วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 10:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




q228a34.gif
q228a34.gif [ 10.08 KiB | เปิดดู 2572 ครั้ง ]
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ทุกข์ทั้งน๊า.......น นี่แหละสติ



อันนี้เพ้อเจ้อ ตามไปตามตัวอักษร :b1:
ถ้ายังมองไม่เป็นอย่างนี้สติก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะทุกข์ในอริสัจข้อที่1ควรกำหนดรู้ คือมันทุกข์ทั้งน๊า...................น จะไม่มีทางละสมุทัยได้ครับ


นักปฏิบัติอย่าคิดเองเออเอง ว่าจะต้องเป็นยังงั้น ไม่เป็นยังงี้ ละนั่น ละนี่ นั่นเพ้อเจ้อเห็นๆ เราไม่ได้ละเองจำไว้ ปฏิบัติถูกต้องแล้วมันละของมันเอง ตามธรรมดาของมัน

เมื่อได้หลักแล้วเราจะต้องลงมือปฏิบัติลงมือภาวนา พอเข้าใจไหมครับ :b1:

ก็อีกแหละ เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติก็ไปคิดเองเออเองอีก วนไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง เหมือนงูกินหางตัวเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ทุกข์ทั้งน๊า.......น นี่แหละสติ



อันนี้เพ้อเจ้อ ตามไปตามตัวอักษร :b1:
ถ้ายังมองไม่เป็นอย่างนี้สติก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะทุกข์ในอริสัจข้อที่1ควรกำหนดรู้ คือมันทุกข์ทั้งน๊า...................น จะไม่มีทางละสมุทัยได้ครับ


นักปฏิบัติอย่าคิดเองเออเอง ว่าจะต้องเป็นยังงั้น ไม่เป็นยังงี้ ละนั่น ละนี่ นั่นเพ้อเจ้อเห็นๆ เราไม่ได้ละเองจำไว้ ปฏิบัติถูกต้องแล้วมันละของมันเอง ตามธรรมดาของมัน

เมื่อได้หลักแล้วเราจะต้องลงมือปฏิบัติลงมือภาวนา พอเข้าใจไหมครับ :b1:

ก็อีกแหละ เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติก็ไปคิดเองเออเองอีก วนไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง เหมือนงูกินหางตัวเอง
ถ้ามองไม่ออกว่าทุกข์ทั้งน๊า.........นก็ยังอีกไกลเพราะโยนิโสยังไม่ตรง ส่วนใครจะคิดเอาเอง อย่างนั้นอย่างนี้นั้นแหละเพ้อเจ้อ ก็แล้วแต่ใครๆ แล้วจะไปปฎิบัติอย่างไร

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ทุกข์ทั้งน๊า.......น นี่แหละสติ



อันนี้เพ้อเจ้อ ตามไปตามตัวอักษร :b1:
ถ้ายังมองไม่เป็นอย่างนี้สติก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะทุกข์ในอริสัจข้อที่1ควรกำหนดรู้ คือมันทุกข์ทั้งน๊า...................น จะไม่มีทางละสมุทัยได้ครับ


นักปฏิบัติอย่าคิดเองเออเอง ว่าจะต้องเป็นยังงั้น ไม่เป็นยังงี้ ละนั่น ละนี่ นั่นเพ้อเจ้อเห็นๆ เราไม่ได้ละเองจำไว้ ปฏิบัติถูกต้องแล้วมันละของมันเอง ตามธรรมดาของมัน

เมื่อได้หลักแล้วเราจะต้องลงมือปฏิบัติลงมือภาวนา พอเข้าใจไหมครับ :b1:

ก็อีกแหละ เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติก็ไปคิดเองเออเองอีก วนไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง เหมือนงูกินหางตัวเอง


ถ้ามองไม่ออกว่าทุกข์ทั้งน๊า.........นก็ยังอีกไกลเพราะโยนิโสยังไม่ตรง ส่วนใครจะคิดเอาเอง อย่างนั้นอย่างนี้นั้นแหละเพ้อเจ้อ ก็แล้วแต่ใครๆ แล้วจะไปปฎิบัติอย่างไร


เอางี้ น้องbig เห็นทุกข์ด้วยตัวเองหรือยัง ถ้าว่าเห็น ทุกข์อะไรไหนบอกหน่อยดิ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ทุกข์ทั้งน๊า.......น นี่แหละสติ



อันนี้เพ้อเจ้อ ตามไปตามตัวอักษร :b1:
ถ้ายังมองไม่เป็นอย่างนี้สติก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะทุกข์ในอริสัจข้อที่1ควรกำหนดรู้ คือมันทุกข์ทั้งน๊า...................น จะไม่มีทางละสมุทัยได้ครับ


นักปฏิบัติอย่าคิดเองเออเอง ว่าจะต้องเป็นยังงั้น ไม่เป็นยังงี้ ละนั่น ละนี่ นั่นเพ้อเจ้อเห็นๆ เราไม่ได้ละเองจำไว้ ปฏิบัติถูกต้องแล้วมันละของมันเอง ตามธรรมดาของมัน

เมื่อได้หลักแล้วเราจะต้องลงมือปฏิบัติลงมือภาวนา พอเข้าใจไหมครับ :b1:

ก็อีกแหละ เมื่อลงมือภาวนาลงมือปฏิบัติก็ไปคิดเองเออเองอีก วนไปวนมา เหมือนพายเรือในอ่าง เหมือนงูกินหางตัวเอง


ถ้ามองไม่ออกว่าทุกข์ทั้งน๊า.........นก็ยังอีกไกลเพราะโยนิโสยังไม่ตรง ส่วนใครจะคิดเอาเอง อย่างนั้นอย่างนี้นั้นแหละเพ้อเจ้อ ก็แล้วแต่ใครๆ แล้วจะไปปฎิบัติอย่างไร


เอางี้ น้องbig เห็นทุกข์ด้วยตัวเองหรือยัง ถ้าว่าเห็น ทุกข์อะไรไหนบอกหน่อยดิ :b10:
ผมเจ็บเล็บขบ :b13:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:
ขนาดนี้พี่ว่าผมไม่เห็นทุกข์เหรอ เล็บขบนะมันสุดๆแล้ว ทำบุญตักบาตร รักษาศิล ลด ละ เลิกกิเลส ตัณหา นั่งสมาธิ เจริญปัญญาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:


ขนาดนี้พี่ว่าผมไม่เห็นทุกข์เหรอ เล็บขบนะมันสุดๆแล้ว ทำบุญตักบาตร รักษาศิล ลด ละ เลิกกิเลส ตัณหา นั่งสมาธิ เจริญปัญญาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายครับ



ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร เห็นแล้วเวทนาจริงๆ :b1:

เล็บขบก็ตัดเล็บตรงที่มันแทงเนื้อออกเสียก็หาย หรือเป็นมากหน่อยก็ไปหาหมอให้หมอตัดเล็บตรงนั้นออก ก็หาย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 11:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:


ขนาดนี้พี่ว่าผมไม่เห็นทุกข์เหรอ เล็บขบนะมันสุดๆแล้ว ทำบุญตักบาตร รักษาศิล ลด ละ เลิกกิเลส ตัณหา นั่งสมาธิ เจริญปัญญาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายครับ



ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร เห็นแล้วเวทนาจริงๆ :b1:

เล็บขบก็ตัดเล็บตรงที่มันแทงเนื้อออกเสียก็หาย หรือเป็นมากหน่อยก็ไปหาหมอให้หมอตัดเล็บตรงนั้นออก ก็หาย
จะต้องตัดกันอีกกี่ร้อยชาติพันชาติและครับ ตัดปัญหาใหญ่ที่เดียวเลยจบ :b13:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1077216.gif
1077216.gif [ 33.96 KiB | เปิดดู 2555 ครั้ง ]
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:


ขนาดนี้พี่ว่าผมไม่เห็นทุกข์เหรอ เล็บขบนะมันสุดๆแล้ว ทำบุญตักบาตร รักษาศิล ลด ละ เลิกกิเลส ตัณหา นั่งสมาธิ เจริญปัญญาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายครับ



ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร เห็นแล้วเวทนาจริงๆ :b1:

เล็บขบก็ตัดเล็บตรงที่มันแทงเนื้อออกเสียก็หาย หรือเป็นมากหน่อยก็ไปหาหมอให้หมอตัดเล็บตรงนั้นออก ก็หาย
จะต้องตัดกันอีกกี่ร้อยชาติพันชาติและครับ ตัดปัญหาใหญ่ที่เดียวเลยจบ :b13:



น้อง big นี่บ้าธรรมะแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ตะวันตกจริงๆนะเนีย มันเกี่ยวอะไรกับเล็บขบเล่า ไม่ธรรมดาๆ :b17:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
ผมเจ็บเล็บขบ


ทุกข์อะไร? แล้วทำไงจึงหาย :b1:


ขนาดนี้พี่ว่าผมไม่เห็นทุกข์เหรอ เล็บขบนะมันสุดๆแล้ว ทำบุญตักบาตร รักษาศิล ลด ละ เลิกกิเลส ตัณหา นั่งสมาธิ เจริญปัญญาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายครับ



ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร เห็นแล้วเวทนาจริงๆ :b1:

เล็บขบก็ตัดเล็บตรงที่มันแทงเนื้อออกเสียก็หาย หรือเป็นมากหน่อยก็ไปหาหมอให้หมอตัดเล็บตรงนั้นออก ก็หาย
จะต้องตัดกันอีกกี่ร้อยชาติพันชาติและครับ ตัดปัญหาใหญ่ที่เดียวเลยจบ :b13:



น้อง big นี่บ้าธรรมะแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ตะวันตกจริงๆนะเนีย มันเกี่ยวอะไรกับเล็บขบเล่า ไม่ธรรมดาๆ :b17:
ทุกข์ขนาดนั้นยังจะมาอยู่ให้มันทุกข์อีกเหรอ รู้แล้วก้ต้องแจวแน็...บแล้วล่ะพี่ :b13:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
"มาสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติ"
หลักการปฏิบัติ
ความหมายคำว่าสติปัฏฐาน
สติปัฏฐาน คือ การตั้งสติระลึกรู้เต็มตื่นอยู่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น กำลังเป็นไปอยู่ กำลังรับรู้ หรือ กำลังกระทำในปัจจุบันทันทุกๆขณะ

พอเข้าใจมั้ยครับ :b1:

ทนไม่ไหวเห็นสองคนนี้เอาธรรมมาปูยี้ปูยำ คุยกันหาสาระไม่ได้ลากกระทู้
ไปตั้งสองหน้าเปลิ้องเปล่าประโยชน์.....เอามาฟังว่าสติปัฎฐานคืออะไร :b13:

สติปัฏฐาน 4 ที่ตั้งของสติ
การตั้งสติกำหนดพิจารณาสิ่งทั้งหลายให้รู้เห็นตามความเป็นจริง คือ
ตามที่สิ่งนั้นๆ มันเป็นของมันเอง


อธิบายตามความหมายข้างบน การทำสติปัฏฐาน คือการใช้สติมาระลึกรู้
สัมมาทิฐิมาเป็นหลักในการพิจารณาธรรม ธรรมที่ว่าก็คือทุกข์

นั้นคือผู้ที่จะทำสติปัฏฐานเพื่อการตรัสรู้ได้นั้นจะต้อง
มีปัญญาสัมมาทิฐิแล้วเท่านั้น สติปัฏฐานไม่ใช่ทำเพื่อหาปัญญาสัมมาทิฐิ
แต่สติปัฏฐานเป็นสติที่ประกอบด้วยปัญญาสัมมาทิฐิ เป็นองค์ธรรมเพื่อปัญญาวิมุตติ
หรือการดับทุกข์


เห็นหลายคนในนี้เข้าใจผิดคิดไปเองว่า การทำสติปัฏฐานเป็นการทำ
เพื่อหาปัญญาสัมมาทิฐิ ไม่ใช่ครับ แต่มันเป็นการทำเพื่อละกิเลสครับ

จำไว้เลยว่า การใช้สติปัฏฐานทำเพื่อละกิเลสเพื่อการดับทุกข์
ส่วนสติธรรมดาคือการระลึกรู้ให้จิตอยู่กับปัจจุบัน เพื่อหาไตรลักษณ์ หาปัญญาสัมมาทิฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับจัง ลองบอกทุกข์ตามที่ตัวเองพูดถึงดิ ว่าปายยยยย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าทุกท่านแสดงความเห็นตามความสนใน ความเข้าใจ และแจ้งใจของตน

เหมือนคนที่รู้ เข้าใจ ชำนาญและเชื่อมั่นในวิชาชีพของตนนั้นๆ

ผมเองก็ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในความเห็นของหลายๆท่าน

แต่ที่ผมเข้าใจและเชื่อมั่นว่า ทุกท่านล้วนมุ่งหมายสู่ความดับทุกข์กันทั้งนั้น

ขอให้เราเดินทางถึงความดับทุกข์ตามวิธี ตามความเข้าใจ และแจ้งใจของตนทุกท่านทุกคนเทอญ smiley

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ไว้เห็นมันจริงๆก่อนเถอะ มันจะลดลงเอง แล้ว จะไม่บ้าไปเชื่อมัน

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2012, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ไว้เห็นมันจริงๆก่อนเถอะ มันจะลดลงเอง แล้ว จะไม่บ้าไปเชื่อมัน

:b8:
อยากเห็นทุกข์จังๆไมไปที่โรงพยาบาลไปที่ตึกอุบัติเหตุนะจะได้เห็นจังๆเลย จะได้เบื่อไวๆ วัฎฎะนะมันโหดร้ายสุดๆแล้ว โกยกันเถอะอย่าช้าเลย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 42 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 117 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร