[phpBB Debug] PHP Notice: in file /includes/functions.php on line 35: htmlspecialchars(): Invalid multibyte sequence in argument
แสดงกระทู้ - มีปัญหากับการนั่งสมาธิ ขอวิธีแก้ไขหน่อยเจ้าค่ะ • ลานธรรมจักร
วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 15:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 135 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 16:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าง ๆ .. แวะมาเยี่ยมบ้างเด้อออ ..

:b29: :b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท. อำลาบอร์ดแล้ว

จึงนำความหมายคำว่า นิมิต ที่ใช้พูดในทางธรรมดังนี้ นิมิต คือ เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนด หรือภาพที่เห็นในใจ (ขณะปฏิบัติกรรมฐาน)

ที่นี่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... n#msg15785

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ส.ค. 2012, 22:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
แล้วคุณน้องเป็นยังไง ถ้านั่งหันหลังอยู่ดีๆมีเพื่อนเอามือเย็นๆมา
จับที่แขนเรา...สะดุ้ง...อะไรหรือเปล่า

คุนน้องตอบ..ถ้าตอนปกติไม่ได้นั่งสมาธิ จะไม่เป็นไม่สะดุ้งไม่ตกใจอะไรง่ายๆ เป็นตอนนั่งสมาธิแค่นั้นเจ้าค่ะ

น้องก้องฝึกกำหนดสติระหว่างวันยังไงกันบ้าง
ได้กำหนดสติแต่ตอนนั่งสมาธิเท่านั้นเหรอ
นั่งวันหนึ่งได้นานแค่ไหน???
แล้วไปเข้าเว็บหรือดูยูทูปดูโทรทัศน์นานแค่ไหน
ในแต่ละวัน

ส่วนใหญ่คุนน้องจะวิปัสนาคือตามรู้ ลมหายใจ มากกว่านั่งสมาธิ นั่งสมาธิแล้วแต่อารมณ์ค่ะ นั่งแปบเดียวไม่เกิน 1ชม. ส่วนเล่นยูทูป จะเข้าไปดูอะไรที่เราอยากรู้หรืออะไรที่เราไม่เคยรู้ จะดูจนกว่าเราจะไม่อยากดูก็ไม่ได้กำหนดน่ะเจ้าค่ะว่านานแค่ไหน แล้วแต่สะดวกจะดูตอนลูกหลับ
แล้วมันจะเว้นช่วงห่างไป2-3วันคือเบื่อ แล้วพอนึกอยากรู้อยากเห็นอะไรก็จะเข้ามาดูแบบนี้ค่ะ ส่วนทีวีไม่ค่อยดูและไม่ติดละครเลย คือเบื่อมาก :b45:

คือช่วงนี้คุนน้องนั่งสมาธิและตามรู้ดูจิตของตน อธิบายสภาวะไม่ถูกแฮะ คือคุนน้องหลับตาและประสาทการรับรู้ของตนมันชัดขึ้น คือตามรู้ผัสสะที่เกิดขึ้นในร่างกาย รู้สึกหน้าตัวเองมีอาการชาสักพักก็หายไป แล้วต่อมาก็เริ่มรู้ว่าปวดหนึบๆตรงระหว่างคิ้วสักพักก็หายไป ต่อมาก็รู้สึกถึงแรงพัดลมที่มากระทบใบหน้าและเส้นผม ได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่เดินผ่านไปผ่านมา(หลับตาอยู่นะเจ้าค่ะ) สักพักจิตจะสะดุ้งเฮือกใหญ่เลยเมื่อได้ยินอะไรที่ดังขึ้นกว่าปกติ คือจิตเรามันสงบแล้วมาเจอเสียงทำให้เราสะดุ้งแต่ก็กำหนดรู้ไปว่าเราสะดุ้ง แต่รู้สึกไม่ค่อยดีเลย แบบนี้คุนน้องควรจะเลิกนั่งดีไหมเจ้าค่ะ ถ้าเราเข้าสมาธิระดับลึกแล้วมาเจอเสียงดังๆแล้วเราตกใจแบบนี้กลัวกรรมฐานแตก มีวิธีแก้ไขยังงัยดีเจ้าค่ะ




ตะวัน เขียน:


เอาตอบสรุปเอาใจความแบบนี้เลยดีกว่านะ
การที่เราปฏิบัติหรือทำอะไรก็ตามเราต้องรู้ว่าการปฏิบัติของเรานั้นก้าวหน้า
ไปแค่ไหนแล้ว หรือว่ายังคงย่ำอยู่กับที่ หรือถอยหลังเข้าคลอง

ซึ่งการที่เราจะรู้ว่าการปฏิบัติของเรานั้น
ก้าวหน้าไปแค่ไหนแล้วนั้นเราก็จะต้องมีการพิสูจน์การปฏิบัติของเราเรื่อยๆเป็นระยะๆ
หรือพิสูจน์ได้ทุกวันยิ่งดี

ส่วนการพิสูจน์ก็ตามที่ผมโพสต์เอาไว้ให้อ่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วนั่นแหละ
คือใช้การทำความเพียรเดินจงกรมหรือนั่งสมาธินานๆในรูปแบบเป็นการพิสูจน์ตรวจสอบ
ว่าวันนี้หรือช่วงนี้จิตใจเราสงบเย็นดีหรือเปล่า???

ถ้าช่วงนี้จิตใจเรายังดียังสงบเย็นอยู่
ก็จะสามารถนั่งนานๆเดินนานๆได้อย่างสบายๆโดยไม่รู้สึกว่าได้ฝืนอะไรมากมาย
ยิ่งรู้สึกว่าไม่ต้องได้ฝืนเลยยิ่งแสดงว่าการภาวนาของเราก้าวหน้าไปมาก

แต่ถ้านั่งแค่ชั่วโมงก็จะใจขาดตายแล้วก็ให้รู้ไว้เลยว่ายังไม่ไปถึงไหนเลยหรือถอยหลังเข้าคลองไปแล้ว

ก็จำเป็นมากนะสำหรับการตรวจสอบจิตใจของเราในแต่ละวัน
ด้วยการนั่งภาวนาในรูปแบบเป็นการตรวจสอบหรือจะเดินจงกรมตรวจก็ได้เหมือนกัน

สิ่งที่ผมเอามาพิสูจน์การปฏิบัติของผมว่าก้าวหน้า หรือถอยหลัง
ก็คือตามที่บอกเอาไว้นั้นล่ะ คือใช้การเดินจงกรมนั่งสมาธิในรูปแบบมาพิสูจน์

บางคนพูดธรรมะเป็นคุ้งเป็นแควน้ำไหลไฟดับ แต่พอให้มานั่งสมาธิหรือเดินจงกรมพิสูจน์
ให้ดูว่าใจคุณนั้นนิ่งสงบจริงเหมือนอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า????
กลับนั่งหรือเดินไม่ถึงชั่วโมงก็จะใจขาดตายคาที่นั่งสมาธิหรือคาทางจงกรมแล้ว
แบบนี้เรียกว่า...ดีแต่ปาก แต่ทำไม่ได้เหมือนอย่างที่พูด....

แบบที่น้องก้องทำ ที่ว่านั่งแป๊ปเดียวไม่เกินชั่วโมงนั้น ผมว่าแทบจะเอาไปพิสูจน์อะไร
ไม่ได้เลย มันน้อยเกินไป
อย่างต่ำที่น้อยที่สุดก็น่าจะนั่งไม่ให้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงนะ
แต่ถ้ายิ่งนั่งได้เยอะกว่านี้ก็ยิ่งดี

แล้วตอนนั่งผมว่าให้น้องก้องนั่งกำหนดลมหายใจตามรู้ลมหายใจเหมือนอย่างที่ทำตอนไม่ได้นั่งจะดีกว่านะ ไม่ต้องไปกำหนดรู้สิ่งภายนอกอย่างพวกที่น้องก้องบอกมาว่า

+++ตามรู้ผัสสะที่เกิดขึ้นในร่างกาย รู้สึกหน้าตัวเองมีอาการชาสักพักก็หายไป แล้วต่อมาก็เริ่มรู้ว่าปวดหนึบๆตรงระหว่างคิ้วสักพักก็หายไป ต่อมาก็รู้สึกถึงแรงพัดลมที่มากระทบใบหน้าและเส้นผม ได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่เดินผ่านไปผ่านมา(หลับตาอยู่นะเจ้าค่ะ) สักพักจิตจะสะดุ้งเฮือกใหญ่เลยเมื่อได้ยินอะไรที่ดังขึ้นกว่าปกติ
+++คุนน้องตอบ..ถ้าตอนปกติไม่ได้นั่งสมาธิ จะไม่เป็นไม่สะดุ้งไม่ตกใจอะไรง่ายๆ เป็นตอนนั่งสมาธิแค่นั้นเจ้าค่ะ


ถ้าผลจากการนั่งออกมาเป็นแบบนี้ผมว่าวิธีการที่ทำตอนนั่งไม่ถูกแล้วล่ะ
จะต้องเปลี่ยนการกำหนดจิตแบบใหม่แล้วล่ะ
ซึ่งผมว่าไม่ต้องไปตามรู้ผัสสะแบบที่น้องก้องว่ามาแล้วล่ะ
ให้ตามรู้ลมหายใจเหมือนตอนที่ไม่ได้นั่งน่าจะดีกว่านะ

หรือจะบริกรรมนึก...พุทโธๆๆๆ.....ไปเรื่อยๆก็ได้
อย่าให้จิตคิดแว๊ปไปเรื่องอื่น
ให้อยู่ที่คำบริกรรม....พุทโธๆๆๆ....เท่านั้น
ถ้ามันแว๊ปไปคิดเรื่องอื่นก็รีบให้ดึงกลับมาที่...พุทโธๆๆๆ...เหมือนเดิม
ให้นึกบริกรรมอยู่อย่างนี้จนกว่าจิตใจจะสงบเย็น

แล้วที่เห็นบอกว่าจิตเรามันสงบ นั้นแน่ใจหรือว่าสงบได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า????

ถ้าสงบจริงต้องนั่งนานๆได้สิ่
ไม่ใช่บอกว่าจิตสงบแต่นั่งได้ไม่ถึงชั่วโมงก็จะไม่ไหวแล้ว
แบบนั้นไม่ใช่จิตสงบแล้วล่ะ

คนที่ผมรู้จักที่เขาเป็นนักภาวนาเขาว่าตอนเขาไปเดินจงกรม
เขาว่าเขาเดินเพลินจนลืมเวล่ำเวลาไปเลย
ในความรู้สึกเหมือนว่าจะเดินแป๊บเดียวแต่พอมาดูนาฬิกา
เดินได้ตั้ง 2 ชั่วโมงแล้ว

หรือจากที่ผมได้อ่านตอนที่หลวงตาท่านฝึกภาวนาในระยะที่ยังไม่ได้สำเร็จนะ
ท่านว่าถ้านั่งสมาธิ 3 - 4 ชั่วโมง
นี่จะเป็นการนั่งแบบตามสบายของท่านโดยไม่ต้องฝืนอะไรเลยนะ

แต่ถ้าท่านจะนั่งแบบเอาจริงเอาจังที่ต้องได้ฝืนกันมาก
จะเป็นการนั่งตลอดทั้งคืนที่เรียกว่า
นั่งตลอดรุ่งอิริยาบถเดียวไม่เปลี่ยนท่าเลย แบบนั้นถึงจะต้องได้ฝืนกัน
ต้องแบบนี้สิ่ถึงจะเรียกว่าจิตสงบจริง
ไม่ใช่จิตสงบแบบคิดเอาเอง

แล้วทีนี้หันมามองดูตัวเราซิว่า......
ขนาดผู้เบาบางผู้จิตใจระดับสูงอย่างท่าน
ยังต้องนั่งนานขนาดนั้น


แล้วระดับเราที่ยังกิเลสหนาอยู่จะมาทำเหยาะๆแหยะๆอย่างนี้ จะไปได้อะไรล่ะ
ทำนิดๆหน่อยๆก็ว่าตัวเองเป็นนักภาวนาแล้ว
ผมว่ายังห่างจากคำว่านักภาวนาหรือนักปฏิบัติที่แท้จริงอยู่มากนะ

ถ้าอยากจะพ้นทุกข์ให้ได้ในชาตินี้
ทำเหยาะๆแหยะๆแบบนี้ พ้นไม่ได้หรอก
ยังอีกนานเลยล่ะ

ถ้าตัวเองยังทำนานขนาดนั้นอย่างท่านไม่ได้
ก็ให้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในสัมมาปฏิบัติอย่างท่านไปก่อนก็แล้วกันนะ
ให้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสอยากที่จะสามารถนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมให้ได้นานๆเหมือนท่านให้ได้ไปก่อน

อย่าไปมีมิจฉาทิฏฐิว่า
การนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมไม่จำเป็นต้องไปนั่งนานๆอะไรหรอก
นั่งแป๊บเดียวแบบสบายๆก็พอแล้ว ก็จะได้รู้ธรรมเห็นธรรมแล้วแหละ
ไม่ต้องไปทนนั่งนานๆเดินนานๆให้ทุกข์ยากลำบากอะไร

แบบนั้นผมว่ามันเป็นความเห็นมิจฉาทิฏฐิ
ที่กิเลสมันหลอกคนๆนั้นให้เห็นผิดเป็นชอบ
ตัวเองขี้เกียจอ่อนแอไม่เอาไหน ก็เลยว่าไปอย่างนั้น

ไม่ดูตัวเองเลยว่าทีตอนดูหนัง ดูละคร เล่นเกม
หรือไปดูยูทู๊ปอะไรต่างๆ ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรืออย่างน้อยๆ
ก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย


ทีเรื่องของกิเลสที่ไปเพลินกับทางตาทางหูทางรูปทางเสียงพวกนี้
ทำไมถึงไปดูไปฟังตามกิเลสได้ตั้ง 2 - 3 ชั่วโมง
เป็นอย่างน้อยได้อย่างสบายล่ะ

แล้วทีตอนให้นั่งสมาธิภาวนา
กลับบอกว่าไม่จำเป็นต้องนั่งนานๆ
นั่งแป๊ปเดียวก็จะได้รู้ธรรมเห็นธรรมแล้วล่ะ

ต้องปฏิบัติธรรมให้ได้นานๆเหมือนอย่างที่กิเลสมันทำความเพียรของมันด้วยการดูหนังดูยูทู๊ปเล่นเกมนานๆอย่างมันให้ได้สิ่ การปฏิบัติธรรมของเราถึงจะก้าวหน้าประสบผลสำเร็จได้

เอาเท่านี้ก่อนแล้วกันนะถ้ามีอะไรก็ถามมาอีกแล้วกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 00:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องจะย้ายบ้านแล้ว คงไม่ได้เข้ามาคุยกับพี่ๆทุกท่านในลานธรรมจักร ขอบคุนกัลยามิตรทุกท่านที่ลานแห่งนี้ แม้บางครั้งคุนน้องโกรธหรือใจร้อนก็ไม่เคยถือสา รวมถึงพี่อโสกะ(ที่คุนน้องชอบทำตัวเกรียนด้วยตลอด เหมือนเราชะตาต้องกันแต่แรกแล้ว :b32: ) อโหสิกรรมให้คุนน้องด้วยนะเจ้าค่ะ :b8: :b27: คุนน้องจะระลึกถึงทุกคน tongue


ตะวัน เขียน:
พอดีไปเห็นที่น้องก้องเล่าความฝันแปลกๆเอาไว้
ใน...กระทู้ทุกข์คือมิตรแท้ผู้เอื้ออารี ชี้ความจริง...viewtopic.php?f=1&t=42970
เลยขอตีความหมายนิมิตฝันเอาไว้ให้ก่อนจะไปก็แล้วกันนะ
ถ้าไปแล้วเดี๋ยวจะบอกไม่ทัน

nongkong เขียน:
คุนน้องเคยฝันว่า ตัวเองพยายามวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าวิ่งหนีอะไร แต่ในฝันวิ่งแบบสุดกำลังของเรา
พอวิ่งมาถึงทางตันมีกำแพงกั้น คุนน้องก็ต้องปีนกำแพงออกไปอีกฝั่งหนึ่งให้ได้ พอไปถึงฝั่งหนึ่งก็ยังวิ่งต่อเพราะจิตคิดว่ายังต้องวิ่งหนีไปให้รอดให้พ้นจากตรงนั้น จนหลงเข้ามาในถ้ำมีลักษระคล้ายอุโมงค์มืดมาก(คล้ายๆท่อระบายน้ำ)มีกำแพงกั้นสองฝั่ง มีทางคดเคี้ยวมากไม่รู้จะไปเส้นทางไหน มันมีทางให้เลือกเยอะเหลือเกินในใจก็รู้สึกกลัว คุนน้องก็วิ่งออกจากทางนั้นไปทางโน่นบ้าง ออกไปทางนี่บ้าง วิ่งเข้าวิ่งออกเหมือนอยู่ในหุบเขาวงกด(เอ่อ..ท่าเป็นเรื่องจริงคงนั่งหอบแห่กๆ :b5: )จนระดับน้ำมันก็เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆๆจนเกือบจะถึงคออ่ะ จนในที่สุดคุนน้องก็เห็นทางแล้ววิ่งออกมาจากอุโมงค์นั้น คุนน้องเห็นชายชุดขาวยืมยิ้มให้ตัวเอง คุนน้องเจอรถจอดไว้ แล้วคุนน้องก็ขับรถแล้วหันกลับมายิ้มให้ชายคนนั้นแล้วขับรถไปแบบสบายใจเลย พอตื่นจากฝัน ทำไมมันเหนื่อยไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงก็ไม่รู้ ยังกะไปวิ่งแข่งโอลิมปิคแน่ะ ก็แปลกเหมือนกัน :b1:
เคยคิดว่า นิมิตนี้ เทวดาคงมาดลใจให้เรา หาหนทางหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารให้ได้ :b8:


ตะวัน เขียน:

ย้ายบ้านใหม่ ไปเว็บอื่นก็ขอให้ได้เจอรถที่จอดรอน้องก้องอยู่ให้ได้ไวๆแล้วกันเน้อ
จะได้ขับไปพระนิพพานกับลูกน้อยได้ไวๆ โชคดีแล้วกันนะ
แล้วถ้าได้ไปเจอ...ชายชุดขาว...ในนิมิตเมื่อไหร่แล้ว
ก็ให้มาบอกกันหน่อยนะ ผมอยากรู้จักเขาน่ะ

ผมคิดว่าตามในนิมิตฝันน่าจะบอกว่า
น้องก้องจะหาทางออกจากทุกข์ไปพระนิพพานเจอนะ
เพราะเห็นทางออกจากอุโมงค์แล้วก็วิ่งออกมาจากอุโมงค์ได้ในที่สุด

ส่วนรถนั้นผมตีความว่าน่าจะเป็นรถที่ชายชุดขาว
เขาเอามาให้น้องก้องได้ใช้เป็นยานพาหนะ
นำน้องก้องขับไปให้ถึงพระนิพพานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ผมตีความหมายไปอย่างนั้นนะ

ไปที่เว็บอื่นแล้วก็ขอให้น้องก้องได้เจอชายชุดขาวคนนี้ได้เร็วๆแล้วกันเน้อ
และถ้าได้เจอเขาแล้วก็อย่าลืมเข้ามาบอกผมที่ในเว็บนี้ด้วยล่ะ
เพราะผมก็อยากจะไปขอรถกับเขาสักคัน
มาขับไปพระนิพพานเหมือนน้องก้องด้วยเหมือนกันแหละ


เออ....ที่ผมมาเขียนตอบอะไรให้น้องก้องนี่
ผมจะขอก๊อปเอาไปไว้ในกระทู้...ไว้คุยธรรมะ...ของผมได้เปล่า???
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านอะไรในกระทู้ผมอยู่นะ

ถ้าน้องก้องไม่ขัดข้องอะไร
ผมก็จะก๊อปไปไว้ให้แฟนคลับผมเขาได้อ่านกัน
ขอมั่วนิ่มเหมาเอาคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ผม
เป็นแฟนคลับผมเลยก็แล้วกัน....5555555+++++


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 00:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องย้ายบ้านใหม่แต่บ้านนั้นยังไม่ได้ติดเน็ตจ้า ถ้าติดเน็ตแล้วจะเข้ามาคุยเหมือนเดิมแหละ
ตะวัน เขียน:
เออ....ที่ผมมาเขียนตอบอะไรให้น้องก้องนี่
ผมจะขอก๊อปเอาไปไว้ในกระทู้...ไว้คุยธรรมะ...ของผมได้เปล่า???
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านอะไรในกระทู้ผมอยู่นะ

ตามสบายค่ะคุนตะวัน :b17: คุนน้องก็แปลกใจความฝันเหมือนกันว่า ชายชุดขาวเอารถมาจอดไว้รอนี่เป็นคุนตะวันหรือป่าวนะ 555+ :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 03:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องย้ายบ้านใหม่แต่บ้านนั้นยังไม่ได้ติดเน็ตจ้า
ถ้าติดเน็ตแล้วจะเข้ามาคุยเหมือนเดิมแหละ
ตามสบายค่ะคุนตะวัน :b17: คุนน้องก็แปลกใจความฝันเหมือนกันว่า
ชายชุดขาวเอารถมาจอดไว้รอนี่เป็นคุนตะวันหรือป่าวนะ 555+ :b29:


ตะวัน เขียน:

แหม!!!ทีแรกก็เขียนยังกับว่าจะสั่งลากันงั้นแหละ
ใจหายหมดเลยนะ....นึกว่าจะไม่ได้เห็นกันอีกแล้ว
ก็ดีใจนะที่เห็นน้องก้องบอกว่าจะยังไม่ย้ายหนีไปไหน
ยังจะอยู่...บ้านธรรมจักรดอทเน็ต...ด้วยกันอีกต่อไป
อยู่ด้วยกันนานๆเถอะนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปเลย

ก็ขอบใจมากนะที่...ให้ผมก๊อปเอาที่เขียนนี่ไปไว้ในกระทู้ผมได้...
คนที่เขามาอ่านจะได้ลองเอาแนวปฏิบัติที่ผมเขียนไว้นี้ไปปฏิบัติดูกัน
ถ้าทำได้ตามที่บอกรับรองว่าการปฏิบัติก้าวหน้าขึ้นแน่นอน

nongkong เขียน:
ชายชุดขาวเอารถมาจอดไว้รอนี่เป็นคุนตะวันหรือป่าวนะ 555+ :b29:


งั้นก็ต้องลองเอาแนวปฏิบัติ(รถ)ที่ผมเขียนไว้นี่ไปลองปฏิบัติดูแล้วกันเน้อ
ถ้าปฏิบัติตามที่ผมบอกไปนี้ แล้วทำให้การปฏิบัติก้าวรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว

