วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2012, 08:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2012, 20:55
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2554 เวลาประมาณตี 4 หลังจากที่ข้าพเจ้าได้นั่งสมาธิภาวนาก่อนที่จะนอนสมาธิ ข้าพเจ้าได้เกิดนิมิตฝันขึ้น...
ในนิมิตฝันข้าพเจ้ากำลังสำรวมนั่งอยู่ ณ เบื้องหน้าขององค์พระหลวงตามหาบัว ซึ่งองค์หลวงตากำลังนั่งในท่าขัดสมาธิบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะม่วง ข้าพเจ้าได้ยกมือขึ้นพนมแล้วเล่าความฝันของข้าพเจ้าที่เคยฝันมาหลายๆครั้ง (มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจมากสำหรับข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าสามารถจดจำความฝันครั้งก่อนๆที่เคยฝันถึงองค์พระหลวงตา แล้วนำมาเล่าถวายอย่างถูกต้องทุกอย่าง) ถวายแด่องค์พระหลวงตาฟังว่า
“ผมได้ฝันเห็นพระหลวงตาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งผมฝันว่า วันนั้นผมกำลังนั่งสมาธิอยู่ก็ได้ปรากฏเห็นเป็นองค์หลวงตานั่งอยู่เบื้องหน้า แล้วหลวงตาก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ตั้งใจทำ ทำอะไรแล้วก็จงทำให้มันถึงที่สุด” และผมก็เล่าความฝันครั้งต่อไปถวายอีกว่า “ผมถูกภูตผีตนหนึ่งหวังจะเข้ามาทำร้าย แต่ก็ปรากฏเห็นองค์พระหลวงตา เข้ามาไล่ภูตผีตนนั้นออกไป แล้วหลวงตาก็ค่อยๆเลือนหายไป ผมก็ได้แต่ยกมือขึ้นสาธุๆๆในความฝัน” หลวงตานั่งฟังอย่างสุขุม ผมจึงเล่าถวายอีก “ครั้งนั้นผมกำลังจะเดินไปใส่บาตรหลวงตา เห็นญาติโยมคนอื่นๆใส่กัน พอผมเดินไปถึงหลวงตาก็เดินมา ผมกำลังจะหยิบข้าวในกระติบเพื่อใส่บาตร แต่พระหลวงตาก็ปิดบาตรทันที ผมตกใจเป็นอย่างยิ่ง ท่านเอ่ยขึ้นมาว่า “เราอิ่มแล้ว...เราพอแล้ว” แล้วหลวงตาก็เดินจากไป” เมื่อผมเล่าความฝันของผมถวายองค์พระหลวงตาฟังเสร็จ ผมจึงถามท่านพร้อมกับยกมือขึ้นพนมว่า “หลวงตาครับ คือว่าผมอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ยังไม่รู้ยังไม่เห็นผมต้องทำอย่างไรครับ” หลวงตาจึงเอ่ยขึ้นว่า “จงตั้งใจปฏิบัติไปเรื่อยๆนะ ความรู้ความเห็นมันจักเกิดขึ้นมาเองตามลำดับ แต่อย่าไปยึดติดมันนะ” ข้าพเจ้ายกมือขึ้นสาธุ ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ปรากฏเห็นองค์หลวงปู่ชอบเดินมาทางที่หลวงตานั่งอยู่ ข้าพเจ้าสังเกตเห็นจีวรและสบงของท่านที่ท่านนุ่งห่มอยู่นั้นดูเก่าๆ ข้าพเจ้าจึงอุทานขึ้นในใจว่า”นี่หรือพระวัดป่า ท่านไม่ฝักใฝ่หาเลยแม้แต่น้อย ดูน่านับถือยิ่งนัก” ข้าพเจ้ายกมือพนมไหว้องค์หลวงปู่ชอบอย่างนอบน้อม หลวงตามหาบัวท่านจึงเอ่ยกับข้าพเจ้าว่า “ท่านอาจารย์ชอบนี้ ท่านก็เป็นผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่งนะนี่นะ” หลวงตาท่านพูดแบบยิ้มแย้ม จากนั้นหลวงปู่ชอบท่านก็เดินมานั่งที่อาสนะด้านหน้าขององค์หลวงตา หลวงปู่ชอบจับมือทั้งสองของข้าพเจ้าที่กำลังพนมมืออยู่ แล้วท่านก็เอ่ยขึ้นว่า “ผู้ใดหวังพึ่งพระโพธิสัตว์ ก็ยากพอดูนะ”...แล้วท่านก็จับมือทั้งสองของข้าพเจ้ามาวางไว้ที่ตักขององค์พระหลวงตาแล้วหลวงปู่ชอบท่านก็พูดกับหลวงตาว่า “แบบนี้ต้องเอาให้หนักหน่อยนะ...มันค่อนข้างที่จะดื้ออยู่” ท่านพูดแบบยิ้มๆ ด้วยเหตุอันใดก็ไม่รู้ที่ข้าพเจ้าพยายามจะยกมือออก แต่ท่านหลวงปู่ชอบท่านก็กดเอาไว้ สักพักหลวงปู่ชอบท่านก็ปล่อยมือ แล้วท่านก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปทางป่ารกทึบ จากนั้นหลวงตากับข้าพเจ้าก็ลุกขึ้นเดินตามไปโดยมีข้าพเจ้าอยู่หลังสุด ข้าพเจ้าก้มลงมองตัวเองปรากฏว่าตอนนี้ข้าพเจ้าได้บวชเป็นพระแล้ว ตอนที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ข้าพเจ้ายังใส่ชุดทั่วๆไปที่ฆราวาสใส่กันอยู่เลย แต่ข้าพเจ้าก็รู้ไว้แค่นั้น แล้วเดินตามหลวงปู่กับหลวงตาไป ทางที่เดินค่อนข้างที่จะรกทึบ เดินไปก็ค่อนข้างที่จะลำบากทีเดียว มีทั้งต้นไม้ขึ้นรกทึบ ไม้หนามต่างๆนานาเกาะเดี่ยวเอาจีวรของข้าพเจ้าจนขาด แถมเห็นสัตว์นานาชนิด ข้าพเจ้าเดินไปตามหลวงปู่กับหลวงตาจนมาถึงที่แห่งหนึ่ง มันเป็นถนน ซึ่งถนนเส้นนี้มันดูสะอาดตา ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆทั้งสิ้น ถนนสายนี้มันช่างยาวสุดลูกหูลูกตา เส้นทางค่อยๆลาดชันขึ้นเป็นลำดับ ปลายทางของถนนสายยาวสายนี้นั้นมีแสงสีขาวเจิดจ้าอยู่ซึ่งดูสวยงามเป็นพิเศษ ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าได้เข้าไปเดินคงจะรู้สึกดีมิใช่น้อย ข้าพเจ้าเห็นองค์หลวงปู่ชอบเดินไปบนถนนสายนั้น แล้วก็ค่อยๆเดินหายลับไป จากนั้นก็เป็นองค์หลวงตาที่เดินตามไปเป็นองค์ที่สองแล้วก็ค่อยๆเลือนหายไป จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงเป็นภาษาอีสานดังลอยขึ้นมาในอากาศว่า “หลวงปู่เทสก์กะอยู่หม่องนั่น...หลวงปู่ฝั้นเพิ่นกะอยู่” แล้วเสียงนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป แล้วข้าพเจ้าก็หันหลังเดินกลับทางเดิม ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เดินไปตามหลวงปู่และหลวงตา แต่หันหลังเดินกลับทางเดิม เมื่อข้าพเจ้าหันหลังเดินกลับทางเดิมผ้าสบงจีวรที่ข้าพเจ้าใส่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป กลายมาเป็นชุดนุ่งทั่วไปที่ฆราวาสใช้ใส่กัน แล้วข้าพเจ้าก็ตื่นพอดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2012, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝันดีตื่นมาก็สบายใจ ฝันร้ายตื่นมาก็ฟุ้งซ่าน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2012, 10:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝันดี....เป็นกำลังใจ

.......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2012, 18:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


บางทีก็ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นนิมิตร ที่ละเอียดขึ้นไป จากการทำสมาธิบ่อยๆ จนจิตสงบ

การที่มีประวัตินิมิตรเห็น พระอริยะที่นิพพานไปแล้ว มาสั่งสอนธรรมะ

อาจเป็นไปได้ว่า บุญ-กุศล และพระธรรมบารมี ของพระอริยะที่ได้ทำมาตอนมีชีวิต ไม่้ได้ติดตามไปนิพพานด้วย ยังไม่ได้หายไปใหน เลยยังอยู่ในสังสารวัฎนี้ ผู้ใดปฎิบัติดี-ปฎิบัติชอบ ก็จะพบนิมิตรเหล่านี้ได้

ฟังจากคำสัมภาษณ์ของ ศิษย์สายวัดป่า ที่บอกว่า ถ้าอธิฐาน ถึงพระธาตุของพระอรหันต์ พระธาตุ ก็อาจเสด็จมาหาได้

ดังนั้นธรรม บุญ กุศล บารมี ที่พระอริยะได้บำเพ็ญเพียร ตอนมีชีวิต ไม่ได้หายไปใหน ยังอยู่

ตามความคิดส่วนตัวของผม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ส.ค. 2012, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่ไม่เกิด....ก็ไม่มีอะไรตาย

ที่ตาย....ก็เป็นแต่ของที่เกิด..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 03:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 19:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2012, 20:55
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมได้เอาความฝันครั้งนี้ไปเล่าให้ลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวท่านหนึ่งฟัง ท่านบอกว่า...ชาตินี้ผมจะได้บวช ในช่วงระยะเวลาที่ได้บวช จะปฏิบัติตนปฏิบัติธรรม ตามสายทางแห่งพ่อแม่ครูอาจารย์ แต่การปฏิบัติจะเป็นไปเพียงชั่วระยะหนึ่ง แล้วจะลาสิกขาบท เพราะว่าผมยังมีห่วงติดอยู่....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 20:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ความปรารถณา....เป็นห่วง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 21:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2012, 20:55
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


พ่อแม่ คือ ห่วง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 21:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ปรารถณาให้ท่าน...มีสุข(เวทนา)....เป็นห่วง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2012, 22:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2012, 20:55
โพสต์: 7


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุดครับ
...ณ ตอนนี้ผมกำลังพยายามขวานขวายหาสิ่งต่างๆเพื่ออำนวยความสุขสบายให้แก่ท่านอยู่ แต่นั่นมันก็เป็นเพียงของนอกกาย ผมสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเมื่อท่านทั้งสองอยู่อย่างสุขสบายแล้ว ผมจะขอบวชตลอดชีวิต แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ และอีกนานแค่ไหน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 50 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร