วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 07:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สัมมาทิฏฐิ....มันไม่ได้มีทีเดียวแล้วก็จบ..หรอกนะ..อโสกะ

ตอนแรก..ปุถุชนจะเข้า....สัมมาทิฏฐิ..มันก็แบบง่าย ๆ

พอลึกเข้า...สัมมาทิฏฐิมันก็ละเอียดปราณีตขึ้น

ดังนั้นจะบอกว่า...จัดอยู่ในหมวดปัญญา..แล้วก็จบ...มันไม่ใช่หรอก

:b1: :b1: :b1:

กะลาเข้าใจผิดแล้ว สัมมาทิฐิก็เปรียบเหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็น
หรือขี่จักยานได้ พอเป็นแล้วก็คงอยู่อย่างนั้น

ความสำคัญสัมมาทิฐิ ต้องอาศัย สติและความเพียร
จึงจะสามารถนำสัมมาทิฐิออกมาใช่ได้อย่างสม่ำเสมอ

สติที่ระลึกสัมมาทิฐิเรียกว่า สัมมาสติ

ความเพียรพยายาม หมั่นใช้สติระลึกสัมมาทิฐิเรียกว่า สัมมาวายามะ

นี่แค่มรรคสามองค์ อยากชวนคุณโสกะคุยว่า
เขาทำอย่างไรจึงครบองค์แปด เห็นคุยนักคุยหนาเรื่องอริยมรรคมีองค์แปด
:b13:

:b16: :b8: :b27:
คุณโฮฮับนี้ พูดมาบางเรื่องก็เข้าเค้าน่าฟังและเป็นไปตามธรรม
:b27:
"เขาทำอย่างไรจึงครบองค์แปด" คุณโฮฮับ สงสัยมาอย่างนี้หรือ ไม่น่าจะสงสัยเลยในผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิเต็มสมบูรณ์อย่างคุณโฮฮับ
:b12:
คำตอบนั้ันง่ายมากเลยครับ คุณโฮฮับลองวิเคราะห์ดูตอนที่เจริญสติปัฏฐาน 4 มรรคทั้ง 8 ตัวเขาจะมาประชุมพร้อมกันทำงาน สลับสับเปลี่ยนกัน เป็นเหตุปัจจัยสนับสนุนกันไปตลอดทาง
จะวิเคราะห์ให้ดูคร่าวๆ พอเป็นเครื่องประดับสติปัญญาว่า


ผู้ที่จะสงบกายสงบใจมาเจริญสติปัฏฐาน 4 ได้นั้นต้องมีฐานแห่งศีลมรรคมารองรับ เอาแค่ศีล 5 ก็เพียงพอแล้ว ตอนสงบกาย วาจา ใจ ก็ได้ สัมมาวาจา ตอนนั่งภาวนาไม่มีการทำผิดศีลข้อใดก็เป็นสัมมาอาชีวะ ตอนเจริญมรรคทั้ง 8 อยู่ก็เป็น สัมมากัมมันตะ

จากนั้นมาดูตามบาลีของสติปัฎฐาน 4
กาเยกายานุปัสสีวิหารติ = เธอพึงเฝ้าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่เนืองๆ ตรงนี้มีมรรคตัวไหนมาทำงานบ้าง?
1.สัมมาสติ คอยรู้ทันอาการของกาย
2.ปัญญาสัมมาสังกัปปะ สังเกต พิจารณาอาการของกาย
3.ปัญญาสัมมาทิฐิ เห็น ดู รู้อาการของกาย
4.สัมมาสมาธิ และวิริยะ คือความ เฝ้า และเนืองๆ คือตั้งมั่นจดจ่อต่อเนื่องอยู่กับการรู้ เห็น สังเกต
พิจารณา อาการของกาย

อาตาปี = มีความเพียรจดจ่อต่อเนื่องไม่ลดละ เป็น สัมมาสมาธิ และ สัมมาวายามะ ตรงๆเลยทีเดียว

สัมปฌาโณ = ความรู้ตัวทั่วพร้อม เป็นตัวปัญญามรรคทั้ง 2 ข้อ ทำงานเฝ้าดู สังเกต พิจารณา วิเคราะห์วิจัยธรรม เพื่อค้นหาสมุทัย เหตุทุกข์ เพื่อจะเอาออกเสียให้ได้ซึ่งเหตุทุกข์

สติมา = สัมมาสติ คอยรู้ทันอาการของกาย ระลึกได้ว่าจะต้องรักษากายใจให้เดินอยู่บนทางแห่งมรรค 8 ไม่ลืมที่จะกำกับกายใจให้เจริญอยู่ในสติปัฏฐานทั้ง 4

วิเนยยะโลเก อภิชฌา โทมนัสสัง = เอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลก ข้อนี้เป็นการร่วมกันทำงานของมรรคทั้ง 8 ตัวโดยมีปัญญานำหน้า ค้นหาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดความยินดียินร้าย เมื่อหยุดเหตุหรือทำลายเหตุได้ ความยินดียินร้ายเขาก็จะดับไปเองตามธรรม เกิดเป็น อุเบกขา ๆ เพิ่มมากขึ้นๆ จนถึง "สังขารุเปกขาญาณ ก็จะได้ถึงเหตุใกล้ หรือปัจจัย ที่จะทำให้ อนุโลมญาณ โคตรภูญาณ โสดาปัตติมรรคญาณ นิพพาน และปัจจเวกขณญาณเกิดขึ้นในที่สุด

เอวัง

:b8: :b12: :b16: :b1:
onion
กราบขอบพระคุณท่านเศรษฐี สุภัช จันทรา และเจ้าของกระทู้ ที่ทำให้เป็นเหตุต้องได้แสดงธรรมประกอบ ประดับกระทู้และ เฉลิมฉลอง มหาทาน ธรรมทาน ของท่านเศรษฐี ให้ผู้คนทั่วทั่งโลกได้มาอนุโมทนาบุญกับท่าน พลอยได้บุญคือความสุขกาย สบายใจ สงบกาย สงบใจ อิ่มเอิบกาายใจ ตามไปด้วย
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 08:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...

เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?

หากยังไม่เห็นผล....ที่เห็นนั้นมันก็ยังไม่จริง...

มันท่อง...นะอโสกะ :b13:

cool
สรุปเอาเองอีกแล้ว นี่แหละนิสัยกบ

ใครจะรู้ธรรมเห็นธรรมยังไง เป็นระดับไหนนั่นเป็นเรื่องปัจจัตตัง ทุกวันนี้จะหาผู้ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่าใคร ท่านใดเป็น พระโสดาบัน สกิทาาคา อนาคา อรหันตา นั้นน่าจะหายากหรือไม่มี มีแต่พระสัพพัญญูพระพุทธเจ้าเท่านั้น
onion

อ่านดี..ดี...

ใครเขาไปสรุปคุณ..กัน

ให้ดูตัวท่านเอง..ต่างหาก..

ดู..แล้วก็ตอบตัวเอง...แก้ตัวเอง...

บอกให้เอ่ะใจ...บ้างเท่านั้น...

รักนะ..ถึงบอก..

จุ๊ป...จุ๊ป...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 08:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้ว...เป็น..โสดา..อนาคา...อรหันต....นี้ไม่ต้องให้ใครมาพยากรณ์หรอกนะ

มันรู้...

ไอ้ที่..งง..งง..ใช่มั้ยน่า..นี้นะ...

ของปลอมแท้..แท้..

นี้..รักจริง..ไม่ต้องอ้างพรหมวิหาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 08:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


พวกที่ชอบวิ่งไปให้ใครต่อใครพยากรณ์ตัวเอง..นะ...ฟังใว้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันมองเห็น 2 สิ่งคือ ทุกข์ และก็ ทุกข์ ค่ะ
รูปสมมติ กับ นามสมมติ มนุษย์กำหนดเพื่อบรรยายลักษณะของสิ่งต่างๆ
เพื่อให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจตรงกัน ว่ากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่

รู้รูปสมมติ และนามสมมติ ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร
รู้แล้วยึด เป็นทุกข์ รู้แล้ววาง เบาสบาย รู้เพียงเพื่อผ่านค่ะ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
ดิฉันมองเห็น 2 สิ่งคือ ทุกข์ และก็ ทุกข์ ค่ะ
รูปสมมติ กับ นามสมมติ มนุษย์กำหนดเพื่อบรรยายลักษณะของสิ่งต่างๆ
เพื่อให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจตรงกัน ว่ากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่

รู้รูปสมมติ และนามสมมติ ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร
รู้แล้วยึด เป็นทุกข์ รู้แล้ววาง เบาสบาย รู้เพียงเพื่อผ่านค่ะ

:b8:


ขออนุญาตสอบถาม :b1:

คุณหญิงไทยมองเห็นรูปที่แท้ นามที่แท้บ้างใหมครับครับ ทุกข์เกิดทุกวันนี้เพราะสิ่งนี้แหละ กองทุกข์ ที่เกาะเกี่ยว ที่ตั้งลงแห่งทุกข์ (เพียงสอบถามสภาวะครับ ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งสอนสั่ง :b9: )

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
หญิงไทย เขียน:
ดิฉันมองเห็น 2 สิ่งคือ ทุกข์ และก็ ทุกข์ ค่ะ
รูปสมมติ กับ นามสมมติ มนุษย์กำหนดเพื่อบรรยายลักษณะของสิ่งต่างๆ
เพื่อให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจตรงกัน ว่ากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่

รู้รูปสมมติ และนามสมมติ ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร
รู้แล้วยึด เป็นทุกข์ รู้แล้ววาง เบาสบาย รู้เพียงเพื่อผ่านค่ะ

:b8:


ขออนุญาตสอบถาม :b1:

คุณหญิงไทยมองเห็นรูปที่แท้ นามที่แท้บ้างใหมครับครับ ทุกข์เกิดทุกวันนี้เพราะสิ่งนี้แหละ กองทุกข์ ที่เกาะเกี่ยว ที่ตั้งลงแห่งทุกข์ (เพียงสอบถามสภาวะครับ ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งสอนสั่ง :b9: )


คำตอบก็อยู่ในบทความแล้วนะคะ ลองค่อยๆทำความเข้าใจนะคะ :b8:
แนะนำอีกนิดนะคะ เราควรให้ความสนใจต่อสภาวะของตนเอง จะเป็นประโยชน์กว่า
การให้ความสำคัญกับสภาวะของคนอื่นนะคะ เพราะจะทำให้เราเสียเวลาเปล่าค่ะ :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2012, 13:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
ขณะจิต เขียน:
หญิงไทย เขียน:
ดิฉันมองเห็น 2 สิ่งคือ ทุกข์ และก็ ทุกข์ ค่ะ
รูปสมมติ กับ นามสมมติ มนุษย์กำหนดเพื่อบรรยายลักษณะของสิ่งต่างๆ
เพื่อให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจตรงกัน ว่ากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่

รู้รูปสมมติ และนามสมมติ ในฐานะเป็นเครื่องมือสื่อสาร
รู้แล้วยึด เป็นทุกข์ รู้แล้ววาง เบาสบาย รู้เพียงเพื่อผ่านค่ะ

:b8:


ขออนุญาตสอบถาม :b1:

คุณหญิงไทยมองเห็นรูปที่แท้ นามที่แท้บ้างใหมครับครับ ทุกข์เกิดทุกวันนี้เพราะสิ่งนี้แหละ กองทุกข์ ที่เกาะเกี่ยว ที่ตั้งลงแห่งทุกข์ (เพียงสอบถามสภาวะครับ ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งสอนสั่ง :b9: )


คำตอบก็อยู่ในบทความแล้วนะคะ ลองค่อยๆทำความเข้าใจนะคะ :b8:
แนะนำอีกนิดนะคะ เราควรให้ความสนใจต่อสภาวะของตนเอง จะเป็นประโยชน์กว่า
การให้ความสำคัญกับสภาวะของคนอื่นนะคะ เพราะจะทำให้เราเสียเวลาเปล่าค่ะ :b53:


ขอบพระคุณครับ เพียงสนทนาธรรม สุขใจเมื่อกล่าวเรื่องธรรม เจริญสุขในสภาวะธรรมครับ :b9:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 22:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




W3_resize.jpg
W3_resize.jpg [ 16.12 KiB | เปิดดู 8143 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...

เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?

หากยังไม่เห็นผล....ที่เห็นนั้นมันก็ยังไม่จริง...

มันท่อง...นะอโสกะ :b13:

cool
สรุปเอาเองอีกแล้ว นี่แหละนิสัยกบ

ใครจะรู้ธรรมเห็นธรรมยังไง เป็นระดับไหนนั่นเป็นเรื่องปัจจัตตัง ทุกวันนี้จะหาผู้ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่าใคร ท่านใดเป็น พระโสดาบัน สกิทาาคา อนาคา อรหันตา นั้นน่าจะหายากหรือไม่มี มีแต่พระสัพพัญญูพระพุทธเจ้าเท่านั้น
onion

อ่านดี..ดี...

ใครเขาไปสรุปคุณ..กัน

ให้ดูตัวท่านเอง..ต่างหาก..

ดู..แล้วก็ตอบตัวเอง...แก้ตัวเอง...

บอกให้เอ่ะใจ...บ้างเท่านั้น...

รักนะ..ถึงบอก..

จุ๊ป...จุ๊ป...

:b10:
"อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...

เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?

หากยังไม่เห็นผล....ที่เห็นนั้นมันก็ยังไม่จริง...

มันท่อง...นะอโสกะ "
:b16:
"...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ..." คำพูดอย่างนี้ใจคุณกบคิดว่าอย่างไรหรือ?
:b10:
ผมหมดสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างเต็มอก ถึงใจ จนใครจะเอามีดมาบั่นคอให้ตาย ก็จะไม่เปลี่ยนความเคารพศรัทธาในพระไตรรัตน์มาตั้งแต่ปี 2542 จะเป็นอะไรขั้นไหนก็ไม่สนใจ รู้แต่ว่าชีวิตที่มีแต่"ให้"เป็นสุขกว่าชีวิตที่มีแต่"เอา" "ความตายเป็นเพียงการถอดเสื้อผ้าชุดเก่าออกแล้วสวมเสื้อผ้าชุดใหม่"
"ตราบใดที่ยังกลับไปไม่ถึงบ้านที่แท้จริง ก็อย่าหวังว่าจะได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย"
"ชีวิตที่ยังไม่นั่งแท่น ย่อมต้องทุกข์อยู่ร่ำไป"
"ตายกับปัจจุบันย่อมไปดี"
"ที่พักใจที่ดีคือ หยุดปรุงแต่ง" "เข้าถึงตรงนี้ให้ได้บ่อยๆและชำนาญ ชีวิตนี้จักไม่เป็นหมันหรือขาดทุน"

:b1:
บ่นให้ฟังแล้วไม่ใช่ท่องนะครับ
onion
จั๊กกะจี้ เสียง จุ๊บ ๆ ด้วย ดูผิดธรรมชาติยังไง พิกลๆ!
เอาแค่ยกไม้ยกมือก็พอแล้วกระมังครับ?
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 22:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


หุ..หุ...

อย่าลืมตัวข้างหน้า...ซิ

อ้างคำพูด:
อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...


มันแสดงชัดเจนว่า...ผมยังไม่เชื่อว่าคุณเห็น...

และยังสำทับต่ออีกว่า..

อ้างคำพูด:
เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?


ให้ท่านกลับไปดูที่ผล....ในตัวท่าน

หากไม่มีผล....

ก็อย่าดีใจไปว่าเราเห็น...แล้ว...นี้แหละที่อยากสะกิด...นะ

ความเชื่อของผม..มันไม่สำคัญอะไรหรอก...มันสำคัญแค่ผลในตัวคุณเอง..ก็แค่นั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 22:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าผล....ยังไม่มี

ก็ให้นึกถึงคำนี้นะ...

อ้างคำพูด:
มันท่อง...นะอโสกะ


มันเป็นปัญญาอบรมสมาธิ...มันยังสมถะอยู่...

นี้ก็รักอีกแหละ...

จุ๊ป....จู๊ปป... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 22:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


โจกท์...โทษตน...มีแต่เจริญ...มีแต่จะเพิ่มพูน

ตอนนี้ผมกำลังกลุ้ม...มั๊ก...มากก...

โทษตนได้ทุกวัน...ไม่มีดีอะไรเลย...นิ

s002 s002 s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2012, 23:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
หุ..หุ...

อย่าลืมตัวข้างหน้า...ซิ

อ้างคำพูด:
อ้าวว....อย่างนี้...อโสกะก็เห็นแล้วนะสิ...


มันแสดงชัดเจนว่า...ผมยังไม่เชื่อว่าคุณเห็น...

และยังสำทับต่ออีกว่า..

อ้างคำพูด:
เห็นแล้ว...ผลมันเป็นยังงัยมั่ง?

เป็นโสดา...อนาคา...หรือดับทุกข์ได้ไปแล้วงั้นรึ?


ให้ท่านกลับไปดูที่ผล....ในตัวท่าน

หากไม่มีผล....

ก็อย่าดีใจไปว่าเราเห็น...แล้ว...นี้แหละที่อยากสะกิด...นะ

ความเชื่อของผม..มันไม่สำคัญอะไรหรอก...มันสำคัญแค่ผลในตัวคุณเอง..ก็แค่นั้น

เห็นท่านกบชอบสะกิดท่านอโสกะ ดิฉันก็เลยอยากสะกิดท่าบกบเช่นกัน นับวันๆ ดิฉันก็เห็นความชัดเจนของท่านอโสกะ และในขณะเดียวกันดิฉันก็เห็นความชัดเจนของท่านกบ ท่านอโสกะมีธรรมมาชี้แนะผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรม นับว่าเป็นอานิสงส์ใหญ่ยิ่ง ดิฉันอยากให้ท่านกบสะกิดธรรม ก็พอเจ้าค่ะ ไม่ต้องไปสะกิดตัวท่านอโสกะหรอก ใครจะเป็น โสดา อนาคา มันเป็นปัจจังตังรู้ได้เฉพาะตน ถึงแม้ท่านอโสกะได้เป็น อริยะจริงหรือไม่จริง ก็ไม่มีผู้ใดมีส่วนได้ส่วนเสีย (อุเบกขาสัมโพชฌงค์เจ้าค่ะ) มันไม่ใช่ประเด็นของท่านอโสกะ แต่ประเด็นคือ ธรรมที่ท่านอโสกะมาชี้แนะพวกเราในลานธรรมจักรต่างหาก คนที่มีธรรมระดับเดียวกันย่อมจะมองกันละกันออก ดิฉันกล้าบอกทุกคนว่าตอนนี้ดิฉันไม่มีความทุกข์เลยเจ้าค่ะ ดิฉันมีแต่เวทนาคือ ความอยากกับไม่อยากที่เป็นกิเลศผุดขึ้นในจิตใจ ซึ่งความอยากนี่แหละ เป็นอวิชชาที่ตรึงเราไว้ให้เกิดภพเกิดชาติ อนุโมทนาเจ้าค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2012, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2011, 10:52
โพสต์: 256

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาบุญ กับ สุภัช จันทรา มหาเศรษฐี ด้วยนะคะ สาธุ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร
ทำดี ดีแล้ว เป็นพร ไม่ต้อง อ้อนวอน ขอพร กะใคร ให้กวน
พรที่ ให้กัน ผันผวน เป็นเหมือน ลมหวน อวลไป อวลมา อย่าหลง
พรทำ ดีเอง มั่นคง วันคืน ยืนยง ซื่อตรง ต่อผู้ รู้ทำ
อยากรวย ด้วยพร เพียรบำ - เพ็ญบุญ กุศลนำ ให้ถูก ให้พอ ต่อตน
ทุกคน เกิดมา เป็นคน ชั่วดี มีจน เป็นผล แห่งกรรม ทำเอง
ถือธรรม เชื่อกรรม ยำเยง บาปชั่ว กลัวเกรง ทำแต่ กรรมดี ทวีพรฯ

ท่านพุทธทาสภิกขุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 07:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




9 กย 46 140 _resize.jpg
9 กย 46 140 _resize.jpg [ 47.32 KiB | เปิดดู 8110 ครั้ง ]
onion คุณงามความดีของท่านสุภัช จันทรา น่าจะได้แสดงอยู่บน หน้า 1 นานๆ เป็นขวัญกำลังใจ เป็นตัวอย่างแห่งการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ เป็นบุญที่กินใช้ไม่หมด ควรที่ชาวพุทธควรจะจดจำไว้ แล้วเอาไปทำตามตัวอย่าง นี่เป็นการอำนวยความสะดวกในการให้ธัมมะเป็นทาน มีอานิสงส์ยิ่งกว่าทานใดๆ ดังพุทธวัจจนะที่ว่า

"สพฺพทานัง ธมฺทานงฺ ชินาติ" การให้ธัมมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง

.......ผู้คนในเมืองไทยกำลังฮิตทำหนังสือธัมมะแจก เป็นธัมมทานัง แต่อานิสงส์ยังน้อยกว่าการให้ทานเพื่อสนับสนุนการอบรมธรรม การอบรมปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาอย่างที่ศูนย์วิปัสสนาของท่านโกเอนก้าทั่วโลกกำลังทำอยู่ และผู้คนในประเทศพม่าเขาทำกันมานานแสนนาน จนผลปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมที่สามารถพิสูจน์และเห็นชัดได้ในโลกยุคปัจจุบันนี้ว่า จำนวนพระอรหันตธาตุในประเทศพม่า มีมากจริงๆ ใครไปเที่ยวพม่าลองไปพิสูจน์กันดูนะครับ onion
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร