ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ธรรมมะในใจ..
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44050
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  JANDHRA [ 12 ธ.ค. 2012, 22:36 ]
หัวข้อกระทู้:  ธรรมมะในใจ..

ธรรมมะในใจ.. ธรรมชาติ

เรามีสรรพสิ่งรอบตัว.. พอๆ กัน มีท้องฟ้าสีฟ้า มีทะเลสีฟ้าคราม อมเขียวเข้มๆ ..หาดทรายสีขาว มีนกบินบนท้องฟ้า มีสัตว์น่ารักมากมายพอๆ กันให้ได้เห็น ได้ชื่นชมกับความใสซื่อจากอากัปกิริยาที่แตกต่างหลากหลาย ก็เพราะสัญชาติญานของพวกมัน.. ย่อมแน่นอนว่า เรามีเวลาดีๆ กับสิ่งเหล่านี้พอๆ กัน ภูเขา ทะเลหมอก สายน้ำที่ทอดตัวยาวไหลไป น้ำตกส่งเสียงดังๆ เวลากระทบกับน้ำข้างล่าง... แล้วเราทำอะไรกับความงดงามเหล่านี้..

เราได้แต่ปล่อยให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง ตัณหา ราคะ ทำลายเวลาที่จะได้ไปชื่นชมกับสิ่งงดงามตามธรรมชาติ การได้นอนทอดตัวลงเพื่อมองท้องฟ้ากว้างๆ กลางป่า นั่งฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ได้มองดูดาวตกบนยอดเขาที่ปราศจากแสงสีปรุงแต่ง จนตาเปล่าไม่สามารถมองฝ่าแสงไฟเพื่อจะได้มองเห็นกลุ่มดาวที่ทอดแสงลงมายังพื้นโลก และประดับประดาท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ เพราะว่าอะไร..

ความจริง สิ่งหนึ่งที่น่าคิดอีกประการหนึ่งคือ.. การได้กลับมามองธรรมชาติที่งดงามอย่างที่ควรจะเป็นบ้าง อาจทำให้เราได้ละความโลภ โกรธ หลง ตัณหา ราคะไปได้บ้างนะ เพราะธรรมชาติ ปราศจากสิ่งปรุงแต่งด้วยกิเลส มันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น ท้องฟ้า ทะเล หาดทราย ภูเขา น้ำตก และม่านหมอก ที่ไม่มีราคาอะไรเลย.. แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่า มันอาจประมาณราคาไม่ต่างหากว่า ท้องฟ้านี้มีราคาเท่าไร ทะเลนี้ หาดทรายนี้ ภูเขาเทือกนี้ และม่านหมอกนี้ คิดราคากันอย่างไร.. มันเหมือนของว่างเปล่า แต่มันก็ไม่ว่างเปล่า เพราะความงดงามตามธรรมชาติเหล่านี้ใช่หรือไม่ ที่ประดับ ตกแต่งให้โลกใบนี้น่าทัศนาสำหร้บมนุษย์และสรรพสัตว์ สร้างความรัก ความอบอุ่นตามแต่วิถีชีวิตที่เป็นไปทั้งหลายที่เกิดมาอยู่ในสมัยเดียวกัน ให้เวียนไป เวียนมาตามกฏแห่งสังสารวัฏ.. ที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง หรือไม่มีกำหนดเลยก็ได้ สำหรับใครบางคน.. พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า พระองค์ไม่ทรงเห็นกรรมหนักใด จะเท่ากับกรรมของผู้มีมิจฉาทิฏฐิเลย.. เพราะผู้ไม่รู้นั้น ย่อมไม่รู้ว่าดี หรือชั่ว ไม่รู้ว่าทำดี ทำอย่างไร ทำชั่ว คือทำอย่างไร จึงมีความเกิด ดับ วนไปวนมาหมดหนทางจะได้ออกไปจากการเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง..

คงเป็นความจริงว่า หากเราอาศัยความสันโดษ มีวิถีชีวิตอันเรียบง่าย อาศัยไปกับโลกใบนี้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติที่รังสรรค์มาแล้วตามแต่ยุคสมัย เราย่อมพบกับความสุข ที่ไม่โลดโผนนัก และคงรู้จักการเรียนรู้ทำความเข้าใจกับความทุกข์ได้ไม่ยาก เพราะความสันโดษ.. สร้างความพอเพียง ความพอเพียง.. สร้างความพอใจในข้าวของเครื่องใช้อย่างรู้จักค่าของความจำเป็นต้องมี ต้องใช้ ต้องอาศัย และความพอใจในข้าวของเครื่องใช้อย่างรู้จักคุณค่าของความจำเป็นต้องมี ต้องใช้ ต้องอาศัย.. ให้ผลทางอ้อมกับสรรพสิ่งรอบตัวที่สามารถจะอยู่กันอย่างไม่ถูกเบียดเบียน มากไปกว่าที่ควรจะเป็นมากไปนัก.. กำจัดความละโมภไปได้อย่างหนึ่งแล้ว ก็เป็นการตัดห่วงโซ่ของโมหะ โทสะ ตัณหา ราคะให้ขาดจากกันออกไปด้วย

ความละโมภ แม้เป็นเพียงหนึ่งกิเลสในกิเลสอีกหลายตัว แต่เมื่อกำจัดละโมภได้หนึ่งตัว ตัวที่เหลือก็ขาดจากกันแบบต่อไม่ติดไปโดยปริยาย เพียงแต่ว่าต้องกำจัดตัวใดตัวหนึ่งนั้นให้ได้สิ้น หรือละตัวใดตัวหนึ่งให้ได้ ตัวอื่นๆ ก็จะเบาบางลงไป มันผูกกันมานั่นเอง เหมือนแหที่เขาจับปลา ถ้าปลาตัวใดตัวหนึ่ง ทำช่องให้ตาข่ายตรงที่ใดขาดเสียแล้ว ปลาตัวอื่นๆ ก็หลุดออกไปหมดได้เหมือนกัน และในทางเดียวกัน หากผู้ใดมีความละโมภแล้ว คงไม่ต้องอธิบายเลยว่า ชีวิตที่เหลือจากนี้ จะมีเวลาที่เหลือเป็นอย่างไรกัน..

ธรรมชาติ สร้างความสุขให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้มาอาศัยผ่านยุค สมัย หรือก็คือเกิด ดับไปตามแต่เหตุ ปัจจัยของกรรมที่กระทำกันไว้ แล้วทำไม เราถึงไม่ยอมรับความสุขที่ธรรมชาติสร้างสรรค์แบบให้เปล่า ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน เพื่อต่างคนต่างใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อกันและกัน นับจากนี้ด้วยกันอย่างสงบสุข ลองหันกลับมาอาศัยธรรมชาติบ้างนะ เผื่อว่า..จะได้ดิ้นรนเพื่อหาสิ่งตอบแทนให้กับสิ่งปรุงแต่ง อย่างมีเงื่อนไข และแลกเปลี่ยน.. น้อยลง..

ไฟล์แนป:
river view beau.jpg
river view beau.jpg [ 38.95 KiB | เปิดดู 1612 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 16 ธ.ค. 2012, 09:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมมะในใจ..

:b35: :b35: :b35:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 16 ธ.ค. 2012, 11:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ธรรมมะในใจ..

อ่านแล้ว รู้สึก ดื่มด่ำ ดื่มดิ่ง รักธรรมชาติ สันติ สุข สงบ ใช่ม๊า

"พระอาทิตย์" "พระจันทร์" ไม่ขึ้นใน "นิพพาน" นะ

:b5: :b2: :b2: :b6:

:b12: :b16: :b16: :b12:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/