คือทำให้น้องก้องสามารถอยู่แบบพึ่งแต่ความสงบเย็นภายในใจของตัวเองได้
โดยไม่ต้องไปพึ่งไม่ต้องไปอาศัยหาความสุขจากสิ่งภายนอกเช่น จากการดูยูทู๊ป
หรือไม่ต้องไปพึ่งหาความสุขจากรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสจากสิ่งภายนอกใดๆอีกต่อไป
ก็แสดงว่า แนวปฏิบัติที่บอกนี่ก็เป็นเหมือนรถที่จอดรออยู่ในนิมิตคันนั้นเอง

เพราะเป้าหมายของการปฏิบัติอันสูงสุดก็คือ
ต้องทำให้เราสามารถที่จะอยู่แบบพึ่งความสุขจากใจของตัวเองเพียงอย่างเดียวให้ได้เท่านั้น

คือพึ่งความสงบเย็นในใจของเราที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติได้ถูกต้องถูกทาง
โดยไม่ต้องไปพึ่งหาความสุขจากสิ่งภายนอกใดๆในโลกอีกต่อไป
เพราะถ้ายังไปพึ่งหาความสุขจากสิ่งภายนอกจากรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสอยู่
ก็คือการไปติดไปข้องในโลกวัฏฏะสงสารอยู่นั่นเอง
ทำให้ต้องได้มาเกิดแก่เจ็บตายอีกไม่มีที่สิ้นสุด

ดังนั้นเป้าหมายของการปฏิบัติอันสูงสุดของเราก็คือ
ต้องละการติดข้องในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสที่เต็มอยู่ในโลกวัฏฏะสงสารนี้ให้ได้

แต่การที่จะละการติดข้องนี้ได้
เราจะต้องหาความสุขอย่างอื่นมาทดแทนความสุขจากสิ่งภายนอกที่เคยติดข้องอยู่
ซึ่งความสุขที่เราต้องหามาแทนความสุขที่เคยได้จากกิเลส
ก็คือความสุขจากสมาธิความสงบเย็นภายในใจ

ถ้าเราทำให้เกิดสมาธิความสงบเย็นภายในใจเกิดขึ้นไม่ได้
ก็ยากที่เราจะละความสุขจากการติดข้อง
ในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสของโลกวัฏฏะสงสารนี้ได้


ส่วนชายชุดขาวนั่น เขาจะเป็นใครกันน๊อ?????
แต่จะเป็นใครก็ช่างเถอะครับ
ได้รถเก๋งมาแล้วก็ให้รีบขับ
ไปให้ถึงพระนิพพานให้ได้เร็วๆ ก็แล้วกัน

ถ้าเราขับไปถึงจุดหมายปลายทางพระนิพพานได้แล้ว
เขาก็คงดีใจไปกับเราด้วยแล้วล่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะวัน เขียน:
ตัวเองขี้เกียจอ่อนแอไม่เอาไหน ก็เลยว่าไปอย่างนั้น

ไม่ดูตัวเองเลยว่าทีตอนดูหนัง ดูละคร เล่นเกม
หรือไปดูยูทู๊ปอะไรต่างๆ ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรืออย่างน้อยๆ
ก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

ต้องขอค้านคุนตะวันหน่อยที่บอกว่าเราขี้เกียจอ่อนแอ
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป ถ้าคุนน้องอดพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้ คุนน้องก็คงไม่เข้ามาบอกลาทุกท่านในเวปว่าจะไม่เข้ามาอีกนาน คุนน้องย้ายบ้านคงรีบจัดการติดเน็ตแล้วเจ้าค่ะ
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌานแต่เกิดญาณแล้วเพราะอะไร เพราะเค้าปฏิบัติมาหลายชาติแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ตะวัน เขียน:
ตัวเองขี้เกียจอ่อนแอไม่เอาไหน ก็เลยว่าไปอย่างนั้น

ไม่ดูตัวเองเลยว่าทีตอนดูหนัง ดูละคร เล่นเกม
หรือไปดูยูทู๊ปอะไรต่างๆ ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรืออย่างน้อยๆ
ก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

ต้องขอค้านคุนตะวันหน่อยที่บอกว่าเราขี้เกียจอ่อนแอ
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป ถ้าคุนน้องอดพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้ คุนน้องก็คงไม่เข้ามาบอกลาทุกท่านในเวปว่าจะไม่เข้ามาอีกนาน คุนน้องย้ายบ้านคงรีบจัดการติดเน็ตแล้วเจ้าค่ะ
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌานแต่เกิดญาณแล้วเพราะอะไร เพราะเค้าปฏิบัติมาหลายชาติแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion
ผมถูกพลาดพิงครับอิๆ ขอให้ผมไล่หลังคุณน้องคองจริงเถอะสาธุๆ :b35: :b35: :b35:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 16:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ตะวัน เขียน:
แหม!!!ทีแรกก็เขียนยังกับว่าจะสั่งลากันงั้นแหละ
ใจหายหมดเลยนะ....นึกว่าจะไม่ได้เห็นกันอีกแล้ว
ก็ดีใจนะที่เห็นน้องก้องบอกว่าจะยังไม่ย้ายหนีไปไหน
ยังจะอยู่...บ้านธรรมจักรดอทเน็ต...ด้วยกันอีกต่อไป
อยู่ด้วยกันนานๆเถอะนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปเลย

ดูจิตไหมว่าทำไมคุนน้องถึงมีอิทธิพลต่อจิตท่าน.. มีใจหายด้วย
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
ตะวัน เขียน:
ตัวเองขี้เกียจอ่อนแอไม่เอาไหน ก็เลยว่าไปอย่างนั้น

ไม่ดูตัวเองเลยว่าทีตอนดูหนัง ดูละคร เล่นเกม
หรือไปดูยูทู๊ปอะไรต่างๆ ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรืออย่างน้อยๆ
ก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

ต้องขอค้านคุนตะวันหน่อยที่บอกว่าเราขี้เกียจอ่อนแอ
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป ถ้าคุนน้องอดพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้ คุนน้องก็คงไม่เข้ามาบอกลาทุกท่านในเวปว่าจะไม่เข้ามาอีกนาน คุนน้องย้ายบ้านคงรีบจัดการติดเน็ตแล้วเจ้าค่ะ
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌานแต่เกิดญาณแล้วเพราะอะไร เพราะเค้าปฏิบัติมาหลายชาติแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion
ผมถูกพลาดพิงครับอิๆ ขอให้ผมไล่หลังคุณน้องคองจริงเถอะสาธุๆ :b35: :b35: :b35:

:b32: ก็ท่านบอกปฏิบัติได้หลายเดือนแล้ว คุนน้องปีกว่าแล้วยังไม่พูดเลย :b4:(กามอ่ะนะ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
bigtoo เขียน:
nongkong เขียน:
ตะวัน เขียน:
ตัวเองขี้เกียจอ่อนแอไม่เอาไหน ก็เลยว่าไปอย่างนั้น

ไม่ดูตัวเองเลยว่าทีตอนดูหนัง ดูละคร เล่นเกม
หรือไปดูยูทู๊ปอะไรต่างๆ ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรืออย่างน้อยๆ
ก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

ต้องขอค้านคุนตะวันหน่อยที่บอกว่าเราขี้เกียจอ่อนแอ
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป ถ้าคุนน้องอดพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้ คุนน้องก็คงไม่เข้ามาบอกลาทุกท่านในเวปว่าจะไม่เข้ามาอีกนาน คุนน้องย้ายบ้านคงรีบจัดการติดเน็ตแล้วเจ้าค่ะ
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌานแต่เกิดญาณแล้วเพราะอะไร เพราะเค้าปฏิบัติมาหลายชาติแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion
ผมถูกพลาดพิงครับอิๆ ขอให้ผมไล่หลังคุณน้องคองจริงเถอะสาธุๆ :b35: :b35: :b35:

:b32: ก็ท่านบอกปฏิบัติได้หลายเดือนแล้ว คุนน้องปีกว่าแล้วยังไม่พูดเลย :b4:
สาธุๆ :b35: สู้ต่อๆไป......

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ส.ค. 2012, 20:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
:b32: ก็ท่านบอกปฏิบัติได้หลายเดือนแล้ว คุนน้องปีกว่าแล้วยังไม่พูดเลย :b4:(กามอ่ะนะ)

:b35: :b35: :b35:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 19:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


ตะวัน เขียน:

ขอเวลาไปอัพเดทอะไรในกระทู้...ไว้คุยธรรมะ...
ของผมก่อนแล้วกันเน้อแล้วค่อยจะมาเขียนอะไรในนี้

ไม่ได้อัพเดทอะไรในกระทู้ผมหลายวันแล้ว
เดี๋ยวแฟนคลับที่เข้ามาตามอ่านจะไม่มีอะไรได้อ่านกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2012, 21:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ตะวัน เขียน:
แหม!!!ทีแรกก็เขียนยังกับว่าจะสั่งลากันงั้นแหละ
ใจหายหมดเลยนะ....นึกว่าจะไม่ได้เห็นกันอีกแล้ว
ก็ดีใจนะที่เห็นน้องก้องบอกว่าจะยังไม่ย้ายหนีไปไหน
ยังจะอยู่...บ้านธรรมจักรดอทเน็ต...ด้วยกันอีกต่อไป
อยู่ด้วยกันนานๆเถอะนะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปเลย


nongkong เขียน:
ดูจิตไหมว่าทำไมคุนน้องถึงมีอิทธิพลต่อจิตท่าน.. มีใจหายด้วย
:b32:


ตะวัน เขียน:
ก็คงจะเป็นเหมือนกับ
ถ้าเกิด...ท่านbigtoo เข้ามาบอกทำนองจะสั่งลาแบบคุณน้องนี่
ผมก็คงจะ....ใจหาย....เหมือนกันนะ
เพราะท่าน bigtoo เป็นกัลยาณมิตร
ที่ดีมากคนหนึ่งของผม แล้วอยู่ๆก็จะหายหน้าจากไป
ผมก็ต้อง...ใจหาย...เป็นธรรมดา

ผมก็ยังปล่อยยังวางไม่ได้ขนาดนั้นเน้อ
ระดับที่ว่า...ไม่คิดถึงใครอะไรหน้าไหนทั้งนั้น...เลยนั่นน่ะ
ยังมีเป็นห่วงเป็นใยคิดถึงใครคนนั้นคนนี้อยู่
เหมือนพี่เหมือนน้อง หรือเพื่อนเราจะไปที่อื่นแล้ว
จะไม่ได้เห็นกันอีกแล้ว ก็ต้องมีความรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างแหละ

ตอนนี้ผมระวังดูจิตแต่เรื่อง....
...ไม่ให้เคลิ้มไปตามตัณหาราคะ...แหละครับเป็นส่วนมาก
ส่วนเรื่องกิเลสที่เกี่ยวกับเป็นห่วงคนนั้นคนนี้ก็ไม่ได้ระวังอะไร
เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นกิเลสที่หยาบสกปรกอะไรเหมือนอย่างกิเลสพวกกามราคะ
หรืออย่างที่หยาบรองๆกันลงมา
อย่างพวกติดอยากไปดูหนังฟังเพลงเล่นเกมอะไรต่างๆ

ถ้ามีกิเลสหยาบๆพวกนี้เกิดแว๊ปขึ้นภายในจิตก็ต้องรีบตัดทิ้งทันที
ไม่ให้...เคลิ้ม...ไปตามมันได้


nongkong เขียน:
ก็ท่านบอกปฏิบัติได้หลายเดือนแล้ว คุนน้องปีกว่าแล้วยังไม่พูดเลย (กามอ่ะนะ)


ตะวัน เขียน:
ท่าน bigtoo นั่นได้หลายเดือนแล้ว ส่วนผมก็ได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว
พูดก็ได้จะเป็นไรไป ถ้าไม่ได้เป็นการพูดเพื่อคิดจะโอ้อวดอะไรนั่นน่ะ
แต่พูดเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีงาม
ที่จะรณรงค์ให้คนอื่นได้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้
เพื่อจะให้เขาอยากปฏิบัติให้ได้แบบเราบ้าง

จะได้ทำให้การปฏิบัติธรรมของเขาก้าวรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว
เป็นการช่วยกระตุ้นกันให้ตื่นตัว จะผิดไปตรงไหนล่ะ
เพราะไม่ได้พูดเพื่อเจตนาโอ้อวด
แต่เป็นเจตนาดีที่อยากจะให้คนอื่นได้ทำตามด้วย


แก้ไขล่าสุดโดย <ตะวัน> เมื่อ 30 ส.ค. 2012, 04:32, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2012, 21:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ต้องขอค้านคุนตะวันหน่อยที่บอกว่าเราขี้เกียจอ่อนแอ
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป ถ้าคุนน้องอดพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้ คุนน้องก็คงไม่เข้ามาบอกลาทุกท่านในเวปว่าจะไม่เข้ามาอีกนาน คุนน้องย้ายบ้านคงรีบจัดการติดเน็ตแล้วเจ้าค่ะ
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌานแต่เกิดญาณแล้วเพราะอะไร เพราะเค้าปฏิบัติมาหลายชาติแล้วเจ้าค่ะ เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion


ตะวัน เขียน:
ก็ขอยกมาทีละวรรคเลยนะจะได้ไม่สับสนกัน
nongkong เขียน:
คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม ถ้าจะขี้เกียจก็ไม่ผิดนี่เจ้าค่ะ ถ้าเดินมรรค8อยู่

แล้วอันนี้ค้านด้วยหรือเปล่าล่ะ???
ที่ว่าเวลาไปหาดูยูทู๊ปดูคลิปอะไรต่างๆ
ทำไมถึงมีเวลานั่งดูหลายๆชม.เหมือนคนว่างไม่มีอะไรทำได้ล่ะ
ทั้งๆที่ก็ยังต้องเลี้ยงลูกอยู่เหมือนเดิม
ไม่เห็นทำแป๊ปเดียวไม่ถึงชั่วโมงเหมือนกับนั่งสมาธิเลย
ดูได้เล่นได้หมดคืน หรือไม่งั้นก็ดูเป็น 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

ทำไมทีเวลาไปหาดูหาเล่นอะไรอย่างนั้น
ตั้งนานๆทำไมถึงว่างได้ล่ะ หาเวลาสละเวลาไปใช้ดูยูทู๊ปได้สบายเลย
แต่เวลาทำไมจะหาเวลามาดูใจเจ้าของด้วยการนั่งภาวนาหรือเดินจงกรม
ทำไมทำนานๆอย่างนั้นบ้างไม่ได้ แล้วยังทำไม่ได้ทุกวันอีกตะหาก

nongkong เขียน:
นั่งสมาธิแล้วแต่อารมณ์ค่ะ นั่งแปบเดียวไม่เกิน 1ชม. ส่วนเล่นยูทูป จะเข้าไปดูอะไรที่เราอยากรู้หรืออะไรที่เราไม่เคยรู้ จะดูจนกว่าเราจะไม่อยากดูก็ไม่ได้กำหนดน่ะเจ้าค่ะว่านานแค่ไหน แล้วแต่สะดวกจะดูตอนลูกหลับ
แล้วมันจะเว้นช่วงห่างไป2-3วันคือเบื่อ แล้วพอนึกอยากรู้อยากเห็นอะไรก็จะเข้ามาดูแบบนี้ค่ะ


ตะวัน เขียน:
แต่ตอนให้เวลากับการนั่งภาวนาดูใจดันไม่ได้กำหนดว่าจะนั่งนานแค่ไหนก็ได้เหมือนดูยูทู๊ปเลยนะกำหนดแต่ให้ไม่ถึงชั่วโมงทำไมไม่นั่งให้นานๆเหมือนดูยูทู๊ปบ้างล่ะ

การปฏิบัติธรรมตอนนี้เอาแค่ให้ใช้เวลาที่ไปดูยูทู๊ปกับใช้เวลาไปภาวนาดูใจให้ได้เท่ากันก่อนจะได้หรือเปล่า???

อย่างวันนึงๆถ้าเคยเข้าไปดูยูทู๊ป 3 ชั่วโมง
ก็เปลี่ยนใหม่ให้ใช้เวลาให้เท่าๆกันโดยแบ่งเวลามาให้การภาวนาด้วยคือ
ถ้าวันไหนมีเวลาที่จะใช้ไปดูยูทู๊ปได้ 3 ชั่วโมงก็แบ่งเวลาเป็นหารสองส่วนซะ
คือใช้เวลาไปดูยูทู๊ปสักชั่วโมงครึ่งแล้วมาใช้เวลานั่งภาวนาหรือเดินจงกรมอีกชั่วโมงครึ่ง
รวมกันแล้วก็เป็น 3 ชั่วโมงพอดี

หรือถ้าวันไหนจะมีเวลาไปดูยูทู๊ปได้ 4 ชั่วโมง
ก็แบ่งหารครึ่งใช้เวลาอย่างละ 2 ชั่วโมงเพื่อแบ่งเวลามาภาวนาดูใจด้วย
คือใช้เวลาไปดูยูทู๊ป 2 ชั่วโมงแล้วใช้เวลามานั่งภาวนาดูใจอีก 2 ชั่วโมง
รวมเป็น 4 ชั่วโมง เอาแบบนี้ให้ได้ก่อนนะ
พอจะทำได้ไหม???หรือว่าทำไม่ได้

แล้วอ้างว่า........คุนน้องไม่นั่งสมาธิ เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆ ชม.เหมือนคนว่างไม่มีอะไรทำ
คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม....
แล้วทีทำไมไปดูยูทู๊ปตั้งหลายๆชั่วโมงทำไมยังมีเวลาว่างได้ล่ะ
ไม่เห็นอ้างว่า.....คุนน้องไม่ดูยูทู๊ป เพราะไม่มีเวลามานั่งดูยูทู๊ปหลายๆ ชม.เหมือนคนว่างไม่มีอะไรทำ
คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม....
ถ้ามีเวลาไปดูยูทู๊ปนานๆได้
ก็ต้องมีเวลามานั่งภาวนานานๆได้
ด้วยเหมือนกันสิ่ ถึงจะถูกต้อง

แล้วที่ผมบอกแนะนำไปนี่ก็ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้นะ
ที่บอกให้แบ่งเอาเวลาครึ่งหนึ่งจากการดูยูทู๊ปมาใช้นั่งสมาธิภาวนาดูใจตัวเองบ้างนั่นน่ะ

เอาเฉพาะแต่วันไหนที่ไปดูยูทู๊ปก็พอ
เพราะเห็นน้องก้องบอกว่าไม่ได้เข้าไปดูยูทู๊ปทุกวัน
เอาแต่เฉพาะวันที่มีเวลาว่างจะไปดูยูทู๊ปเยอะๆก็พอ
แต่ถ้าพยายามแบ่งเวลามานั่งให้ได้ทุกวันก็ยิ่งดีเน้อ

ทีนี้น้องก้องคงไม่อ้างว่า....เพราะไม่มีเวลามานั่งสมาธิหลายๆชม.เหมือนคนว่างไม่มีอะไรทำ คุนน้องต้องเลี้ยงลูกด้วยอย่าลืม...
คงไม่เอาอันนี้มาอ้างอีกนะเพราะไปดึงเอาเวลาว่างจาก...เจ้ายูทู๊ป...มาได้แล้ว

ถ้าอ้างว่าที่ไปดูยูทู๊ปนั่นน่ะ........หนูไปหาดูแต่ที่เป็นคลิปธรรมะนะคะ........
อันนั้นไม่ว่ากันหรอก ถ้าไปดูแต่คลิปยูทู๊ปธรรมะอย่างเดียวนั่นน่ะ
อย่างคลิปยูทู๊ปที่เป็นการบรรยายธรรมอันนั้นก็ไม่เป็นไร

แต่จริงหรือเปล่าหนอ???ที่มีแต่ไปดูเฉพาะแต่คลิปยูทู๊ปบรรยายธรรมะ
ไม่ใช่ไปดูคลิปธรรมะยูทู๊ปแค่ไม่กี่คลิปไม่กี่นาทีแล้วไปหาดูคลิปอื่นๆ
อย่างคลิปเพลง คลิปหนัง คลิปสารพัดเรื่องไร้สาระที่ทำให้หลงเพลิน ตั้งหลายชั่วโมงหรือเปล่า???

เข้าไปดูยูทู๊ปโดยอ้างว่าไปหาดูคลิปบรรยายธรรมะ
แต่ความจริงไปดูคลิปธรรมะแค่ไม่กี่นาที
แต่ไปดูคลิปอื่นๆที่ทำให้หลงเพลินตั้งหลายชั่วโมงใช่ไหม???

แบบนั้นเราก็ต้องได้มาพิจารณาตัวเองแล้วล่ะ
ว่าเราปฏิบัติธรรมะไปเพื่ออะไร
ถ้าปฏิบัติไปแล้วก็ยังงดยังละเลิกสิ่งที่จะทำให้เราติดข้องในวัฏฏะสงสารอยู่นี้อีกยังไม่ได้
แล้วเราจะปฏิบัติธรรมะไปทำไม????


ส่วนเป้าหมายการปฏิบัติธรรมของผม
พุ่งเป้าหมายไปที่ว่าธรรมะที่ผมปฏิบัติไป
จะต้องมาช่วยให้ผมงด ละเลิก สิ่งอบายมุขทั้งหลายเหล่านี้ที่เป็นเหยื่อล่อให้เรามาติดในวัฏฏะสงสารนี้ให้ได้
ถ้าละเลิกไม่ได้ก็ต้องได้มาติดอยู่ในเหยื่อพวกนี้ทำให้ต้องมาเกิดแก่เจ็บตายในวัฏฏะสงสารนี้อีกต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

มันเป็นไปไม่ได้นะที่ว่า
...นิพพานก็จะไป หนังหรือยูทู๊ปก็จะดูนั่นน่ะ...
ในเมืองนิพพาน ในเมืองสุทธาวาส ไม่มีหนังไม่มียูทู๊ปให้ดูนะ
ถ้าใครอยากดูก็ต้องได้ลงทุนยอมมาเกิดแก่เจ็บตาย
เพื่อจะดูสิ่งไร้สาระคุณเหล่านี้(ยกเว้นคลิปบรรยายธรรมะ)



ส่วนเรื่องที่ใช้เวลาเข้ามาหาอะไรอ่านในเว็บธรรมจักรนี่ อันนี้ไม่เกี่ยวเน้อ
เพราะก็เหมือนกับการไปหาดูคลิปบรรยายธรรมะมาฟังมาอ่านเหมือนกัน
ช่วงนี้ผมก็ได้ใช้เวลาเข้ามาในเว็บนี้เพื่อเขียนอะไรต่างๆเหมือนกันแหละ

