วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 11:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2012, 08:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ถ้าตนเองเข้าใจธรรมมะผิด แต่เข้าใจว่าตัวเราเข้าใจถูก และพยายามให้ธรรมมะเป็นทานด้วยจิตเป็นกุศลละครับ จะได้รับผลอย่างไรครับ

:b16:
"รู้ธรรมผิดแล้วมาถ่ายทอด ก็เปรียบเหมือน คนตาบอดจูงคนตาบอดเดินทาง" อะไรจะเกิดขึ้น คงนึกภาพกันออกนะครับ
:b39:
กุศลจิต ที่อยู่ใต้อำนาจของโมหะ ย่อมเศร้าหมองเอง เหมือนคนฆ่าไก่ไปทำบุญถวายพระฉัน
:b40:
ชื่อกระทู้ว่า "เราจะรู้ได้อย่างเราคิดถูก"........ฟังดูแปลกๆ
:b10:
น่าจะเป็นคำว่า ..."เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราคิดถูกต้อง".....เป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ?....
ถ้าเป็นอย่างนี้ถามต่ออีกนิดเดียวว่า "คิดถูกต้อง"ที่คุณว่านี้หมายถึง สัมมาสังกัปปะ ปัญญามรรค ในมรรค 8 หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ง่ายที่จะรู้ ว่า คิดผิดหรือคิดถูก
:b42:
คิดถูกต้อง..สัมมาสังกัปปะ...คือ

1.คิดออกจากกาม.......คือความยินดีทั้งหลาย (อภิชฌา)

2.คิดออกจากความพยาบาท.......คือความยินร้ายทั้งหลาย (โทมนัสสัง)

คิดที่จะอยู่อย่างไม่เบียดเบียน......คือความเป็นกลาง วางเฉย (อุเบกขา)

นี่เป็นพระวาจามีมาใน อริยมรรคมีองค์ 8

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2012, 08:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เราจะรู้ได้อย่างไรเราคิดถูก
ก็ต้องนำไปประพฤติปฏิบัติเสียก่อน ถ้าผลดี มีประโยชน์ไม่มีโทษ
มีคุณทั้งตนและผู้อื่น ก็ถือว่า คิดถูก

ถ้าผลออกมา ไม่ดี ไม่มีคุณประโยชน์ มีแต่โทษทั้งตนและผู้อื่น
ก็ถือว่า คิดผิด

เมื่อคิดถูกทำถูกแล้วนำมาเผยแพร่ต่อผู้อื่น
ทางโลกเรียกว่า "วิทยาทาน"
ทางธรรม เรียกว่า "ธรรมทาน"

รู้ธรรมผิดแล้วมาถ่ายทอด เป็นอย่างไร?
asoka เขียน:
"รู้ธรรมผิดแล้วมาถ่ายทอด ก็เปรียบเหมือน คนตาบอดจูงคนตาบอดเดินทาง"
:b4: :b4:

:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2012, 18:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ถามต่อนะครับ 2500กว่าปีแล้ว ทั้ง3ปิฎกของเราถูกเปลี่ยนแปลงมาตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ยากที่เราชนรุ่นหลังจะทราบได้ มีก่ารศึกษาทั้ง3ปิฎก ปรเทศพม่าที่ได้ชื่อว่ามีผู้ทรงปิฏกทั้ง3ปิฏกได้อยู่ประเทศเดียวถึง13รูป ประเทศอื่นไม่มี แม้แต่ประเทศไทยเราก็ไม่มี และยิ่งพูดถึงการปฏิบัติด้วยแล้วถกเที่ยงกันไม่มีวันจบ นักปริยัติบางที่ไม่นิยมนั่งสมาธิ นักปริยัติบางท่านก็นิยมนั่งสมาธิไปด้วย ศึกษามาจากตำราเดียวกันยังตีความหมายไม่เหมือนกัน เราจะทำอย่างไรดี กับชีวิตการศึกษาพระธรรมของพระพุทธองค์ เราควรจะยึดตามแนวทางของเราเอง หรือควรจะเปิดโอกาศให้ราได้ศึกษาธรรมมะหลายๆสถานที่ดีครับ เพื่อเป็นการเที่ยบเคียงกับสิ่งที่เราปฎิบัติอยู่ครับ แล้วเมื่อเราเทียบเคียงกับหลายๆที่ๆเขามีความแตกต่าง เราถึงสรุปดีมั้ยครับ ไม่ว่าจะนั่งหรือไม่นั่งสมาธิ ไม่ว่าคำสอนที่แตกต่างนั้น เพราะเราต่างคนต่างปรารถนาในเป้าหมายเดียวกัน นั้นคือความหลุดพ้น นี่คือความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ท่านละครับมีความเห็นเป็นเช่นไรครับ

