วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 07:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 16:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


วิจิกิจฉา แปลว่า สงสัย เกิดร่วมกับโมหะ ที่โมหมูลจิต (โง่ซ้อนโง่) สงสัย เพราะความโง่
บุคคลที่มีวิจิกิจฉาสูงย่อมสงสัยไปทุกเรื่อง และจะเป็นไปในสิ่งที่ตรงกันข้ามเสมอ
เช่นว่า บอกว่าฆ่าสัตว์เป็นบาป.? จะบาปจริงหรือ? ให้ทานเป็นบุญ. จะเป็นบุญจริงหรือ? ปฏิบัติทางมรรค ๘ เป็นหนทางพ้นทุกข์. จะพ้นทุกข์ได้จริงหรือ? นรกมี. จะมีจริงหรือ? สวรรค์มี. จะมีจริงหรือ? ตายแล้วเกิด. เกิดจริง? ตายแล้วสูญ. จะสูญจริงหรือ?
ความสงสัยหรือวิจิกิจฉาย่อมเกิดกับจิตที่เป็นโมหะ สงสัยก็คือตัวโง่ โมหะก็คือตัวโง่ แทนที่จะทำลายตัวโง่เสีย กลับกลายเป็นแสวงหาตัวโง่ให้โง่ขึ้นไปอีก ดูยิ่งเหมือนหันหลังให้กับพระสัทธรรม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 19:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนฉลาดมักจะมี..วิจิกิจฉา..มาก..เป็นเรื่องธรรมดา...

หากพ้นไปได้นะ....มันจะรู้ไปซะทุกซอกทุกมุม...หมดเลย..ใครจะมาโกหกไม่ได้..

ก็มันผ่านมาหมดแล้ว...ไอ้ที่ผิด..ๆ..ทั้งหลายนั้นนะ..

แม้ใครจะเอาคำว่า...นี้คือพุทธพจน์นะ...มันยังต้องคิดก่อนเลยว่า...สิ่งนี้เป็นธรรมหรือไม่...อย่างไร

เป็น..นะเป็นอย่างไร

ไม่ใช่..อ่อ..หรอ...อ่อ..หรอ.. :b3:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 21 มิ.ย. 2012, 20:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 20:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
พระไตรปิฎก...นะไม่ได้ไปวิเคราะห์...

แต่..เราเอาสองอย่างมา...แล้วว่าเป็นอย่างเดียวกันรึเปล่า?

ณ. ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง...กะ...การนั่งที่มีโทษ 6 อย่างนะ..ครับ

กระผมนึกภาพที่เหล่าทหาร หาร..ที่พระพุทธบิดาส่งมาให้เชิญพระองค์กลับวังหลังตรัสรู้...นะครับ

มาเป็นกองร้อย....

มาก็พบพระพุทธเจ้าเทศน์...

แล้วทหารเหล่านั้น...ก็พากันไปอยู่..ณ. ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง...มิใช่หรอครับ?

จำผิดผลาดอย่างไร..ก็ช่วยแถลงไขให้หน่อย..นะครับ
:b8:

ไม่ได้ไปว่าตำราผิด....แต่กำลังคิดว่า..เราเข้าใจผิดไปเองรึเปล่า


การนั่งนั้นมีโทษ ๖ อย่าง กับการนั่งนั้นไม่มีโทษ ๖ อย่าง นั้นความหมายก็อันเดียวกันจริงไหม ?
และการนั่งในสิ่งที่ควรข้างหนึ่งก็คือการนั่งในสิ่งที่ไม่มีโทษ ๖ อย่างนั้นเอง
การนั่งในสิ่งที่ไม่ควรก็คือการนั่ง เว้นจากการนั่งในสิ่งที่มีโทษ ๖ อย่างเช่นกัน


และการนั่งในสิ่งที่ควรข้างหนึ่งก็คือการนั่งในสิ่งที่ไม่มีโทษ ๖ อย่างนั้นเอง

ตรงนี้แหละ....ที่เราคิดเอง

เราคิดเอา..แค่ที่รูปแบบ...

แต่กลับไม่คิด...ถึงความเหมาะสม...เหมาะสมตามกาล

ลองคิดดู....คนที่มาฟังพระพุทธเจ้า...จะเอาแต่นั่งเพียง...หน้าพระพักตร์เฉียงทางขวาอย่างเดียว...

คือ..1/4...เน๊าะ...ใครมาทีหลัง...ก็นั่งอยู่ในทิศนี้...ต่อ..ต่อ..กันไป..จะยืดยาวเท่าไร..ก็ต้องต่อ..ต่อ..กันไปอย่างนั้น...ยิ่งมามาก....หางก็ยาวไปเรื่อย..ก็ยิ่งไกลไปเรื่อย...แล้วมาเป็นพัน..เป็นหมื่น...ละ

แต่..ที่ใกล้ ๆ พระพักตร์...แต่อยู่เฉียงไปทางซ้าย....ว่าง.ๆ..โล่ง.ๆ..ก็อย่าพากันไปนั่งนะ.....เพราะมันจะเป็นที่ไม่ควรข้างหนึ่ง..อย่างนั้นหรอก

แบบนี้...มันเหมาะกับกาล..หรือเปล่า?

ตอบได้เลย...ว่าไม่เหมาะกับกาล...พระพุทธองค์ไม่ได้สอนให้พวกเราโง่อย่างนั้น

นี้ 1 นะ

อีก 1...เรื่องกลิ่น...ถ้าว่า..
ในฤดูกาลหนึ่ง ๆ ..พระพุทธองค์จะหันพระพักตร์ไปเพียงทิศเดียวเองหรือ?...ไม่ว่าท่านจะสอนใคร..ที่ไหน..พระองค์จะต้องหันไปทิศเดียวเท่านั้นหรือ?..เพียงเพื่อที่องค์ท่านจะได้อยู่เหนือลม..

พอฤดูเปลี่ยน...ก็เปลี่ยนทิศหันพระพักตร์ที..อย่างนั้นหรือ?

เพื่อ..แล้วให้ตรงหน้าพระพักตร์ที่อยู่เฉียงไปทางขวา..ไม่อยู่ในทิศของใต้ลมหรือเหนือลม...พุทธบริษัทจะได้นั่งถูกที่..ณ..ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

ตลอด...

มันเป็นไปไม่ได้...หรอก


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 21 มิ.ย. 2012, 20:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 20:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่น่าเชื่อ...ว่า...เรื่อง..

นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง..

จะยาวได้.. :b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 20:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ไม่น่าเชื่อ...ว่า...เรื่อง..

นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง..

จะยาวได้.. :b16: :b16: :b16:


อะนะ rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 20:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว....แล้วนี้ผมเป็นสมาธิที่ไม่มีระดับ..ไปตั้งแต่เมื่อไร..ละนี้ s006

ไม่มีระดับ...ไปซะแล้ว.. :b2: :b2: :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องว่า เรื่องนี้พระพุทธองค์ น่าจะสอนเกี่ยวกับ เรื่องมารยาท นั่งให้ถูกกาลเทศะ นั่งให้ถูกในที่สมควรนั่ง
ทำไมนักปฏิบัติธรรม ชอบคิดอะไรยุ่งยากกันจังขนาดแค่เรื่องนั่ง แล้วแบบนี้มันจะปล่อยวางได้หรอเนียะ :b25:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 22:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุนน้องว่า เรื่องนี้พระพุทธองค์ น่าจะสอนเกี่ยวกับ เรื่องมารยาท นั่งให้ถูกกาลเทศะ นั่งให้ถูกในที่สมควรนั่ง


:b17: :b17: :b17:
แม่นแล้ว...เห็นด้วยกะคุนน้อง...
เรื่องง่าย ๆ ไม่ได้ซับซ้อน..ซะหน่อย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องว่า เรื่องนี้พระพุทธองค์ น่าจะสอนเกี่ยวกับ เรื่องมารยาท นั่งให้ถูกกาลเทศะ นั่งให้ถูกในที่สมควรนั่ง
ทำไมนักปฏิบัติธรรม ชอบคิดอะไรยุ่งยากกันจังขนาดแค่เรื่องนั่ง แล้วแบบนี้มันจะปล่อยวางได้หรอเนียะ :b25:

น้องคิงคอง นักปฏิบัติธรรมอาจเป็นแบบน้องว่า
แต่ถ้าเป็นจขกทลุงหมาน
ก็ต้องต้องเหตุผลนี่ครับ..
โฮฮับ เขียน:
สงสัยลุงหมานคงเหงา ลูกหลานไปเรียนหนังสือไปทำงานกันหมด
เลยหาเพื่อนคุยแต่ไม่รู้จะคุยอะไร ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดู
เหมือนหนุ่มสาววัยรุ่นที่เนียมอาย ไม่รู้จะคุยอะไรแต่อยากคุย

:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 06:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุนน้องว่า เรื่องนี้พระพุทธองค์ น่าจะสอนเกี่ยวกับ เรื่องมารยาท นั่งให้ถูกกาลเทศะ นั่งให้ถูกในที่สมควรนั่ง
ทำไมนักปฏิบัติธรรม ชอบคิดอะไรยุ่งยากกันจังขนาดแค่เรื่องนั่ง แล้วแบบนี้มันจะปล่อยวางได้หรอเนียะ :b25:

เองเคยได้ยินคำว่าใบไม้ในกำมือไหม..นังนู๋...ในเมื่อพระองค์ไม่เห็นประโยชน์แก่สัตว์โลก พระพุทธองค์ย่อมจะไม่นำมาแสดงจริงไหม? อย่าไปบั่นทอนคำสอนที่ดีแล้วออกเสียเลย

สมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ ณ ป่าไม้ประดู่ลาย เขตเมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระพุทธองค์ทรงใช้ฝ่าพระหัตถ์ถือเอาใบประดู่ลาย แล้วทรงตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่า ใบประดู่ลายในฝ่าพระหัตถ์กับที่อยู่บนต้น อย่างไหนมีมากกว่ากัน พระภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลว่า ใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้นมีมากกว่า

พระพุทธองค์ทรงตรัสอธิบายว่า ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงหยั่งทราบด้วยพระปัญญาอันยิ่งนั้น มีมากกว่าธรรมที่พระองค์ทรงประกาศ เปรียบดังใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้น มีมากกว่าในฝ่าพระหัตถ์ แล้วพระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ทรงแสดงธรรมทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งเปรียบดังใบประดู่ลายบนต้นนั่นก็เพราะธรรมเหล่านั้น ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับทุกข์ ความสงบ ระงับ ความรู้ยิ่ง การตรัสรู้ และพระนิพพาน

ลองคิดดูซิว่ามีประโยชน์ไหม ? ถ้าเห็นว่าสิ่งใดมีประโยชน์ก็ควรน้อมรับไว้จริงไหม?

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
nongkong เขียน:
คุนน้องว่า เรื่องนี้พระพุทธองค์ น่าจะสอนเกี่ยวกับ เรื่องมารยาท นั่งให้ถูกกาลเทศะ นั่งให้ถูกในที่สมควรนั่ง
ทำไมนักปฏิบัติธรรม ชอบคิดอะไรยุ่งยากกันจังขนาดแค่เรื่องนั่ง แล้วแบบนี้มันจะปล่อยวางได้หรอเนียะ :b25:

เองเคยได้ยินคำว่าใบไม้ในกำมือไหม..นังนู๋...ในเมื่อพระองค์ไม่เห็นประโยชน์แก่สัตว์โลก พระพุทธองค์ย่อมจะไม่นำมาแสดงจริงไหม? อย่าไปบั่นทอนคำสอนที่ดีแล้วออกเสียเลย

สมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ ณ ป่าไม้ประดู่ลาย เขตเมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระพุทธองค์ทรงใช้ฝ่าพระหัตถ์ถือเอาใบประดู่ลาย แล้วทรงตรัสถามพระภิกษุทั้งหลายว่า ใบประดู่ลายในฝ่าพระหัตถ์กับที่อยู่บนต้น อย่างไหนมีมากกว่ากัน พระภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลว่า ใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้นมีมากกว่า

พระพุทธองค์ทรงตรัสอธิบายว่า ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงหยั่งทราบด้วยพระปัญญาอันยิ่งนั้น มีมากกว่าธรรมที่พระองค์ทรงประกาศ เปรียบดังใบประดู่ลายที่อยู่บนต้นนั้น มีมากกว่าในฝ่าพระหัตถ์ แล้วพระพุทธองค์ทรงแสดงเหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ทรงแสดงธรรมทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งเปรียบดังใบประดู่ลายบนต้นนั่นก็เพราะธรรมเหล่านั้น ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับทุกข์ ความสงบ ระงับ ความรู้ยิ่ง การตรัสรู้ และพระนิพพาน

ลองคิดดูซิว่ามีประโยชน์ไหม ? ถ้าเห็นว่าสิ่งใดมีประโยชน์ก็ควรน้อมรับไว้จริงไหม?

ธรรมของพุทธองค์ย่อมมีประโยชน์ ถ้าเรารู้จักใช้ตามกาล
แต่ลุงหมานไปเอาธรรมมาใช้มั่วไปหมด เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาโม้
ทำให้ธรรมของพุทธองค์แปดเปื้อน

ไอ้โทษหกข้อที่เอามาโพสแล้วเชื่อมโยงไปหาพระพุทธเจ้า
มันไร้สาระมันคนละยุค มันก็แค่ไปหยิบเอาข้อความสั้นๆในพระไตรปิฎก
มาขยายความ ที่สำคัญอ่านอย่างไร ไม่เห็นเกี่ยวกับธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอน
มันก็แค่เป็นเรื่องการจัดระเบียบในที่ชุมชน


ลุงหมานครับ ลุงหมานก็อาวุโสแล้ว อย่าให้เด็กเขาว่าได้
ว่าเลอะเทอะ ไร้แก่นสาร

เอางี้ครับลุงไปหาเนื้อหาในพระไตรปิฎกมาโพส
ลองดูซิว่า มีพระสูตรหรือพระอภิธรรมบทไหนที่กล่าวถึงโทษหกข้อนั้น
ถ้ามีผมจะได้ขอโทษที่ว่าลุงมั่ว ลุงเลอะเทอะครับ

ต้องเอาพระไตรปิฎกทั้งบท อรรถกถาไม่เอา(ถ้าเอาต้องเอามาทั้งคู่)
และอีกอย่างไอ้คำแปลของอรรถกถานี่ยิ่งไม่ได้เรื่อง ของจริงก็ไม่มีมายัน
แต่ดันมาพูดมาแปลเสียเป็นคุ้งเป็นแคว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2018, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 53 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร