http://www.dailynews.co.th/crime/136908
คุนน้องไม่อยากจะเชื่อว่า พระท่านจะข่มขืนสีกาจนตั้งท้องได้ ในเมื่อตาบอดแถมแก่แล้ว จะเอากำลังทีไหนมาบังคับข่มขืน แล้วยิ่งบอกว่าสีกาท้องยิ่งไม่อยากจะเชื่อ เพราะท่านอายุมากแล้ว ถ้าตรวจ dna เด็กในท้องไม่ใช่ลูกท่าน ไอ้พวกที่มันใส่ร้ายท่านนี่ ขอให้เวรกรรมตามสนองพวกมัน พูดแล้วของขึ้น

ไม่มีสิ่งใด...ไม่เกิดแต่เหตุ.....

เรื่องที่สีกากล่าวหาท่าน....ย่อมเป็นวิบากของท่านเอง

แต่เรื่องที่ใครจะทำสีกาท้อง....อาจเป็นคนละกรณี

และเห็นว่า....ไม่จำเป็นต้องใช้หลักาลามสูตรมาพิจารณาว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ...เพราะถึงจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร...ก็ไม่ได้เป็นเหตุแห่งการพ้นทุกข์

แต่น่าจะพิจารณาให้เห็น...ทุกข์ในวัฏสงสาร....อันมีวิบากกรรมต่าง ๆ รอเราอยู่...แม้ในชาตินี้ไม่ได้ทำ...แต่กรรมชั่วชาติก่อน ๆ .มีเท่าไร....ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าทำกรรมชั่วมามากน้อยแค่ไหน...บางทียังทำกรรมชั่วเพิ่มขึ้นอีกเพียงหวังว่าจะหนีทุกข์จากวิบากกรรมเก่าได้...กลายเป็นดินพอกหางหมู

โชคดีของพวกเรา ๆ แล้ว....ที่มีโอกาสนี้...เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น....ที่จะทำให้กรรมทั้งหลายบรรดามี....เป็นโมฆะ...ได้

นั้นคือ...เข้าให้ถึงซึ่งพระนิพพาน...โดยเร็วไว...ในชาติปัจจุบันนี้...เถิด

แจ่มเลย ของจริง

ตลกดีครับ ไอ้ตอบแบบนี้ แถวบ้านผมเรียก ไปไหนมาสามวาสองศอก
เขาตั้งกระทู้ถามว่า เชื่อหรือไม่เชื่อว่าพระข่มขืนสีกา จะเชื่อหรือไม่เชื่อ
ก็ให้คำตอบเขาไปพร้อมทั้งเหตุผล

ส่วนธรรมมะที่พูดนั้นน่ะ เอาไว้พูดหลังจากให้คำตอบเขาแล้ว
เพื่อให้เอาเป็นอุทาหรณ์ ไม่ใช่เอะอะก็เข้ามาพูดไม่มีปี่มีขลุ่ย
ดูแล้วเหมือนใส่สูทผูกไทร์มาเล่นสงกราณต์ สรุปก็คือไม่รู้กาลเทศะครับ

พี่โฮยังไม่ชินท่านกบอีกหรือ ท่านกบแกคงคลุกคลีกับผู้ใหญ่ที่เป็นข้าราชการมาเยอะ คนประเภทสอนคนนั้นคนนี้ ติคนนั้นติคนนี้ แต่ไม่ค่อยชอบมองตัวเอง อันนี้เรื่องจริงนะไม่ได้ว่าท่านกบ คนแก่มักจะเป็นแบบนั้น พ่อสามีกับแม่สามีคุนน้องก็เป็นเหมือนกัน
แบบว่า คุนน้องถามอย่างนึง แทนที่จะตอบในสิ่งที่เราอยากรู้ประเด็นที่เราสงสัย ดันมาสีซอให้เราฟัง แล้วก็มาตู่ว่าเราเป็นควายเลยไม่เข้าใจในสิ่งที่แกกำลังพูด 555+ ก็เลยต้องทำแบบนี้ (ตัดปัญหา)

เอ๊ะ!แต่เราก็เห็นคุณกบฯเค้าตอบแล้วนี่ค่ะ






ถ้าคนที่ต้องการที่ต้องการที่จะเข้าไปสู่ถนนบรรลุธรรม ใครจะกล้าตอบไปมากกว่านี้ล่ะจ๊ะ
เรายังไม่กล้าออกความเห็นเลยจ๊ะ ข่าวอ่านได้แต่อย่าไปเพิ่มกิเลสให้กับตัวเราเอง
เหมือนที่คุณโฮฮับบอกว่า เจ้าตัวกิเลสนี้ถ้ามันมากไป จะเปลี่ยนเป็นตัณหา ทีนี้จะเป็นสิ่งที่ให้โทษล่ะ

แต่ก่อนพี่เต้ก็นิสัยอย่างคุณน้องคองนี่แหละค่ะ รักความถูกต้อง
เรื่องนี้คงต้องให้คุณโฮฮับแสดงสภาวะธรรมให้คุณน้องคองล่ะค่ะ
เพราะพี่เต้ก็มาเปลี่ยนได้ จากที่อ่านๆในนี้หล่ะจ้า

เป็นคำตอบที่สุดยอด จบและมีทางออก ลึกซึ้งเข้าถึงธรรมแน่เลย

มันมีสิ่งหนึ่งที่เข้าใจยากกว่านั้น จิตของเราไม่ใช่ว่าบังคับมันให้เปลี่ยนได้ แต่ใจเราต้องยอมรับว่าตอนนี้ใจเราเป็นยังงัย แบบว่า คุนน้องจะแสดงอารมณ์ออกไปตามความรู้สึกนึกคิดของตน คุนน้องไม่ได้ไปข่มมัน เพราะฉะนั้นจะเห็นสภาวะธรรมที่คุนน้องแสดงไปตามเหตุปัจจัย คุนน้องเป็นคนที่มี กิเลศตัวมานะ ความทะยานอยากสูง เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันข้องใจ คุนน้องเลยเอาจิตไปจับมัน คือยังมีความยินดีพอใจในธรรมนั้น สิ่งนั้นอยู่ อธิบายแบบนี้ ง่ายๆ
ถึงจะไม่บรรลุธรรมชาตินี้ (ไม่เคยตั้งเป้าหมาย) แต่คุนน้องก็สามารถเข้าใจธรรมชาติในโลกใบนี้ด้วยตนเอง เพราะเป็นคนที่สงสัยมาก แล้วก็หาคำตอบด้วยตัวเองทุกครั้ง ถึงแม้จะมีคำนึงที่บอกว่า สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นย่อมดับเป็นธรรมดา (พูดในจิตใต้สำนึก)แต่ตอนนี้จิตคุนน้องยังยินดีเพลิดเพลินอยู่กับสิ่งที่ต้องการจะรู้ ก็แค่นั้น ไว้เบื่อก่อนนะแต่ตอนนี้ยังต้องการอยากจะรู้..รู้..รู้

คุนน้องอยากให้พี่เต้ มองธรรม ต้องมองทั้งสองด้าน ทุกคนมีกิเลศเหมือนกัน แต่จะขั้นละเอียด รึขั้นหยาบ แต่คนที่กิเลศเสมอกัน รึกิเลสน้อยกว่าอีกคนเท่านั้น ถึงจะอ่านกันทะลุปรุโปล่ง..


ไม่มีสิ่งใด...ไม่เกิดแต่เหตุ.....

เรื่องที่สีกากล่าวหาท่าน....ย่อมเป็นวิบากของท่านเอง

แต่เรื่องที่ใครจะทำสีกาท้อง....อาจเป็นคนละกรณี

ถ้าท่านกบแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ มันก็ถูกต้อง แต่ท่านกบก็เอากิเลศของตนมาปะปนไปด้วยโดย แสดงความเห็นในส่วนนี้

เพราะฉะนั้นการแสดงความเห็นในที่สาธารณะ ไม่มีใครผิดใครถูกทั้งนั้น

...

และก็ มีแสดงความเห็นที่นี่ด้วย

แบบว่าเล่าที่เคยเจอให้ฟัง
เด็กฝึกงานที่ทำงาน แค่ไปเห็นคนหนุ่มใส่สบงสีเหลือง และใส่กางเกงยีนส์ข้างใน
หัวโล้นแต่สวมหมวกไว้ นั่งอยู่ในรถกับสีกา
จริง ๆ รถก็ติดฟิลม์สีดำ แต่จังหวะสีกาเปิดประตู
เจ้าเด็กฝึกงานนั่นก็ไปเห็นเข้า
สายตาปะกับพระ พระเห็นก็ตกใจ รีบดึงสีกาเข้ารถ ปิดประตู รีบขับรถออกไป

เห็นแค่เนี๊ยะ ก็เอามาปั้นน้ำจนเป็นตัว พูดจนเป็นตุเป็นตะ
ว่าศาสนาเสื่อม พระสมัยนี้เสื่อม
เล่าไปทั่วห้องตั้งแต่บ่ายสองยันบ่ายสี่ พระสมัยนี้มีแต่หลอกลวง ต้มตุ๋น

พี่เอกอนก็เลย เล่น"ของขึ้น"กับมันสักหน่อย
แค่ถามมันกลับไปว่า

"เฮ้ย ... ตอนอากงเอ็งตาย เตี่ยเอ็งขอให้เอ็งช่วยบวชหน้าไฟให้อากงรึป่าววะ.. "



ถามแค่นี้ล่ะ ... สงสัยมันคงจะระลึกชาติปางไหนสักปางออก

มันก็แค่ร้องกลับมาว่า "โธ่...อาจารย์..."
และมันก็หุบปากเงียบเลย ...

....

"หรือ .. บางทีเขาอาจจะมาเข้าฉากถ่ายทำโฆษณาอะไรอยู่ก็ได้...และพักเบรคมาหาของกิน

คราวหลัง ถ้าเอ็งสงสัย เอ็งเข้าไปเคาะกระจก-เปิดประตูเข้าไปถามเขาก่อนนะ ... "

พอพี่พูดอย่างนี้

พี่ ๆ ที่อยู่ในสำนักงาน ก็ว่า

"เออเว้ย...มันก็เป็นไปได้เน๊อะ"

มันแปลกตรงที่ ประเด็นคือ คุนน้องอยากให้ทุกคนได้ลองวิเคราะห์กันดูว่า มีเหตุมีผลกันมากแค่ไหน
สมมติ เราเป็น csi ต้องการรู้ว่าการตายของ..คนนี้..เกิดขึ้นอย่างไร..แล้วเราก็พยายามสืบหาความจริง มันก็ใช้หลักกาลามาสูตร แล้วมีผู้ผดุงความยุติธรรมคนนึงเข้ามาบอกกับเราว่า ..เขาจะตายแบบไหนไม่สำคัญ..แต่ยังงัยเขาก็ตายไปแล้ว..ไม่ต้องไปหาเหตุผล..เพราะถึงยังงัยเขาก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมา อะไรทำนองนี้แหละ
มันก็เลยเป็นเช่นนี้เอง ถ้ามีผู้ผดุงความยุติธรรมเป็นแบบนี้ คุนน้องก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะ ว่าโลกมนุษย์จะเป็นยังงัย เพราะมันเกิดการเสียสมดุลทางธรรมชาติไปซะแล้ว55+ บางทีคุนน้องคงมาตั้งกระทู้ผิดที่ผิดทาง กระทู้นี้ต้องวิเคราะเฉพาะเรื่อง ธรรมมะ ทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นวัฏฏะสงสาร ทำอย่างไรถึงจะนิพพานในชาติปัจจุบัน เรื่องสถาณการของบ้านเมืองไม่เกี่ยวกับ ชีวิตประจำวันของเราไม่ต้องเอามาวิเคราะห์ให้เกิดปัญญา คราวหน้าจะไม่ตั้งกระทู้แบบนี้แล้ว จะตั้งกระทู้ ทำอย่างไรจะถึงนิพพานและหลุดพ้นวัฏฏะสงสารกันดีกว่า น่าจะมีประโยชน์ต่อนักปฏิบัติธรรม

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=lmxQXkLB_xo&feature=player_embedded[/youtube]

พระแก่ กับ แท๊กซี่แพะ ...คล้ายกันไหม

โธ่ โธ่ โธ่ ตั้งไปเถอะ...

พี่เอกอนลงมาช่วยผดุงความยุติธรรมให้...

จริง ๆ พี่เอกอนเห็นข่าวยังใหม่ เพิ่งลงวันที่ 19 นี้เอง
รายละเอียดข้อมูลของข่าวยังน้อยนัก
เพราะตำรวจเองก็เพิ่งรับเรื่อง และจะเข้าไปดำเนินการสอบสวน

และจริง ๆ สังคมสมัยนี้มัน จิตใจคนก็ซับซ้อนซ่อนกล
ทั้งเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ คนแก่สมัยนี้

สมัยที่เรียนมหาลัย พี่เอกอนเคยรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง
เขาไปดูดวงกับ หมอดูแก่ ๆ คนหนึ่ง น่าจะ 80 ได้แล้วล่ะ
พี่เขาบอกว่า หมอดูคนนี้ ดูแม่นมาก แต่ ชีกอ ...
เพราะดูไปดูมาออกแวว...พูดว่าจะส่งเสียให้เรียนจนจบมีงานทำ แต่จะให้นอนกับแก

รุ่นพี่คนนั้นก็ แกล้งทำสนใจแต่บอกว่าพอดีมีธุระ
เอาเบอร์โทรแล้วบอกเด๋วจะโทรหาว่าจะเจอที่ไหน
กะว่าจะนัดไปที่ ม่านรูด แล้วกลับไปเรียกเพื่อนผู้ชายให้ไปรอกระทืบ...

และพอดีในข่าว ก็ดูเหมือนเด็กพวกนี้จะไปหาพระรูปนี้ก็เพราะเรื่องดูหมอ...

....
มันมีแง่ที่ เป็นไปได้ และไม่น่าจะเป็นไปได้ และลำดับเหตุการณ์ยังดูคลุมเครือ ปะปนกันอยู่

เอาเป็นว่า รอดูรายละเอียดกว่านี้ก่อน...