อ้างคำพูด:
ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา จึงทำให้มีทั้งผู้มีความเห็นถูก และ ความเห็นผิด คู่ไปกับโลก ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ครับ ข้อความนี่เห็นด้วย100%ครับ แต่นี้ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับเราได้เปิดโอกาสให้ตัวเราได้ศึกษากับความคิดที่แตกต่างจากเราเหลือยัง เมื่อเราได้เปิดโอกาสได้ศึกษาความเห็นต่างเราเสียก่อน ก็น่าจะเป็นการดำเนินชีวิตโดยความไม่ประมาทในทิฎฐิของเรา ตัวผมเองได้เลือกการเดินบนเส้นทางนี้เรียบร้อยแล้ว ไม่ย้อนถอยหลังกลับแน่นอน เพราะผมไม่เคยขาดการฟังเลย และไม่เคยขาดการนั่งสมาธิตามแบบที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้เลย ผมฟังทั้งปริยัติ ศึกษาทั้งที่เขาเรียกพระป่า พระบ้าน และก็ยังมีหลักสูตรที่น่าเชื่อถือได้อย่างท่านอาจารย์โกเอ็นก้า วิปัสนาจารย์ที่กล้าข้ามศาสนาจากฮินดูมาเป็นพุทธ จนมีชื่อเสียงดังระดับโลกท่านหนึ่งทีเดียว บนเส้นทางนี้คงไม่มีใครมารับผิดชอบชีวิตเราเพราะเราเป็นคนเลือกเอง แต่เราจะไม่เสียใจเลย เพราะเราได้มองหลายมุมแล้วไม่ว่าจะถูกหรือผิด ขอท่านทั้งหลายโปรดพิจารณา ข้อความนี้น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่การสนทนาธรรม ขอความสุขสวัสดีจงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:
จากที่ผมได้อ่านที่พี่เขียนข้างบน ผมอยากถามพี่ว่า...พี่มีความต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสายไหน ระหว่างคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็น 2 สายทีมีในบ้านเราครับ...ถ้าได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว พี่ก็จะทราบถึงคำตอบของตัวเองได้ทันทีว่า เราจะเดินต่อไปเช่นใรบนเส้นทางแห่งพระพุทธศาสนาครับ...
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2012, 06:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
สวัสดีครับพี่bigtoo
จากที่ผมได้อ่านที่พี่เขียนข้างบน ผมอยากถามพี่ว่า...พี่มีความต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสายไหน ระหว่างคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็น 2 สายทีมีในบ้านเราครับ...ถ้าได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว พี่ก็จะทราบถึงคำตอบของตัวเองได้ทันทีว่า เราจะเดินต่อไปเช่นใรบนเส้นทางแห่งพระพุทธศาสนาครับ...
ขอบคุณครับ
:b5:
อย่าพากันแบ่งสายเลยครับคุณลูกพระป่า เดี๋ยวจะต้องมีเรื่องเถียงกันไม่รู้จบอีก
สมถะกับวิปัสสนาเขาอิงอาศัยกันไปตลอด ลองสังเกตจากการเจริญ มรรค 8 ดูนะครับ

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2012, 16:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
cool
สวัสดีครับพี่bigtoo
จากที่ผมได้อ่านที่พี่เขียนข้างบน ผมอยากถามพี่ว่า...พี่มีความต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสายไหน ระหว่างคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็น 2 สายทีมีในบ้านเราครับ...ถ้าได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว พี่ก็จะทราบถึงคำตอบของตัวเองได้ทันทีว่า เราจะเดินต่อไปเช่นใรบนเส้นทางแห่งพระพุทธศาสนาครับ...
ขอบคุณครับ
:b5:
อย่าพากันแบ่งสายเลยครับคุณลูกพระป่า เดี๋ยวจะต้องมีเรื่องเถียงกันไม่รู้จบอีก
สมถะกับวิปัสสนาเขาอิงอาศัยกันไปตลอด ลองสังเกตจากการเจริญ มรรค 8 ดูนะครับ

:b16:

สวัสดีครับพี่asoka :b8:
ผมไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอนครับ แต่ที่พูดนั้นก็ตามความจริงที่พระพุทธศาสนาบ้านเรามีอยู่ 2 สายจริงๆ คือ คันถะธุระ กับ วิปัสสนาธุระ ใช่มั้ยครับ...และที่ผมพูดก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องสายสมถะกับสายวิปัสสนานะครับ

จุดที่ผมต้องการจะชี้ให้เห็นคือ ถ้าเป็นคันถะธุระ(ปริยัติเป็นหลัก)จะเปรียบเหมือนการทำประโยชน์สวนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตน เพราะคันถะธุระจะใกล้ชิดกับชุมชนมากกว่าและมุ่งศึกษาพระไตรฯเพื่อคงไว้ซึ่งพระธรรมคำสอนดั้งเดิมให้สมบูรณ์
ส่วนวิปัสสนาธุระ(ปฏิบัติเป็นหลัก)นั้นเปรียบเหมือนการทำประโยชน์ส่วนตนก่อนประโยชน์ส่วนรวม เน้นที่การฝึกตนให้ถึงพร้อมแล้วจึงสั่งสอนผู้อื่น
ซึ่งทั้งสองสายนี้ก็มีความเกื้อกูลซึ่งกันและกันอยู่เสมอครับ และก็ขอบคุณที่พี่ทักท้วงมานะครับ

ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2012, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
bigtoo เขียน:
ถามต่อนะครับ 2500กว่าปีแล้ว ทั้ง3ปิฎกของเราถูกเปลี่ยนแปลงมาตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ยากที่เราชนรุ่นหลังจะทราบได้ มีก่ารศึกษาทั้ง3ปิฎก ปรเทศพม่าที่ได้ชื่อว่ามีผู้ทรงปิฏกทั้ง3ปิฏกได้อยู่ประเทศเดียวถึง13รูป ประเทศอื่นไม่มี แม้แต่ประเทศไทยเราก็ไม่มี และยิ่งพูดถึงการปฏิบัติด้วยแล้วถกเที่ยงกันไม่มีวันจบ นักปริยัติบางที่ไม่นิยมนั่งสมาธิ นักปริยัติบางท่านก็นิยมนั่งสมาธิไปด้วย ศึกษามาจากตำราเดียวกันยังตีความหมายไม่เหมือนกัน เราจะทำอย่างไรดี กับชีวิตการศึกษาพระธรรมของพระพุทธองค์ เราควรจะยึดตามแนวทางของเราเอง หรือควรจะเปิดโอกาศให้ราได้ศึกษาธรรมมะหลายๆสถานที่ดีครับ เพื่อเป็นการเที่ยบเคียงกับสิ่งที่เราปฎิบัติอยู่ครับ แล้วเมื่อเราเทียบเคียงกับหลายๆที่ๆเขามีความแตกต่าง เราถึงสรุปดีมั้ยครับ ไม่ว่าจะนั่งหรือไม่นั่งสมาธิ ไม่ว่าคำสอนที่แตกต่างนั้น เพราะเราต่างคนต่างปรารถนาในเป้าหมายเดียวกัน นั้นคือความหลุดพ้น นี่คือความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ท่านละครับมีความเห็นเป็นเช่นไรครับ

อ้างคำพูด:
ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา จึงทำให้มีทั้งผู้มีความเห็นถูก และ ความเห็นผิด คู่ไปกับโลก ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ครับ ข้อความนี่เห็นด้วย100%ครับ แต่นี้ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับเราได้เปิดโอกาสให้ตัวเราได้ศึกษากับความคิดที่แตกต่างจากเราเหลือยัง เมื่อเราได้เปิดโอกาสได้ศึกษาความเห็นต่างเราเสียก่อน ก็น่าจะเป็นการดำเนินชีวิตโดยความไม่ประมาทในทิฎฐิของเรา ตัวผมเองได้เลือกการเดินบนเส้นทางนี้เรียบร้อยแล้ว ไม่ย้อนถอยหลังกลับแน่นอน เพราะผมไม่เคยขาดการฟังเลย และไม่เคยขาดการนั่งสมาธิตามแบบที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้เลย ผมฟังทั้งปริยัติ ศึกษาทั้งที่เขาเรียกพระป่า พระบ้าน และก็ยังมีหลักสูตรที่น่าเชื่อถือได้อย่างท่านอาจารย์โกเอ็นก้า วิปัสนาจารย์ที่กล้าข้ามศาสนาจากฮินดูมาเป็นพุทธ จนมีชื่อเสียงดังระดับโลกท่านหนึ่งทีเดียว บนเส้นทางนี้คงไม่มีใครมารับผิดชอบชีวิตเราเพราะเราเป็นคนเลือกเอง แต่เราจะไม่เสียใจเลย เพราะเราได้มองหลายมุมแล้วไม่ว่าจะถูกหรือผิด ขอท่านทั้งหลายโปรดพิจารณา ข้อความนี้น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่การสนทนาธรรม ขอความสุขสวัสดีจงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย

สวัสดีครับพี่bigtoo :b8:
จากที่ผมได้อ่านที่พี่เขียนข้างบน ผมอยากถามพี่ว่า...พี่มีความต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสายไหน ระหว่างคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็น 2 สายทีมีในบ้านเราครับ...ถ้าได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว พี่ก็จะทราบถึงคำตอบของตัวเองได้ทันทีว่า เราจะเดินต่อไปเช่นใรบนเส้นทางแห่งพระพุทธศาสนาครับ...
ขอบคุณครับ :b8:
ผมเองเป็นคนโชคดีอยู่หลายอย่างในชีวิต คือผมเคยมีทุกสื่งที่มนุษย์พึงปรารถนา และก็รู้ว่ามันไม่คอยมีค่าเท่าไหร่แค่เลี้ยงชีพด้วยความพอดีๆไปวันๆ และผมก็โชคดีอีกนั้นแหละครับที่ได้เรียนรู้ธรรมมะครั้งแรกก็ด้วยความบังเอิญเป็นสายที่มาจากประเทศพม่า และก็เรียนรู้แบบสายบ้านเรา มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายด้าน บนเส้นทางนี้ไม่มีใครมาบอกอะไรกับเราได้มากนักเราต้องคัดสินใจเดินบนเส้นทางนี้เอง และมันจะถูกหรือผิดชีวิตเราๆต้องรับผิดชอบของเราเอง ขอเพียงอย่าขาดการฟังธรรมก็แล้วกัน นะครับ บนเส้นทางนี้อีกไกลแค่ไหนยังไม่รู้ ขอเพียงเราออกเดินอย่าถอยหลังกลับก็แล้วกันคิดว่าพวกเราคงถึงเส้นชัยกันสักวัน เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ :b4: :b4: :b4: :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2012, 06:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
asoka เขียน:
cool
สวัสดีครับพี่bigtoo
จากที่ผมได้อ่านที่พี่เขียนข้างบน ผมอยากถามพี่ว่า...พี่มีความต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามสายไหน ระหว่างคันถะธุระกับวิปัสสนาธุระ ซึ่งเป็น 2 สายทีมีในบ้านเราครับ...ถ้าได้คำตอบให้ตัวเองแล้ว พี่ก็จะทราบถึงคำตอบของตัวเองได้ทันทีว่า เราจะเดินต่อไปเช่นใรบนเส้นทางแห่งพระพุทธศาสนาครับ...
ขอบคุณครับ
:b5:
อย่าพากันแบ่งสายเลยครับคุณลูกพระป่า เดี๋ยวจะต้องมีเรื่องเถียงกันไม่รู้จบอีก
สมถะกับวิปัสสนาเขาอิงอาศัยกันไปตลอด ลองสังเกตจากการเจริญ มรรค 8 ดูนะครับ

:b16:

สวัสดีครับพี่asoka :b8:
ผมไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอนครับ แต่ที่พูดนั้นก็ตามความจริงที่พระพุทธศาสนาบ้านเรามีอยู่ 2 สายจริงๆ คือ คันถะธุระ กับ วิปัสสนาธุระ ใช่มั้ยครับ...และที่ผมพูดก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องสายสมถะกับสายวิปัสสนานะครับ

จุดที่ผมต้องการจะชี้ให้เห็นคือ ถ้าเป็นคันถะธุระ(ปริยัติเป็นหลัก)จะเปรียบเหมือนการทำประโยชน์สวนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตน เพราะคันถะธุระจะใกล้ชิดกับชุมชนมากกว่าและมุ่งศึกษาพระไตรฯเพื่อคงไว้ซึ่งพระธรรมคำสอนดั้งเดิมให้สมบูรณ์
ส่วนวิปัสสนาธุระ(ปฏิบัติเป็นหลัก)นั้นเปรียบเหมือนการทำประโยชน์ส่วนตนก่อนประโยชน์ส่วนรวม เน้นที่การฝึกตนให้ถึงพร้อมแล้วจึงสั่งสอนผู้อื่น
ซึ่งทั้งสองสายนี้ก็มีความเกื้อกูลซึ่งกันและกันอยู่เสมอครับ และก็ขอบคุณที่พี่ทักท้วงมานะครับ

ขอบคุณครับ :b8:

:b8:
สาธุ คุณลูกพระป่า
[color=#FF0000]เราสร้างมุมมองเป็นฝ่าย คันถะธุระ กับ วิปัสสนาธุระ จึงไม่ถูกต้องตามธรรมตั้งแต่แรก เลยเกิดปัญหาครับ[/color]
:b38:
มุมมองที่ถูกต้องตามธรรม (ต้องลองไปสังเกต พิจารณาดูให้ดีจากหลายๆที่ในพระสูตร)
พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนให้เห็นถึงงานของพระหรือพุทธสาวกทั้งหลายนั้นเรียงลำดับต่อกันมาไว้เป็น 3 ขั้นตอน คือ
1.คันถะธุระ ...อันเทียบได้กับ...ปริยัติศาสนา....คือขั้นตอนการศึกษาหาความรู้ ความจริงของคำสอนของพระพุทธเจ้า จัดเป็น สุตตมยปัญญา...จินตมยปัญญา
:b48:
2.วิปัสสนาธุระ.....เมื่อรู้และเข้าใจดีในภาคปริยัติแล้ว จึงมาลงมือปฏิบัติ อันเทียบได้กับ ....ปฏิปัติศาสนา....จัดเป็น...ภวนามยปัญญา.....ข้อนี้น่าสังเกตว่าท่านไม่ได้ตรัสถึง "สมถะธุระ"เลย จึงน่าจะมา
วิเคราะห์วิจัยกันดู
:b10:
3.ปฏิเวทศาสนา.....คือการเสวยผลจากการปฏิบัติ.....

b42:
สรุป ....ปริยัติ.....ปฏิบัติ.....ปฏิเวท....และ...สุตตมยปัญญา....จินตมยปัญญา....ภาวนามยปัญญา
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2012, 06:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


สมถะกับวิปัสนา ความคิดผมนะว่ามันแยกกันไม่ออก มันเหมือนมะม่วงดิบกับมะม่วงสุกนะมันอยู่ในลูกเดียวกัน ถูกมั้ย ตีหัวคัวเองดีกว่า :b34: :b34: :b34:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร