วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 03:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
แสดงว่า โฮฮับ ไม่ได้พิจารณาตามพระพุทธพจน์
แต่พิจารณาตามสิ่งที่โฮฮับยึดไว้เป็นบรรทัดฐาน
.

ก่อนอื่นผมอยากบอกเลยครับ เลิกซะเถอะครับ ไอ้เรื่องที่คุณชอบสรุปความเห็นคนอื่นว่า
แย้งพุทธพจน์ มันไม่มีสาระเลยครับ

การอธิบายความพระไตรปิฎก ตัวหนังสือมันต้องผิดแผกแตกต่างจากต้นฉบับ
คุณเช่นนั้น คุณเขาใจมั้ยว่าเป็นการอธิบายความ มันไม่ใช่เรื่องเลย ที่คุณเห็น
ว่าตัวหนังสือไม่เหมือนกันเลยกล่าวหาว่า แย้งพุทธพจน์

คุณไม่รู้หรือว่า พระไตรปิฏกที่เป็นตัวอักษรไทยน่ะ การจะเอามาอ้าง
หรือมาสื่อให้คนอื่นรู้เข้าใจ มันยังต้องอธิบายความให้ออกมาเป็นภาษาที่เขาเข้าใจ
คุณนี่ไม่เข้าใจกับตรรกง่ายๆแค่นี้

คุณเช่นนั้นครับ การสื่อสารของคุณมันเป็นลักษณะ เหมือนคนที่คิดพิจารณาไม่เป็นครับ
บางทีก็เอาบาลีมาอ้างโทงๆแบบนั้น พอเขาอธิบายให้ฟัง คุณก็บอกไม่ใช่แย้งพุทธพจน์
คุณเล่นเอาจินตนาการของคุณเป็นคำตอบคุณรู้มั้ยครับ

ตัวอย่างง่ายๆเห็นๆ ในพระไตรปิฎกที่คุณยกมาที่ว่า....
"ธรรมทั้งหลายเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์ เพราะคุณไม่รู้จักการพิจารณาธรรม
ก็เลยตีความลงไปตรงตัว ธรรมทั้งหลายทำให้เกิดสังโยน์ อันที่จริงสังโยชน์ทำให้เกิดธรรมทั้งหลาย
เข้าใจไว้ครับว่า สังโยชน์มันมีอยู่ก่อนแล้ว เรามีวัฏฏะสงสารก็เพราะสังโยชน์

เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ ...พระพุทธองค์จำแนกธรรมอย่างชัดเจน เทศนาแก่ใคร ในคราใดเพื่อจุดมุ่งหมายอย่างไร
พระองค์จำแนกอัสสาทานุปัสสี และอาทีนาวานุปัสสี
โฮฮับพึงพิจารณาตาม เพื่อให้ได้รส ในพระธรรมเทศนาอันเป็นการพิจารณาตามธรรม เป็นธัมมานุธัมมปฏิบัติ เพื่อให้สามารถตั้งสมถะวิปัสสนาขึ้นในจิตได้
พระธรรมเทศนาบทนี้ ไม่ใช่ของเช่นนั้น แต่เป็นพระพุทธพจน์ โฮฮับสำเนียกไว้ในใจให้ดี
และพระสูตรบทนี้ เป็นธรรมอันมีนัยอันลึกซึ้ง กว้างขวางอันเป็นปฏิจสมุปบาทอีกลีลาหนึ่งแห่งพระธรรมเทศนา
และเป็นพระสูตรที่ได้ถูกวางลำดับไว้เพื่อแสดงแนวทางการปฏิบัติ การเจริญสมถะวิปัสสนา ต่อจากการได้รู้ได้ยินปฏิจจสมุปบาท ในพระไตรปิฏก

สิ่งที่โฮฮับ รู้และแสดงมานั้นแสดงว่า โฮฮับไม่ได้อ่าน ไม่ได้ทำความเข้าใจต่อปฐมสังโยชน์สูตรมาตั้งแต่ต้น...

ก็ผมพิจารณาธรรมตามพระไตรปิฎกนั้นแหล่ะครับ พระพุทธองค์จำแนกแยกแยะอย่างไร
ผมก็อธิบายไปตามนั้น ผมไม่ใช่ไปเอาบาลีมา แล้วก็ตอบแบบจินตนาการ แค่พูดภาษา
ที่คนอื่นไม่เข้าใจหรือฟังไม่รู้เรื่องบ่อยๆ แบบนี้หรือเป็นการพูดในลักษณะพิจารณาธรรม
มันเป็นการลอกบัญญัติมาตอบล่ะไม่ว่า

จะบอกให้ครับ การพิจารณาพระสูตร เราต้องมีความรู้ในเรื่องพระอภิธรรมด้วย
จึงจะสามารถอธิบาย พระสูตรไปตามความเป็นจริงสภาวะครับ
มันไม่ใช่การเอาบาลีมาอธิบายบาลี แบบนี้เขาเรียก พูดเองเออเอง
หรือพูดคนเดียว ผมไม่อยากบอกว่านกแก้วนกขุนทองมันโหลไปครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ผมจะบอกให้รู้ครับ การอธิบายความของผม เป็นการเอาพระอภิธรรมไปตีความหรือ
โยนิโสฯพระสูตรครับ และจะบอกให้อีกอย่างการจะทำสมถะวิปัสนาต้องอาศัยพระอภิธรรม
ไม่ใช่ไปยึดเอาพระสูตรมาทำวิปัสนา


หรือครับ โฮฮับ โฮฮับเอาพระอภิธรรมไปตีความพระสูตร...และทำสมถะวิปิสสนาต้องอาศัยพระอภิธรรม
ไม่ใช่ไปยึดเอาพระสูตรมาทำวิปัสสนา

จะบอกอะไรให้นะโฮฮับ มหาวิปัสสนาปกรณ์ ที่ธรรมาจารย์ทั้งหลายยอมรับกัน คือมัชฌิมนิกาย คือพระสูตรนะโฮฮับ

พระอภิธรรมเป็นธรรมที่ผู้ที่ศึกษาจะเข้าใจถึงปรมัตถ์ เข้าใจสภาวะแท้ๆของจิต เจตสิก รูปและนิพพาน
การเอาหลักของพระอภิธรรมเข้าไปพิจารณาพระสูตร จะทำให้ผู้พิจารณาไม่หลงไปกับบัญญัตหรือ
สมมุติบัญญัติในพระสูตรนั้นๆ

ตัวอย่างก็เห็นๆแล้วว่าคุณเช่นนั้นกำลังหลงไปกับบัญญัติ
จะพูดจะจากับใคร ก็อ้างเอาบัญญัติที่ตัวเองอ่านมา ซึ่งมันไม่ใช่เป็นภาษากลาง
บัญญัติที่ใช้มันสามารถ แปลเปลี่ยนไปได้หลายความหมายตามแต่ตัวเองคิด

สรุปก็คือคุณศึกษาเพื่อเปรียญ แต่คนอื่นเขาศึกษาเพื่อความปล่อยวาง

คุณเช่นนั้นครับ เรามาคุยกันแบบชี้ชัดลงไปเลยดีกว่า
ถ้าคุณตกลงตามนี้ ก็อย่าใช้บาลีมาคุยเพราะมันคุยไม่รู้เรื่อง
คนอ้างบาลีส่วนใหญ่มันชอบดิ้นเป็นปลาไหลครับ
เอาภาษาไทยกลางๆที่เพื่อนๆในนี้ฟังรู้เรื่อง คุณเห็นเป็นไง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
คุณเช่นนั้นครับ เรามาคุยกันแบบชี้ชัดลงไปเลยดีกว่า
ถ้าคุณตกลงตามนี้ ก็อย่าใช้บาลีมาคุยเพราะมันคุยไม่รู้เรื่อง
คนอ้างบาลีส่วนใหญ่มันชอบดิ้นเป็นปลาไหลครับ
เอาภาษาไทยกลางๆที่เพื่อนๆในนี้ฟังรู้เรื่อง คุณเห็นเป็นไง