แต่ผมไม่ได้ไปเสียเวลาให้กับการดูยูทู๊ปหรือดูหนังอะไร
เพราะช่วงนี้พวกหนังพวกการ์ตูนอะไรก็งดดูหมดแล้ว
ถ้าไปดูแล้วมันทำให้ใจของเราไปหลงเพลินกับหนังกับยูทู๊ป
ทำให้กิเลสในใจมันได้อาหารไปเพิ่มพลังของมันจากการไปดูสิ่งที่กิเลสมันชอบอย่างนั้น
ทำให้มันไปรบกวนการภาวนาของเราทำให้เราภาวนาทำใจให้สงบเย็นได้ยากมากๆ

nongkong เขียน:
อีกอย่างถ้าจะบอกว่าใครปฏิบัติก้าวหน้าแค่ไหนโดยเอาภาคปฏิบัติมาวัดผล เช่นงดกามได้นานแค่ไหน งดดูหนังฟังเพลงได้ไหม
คุนน้องขอตอบเลยนะ คุนตะวันกับคุนบิ๊กทู่ยังไล่หลังคุนน้องอยู่เลย ทำไมคุนน้องจะไม่รู้จิตตัวเอง ไม่ว่าจะดูหนังหรือยูทูป

ตะวัน เขียน:
แล้วรู้จิตของตัวเองตอนนี้อยู่หรือเปล่าล่ะว่าตัวเองติดดูหนังหรือติดดูยูทู๊ปอยู่หรือเปล่า???
ผมว่า...ดูหนังกับดูยูทู๊ปนี่เป็นอาหารโปรดของกิเลสเลยนะนั่น
(ผิดศีลข้อ7ในศีลแปดถ้าไม่เก่งจริงก็เลิกได้ยาก)

ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองติดหรือเปล่าก็ให้พิสูจน์เอาด้วยตัวเองนะ
พิสูจน์แบบที่น้องก้องเขียนวิธีพิสูจน์ว่าเราติดอะไรหรือเปล่า
ไว้ใน.....กระทู้เอาของดีมาฝาก.....นั่นน่ะ viewtopic.php?f=1&t=42914
nongkong เขียน:
ขณะจิต เขียน:
กาแฟร้อนครับ สูตรโบราณด้วย ทานทุกเช้า :b19:

nongkong เขียน:

ท่านขณะจิตอยากดูจิตตัวเองไหมเจ้าค่ะว่ามีความหักห้ามใจตนเองได้แค่ไหน
ท่านลองงดกินกาแฟดูตอนเช้าดูสิ แล้วพิจารณาใจท่านยังเป็นปกติดีหรือเปล่า
หรือหงุดหงิดไม่กินไม่ได้รู้สึกไม่มีเรียวไม่มีแรง
การกินกาแฟทุกเช้าแล้วติด
เพราะมันมีคาเฟอีน มันเป็นกิเลศ
ถ้าวันไหนไม่กินแล้วอยู่ไม่ได้นั่นแหละ จะได้รุ้ว่ากิเลสมันเป็นยังงัย :b9:

ก็ให้เปลี่ยนจากกาแฟมาเป็นหนัง,เพลงหรือยูทู๊ปซะ

น้องก้องอยากดูจิตตัวเองไหมเจ้าค่ะว่ามีความหักห้ามใจตนเองได้แค่ไหน
น้องก้องลองงดดูหนังฟังเพลงดูยูทู๊ปดูสิ แล้วพิจารณาใจน้องก้องยังเป็นปกติดีหรือเปล่า
หรือหงุดหงิดไม่ดูไม่ฟังไม่ได้รู้สึกเหมือนใจจะขาดตายซะให้ได้
การดูหนังฟังเพลงดูยูทู๊ปบ่อยๆจนติด
เพราะมันเป็นคาเฟอีน(อาหารโปรด)ของกิเลส
ถ้าวันไหนไม่ได้ดูไม่ได้ฟังแล้วอยู่ไม่ได้นั่นแหละจะได้รู้ว่ากิเลสมันเป็นยังงัย

5555555++++ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง แล้วอย่าลืมเอาไปพิสูจน์ตัวเองดูล่ะ

วิธีทดสอบแบบนี้ดีมากนะ
ช่วยให้เรารู้เลยว่าเรายังติดยังข้องอะไรหรือเปล่า???
เอาไปประยุกต์ทดสอบการติดกิเลสประเภทต่างๆได้เยี่ยมมาก

โดยเปลี่ยนจาก...ลองไม่กินกาแฟดูสิ่...
เป็น........ลองไม่ดูหนังฟังเพลงดูยูทู๊ปดูสิ่...
ว่าจะเกิดอาการลงแดงขึ้นกับเราไหม???
ลงแดงแบบใจจะขาดตายซะให้ได้ถ้าไม่ได้ดูหนังฟังเพลงดูยูทู๊ปหรือเปล่า????

ลองเอาไปทดสอบตัวเองดูนะ
ถ้าเกิดอาการจะลงแดงขึ้นมาก็ให้ถามตัวเองว่า
แล้วที่คุยว่า...ปฏิบัติธรรมได้ก้าวหน้ากว่าคนอื่นนั่นน่ะ....
ไม่ใช่คิดเองเออเอง...หลอกตัวเองหรือ???
เพราะคนอื่นที่ตัวเองบอกว่า...ปฏิบัติได้ก้าวหน้ากว่าเขานั่นน่ะ...
...เขาคนนั้น...ไม่ได้ติดดูหนังดูยูทู๊ปเหมือนใครบางคนเน้อ
ผมแต่ก่อนก็ติดเหมือนกันแหละติดดูหนังเล่นเกม
แต่ตอนนี้ก็เลิกได้เกือบจะ 2 เดือนแล้วนะ
ได้แค่นี้(2เดือน)ก่อนก็ยังดีกว่าที่ไม่พยายามจะเลิกเลยเน้อ

nongkong เขียน:
คุนน้องเข้าไปดูยูทุปเพราะความอยากรู้(กล้าดูคลิปผีตอนดึกๆตี2ตี3มั้ยค่ะ) คุนน้องอยากทดสอบจิตตัวเองก็เท่านั้น ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด


ตะวัน เขียน:
อย่าว่าแต่คลิปโป๊เลยแม้แต่รูปสาวๆสวยๆที่ไม่แต่งโป๊อะไรก็ยังไม่ไปดูเลย
แต่จะว่าไม่กล้าก็ฟังทะแม่งๆยังไงๆอยู่นะ
ต้องบอกว่าเพราะธรรมในใจที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของเรา
มีพลังมาช่วยรักษาให้เรามีสติดีเยี่ยมตัดสิ่งเหล่านั้น
ไม่ให้มาทำใจของเราให้สกปรกได้ต่างหาก


เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปเพิ่มกำลังให้กับกิเลสโดยอัติโนมัติตามหลักธรรมชาติของจิตที่ยังมีเชื้อกิเลสอยู่
ถ้าไปดูปุ๊ปมันก็เพิ่มกำลังให้กิเลสปั๊ป
เหมือนอย่างที่ผมเขียนบอกวิธีพิสูจน์เอาไว้ใน...กระทู้ธรรมความจริงกับความจำ...ที่โดนล็อคไปนั่นไง
เห็นชัดๆเลยใช่ไหม???ว่าพอไปดูแล้ว ถึงเราจะยังมีพลังธรรมในใจอยู่บ้างที่จะช่วย
ป้องกันรักษาเราไม่ไปล่วงละเมิดศีลพรหมจรรย์ข้อสาม
เมื่อได้ไปดูสิ่งลามกเหล่านั้นก็ตาม
แต่กิเลสมันก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นให้เราเห็นกับตาอย่างจะจะขึ้นทันที
ด้วยการแสดงออกมาทางอวัยวะที่มันใช้เป็นเครื่องมือของมัน

ต่อให้คนที่ไปดูรูปสกปรกลามกนั้น(พวกอยากทดสอบดูจิตตัวเอง
ก็ไม่รู้จะทดสอบไปทำไมเพราะก็รู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วว่ามันยังมีอยู่
ผมว่าไม่ใช่ทดสอบหรอกนะ แต่เป็นเพราะต้านกิเลสตัวอยากดูไม่ได้ตะหาก
แล้วก็เลยเอาคำว่า....อยากทดสอบจิตตัวเอง...เข้ามาอ้างมากกว่า
แต่ถ้าไปดูรูปผีเรื่องผีไม่เป็นไรหรอก เป็นแต่เรื่องแนวกามเท่านั้นถึงอันตรายมาก)

ถ้าไปดูปุ๊ปมันก็เพิ่มกำลังให้กิเลสปั๊ป
เห็นชัดๆเลยใช่ไหม???ว่าพอไปดูแล้ว ถึงเราจะยังมีพลังธรรมในใจอยู่บ้างที่จะช่วย
ป้องกันรักษาเราไม่ไปล่วงละเมิดศีลพรหมจรรย์ข้อสามเมื่อได้ไปดูสิ่งลามกเหล่านั้น
แต่กิเลสมันก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นให้เราเห็นกับตาอย่างจะจะขึ้นทันที
ด้วยการแสดงออกมาทางอวัยวะที่มันใช้เป็นเครื่องมือของมัน
ต่อให้คนที่ไปดูรูปสกปรกลามกพวกนั้น
พยายามหักห้ามใจไม่ให้หลงเคลิ้มไปตามมันไปตามรูปตามคลิปที่ดู
แล้วมันห้ามอวัยวะที่เป็นเครื่องมือของมันไม่ให้แสดงความลามกขึ้นมา(กางเกงตุง)
ให้เห็นอย่างจะจะได้หรือเปล่าล่ะ?????

มันแสดงให้เราได้เห็นชัดๆจะจะตาเลยว่า
พอไปดูรูปสกปรกลามกแล้วกิเลสกามราคะมันจะได้กำลังพุ่งสูงปรี๊ดดดขึ้นมาทันทีเลย
แล้วทีนี้พวกชอบอ้างว่า....ทดสอบจิต...ดูจิต...ตัวเองอยู่นั่นน่ะ
เอาการที่...ดูจิต...มาห้ามราคะไม่ให้มันได้กำลังพลังเพิ่มได้ไหม???
ถ้าห้ามได้...ทำไมไม่ห้ามไม่ให้กางเกงมันตุงได้ล่ะ
ต่อให้...ดูจิต...ยังไงก็ห้ามมันไม่ได้หรอก
ถ้า...สติ...สมาธิ...ปัญญา....ของเรายังไม่สูงพอ


ระดับที่รู้ว่ายังมีกิเลสอยู่เต็มหัวอก
จะต้องใช้ธรรมะข้อ...สังวรธรรม...เอามารักษาตัวรักษาใจ
ของตัวเองให้พ้นจากสิ่งสกปรกทั้งหลายก่อนในตอนนี้

ระดับที่จะไปทดสอบนั่น ต้องระดับสูงมากๆๆๆๆๆแล้ว
ตัวเองยังระดับที่รู้อยู่ว่ามีตัณหาราคะอยู่เต็มหัวอกจะไป...อวดดี...
ไปทดสอบอย่างนั้นก็...เสียรู้...ไปเพิ่มกำลังให้กิเลสราคะมันพอดี

nongkong เขียน:
ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละค่ะ หรือเห็นเว็ปโป๊แล้วเกิดอารมณ์แล้วรีบปิด ท่านก็ยังปฏิบัติไม่ก้าวหน้าซักนิด


ตะวัน เขียน:

แล้วถ้าแต่ก่อนผมหักห้ามใจตัวเองไม่ได้
พอเวลามีกิเลสเกิดขึ้นก็ไปละเมิดศีลพรหมจรรย์ ไปกินนั่นกินนี่หมดทั้งวันตามใจอยาก
ไปดูหนังฟังเพลงเล่นเกมตามที่กิเลสมันลากให้ไปดูไปเล่น
แล้วทีนี้ในขณะนี้ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติที่ก้าวหน้าของผม
ทำให้ผมงดละเลิกสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมดทำให้รักษาศีลพรหมจรรย์ข้อ3ได้
รักษาศีลข้อ7ได้คือไม่ไปดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้
มีพลังธรรมในใจที่จะต้านทานอำนาจกิเลสที่เกิดขึ้นให้เราไม่ไปทำตามอำนาจดึงดูดของกิเลสที่มัน
ดึงดูดให้เราไปดูรูปสกปรกลามก ไม่ให้เราไปละเมิดศีลพรหมจรรย์ข้อสาม ไม่ไปดูหนังฟังเพลงเคลิบเคลิ้มไปตามกิเลส

แล้วน้องก้องว่าที่แต่ก่อนผมสู้อำนาจกิเลสไม่ได้
แต่ตอนนี้ผมต้านอำนาจกิเลสได้...ไม่ไปทำตามแรงดึงดูดของมันได้
แล้วอย่างนี้น้องก้องว่าการปฏิบัติของผมก้าวหน้าขึ้นมากหรือเปล่าล่ะ????

ทำไมการปฏิบัติของผมจะไม่ก้าวหน้าเลยสักนิดล่ะ
ผมว่าก้าวหน้าระดับก้าวกระโดดเลยล่ะ

เพราะตอนนี้ไม่ใช่แต่เรื่องศีลพรหมจรรย์ข้อสามข้อเดียวที่ผมทำได้รักษาได้
กินข้าวครั้งเดียวในแต่ละวันโดยที่กินแบบพยายามฝึกใจไม่ให้ติดในรสอาหารให้ได้มากที่สุด
เท่าที่จะทำได้ โดยเอาอาหารต่างๆมารวมใส่ในภาชนะเช่นหม้อหรือกะละมังใบเดียว
เพื่อทำลายรสอาหาร(แต่ทำได้แค่ระดับ 60 เปอร์เซ็นต์ให้ไปดูรายละเอียดที่ผมเขียนอธิบายไว้อย่างละเอียด
ใน....viewtopic.php?f=1&t=42867....ที่โพสต์เมื่อ: 07 ส.ค. 2012, 22:54 .........)

โดยประยุกต์เอาวิธีนี้มาจากธุดงค์ข้อฉันในบาตรที่หลวงปู่มั่นท่านปฏิบัติเป็นแบบอย่างเอาไว้
โดยไม่แยกเอาอาหารหวานอาหารคาวไปใส่ถ้วยใส่จานหลายใบ
เอารวมใส่ในภาชนะเดียวเลย
เพื่อเป็นการทำลายรสอาหาร โดยมีแรงบันดาลใจในการปฏิบัติแบบนี้
จากการที่ได้อ่านข้อปฏิบัตินี้ขององค์หลวงปู่มั่นท่านพาทำ
จากในหนังสือประวัติหลวงปู่มั่นที่องค์หลวงตามหาบัวท่านได้เขียนเอาไว้


นอกจากนี้ก็ยัง ทำอันนี้ได้อีกคือ หลังจากกินข้าวเช้าแล้วก็จะไม่กินอะไรอีกเลย
นอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น
และเป็นน้ำเปล่าที่ไม่ได้แช่ในตู้เย็นอะไรอีกด้วยนะ
เป็นน้ำเปล่าในโอ่งธรรมดาเฉยๆนั่นแหละ ไม่ใช่น้ำเย็นชื่นใจจากตู้เย็นอะไร
ทำอย่างนี้มาได้ 40 กว่าวันแล้ว
ส่วนกินข้าวครั้งเดียวนั้นก็เริ่มทำพร้อมๆกับการรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามได้เกือบจะสองเดือนแล้ว

รู้ได้เลยว่าข้อปฏิบัติทั้งสองอย่างนี้ช่วยให้การปฏิบัติของผมก้าวรุดหน้าไปได้เร็วมาก
สามารถหนุนให้เรามีพลังใจที่จะต้านทานอำนาจใฝ่ต่ำที่มันจะฉุดดึงลากให้เราไป
ทำหรือคิดในสิ่งสกปรกลามกได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้มันดึงเราไปทำไปคิดเรื่องสกปรกไม่ได้
ถ้ามันเกิดแว๊ปคิดขึ้นมาก็จะตัดทิ้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ไปคิดไปเคลิ้มตามมัน

ผมจึงได้รู้ว่าการปฏิบัติของผมก้าวหน้าไปกว่าแต่ก่อนมาก
เพราะมีสิ่งพิสูจน์ให้ผมได้รู้ได้เห็นด้วยตาเนื้อของผมเองแบบจะจะ
ในการที่เราสามารถจะละสิ่งสกปรกต่างๆที่เคยไปติดไปข้องได้
ไม่ใช่ไปคิดเองเออเอง
ว่าการปฏิบัติของตัวเองก้าวหน้ากว่าคนอื่นยังงั้นยังงี้

ถ้าคุยว่าการปฏิบัติของตัวเองก้าวหน้ากว่าผมจริง
ก็ลอง...งดดูหนังดูยูทู๊ปให้ผมดูให้ได้ก่อนสิ่...
แต่ถ้าไปดูยูทู๊ปเฉพาะที่เป็นคลิปบรรยายธรรมะนั่นไม่ได้ว่านะ
ให้ดูได้ตามสบายเลย
งดเฉพาะคลิปที่เกี่ยวกับเรื่องพวกเพลง
หรือพวกที่ทำให้หลงเคลิ้มเพลิดเพลินไปตามกิเลสเท่านั้น



nongkong เขียน:
ท่านตะวันปฏิบัติได้พอที่จะกล้าพุ่งชนกับสิ่งที่กลัวตรงหน้ารึป่าวละ


ส่วนอันนี้จะบอกให้นะว่า การพุ่งชนมันมีอยู่ 2 แบบ
1.คือพุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสมันชอบ(แต่ธรรมะไม่ชอบเพราะเป็นอันตรายต่อธรรมได้ถ้าหากว่ากำลังของธรรมภายในใจไม่แข็งแกร่งจริงๆก็จะีมีแต่ผลเสียอย่างเดียวไม่มีผลดีอะไรเลย)
2.พุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสมันกลัว(แต่ธรรมะชอบเพราะเป็นอันตรายต่อกิเลส...และไม่เป็นอันตรายอะไรกับธรรมในใจเลย ไม่ว่าจะมีธรรมในใจมากหรือน้อยยังไงก็สามารถทำได้โดยไม่มีผลเสียอะไรทั้งนั้น มีแต่ผลดีอย่างเดียว เพราะจะทำให้กิเลสพังฉิบหายลงไปได้เลยถ้ากล้าที่จะทำแบบนี้)

แบบที่หนึ่งก็คือพุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสมันชอบหรือพุ่งเข้าชนสิ่งที่เป็นอันตรายต่อธรรมะภายในใจ
(อันนี้ไม่ได้พุ่งเข้าชนสิ่งที่ธรรมะชอบนะ
แต่เป็นการพุ่งเข้าชนสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อธรรมะภายในใจของเราทำให้ธรรมในใจเสียหรือเสื่อมไปได้ ถ้าหากธรรมะในใจไม่แกร่งจริงก็มีแต่เสียกับเสีย...แบบที่ว่าให้ไปพุ่งชนหรือไปปะทะกับพวกเว็บโป๊หรือสื่อลามกอะไรพวกนี้นั่นแหละ...จะเป็นอันตรายกับธรรมะในใจเราได้ถ้าเราธรรมในใจเราไม่แข็งกล้าพอ)

การพุ่งชนแบบนี้มันต้องไปพิสูจน์กันตอนที่จิตเราปฏิบัติได้ธรรมขั้นสูง
เหมือนอย่างกับองค์หลวงตามหาบัวแล้ว...เราถึงจะไปพิสูจน์ได้ว่าจิตเรายังมีราคะอยู่หรือเปล่า
นั่นเป็นการพิสูจน์ในช่วงที่จิตอยู่ในระดับสูงมากแล้ว
เราถึงจะไม่พลาดเสียท่าให้กิเลสมันได้
(ให้ไปอ่านที่ท่านพิสูจน์จิตในช่วงนี้ดูใน...viewtopic.php?f=1&t=42867&start=105.....ที่โพสต์เมื่อ: 13 ส.ค. 2012, 20:19 .....)

ถ้าไปพิสูจน์ตอนนี้ในขณะที่จิตยังไม่สูงถึงระดับท่าน
ก็มีแต่จะเสียกับเสียเท่านั้น
เพราะโง่ไม่รู้จักประมาณกำลังของตัวเอง
ตัวเองยังกำลังไม่เข้มแข็งพอก็จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง
มีแต่จะไปเพิ่มกำลังให้กิเลสมันเท่านั้นเองถ้าไปทำอย่างนั้น


ส่วนการพุ่งชนอีกแบบหนึ่งนั้นก็คือการพุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสในใจมันกลัวจริงๆซึ่งธรรมะในใจเราจะชอบการพุ่งชนแบบนี้
จะเป็นคุณเป็นประโยชน์กับธรรมะในใจเราล้วนๆไม่เป็นอันตรายอย่างใดกับธรรมในใจเลยมีแต่จะทำให้ธรรมในใจเจริญก้าวหน้า
ได้อย่างรวดเร็วถ้าเรากล้าพุ่งชนในแบบที่สองนี้

คือพุ่งชนสิ่งที่กิเลสมันกลัวมากๆ เช่นพุ่งเข้าใส่ทางจงกรม พุ่งเข้าไปนั่งสมาธิภาวนา
พุ่งเข้าไปสวดมนต์ไหว้พระ พุ่งเข้าไปทำลายความเกียจคร้านอ่อนแอที่มันเต็มอยู่ภายในใจ
ให้มันพินาศฉิบหายไปให้หมด จนทำให้เราปฏิบัติธรรมได้จนถึงระดับเพลิดเพลินในการภาวนา
สามารถเดินจงกรมนั่งสมาธิได้นานๆโดยไม่ต้องฝืนอะไร เดินจงกรมนั่งภาวนาได้แบบลืมวันลืมคืน
ถ้าได้เข้าทางจงกรมหรือได้นั่งสมาธิแล้วก็นั่งได้จนลืมเวล่ำเวลาจนนั่งได้หลายๆชั่วโมงอย่างสบายๆ

การปฏิบัติที่พุ่งเข้าชนสิ่งที่กลัวแบบที่สองนี้ต่างหาก
ที่เราจะต้องพุ่งเข้าชนให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก

คือพุ่งเข้าชนความขี้เกียจอ่อนแอทั้งหลาย
อย่างขี้เกียจสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธินานๆ
ก็ต้องพุ่งชนมันให้นั่งนานๆได้
กลัวความง่วงเลยขี้เกียจไม่อยากตื่นเช้าๆมานั่งภาวนา
ก็ต้องพุ่งชนมันให้ตื่นเช้ามานั่งภาวนาได้
เพราะการฝึกปฏิบัติทีแรกถ้าจะบอกให้ไปนั่งภาวนา
หรือไปเข้าทางจงกรมแล้วจิตมันขี้เกียจมันกลัว
มันไม่กล้าเข้าทางจงกรม ไม่กล้าไม่อยากจะนั่งสมาธิ
เหมือนยังกับว่าที่นั่งสมาธิ ที่จงกรม เป็นลานประหารยังงั้นแหละ

ส่วนตอนจะบังคับใจตัวเองให้ไปนั่งสมาธิให้ไปเดินจงกรม
ใจเรามันก็กลัวไม่อยากไปภาวนาเหมือนยังกับมันกลัวว่าจะโดนลากเอาไปตัดคอไปฆ่าไปแกงยังงั้นแหละ
เราก็ต้องฝืนโดยการพุ่งเข้าชนไปนั่งสมาธิไปเดินจงกรมไปสวดมนต์ไหว้พระให้ได้
ต้องลากมันให้เข้าไปภาวนาให้ได้ อย่าไปยอมตามความขี้เกียจอ่อนแอที่มันเอามาขวางหน้าเราเอาไว้
เราต้องพุ่งชนความขี้เกียจอ่อนแอนี้ให้มันพินาศฉิบหายไปจากใจเราให้ได้
ธรรมะในใจของเราจึงจะก้าวหน้าไปได้เร็ว

ในการปฏิบัติธรรมระยะแรกและระยะกลางเราต้องพุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสมันกลัวแบบนี้ต่างหาก
ไม่ใช่ไปพุ่งเข้าชนสิ่งที่กิเลสมันชอบนะ

ในตอนนี้ช่วงปฏิบัติขั้นแรกถึงขั้นกลางเราต้องต้ดกำลังของกิเลสก่อน
ขั้นจะไปพุ่งชนสิ่งที่กิเลสมันชอบแบบที่เอาสุภะ(รูปโป๊) ทดสอบอันนั้นต้องขั้นใกล้จะสูงสุดแล้ว
เป็นขั้นจะได้ใกล้ขั้นพระอนาคามีแล้ว
เหมือนที่องค์หลวงตามหาบัวท่านทดสอบด้านสุภะ
ระยะแรกท่านไม่ดูเลยนะ เหมือนยังกับหูหนวกตาบอด
จิตที่มีกิเลสมากอยู่มันชอบดูอะไรฟังอะไรท่านไม่ให้มันดูทั้งนั้น
ท่านจึงว่ายิ่งกว่าติดคุกติดตะรางเลยนะ การบังคับจิตช่วงปฏิบัติทีแรก
พวกติดคุกติดตะราง นั้นไม่ได้ถูกบังคับมากเหมือนกับนักภาวนาแหละ
อยากดูอยากฟังอะไรก็ได้ทั้งนั้น ดูหนังฟังเพลงทำอะไรได้ตามใจอยาก
ศีลพรหมจรรย์ก็ไม่ต้องรักษา ทำอะไรได้อิสระทุกอย่าง
ไม่มีอิสระก็แต่โดนจับกุมคุมขังอยู่เท่านั้น แต่ยังคงทำตามใจอยากได้สบายๆ
ส่วนนักภาวนาต้องบังคับตัวเอง อะไรที่มันจะไปส่งเสริมกิเลสต้องได้บังคับใจ
ไม่ให้ไปสัมผัสไปแตะต้อง จนกว่าใจจิตใจจะสงบร่มเย็น
ที่หลวงตาท่านเอาเรื่องสุภะมาทดสอบ ก็เพราะท่านสงสัยจริงๆ
ว่าตอนนั้นราคะในใจท่านมันหมดไปแล้วหรือยัง
ท่านก็เลยต้องทดสอบ แต่นี่พวกเรามันไม่ได้สงสัยนี่ เพราะมันยังมีอยู่แน่นอนในตอนนี้
รู้อยู่เต็มหัวอกของเจ้าของอยู่แล้วจำเป็นอะไรจะต้องไปทดสอบให้กิเลสมันได้
อาหารของมันในตอนนี้ล่ะ ช่วงที่หลวงตาท่านใช้สุภะเข้าไปทดสอบ
ให้ไปอ่านดูเอาในนี้นะ
....viewtopic.php?f=1&t=42867&start=105.....ที่โพสต์เมื่อ: 13 ส.ค. 2012, 20:19 ......

แล้วจะรู้ว่าช่วงนั้นจิตท่านอยู่ขั้นสูงมากจริงๆ
แล้วจิตเราตอนนี้อยู่สูงเหมือนท่านในตอนนั้นหรือเปล่าล่ะ???
ถึงจะไปทดสอบอย่างท่าน

แล้วจะรู้ว่า การสังวรธรรมในช่วงแรกนั้นสำคัญมาก
ถ้าไม่มี....สังวรธรรม...ในช่วงแรกยังไปดูหนังฟังเพลงเล่นเกม
หรือไปหาดูอะไรสารพัดตามที่กิเลสในใจมันบงการให้ไปดูตามความอยากของมันอยู่
ก็อย่าหวังว่าการปฏิบัติจะก้าวหน้าไปได้เลย มีแต่จะถอยหลังลงคลองวัฏฏะสงสารเท่านั้นเอง


nongkong เขียน:
ท่านตะวันเชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งกรรมฐานแค่แปบเดียวแต่ก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่น นั่งไม่ถึง ชม.ก็เกิดฌาน


แน่ใจหรือว่าเกิดฌานเกิดญาณ นั่นน่ะ ถ้าได้ฌานได้ญาณจริงๆแล้วทำไมนั่งนานๆ
หลายๆชั่วโมงก็ไม่ได้ ไม่ใช่เป็นฌานเป็นญาณคิดเองเออเองเหรอ???
ลองให้น้องก้องนั่งตอนลูกหลับแล้วเหมือนตอนไปดูยูทู๊ปได้ตั้งหลายๆชั่วโมงนั่นลองดูสิ่
ที่บอกให้นั่งตอนลูกหลับแล้วก็เพราะไม่งั้นเดี๋ยวจะอ้างว่า....ต้องเลี้ยงลูกอยู่ นั่งนานไม่ได้ ก็ให้นั่งตอนลูกหลับแล้ว เหมือนกับตอน
ไปดูยูทู๊ปตอนลูกหลับแล้วนั่นแหละ........
แล้วทีนี้ลองดูสิ่ว่าจะเกิดฌานเกิดญาณจริงเหมือนที่คุยไว้ไหม???ถ้าเกิดจริงต้องนั่งนานๆเหมือนดูยูทู๊ปได้
แต่ถ้าเป็นฌานเป็นญาณแบบคิดเอาเองนึกเอาเองไม่ใช่ฌานใช่ญาณที่แท้จริงนั่น....นั่งแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ใจจะขาดตายแล้วล่ะ
เพราะใจไม่ได้สงบเกิดฌานเกิดญาณที่แท้จริง เราต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตัวเราเอง
ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นเป็นฌานหรือญาณที่แท้จริงหรือเปล่า??ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นกันจะจะอย่างนี้แหละ
ไม่ใช่มีแต่ไปคิดเองว่าตัวเองนั่งสมาธิแป๊ปเดียวก็เกิดฌานเกิดญาณแล้ว โดยไม่มีอะไรพิสูจน์

การจะดูว่าการปฏิบัติของเราในตอนนี้เจริญก้าวหน้าหรือเสื่อมถอยหลังลงคลองนั้นเรา
ต้องพิจารณาดูสภาพจิตใจของเราเองในขณะปัจจุบันตอนนี้ด้วยนะ
ว่าตอนนี้เรามีกำลังใจ พลังใจที่จะรักษาศีลพรหมจรรย์ ได้ดีอยู่หรือเปล่า???

เพราะจากการอ่านอะไรๆที่น้องก้องเขียนมา ผมรู้สึกว่าตอนนี้น้องก้องกำลังจะอยู่ในช่วงตีกลับ
หรือช่วงเสื่อมจะถอยหลังลงคลองวัฏฏะสงสารนะ เพราะไปเห็นบอกว่า.....

.....นั่นสิไม่รุ้จะปฏิบัติไปทำไม สงสัยคงจะต้องยอมโง่อีกสักชาติ เลิกปฏิบัติแล้วดีกว่า หาสามีสักคนจะได้มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก
.....อ่อมีอยู่อย่างหนึ่งที่คิดว่า ตัวเองกำลังดัดและเสแสร้ง คือการไม่มีผัวไม่หาผัว เพราะคุนน้องก็ยัง เป็นปุถุชนคนธรรมดา ถ้าจะมีคนดีๆเข้ามาคุนน้องก็ควรจะพิจารณาไว้ ไม่ใช่เอาเรื่องปฏิบัติธรรมถือศีลมาปิดกั้นตนเอง คุนน้องจะทำอย่างนางวิสาขา ก็ไม่น่าจะแปลกอะไรว่าม่ะ

นางวิสาขานั่น ท่านได้ระดับโสดาบันไปแล้วนะ ท่านจะเอ้อระเหยลอยชายอยู่ยังไงก็ได้
เพราะคติของท่านนั้นแน่นอนแล้ว แต่ตัวเองนั่นน่ะรับประกันตัวเองได้หรือยังว่าได้ระดับ
โสดาบันเหมือนท่านแล้ว ถ้ายังรับประกันตัวเองไม่ได้อย่าไปคิดที่จะก้าวลงสู่หลุมถ่านเพลิงเลย
เพราะถ้าคติยังไม่แน่นอนเหมือนท่าน หากก้าวลงไปในนั่นแล้วก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่กันหนอที่จะได้
พ้นขึ้นมาจากหลุมถ่านเพลิงนั้นได้

เห็นน้องก้องบอกเองออกมาแบบนี้ผมก็เลยเป็นห่วง
ว่าการปฏิบัติของน้องก้องอาจจะเสื่อมไปได้ ถ้าไม่งดดูยูทู๊ปดูหนังฟังเพลงและสิ่งต่างๆที่ทำให้เราหลงเพลินขาดสติไป
ส่วนที่น้องก้องบอกว่า.......
nongkong เขียน:
:b32: ก็ท่านบอกปฏิบัติได้หลายเดือนแล้ว คุนน้องปีกว่าแล้วยังไม่พูดเลย :b4:(กามอ่ะนะ)
อันนี้ผมก็ดีใจด้วยนะที่น้องก้องเก่งจริงๆที่สามารถรักษาศีลพรหมจรรย์ข้อสามมาได้ตั้งปีกว่าแล้ว
ก็ขอให้รักษาเอาไว้ให้ได้ตลอดไปนะ อย่าให้เสื่อมไปได้
ไม่งั้นไปนิพพานไม่ได้เน้อ สามีเราช่วยให้เราไปนิพพานไม่ได้นะ มีแต่เราเท่านั้น
ที่จะช่วยให้เราไปนิพพานได้ พวกที่จะมาช่วยเลี้ยงลูกอะไรนั่นน่ะมีแต่จะมาฉุดให้เรา
ลงไปทางเสื่อมเท่านั้นแหละ อย่างดีที่สุดก็แค่ได้ไปสวรรค์เท่านั้นเอง แต่สวรรค์มันไม่เที่ยง
มีหมดเป็นได้แล้วก็ต้องได้ลงมาเกิดแก่เจ็บตายอยู่ในโลกอีก
และมีโอกาสที่เราจะเปลี่ยนไปเป็นคนชั่วคนไม่ดีได้อีกต่างหาก

เหมือนอย่างที่น้องก้องก็คงเคยจะได้อ่านประวัติพระโมคคัลลาห์ที่แม้ท่านจะเคยเป็นคนดี
มาก่อนแต่ก็เปลี่ยนไปได้เพราะโดนเมียยุแหย่ให้ไปฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง แม้จะกลับตัวที
หลังได้แต่ก็ต้องได้รับกรรมไม่ดีที่เคยทำเอาไว้มาเบียดเบียนอยู่ตลอดจนถึงชาติสุดท้ายก็ยัง
ต้องโดนกรรมไม่ดีอันนี้มาทำให้ท่านต้องโดนโจรทุบจนกระดูกแหลกละเอียด

หรืออย่างพระเจ้าอชาตศัตรูที่แม้ท่านจะเคยทำบุญมามากจนท่านได้ไปเกิดเป็นลูกกษัตริย์
เป็นถึงลูกชายของพระเจ้าพิมพิสาร แต่ท่านก็เปลี่ยนไปได้อีกเหมือนกันเพราะโดนเทวทัตยุยง
จนทำให้ท่านต้องได้ทำกรรมชั่วถึงขั้นฆ่าพ่อตัวเอง จนทำให้ท่านไม่สามารถที่จะบรรลุธรรม
แม้เพียงขั้นโสดาบันได้ แม้ว่าพระพุทธองค์จะมาทรงเทศน์โปรดก็ตาม จนพระพุทธองค์
ท่านทรงตรัสว่า ถ้าพระเจ้าอชาติศัตรูไม่ได้ฆ่าพ่อตัวเองแล้ว ถ้าท่านมาเทศน์โปรดอย่างนี้
จะทำให้พระเจ้าอชาติศัตรูได้สำเร็จอย่างน้อยที่สุดก็ขั้นโสดาบันขึ้นไป แต่เพราะกรรมชั่วหนัก
ที่ทำไว้ก็เลยทำให้ไม่ได้สำเร็จบรรลุธรรมอะไรเลย ได้เพียงแต่ขั้นมีศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยเท่านั้นเอง

และยังมีอีกหลายท่านที่พลาดจากธรรมที่ควรจะได้จะถึงในสมัยพุทธกาล
เพราะความประมาทไม่รีบเร่งปฏิบัติให้ถึงที่สุด
ทั้งๆที่ถ้ารีบทำก็จะได้สำเร็จพ้นทุกข์ไปแล้ว
ยังงัยก็ขอให้เอาธรรมของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ข้อนี้เอาไว้เตือนใจตัวเองก็แล้วกันนะ
.....เมื่อสัจธรรมถูกลืม สัตว์โลกย่อมตกอยู่ในกองทุกข์สิ้นกาลนาน.....
ผมก็เอาธรรมะข้อนี้ของท่านมาเตือนใจตัวเองอยู่บ่อยๆไม่ให้ประมาท
ให้รีบปฏิบัติให้ได้ในตอนที่ยังจำธรรมะอะไรได้อยู่ เพราะถ้าไม่พ้นในชาตินี้
แล้วได้ไปเกิดอีกในชาติต่อไป ถ้าไม่ได้เจอพระธรรมคำสอนของพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์
แล้วก็อาจทำให้เราเปลี่ยนไปได้ คือไปทำความชั่วความไม่ดี
จนทำให้ต้องได้รับความทุกข์อีกต่อไปอีกยาวนาน


nongkong เขียน:
เพราะฉะนั้นคุนน้องเลยรู้ว่า ภาระทางโลกคืออะไรแล้วถ้าจะเข้าทางธรรมจริงๆ
คุนน้องต้องไม่มีภาระทางโลกเพราะคุนน้องรู้ตัวว่า
ถ้าได้ปฏิบัติแล้วตัวเองจะไม่หันหลังกลับแล้ว แต่ที่มีลูกเลยหยุดแค่นั้น
เรื่องบางอย่างที่ยังไม่สมควรรู้ตอนนี้ก็ไม่ต้องรู้ถ้ายังไม่ถึงเวลา :b44: onion



เป็นไปได้ยังงัยที่พอได้รู้ธรรมเห็นธรรมแล้วจะทิ้งลูกนั่นน่ะ ไม่ใช่เป็นข้ออ้าง
เอาไว้อ้างเพราะกลัวจะโดนว่าให้ว่าขี้เกียจอ่อนแอมากกว่าเหรอ???
ก็เลยอ้างอย่างนี้เพื่อจะได้ไม่ต้อง...นั่งสมาธิเดินจงกรมภาวนา...มากๆให้ลำบาก

เป็นไปได้ยังไงที่การรู้เห็นธรรมะจะทำให้...ละทิ้งลูกน้อย...
มีแต่จะทำให้เราเกิดความสงบเย็นใจมีกำลังใจพลังใจในการทำงาน
ต่างๆได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากต่างๆ
เพื่อเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างสบายด้วยตัวเองได้ต่างหาก
โดยไม่ต้องไปงอมืองอเท้าไปขอให้ใครหน้าไหนมาเลี้ยงลูกช่วย
เลี้ยงลูกได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
ด้วยความสามารถของตัวเอง
เพราะมีผลจากการปฏิบัติธรรมะมาช่วย
ทำให้เรามีจิตใจเข้มแข็ง ขยันขันแข็งในการทำงาน
สู้การสู้งานต่างๆได้อย่างสบายๆ
มีความสุขใจเย็นใจไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์ยากลำบากในขณะที่ทำงานอยู่
ผลจากความสงบสุขเย็นใจที่ได้จากการปฏิบัติธรรม
จะทำให้ใจเรามีความสงบเย็นสบายในตอนที่ทำงานนะ ให้รู้เอาไว้ด้วย
อย่าไปเข้าใจอะไรผิดๆไปว่าถ้า ปฏิบัติได้รู้ได้เห็นธรรมแล้วจะทำให้เราขี้เกียจทำการทำงานต่างๆ
อันนั้นเป็นความเห็นผิดแล้ว ให้รู้เอาไว้

แล้วตอนที่ไปหางานทำก็ให้พยายามให้เลือกหางานที่ไม่ต้องได้ใช้ความคิดปรุงยุ่งอะไร
ให้มากด้วยนะ เพราะถ้างานไหนที่เราต้องได้ใช้ความคิดปรุงยุ่งมากๆก็จะทำให้ไปรบกวนการภาวนาของเราได้
ถึงจะเงินเดือนไม่มาก ก็ช่างเถอะ แต่ก็น่าจะเลือกเป็นอันดับแรกต้นๆมากกว่าพวกงานที่
แม้จะเงินเดือนสูงแต่ต้องได้ใช้ความคิดปรุงยุ่งตลอดทั้งวัน งานแบบนั้นก็ไม่ควรจะไปทำนะ
เพราะทำให้ไม่ได้ภาวนาในขณะที่ทำงานไปด้วย ทำงานหาเงินแค่ได้เพียงเลี้ยงตัวเองกับลูกน้อย
ได้ก็พอแล้วล่ะ ไม่ต้องเอาร่ำเอารวยอะไรมากก็ได้...ขอแต่ให้เป็นงานที่เราสามารถทำภาวนาไปด้วยได้อย่างสะดวกในขณะที่ทำงานไปด้วยก็พอ
ถึงได้งานมีเงินเดือนสูงๆแต่ไม่ได้ภาวนาจะมีประโยชน์อะไร
เอาแค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ก็พอแล้ว แต่ถ้างานไหนที่เงินเดือนก็สูงและก็ไม่ต้องได้ใช้ความคิดปรุงยุ่งอะไรมากก็ไม่ผิดกติกาเน้อ
แต่คงหายากอยู่นะ เพราะปกติถ้างานไหนที่เงินเดือนสูงๆแล้วก็มักจะได้ยุ่งมากๆแหละ


ที่ตอบมายาวๆอย่างนี้ก็เพราะผมคิดว่าน้องก้องก็เป็นนักปฏิบัติที่น่าจะมีบารมีสูงอยู่คนหนึ่ง
ถ้าได้ยินได้ฟังอะไรแล้วก็น่าจะฟิตตัวให้เข้มแข็งขึ้นมาได้
ก็เลยได้เขียนยาวๆอย่างนี้ให้ได้อ่าน
ที่คิดว่าน้องก้องน่าจะมีบารมีสูงอยู่ก็เพราะมีคนมีบุญมากมาเกิดด้วยนั่นเอง
ที่ว่าเขามีบุญมากก็เพราะเขาเป็นลูกพระมาเกิด
(ไปขอจากหลวงพ่อโสธรก็ต้องเป็นลูกพระนะสิ่)
ถ้าแม่ไม่มีบารมีอะไรบ้างเขาก็คงจะไม่มาเกิดด้วยหรอก
คนที่เขาจะมาเกิดด้วยต้องเป็นคนที่มีจิตใจใฝ่ในทางบุญทางกุศลเป็นคนมีวาสนาบารมี
เขาถึงจะมาเกิดด้วย ได้อ่านที่น้องก้องเขียนถึงเด็กมีบุญคนนี้แล้วก็ทำให้ผมนึกเอ็นดูเขาขึ้นมาเลยนะ
จาก....กระทู้หลักธรรมของ"แม่"่....viewtopic.php?f=1&t=42919
nongkong เขียน:
จริงๆแล้วคุนน้องก้อไม่ใช่แม่ที่วิเศษอะไร จะออกแนวโหดๆด้วยซ้ำ บางทีบอกไม่ฟังคุนน้องปล่อยเลย ให้มันเจ็บตัวซะมั่งจะได้รู้ว่าทำไมถึงห้าม :b6: คือเจ้าตัวเล็กมันมีเลือดความแสบซนของพ่อ+ความมึนแถมเจ้าเลห์ของแม่ด้วย(ถอดแบบแม่มันมาเลย :b14: ) แต่ก็มีจิตใจเมตตาเอื้อเฟื้อแต่เด็กแล้วเค้าก็รักคุนน้องมาก เค้าไม่ยอมจุ๊บคนอื่นเลยนอกจากคุนน้องแปลกเหมือนกัน ขนาดยายก็ไม่ยอมจุ๊บ..เล่นตัวมาก :b9: ลูกคุนน้องชอบแบ่งขนมให้เพื่อนกินด้วย คือเค้าจะเอาขนมไปป้อนเด็กคนอื่น คนไม่รู้จักนะ คือพาไปเล่นสนามเด็กเล่น ลูกคุนน้องก็ไปเกรียนเฉย :b32: คุนน้องไม่รู้จะเอาลูกคนนี้อยู่ไหม คิดว่าลูกตัวเองบารมีสูงกว่าตน ลูกคุนน้องเกิด วันเสาร์ ปีเสือ ซึ่งดวงแข็งด้วย เลี้ยงดีก็ดีไป เลี้ยงไม่ดีก็อาจจะเสียคน เดือนเกิดก็เป็นเดือนกันยายน ราศรีกันย์ซึ่งเคยได้ยินมาว่า เป็นราศีของผู้มีบุญมาเกิด(ก็ฟังหูไว้หูอ่ะนะ) แถมตอนเกิดก็ 9.49 ตอนกลางวัน ซึ่งคุนน้องก็เคยคิดนะว่าเลขสวยดีแหะ เราก็ชอบเลข9ด้วยสิ ตอนท้องคุนน้องไปขอพรมาที่วัดม่วง จ.อ่างทองมีคนบอกว่าสามารถขอพรได้ 1 อย่าง คุนน้องเลย ขอให้ลุกเกิดมามีบุญวาสนา แต่ก็เคยคิดเล่นๆกับตัวเองว่า ลูกเรามีบุญทำไมมาเกิดกับเรานะ (แถมพ่อตายตั้งแต่เด็กอีก) สรุปมีบุญวาสนาหรือมีกรรมก็ไม่รู้ ต้องรอดูต่อไป เอิ๊กๆ อาจจะเหมือน ดร.วรภัทร ก็ได้ใครจะไปรุ้ อิอิ :b13: ส่วนที่คุนน้องไปขอลุกชาย ขอที่วัดหลวงพ่อโสธร (บุญวาสนาหมดแล้วขอไม่หยุดเลย :b2: )

ได้คนมีบุญมาเกิดด้วยแล้วเราก็ต้องหมั่นขยันปฏิบัติธรรมต่อไปเน้อ
อย่าให้ระดับจิตใจของเราเสื่อมถอยลงไปได้
ลูกเราจะได้เอาอย่างคุณแม่งัย
จะได้ทำให้เขาเอาแบบเราจนเป็นนักปฏิบัติ
ที่สามารถปฏิบัติจนพ้นทุกข์ไปได้ตามเรางัยล่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 135 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 29 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร