับผม พูดในเรื่องที่เป็นประโยชน์ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

4 จริงๆ คุณเป็นคนที่สุขภาพดีครับ ปัญหาที่เกิดล้วนเป็นปัญหาทางโลก จิตเราเศร้าหมองเพราะเราเอาจิตเราไปพัวพันเองครับ ยิ่งคุณสนใจธรรมะ ยิ่งเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นที่คุณจะวางเฉยกับปัญหาเหล่านี้

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2012, 03:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องจขกทครับ ง่ายๆและสั้นๆ.......ลาออกซ่ะ
หนูรู้หรือเปล่าว่า....อาชีพหมอมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตคนไข้
ถ้าหนูไม่พร้อมหรือไม่เต็มร้อยแล้ว จะเอาชีวิตของคนมาเสี่ยงได้อย่างไร

อย่าลืมว่า ชีวิตของคนไข้หนึ่งคน มีค่าเท่ากันกับชีวิตคุณแม่ของคุณหนู
คุณแม่ที่ไม่คำนึงถึงผลในภายหน้า ขออย่างเดียวให้ลูกได้เป็นหมอ เพื่อจะได้
เชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลาน่ะ

วิธีที่ดีทึ่สุด ต้องลาออกไปหาอย่างอื่นที่ตัวเองถนัดเรียนหรือทำ
แล้วก็บอกคุณแม่ด้วยว่า ..............
ชื่อเสียงมันมาจากผลงาน ชื่อเสียงไม่ได้มาจากภาพลักษณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2012, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ที่รู้ตัวว่าตนบกพร่องตรงไหนแล้วค่อยๆแก้ตรงจุดนั้น เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วครับ ค่อยๆแก้ค่อยๆปรับไป


จขกท. มีพื้นจิตใจค่อนข้างดีมีคุณธรรม ทั้งใฝ่รู้ คิดจะทำนั่นนี่เพื่อสังคมเพื่อผู้อื่น หากจบมาทำงานน่าจะทำหน้าที่นี้ได้ดีทีเดียว :b1:


อ้างคำพูด:
ทำอย่างไรหนูจะหายจากสภาพจิตใจ เศร้า กังวล เหงาแบบนี้คะ หนูรู้สึกลึกๆว่าการกินยาไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แม้จะทำให้หนูไม่จมกับอารมณ์มากกว่าเดิมก็ตาม


ปัญหาเกิดจากการเรียน ซึ่งทำไม่ได้ดังใจต้องการ จึงเกิดอาการดังว่าเป็นธรรมดาครับ ไม่ใช่เรื่องแปลก

จขกท. ชอบออกกำลังกาย...วิ่ง ว่ายน้ำ เช้า-เย็น ควรออกกำลังกายโดยเดินเร็วๆหรือวิ่งเยอะๆ (เหมือนฝึกทหารใหม่) แล้วแต่สถานที่ พึงปล่อยวางทุกเรื่องในหัวไว้ก่อน มาสนใจเรื่องที่กำลังทำคือวิ่ง โดยให้จิตเกาะติดเท้าซ้าย-ขวา ที่สลับไปสลับมา (ว่าในใจไปด้วย) ซ้าย-ขวา ซ้าย ขวา ฯลฯ ซ้ายๆๆขวาซ้าย...ได้เหงือแล้วค่อยอาบน้ำอาบท่าทำจิตใจสบายๆ ค่อยๆทบทวนบทเรียน

ความคิดที่ขีดใต้ จขกท. เข้าใจถูกต้องแล้ว กินยายังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ยาถ้ากินบ่อยๆจะเกิดผลข้างเคียงและติดด้วย ติดแล้ววันไหนไม่กินก็ไม่หาย

อีกอย่างหนึ่งแม่ รู้สึกเหงาๆ ก็โทรคุยกับแม่บ้าง เล่าอะไรต่ออะไรให้ท่านฟัง :b1:

อ้อ...เรียนจบเป็น พ.ญ. เมื่อไหร่ กรัชกายขอฝากไข้ด้วยนะครับ ครั่นเนื้อครั่นตัวบ่อยๆ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2012, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


น้องควรจะออกกำลังกายตอนเย็น ช่วงที่เราว่างๆบ้างนะ อย่าปล่อยให้ร่างกายแย่ มันจะได้แอคทีฟตัวเองขึ้นมาหน่อย :b39:
อ้างคำพูด:
หนูสนใจเรื่องธรรมะ วิ่ง ว่ายน้ำ หนังสือพัฒนาตนเอง

สนใจเรื่องพวกนี้ก้ดีแล้ว จะได้ผ่อนคลาย สนุกกับมันได้ มีความสุขอย่กับมันแม้ช่วงสั้นๆก้ตามที ความสุขที่ว่าได้จากที่เราสนใจสิ่งเหล่านี้ ส่วนคนอื่นสนใจเรื่องอื่นๆ ก้นั่นเปนความสุขของเขา..... :b40:


อ้างคำพูด:
หนูไม่อยากเป็นคนมนุษยสัมพันธ์แย่เลยค่ะ แต่หนูก็ไม่รู้จักรุ่นน้อง
ก้ลองพูดคุยหรือถามในสิ่งที่อยากร้จากรุ่นน้องบ้าง อย่าไปอายรุ่นน้องมากไป ถามให้หายสงสัย เขาจะบอกหรือตอบไม่ตอบก้เปนอีกเรื่องหนึ่ง ถือว่าเปนอัธยาศรัย การไม่ค่อยร้จักในกลุ่มเรียนปัจจุบันก้เปนปัญหาในการเรียนของเราด้วยเหมือนกัน เวลามีข้อมูลหรืออะไรที่สำคัญ แล้วเรามารู้ช้ากว่าทีหลังเขา เราก้จะแย่ ไม่ว่าเรือ่งในก้ตามที่เกี่ยววิชาเรียนหรืองานหรือการสอบ :b39:

ตอนนี้มีทางเลือกแค่สองทาง คือเดินหน้าเรียนต่อให้จบอย่างยากเย้น กับสองให้ไปเริ่มนับหนึ่งเริ่มปี1 กับคณะอื่นๆที่มันไม่ยากจนเกินไปแทน แต่จะเสียเวลาการเรียนหน่อย เพราะต้องกลับไปเรียนใหม่หรือไม่ก้ต้องโอนไปอย่คณะที่เราพอเรียนไหว อาจจะเริ่มเรียนปีสอง ได้เรย จริงเราต้องถามอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยเวลาทำแบบไหนได้บ้าง แล้วถามใครก้ได้ในมหาลัยที่คิดว่าช่วยได้ น้องมีทางเลือกหลายทาง อย่าว่าคิดว่าไม่มีใครช่วยเราได้ อย่างน้อยก้มีพ่อแม่1 อาจารย์ที่ปรึกษาอีก1 ตัวเราอีก1 และก้ทำใจให้สบาย หาหนังสือธรรมะมาอ่านให้จรรโลงใจซะ วิชาหมอเปนอะไรที่ใช้สมองมาก โดยเฉพาะเคมี ชีวะ ถ้าเราไม่ได้สองวีิชานี้มาแต่ต้น พอเรียนปีสุงๆก้ลำบากอย่างที่น้องเปนนี่แหละ :b41:

ปล.. ควรหาเพลงเพราะๆช้าๆ มาฟัง ให้เราปลอดโปร่ง โล่งสบาย อารมณ์จะได้นิ่มนวลลง ทำให้บรรเทาความเครียดลงมาได้ และมีวัดไหนใกล้ๆ ก้แวะไปทำบุญบ้าง ถ้าเราว่างๆช่วงเสารอาทิตย์ คงมีมอเตอรไซด์อย่ใช่มะ นั่นแหละใช้เปนพาหนะเดินทางไปได้เรย หรือจะไปดูหนัง ชอปปิ้งของที่เราชอบ เราก้หาเวลาไปบ้าง อย่าไปจมปลักอย่ความทุกข์ คือออกจากมันมาสักพัก แล้วค่อยกลับเข้าเผชิญเข้ากับมันใหม่อีก.. ขอเปนกำลังใจอีกที ในโลกนี้ ไม่ควรที่จะสิ้นหวังอะไรง่ายๆนะ มีความหวังรอเราอย่เสมอ.... :b40: :b39: :b40: :b39: :b40: :b39: :b40: :b39: :b40: :b48:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:
มีกลางคืน ก้ย่อมมีกลางวัน สลับกันไป สุข ทุกข์ ก้ย่อมเกิดขึ้นกับตัวเราอยู่เสมอ......... :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2012, 10:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 293

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


ทำอะไรแล้วไม่มีความสุข ทำแบบฝืนกับมัน สุดท้ายคนที่พ่ายแพ้ก็คือตัวเราเองครับ
ผมกับน้องคงคล้ายๆกัน
ขอเล่าประสบการณ์ช่วงเรียน
ผมมาจากต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอาชีพเท่าใด
แรกๆผมเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ม.แถวๆสามย่าน ชื่อคล้ายๆมหาวิทยาลัยสงฆ์
เรียนมาสองปี เริ่มรู้เรื่องแนวทางการทำงานและความชอบ อีกทั้งเป็นคนชอบแมว ก็มาสอบใหม่ เข้าเรียนคณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.ที่เดียวกันอีก แต่สุดท้าย มันไม่ใช่อ่ะ ชอบสัตว์ แต่ไม่ได้ชอบรักษาสัตว์
ชอบสัตว์สวยๆงามๆน่ารัก แต่สัตว์ที่มาหาหมอ สภาพนี่น้องก็คงพอรู้ ไม่ต่างจากคนหรอก
สุดท้าย แต่กว่าจะรู้ตัว ก็เบญจเพสแล้ว
ต้องตัดสินใจมาทางที่คิดว่าตรงกับตัวเองสุดๆ คือนิติศาสตร์ และตอนนี้ก็รับราชการ เป็นนิติกร ชีวิตก็บริบูรณ์ไปด้วยธรรมดีครับ
คิดว่าถ้าฝืนเรียนวิทยาศาสตร์ หรือฝืนเรียนสัตวแพทยศาสตร์ ต่อ ผมคิดว่าจบมาผมก็ไม่ทำอาชีพนั้นอยู่ดี ผมก็คงไปค้าขาย หรือเรียนนิติศาสตร์อยู่ดี

ส่วนประเด็น มนุษยสัมพันธ์ ขอแค่ไม่ถือตัว รู้จักก่อนน้อม พูดจาไพเราะ อย่าถือตัวรุ่นพี่รุ่นน้อง แม้คนอายุน้อยกว่าผมยังเคารพเค้าเลย เราต้องเข้าหาเค้าครับ รุ่นน้องเค้าคงอายจะมาหาเรา ฉะนั้นเราต้องเป็นฝ่ายก้าวเข้าไปเอง อย่ากลัว เมื่อลดความกลัว และทิฐิมานะแห่งตนลงไปแล้ว สุดท้ายจะดีเองครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆ ครั้งสมัยที่ท่านพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น พำนักกับท่านท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส ท่านเจ้าคุณอุบาลี แม้จะเป็นผู้ใหญ่กว่าท่านหลวงปู่มั่น แต่ท่านก็ยังไม่เคยถือตัว ทางเคารพนพนอบหลวงปู่มั่นเสมอ นี่คือตัวอย่างที่ควรปฏิบัติตามครับ

ส่วนประเด็นการเรียน การอ่าน ผมว่าน้องรู้ดีแล้วแหละ ว่าแต่จะทำไหม
อยากรู้ไหมว่าทำไม อ่านแล้วไม่จำ
คนเรา ถ้าให้อ่านเรื่องที่ไม่ชอบ อ่านเป็นสิบๆรอบ ยังจับสาระไม่ได้เลย
แต่ถ้าเรื่องที่ชอบ เรื่องที่สนใจ แม้ผ่านตาเพียงแว๊บ ปัญญาก็เกิดได้ทันทีครับ
และรู้อะไร พิจารณาอะไร ให้พิจารณาด้วยปัญญา ห้ามเอาสัญญามมาพิจารณาเด็ดขาด :b44:

ประเด็นสุดท้าย ผมถือว่าสำคัญที่สุด สำคัญกว่าประเด็นแรกๆที่น้องเล่ามา
นั่นคือประเด็นสภาพทางใจ :b45:
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าน้องเป็นอะไร ถึงต้องทานยาครับ
น้องเป็นหมอ น่าจะวินิจฉัยได้ อาการของน้องไม่ใช่โรคที่รักษาหายด้วยยาครับ
การใส่ยาก็เหมือนการเอาน้ำไปรดต้นไม้ปลอม รดไปนานแค่ไหน ไม้นั้นก็ไม่เจริญงอกงามครับ
ฉะนั้นแล้ว ลองมาใช้ปัญญาพิจารณา น้องเศร้า น้องเหงา น้องกังวล ถามว่าอาการนี้เกิดที่ไหนครับ
เกิดกับจิตใจหรือสมอง?? เป็นซิมพาเทติคหรือพาราซิมพาเทติค??
ตอบให้ก็ได้ ปัญหานั้น ไม่ได้เกิดจากอะไรทั้งนั้น สังเกตุง่ายๆ ถ้าปัญหานั้นหาย
ความเศร้าเหงากังวล หายไป จิตใจหรือสมองน้องยังอยู่ไหม?? ตอบ ยังอยู่
ฉะนั้น ร่างกาย จิตใต สมอง ไม่ใช่ สมุทัย
แล้วสมุทัยอยู่ตรงไหนล่ะครับ น้องปรุงแต่งมันขึ้นมาเองทั้งนั้น อยากหาย ก็ตัดครับ
ไฟน่ะ มันร้อนนะครับ แล้วจะไปจับ ไปยึด ไปถือมันไว้ทำไม ทำไมไม่วางมันลงล่ะครับ วางปุ๊บ หายร้อนทันใจเลยแหละ :b41:

คงยาวแน่ๆ ขี้เกียจเขียนด้วย ต้องขอโทษทีนะครับ แต่ถ้าอยากรู้ลึกขึ้น PM มาถาม หรือเมล์มาถามได้ครับ

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร