ในเจดีย์วิปัสสนาภาวนาตามสำนักสาขาของท่านโกเอ็นก้า จะมีห้องปฏิบัติเดี่ยวห้องเล็กๆรอบเจดีย์
ศิษย์เก่าจะมีโอกาสได้เข้าห้องปฏิบัติเดี่ยว ซึ่งเป็นโอกาสอันวิเศษที่จะได้ค้นหาธรรมค้นหาความจริง พิสูจน์ความจริงด้วยตนเอง

ท่านที่ยังไม่เคยเข้ารับการอบรมวิปัสสนาภาวนาตามแบบของท่านอาจารย์โกเอนก้า น่าจะหาโอกาส จัดเวลาชีวิตของตนเองให้ได้เข้ารับการอบรมสักครั้งหนึ่งหรือหลายๆครั้งจะได้ประโยชน์กับชีวิตมากที่สุดเลยครับ ผมเคยเข้าปฏิบัติอย่างต่อเนื่องหลายคอร์สเป็นเวลา 2 ปี กว่า ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติและเป็นธรรมบริกร จนได้เข้าคอร์ส 20 วัน ซึ่งทำให้ประทับใจในห้องปฏิบัติเดี่ยวรอบเจดีย์และได้รับสิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต
จึงอยากจะขอเชิญชวนทุกท่านได้หาโอกาสไปสมัครเข้ารับการอบรมนะครับ

ขออาจารย์กูเกิ้ลค้นรายละเอียดให้โดยพิมพ์ "อาจารย์โกเอ็นก้า"ลงในช่องค้นหานะครับ

http://youtu.be/bQBTGFl9GD8
เชิญดูครับ

ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจดีย์วิปัสสนาคือ
มีห้องโถงใหญ่กว้างไม่มีเสาคั่นกลางและไม่มีรูปเคารพใดๆ จึงทำให้เป็นห้องเรียนสากล
ทุกคนทุกชาติศาสนาสามารถมาศึกษาและปฏิบัติร่วมกันได้

ฟังเสียงสัมภาษณ์ท่านอาจารย์โกเอ็นก้า จากคลิบนี้นะครับ


http://youtu.be/bGt9_Y6Hgew

เป็นการเจริญสติ หรือภาษาชาวบ้าน "สติอยู่กับเนื้อกับตัว"

ประเด็นหลักของวิปัสสนาคือ สติต้องอยู่กับตนเอง และพิจารณาตนเอง
การคุยกับผู้อื่น จะว่าไป ก็เป็นการส่งจิตออกนอก คือความสนใจของเราไปอยู่ที่ภายนอก... จึงไม่ใช่วิปัสสนา

นี้เป็นคำพูดของ...ท่านสุภัช จันทรา มหาเศรษฐี สร้างเจดีย์วิปัสสนาใหญ่ที่สุดในโลก...นะครับ

ผมยกมาแค่คำพูด....เลยอาจทำให้เข้าใจผิดได้...

แต่ดูท่าว่า...คุณอโสกะ..จะเข้าใจ..ได้อธิบายใว้ที่หน้า 1

ผมก็ว่าคำพูดนี้แน่แท้จริง เลยครับ
ลองหาอ่านดูนะครับ ของท่านพุทธทาสนำมาแค่ส่วนต้นๆ
วิปัสสนากรรมกร
เรื่องทำการงานนี่ เคยพูดกันมา หลายหนแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจ
ก็ตามใจ ทำวิปัสสนา ในการงานนี้ เราต้องการอยู่เสมอ ยังต้อง
การอยู่ จะเป็นครั้งนี้ หรือ ครั้งพุทธกาลโน้น ก็ตามใจ เรื่องมัน
เรื่องเดียว เรื่องวิปัสสนา คือ ต้องเห็นความจริง เห็นข้อเท็จจริง
เห็นความจริงที่ทำลายความเห็นแก่ตัวนี่จะจำจะจดก็จดประโยค
สั้นๆ นี้ว่า วิปัสสนาที่แท้จริง เป็นการเห็นความจริง ที่ทำลาย
ความเห็นแก่ตัว เท่านี้ก็พอแล้ว

หรือหาฟังของหลวงพ่อพุธ ก็ได้ ท่านสอนให้มาใช้กับชีวิตประจำวัน เยอะมากครับ

สาธุ

แม่นอยู่ครับ คุณmurano แต่ประเด็นของท่านสุภัช จันทรานั้น ท่านสนทนานอก แต่ปัญญามองข้างในพร้อมกันไปด้วย จึงเป็นวิปัสสนาภาวนาได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ขณะกำลังพูดคุยอยู่ ลองทำดูซิครับ

คนธรรมดา จิตส่งออก 98 %
คนปฏิบัติธรรมใหม่ จิตส่งออก 75 % ส่งเข้าใน 25 %
คนปฏิบัติธรรมมานาน จิตส่งออก 50 % สงเข้าใน 50 %
คนปฏิบัติธรรมชำนาญ จิตส่งออกและส่งเข้าในได้ตามใจปารถนาและสถานการณ์ ณ ปัจจุบันขณะนั้น

กลับมาอ่านของเก่า ๆ ..ก็สนกไปอย่าง..นะ

แฮ่ม...อดคิดไม่ได้....ว่าทำไมเราถึงไม่เอ่อออ..ห่อหมก..ไป..กับคนอื่นเขานะ.

คงเพราะมันเริ่มจะ รู้ เห็น คิด เพี้ยน ไปจากคนธรรมดาๆไปเสียแล้วละกระมังคุณกบ