พระธรรมในพรหมจรรย์นี้ มีพระพุทธองค์เป็นประมุข
ควรทำการศึกษาในพระบาลี คือพุทธพจน์

หากโฮฮับ สนทนาตามทิฏฐิของตน
โฮฮับ ก็สนทนากับตนเองตามสบาย ^ ^

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
สิ่งที่เรากำลังโต้แย้งกันกับคำว่า "ปัจจัย" ผมถามคุณครับว่าปัจจัยของคุณ
มีความหมายว่าเหตุหรือเปล่าล่ะ ถ้ามีความหมายว่า"เหตุ" มันก็ไม่มีปัญหา
แต่มันติดอยู่ต้องที่ คุณไปเอากระบวนการขันธ์มาพูดปนกับหลักปฏิจสมุบาท
กระบวนการขันธ์กับหลักปฏิจฯมันเป็นคนล่ะส่วนกัน เมื่อเอามากระบวนการขันธ์
มาเกี่ยวข้องกับปฏิจฯ จึงเรียกว่า "ปัจจัยแก่กัน"

โฮฮับ โต้แย้งกับพระพุทธพจน์นะครับ
ปัจจัยมีหลายชนิด แม้เหตุก็เป็น ปัจจัยประการหนึ่ง โฮฮับดูได้ใน ปัจจัย 24 แห่งมหาปัฏฐาน ในพระอภิิธรรมปกรณ์นะครับ

เอาอีกแหล่ะ พูดจาซ้ำซาก ก็ปัจจัยมันมีหลายชนิดไง ผมถึงได้ถามว่า..
ปัจจัยของคุณมันเป็นเหตุหรือเปล่า มันก็ไอ้ เหตุปัจจัยในปัจจัย24นั้นแหล่ะ

และที่เอามาถามเพราะผมรู้ว่าคุณกำลังเข้าใจผิด ในความเป็นเหตุและในความเป็นผล
และที่ว่าปัจจัยแก่กัน ความหมายก็คือ กระบวนการขันธ์และอุปาทานเป็น "ปัจจัยที่อาศัยกันและกัน"
อุปาทานขันธ์มีเหตุปัจจัยมาจาก การเกิดร่วมกันของกระบวนการขันธ์และอุปาทาน

ถ้าคุณจะเอาบาลีหรือบัญญัติมันก็มี
*เหตุปัจจัย
*สหชาติปัจจัย
*อัญญมัญญปัจจัย
คุณเอาไปใส่เอาเองล่ะกัน

ทำไมหนอชอบทำเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยาก
อ่านแล้วเข้าใจเลยไม่เอา ชอบวิ่งไปหาเรื่องที่มันต้องแปลความอีก เฮ้อ!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ ธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสัญญโญชน์ หมายถึงอารัมณปัจจัยแก่สัญโญชน์นะโฮฮับ
สังโยชน์ไม่ได้ทำให้ธรรมทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นครับ โฮฮับเข้าใจผิดแล้วครับ...

ภิกษุ เห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์
คือ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นอันภิกษุนำมาเป็นอารมณ์ด้วยความรักชักให้ใคร่พาใจให้กำหนัด แล้วทำความพอใจ ธรรมเหล่านั้นจึงเรียกว่า เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์ ซึ่งคืออารัมณปัจจัยแก่สังโยชน์



ที่ผมแปลให้ดูก็แปลตามบัญญัติที่คุณยกมา ถ้าคุณเอาเรื่องอารัมณปัจจัยมาเกี่ยว
ผมก็จะอธิบายให้ฟังครับ มันเป็นเพราคุณไม่เรียงลำดับของการเกิดดับแห่งขันธ์
คุณนึกจะเอาสิ่งโน้นมาใส่สิ่งนี้ ก็ทำตามแต่จะจินตนาการเอา มันใช่ซะที่ไหนกันเหล่า
มันมีกระบวนการขันธ์อยู่ นึกจะทำอะไรก็ทำ เฮ้อ!อีกที

จากคำพูดคุณที่ว่า"อันภิกษุนำมาเป็นอารมณ์ด้วยความรักชักให้ใคร่พาใจให้กำหนัด แล้วทำความพอใจ

ไอ้คำว่า"นำมาเป็นอารมณ์"เนี่ยผมถามครับ มันเป็นเหตุใช่มั้ยครับ
และไอ้อารมณ์ความรักชักใคร่เนี่ย มันเป็น กามฉันทะหรือเปล่าครับ
แล้วกามฉันทะเป็นสังโยชน์หรือเปล่า

แล้วในพระไตรปิฎกเขาบอกว่า "เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์
ไม่ใช่ปัจจัยแก่สังโยชน์


กรุณาอย่าไปแก้บัญญัติในพระไตรปิฎกซิครับ
แบบนี้มีแย่ยิ่งกว่าที่คุณชอบว่าคนอื่น เรื่องแย้งพุทธพจน์อีกนะครับ

แห่งกับแก่ มันคนละความหมายนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2012, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คุณเช่นนั้นครับ เรามาคุยกันแบบชี้ชัดลงไปเลยดีกว่า
ถ้าคุณตกลงตามนี้ ก็อย่าใช้บาลีมาคุยเพราะมันคุยไม่รู้เรื่อง
คนอ้างบาลีส่วนใหญ่มันชอบดิ้นเป็นปลาไหลครับ
เอาภาษาไทยกลางๆที่เพื่อนๆในนี้ฟังรู้เรื่อง คุณเห็นเป็นไง


พระธรรมในพรหมจรรย์นี้ มีพระพุทธองค์เป็นประมุข
ควรทำการศึกษาในพระบาลี คือพุทธพจน์

หากโฮฮับ สนทนาตามทิฏฐิของตน
โฮฮับ ก็สนทนากับตนเองตามสบาย ^ ^

พระธรรมที่เป็นบาลีหรือแม้แต่พระไตรปิฎกที่เป็นอักษรไทย
ย่อมต้องมีอรรถกถาคอยกำกับ และอรรถกถาจะดีหรือไม่ย่อมต้องขึ้นอยู่กับ
อรรถกถาจารย์ว่า จะมีปัญญาอธิบายความให้อรรถกถาเหล่านั้นถูกต้องตรง
กับความเป็นจริงแห่งธรรมชาติหรือไม่ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2012, 06:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:
เช่นนั้น เขียน:

โฮฮับ ธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสัญญโญชน์ หมายถึงอารัมณปัจจัยแก่สัญโญชน์นะโฮฮับ
สังโยชน์ไม่ได้ทำให้ธรรมทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นครับ โฮฮับเข้าใจผิดแล้วครับ...

ภิกษุ เห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์
คือ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นอันภิกษุนำมาเป็นอารมณ์ด้วยความรักชักให้ใคร่พาใจให้กำหนัด แล้วทำความพอใจ ธรรมเหล่านั้นจึงเรียกว่า เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์ ซึ่งคืออารัมณปัจจัยแก่สังโยชน์

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2012, 14:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8: :b8:
เช่นนั้น เขียน:

โฮฮับ ธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสัญญโญชน์ หมายถึงอารัมณปัจจัยแก่สัญโญชน์นะโฮฮับ
สังโยชน์ไม่ได้ทำให้ธรรมทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นครับ โฮฮับเข้าใจผิดแล้วครับ...

ภิกษุ เห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์
คือ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นอันภิกษุนำมาเป็นอารมณ์ด้วยความรักชักให้ใคร่พาใจให้กำหนัด แล้วทำความพอใจ ธรรมเหล่านั้นจึงเรียกว่า เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์ ซึ่งคืออารัมณปัจจัยแก่สังโยชน์

:b8:

ฮ่า!มามาดใหม่ครับ ลิงจ๋อแอบเข้าไปห้องแต่งตัว
โมขยหัวฤษีมาใส่ เกาหัวเกาพุงร้องเจี๊ยกคร่อกๆๆใหญ่เลย
ฮ่า..คุณโสกะคุณนี่ตลกสิ้นดี ฮ่า.. :b9:

คุณโสกะถามหน่อยอยากจะคุยเรื่องสังโยชน์กับผมหรือ
ถามอีกครั้งแน่ใจแล้วหรือ :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2012, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8: :b8:
เช่นนั้น เขียน:

โฮฮับ ธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสัญญโญชน์ หมายถึงอารัมณปัจจัยแก่สัญโญชน์นะโฮฮับ
สังโยชน์ไม่ได้ทำให้ธรรมทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นครับ โฮฮับเข้าใจผิดแล้วครับ...

ภิกษุ เห็นความพอใจเนืองๆ ในธรรมทั้งหลายอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์
คือ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นอันภิกษุนำมาเป็นอารมณ์ด้วยความรักชักให้ใคร่พาใจให้กำหนัด แล้วทำความพอใจ ธรรมเหล่านั้นจึงเรียกว่า เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์ ซึ่งคืออารัมณปัจจัยแก่สังโยชน์

:b8:

อุปมาเหมือน ตัวอะไรไม่รู้ขึ้นมาลากไก่ชาวบ้านแล้วมุดลงรู
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:

อ้อ ! แล้ว โนงโคง..หรือน้องคงนั้นหนะ อย่าไปให้ท้ายให้มากนะครับ ตอนนี้ น้องเขาต้องรีบไปเข้าโรงซ่อมทางจิตวิญญาณสักพักแล้วหละ เพราะ ปฏิฆะและโทสะกำลังลุก...เกรงจะลวกเนื้อตัวให้พุพอง ต้องรีบไปรับน้ำเย็นสักพักเสียแล้วหละครับ....รักน้องจริงก็อย่าเชียร์กันไปในทางที่ผิดๆนะครับ:

ทำไมด้านได้ขนาดนี้น่ะ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ใครไปให้ท้ายครับ
ใครเชียร์ใครครับ น้องคิงคองเธอขอให้ผมเข้ามาช่วยตอบ ผมก็เข้ามา
ผมกับน้องเขาเป็นกัลยณมิตรกันครับ สาเหตุก็เพราะจริตเหมือนกัน ปากใจตรงกัน
เสแสร้งไม่เป็น พูดจาไม่เพราะ แต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่เหมือนใครบางคน
หวานมาแต่ไกล แต่เอามือไผล่หลังกำสากไว้ ใส่สูทผูกเน็ตไทร์ แต่ถอดเสื้อมา
ขี้กลากขี้เกลื้อนเต็มหลัง :b32:

คุณโสกะครับ ถ้าที่บ้านไม่มีกระจกส่องหน้า ตอนเช้าๆล้างหน้า
ก็มองหน้าตัวเองในขัน ก็จะเห็นว่าใครกันแน่ ที่คอยเชียร์ ให้ท้าย
มันก็เป็นคุณมั้นแหล่ะ ด้วยความอาฆาตแค้นผม ลืมตัวเข้าสอด เข้าไปเชียร์คุณเช่นนั้นชนิดไม่ลืมหู
ลืมตา เชียร์เขา ให้ท้ายเขาทั้งๆที่ตัวเอง ไม่ได้มีความรู้ในสิ่ง ที่เขากำลังถกกันอยู่ แม้แต่น้อย :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 05:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:
อย่างโฮฮับต้องเจอ กับท่านเช่นนั้น จึงจะเห็นควันพุ่งบนหัวโฮฮับเยอะๆ
:b12: :b12: :b12:
อย่าชักใบให้เรือเสียเลย โฮฮับ
เก่งและยึดแน่นเรื่องสังโญชน์ 10 ก็ลองแจงมาให้ฟังโดยละเอียดซิ แล้วจะชี้ให้ดูว่า โฮฮับไปติดหรือเริ่มต้นสังโญชน์ 10 มาผิดๆตรงไหน?

:b32: :b32: :b32: :b15: :b15: :b15:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มิ.ย. 2012, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อย่างโฮฮับต้องเจอ กับท่านเช่นนั้น จึงจะเห็นควันพุ่งบนหัวโฮฮับเยอะๆ

ปลอบใจตัวเองลมๆแล้งๆ ใครกันแน่ที่ควันพุ่ง ใครกันที่เก็บกระเป๋าม้วนเสื่อ
แล้วใครกันแน่ที่ไร้ศักศรี

โสกะชอบกล่าวหาผมยึดบัญญัติ แต่วิปริตอะไรไม่รู้ดันเอาคนที่
หลงบัญญัติหลงบาลีสุดลิ่มทิ่มประตูมาอ้างกระทบผม
โสกะใช้สมองที่มีน้อยนิดคิดดูซิ ที่คุณเช่นนั้น เก็บเสื่อไม่คุยกับผม
เพราะเหตุใด ลองก้มดู....

เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คุณเช่นนั้นครับ เรามาคุยกันแบบชี้ชัดลงไปเลยดีกว่า
ถ้าคุณตกลงตามนี้ ก็อย่าใช้บาลีมาคุยเพราะมันคุยไม่รู้เรื่อง
คนอ้างบาลีส่วนใหญ่มันชอบดิ้นเป็นปลาไหลครับ
เอาภาษาไทยกลางๆที่เพื่อนๆในนี้ฟังรู้เรื่อง คุณเห็นเป็นไง


พระธรรมในพรหมจรรย์นี้ มีพระพุทธองค์เป็นประมุข
ควรทำการศึกษาในพระบาลี คือพุทธพจน์

หากโฮฮับ สนทนาตามทิฏฐิของตน
โฮฮับ ก็สนทนากับตนเองตามสบาย ^ ^

ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็จงไม่เข้าใจต่อไป :b13:
asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อย่าชักใบให้เรือเสียเลย โฮฮับ
เก่งและยึดแน่นเรื่องสังโญชน์ 10 ก็ลองแจงมาให้ฟังโดยละเอียดซิ แล้วจะชี้ให้ดูว่า
โฮฮับไปติดหรือเริ่มต้นสังโญชน์ 10 มาผิดๆตรงไหน?

ผมเป็นคนคนโฆษณาตัวเองว่าเก่งมีภูมิเรื่องสังโยชน์ คุณไม่เชื่ออยากลองภูมิ
ก็ต้องเป็นคุณที่ต้องถามมา ไม่ใช่ให้ผมถาม

ผมว่าน้าก่อนอื่นคุณไปทำ สติ สตังให้อยู่กับเนื้อกับตัวก่อนไม่ดีกว่าหรือ
พูดจาวกไปวนมา เห็นอ้างคนอื่นแหม่บๆ ตอนนี้ทำมาอวดดีอีกแล้ว

โสกะอย่ามาทำเนียนเลย เป็นเพราะตัวเองไม่รู้เรื่องสังโยชน์
แม้แต่กระผีก เลยไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก็บอกมา
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 07:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ........
โสกะอย่ามาทำเนียนเลย เป็นเพราะตัวเองไม่รู้เรื่องสังโยชน์
แม้แต่กระผีก เลยไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก็บอกมา
:b16:
ก็ถามแล้วทำไมมาย้อนและไม่กล้าตอบล่ะครับ?
กลัวปล่อยไก่ก็บอกมา อดีตพระธุดงค์.......
cool
ว่าจะไม่อยากคุยด้วยแล้วเชียวนา.......ยังจะมาหาว่าเราม้วนเสื่อ.....ก็บอกแล้วว่า บ......ม.....ข....น
:b29: :b29: :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 07:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ก็มันละได้ไม่จริง..นะซิ

สังโยชน์ 1 นะ...ฮุ..ฮุ..ฮุ...

ไม่เห็นเข้าใจยากเลย..อโสกะ
:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 07:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ก็มันละได้ไม่จริง..นะซิ

สังโยชน์ 1 นะ...ฮุ..ฮุ..ฮุ...

ไม่เห็นเข้าใจยากเลย..อโสกะ
:b13: :b13: :b13:

:b12: :b32: :b20:
ก็เคยบอกแล้วไงคุณกบ...อ้อบๆ.....ว่า
:b42:
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 08:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่ายย...ไม่รู้จะบอกคนอื่นได้งั้ย..เน๊าะ

ผมถึงปลง ๆ นี้งัยละ..อโสกะ :b9: :b9:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 36 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร