วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
deecup เขียน:
[ถามวิืธีช่วยพระจิตวิปลาส ไปเกี่ยวอะไรกับอจินไตย งั้นมีพระอาจารย์ที่ เขาแก้จิตวิปลา่ส ให้แก่พระที่จิตวิปลา่ส งั้น พระอาจารย์ ก็เป็นบ้าไปด้วยหรือ
งง ?
คำสอนอจินไตย4 ที่ยกมา เขายกมาเพื่อคนที่เชื่อคำสอนที่ออกมาจากวิปลาสของพระ แล้วผมไปเชื่อตรงไหน งง

แบบนี้นี่เอง ถึงได้เที่ยววิพาก์คนอื่น เป็นเพราะไม่มีความรู้เรื่องอจินไตยนี่เอง
อจินไตยท่านไว้สอนคนแบบคุณนี่แหล่ะครับ

อจินไตยสี่ ในเรื่องฌาณวิสัย ท่านไม่ให้เราไปคิดในเรื่องฌาณ
ในที่นี้ก็หมายถึง ไม่ให้คุณไปคิดว่า เรื่องที่พระเกษมพูดเป็นเรื่องจริงหรือโกหก
เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฌาณวิสัย พระเกษมอาจได้ฌาณหรือไม่ได้ พระเกษม
เท่านั้นที่จะรู้ได้ อจินไตยเป็นเรื่องทางจิต จะรู้ได้แต่เฉพาะผู้บรรลุธรรมเท่านั้น

สรุปก็คือที่พระเกษมอาจจะบ้าหรือไม่ก็ได้
แต่สำหรับคุณถ้ายังขืนไปยุ่งที่เกี่ยวกับการได้ฌาณ
หรือไม่ได้ญาณของคนอื่น รับรองได้อีกหน่อยบ้าแน่ๆครับ
ขอยืมคำพูดพระเกษมมาพูดหน่อยครับ
"เราไม่ได้บอก พระธรรมบอก" :b13:

ฝึกจิต เขียน:
ไม่เป็นไรหรอก เขารู้มาอย่างนั้นเขาก็คิดอย่างนั้น เรารู้มาอย่างนี้ เราก็คิดอย่างนี้
อะไรมันก็ไม่แน่หรอก

รู้อย่างนั้น รู้อย่างนี้อะไรครับ เป็นชาวพุทธรู้ต้องรู้พระธรรมซิครับมันถึงจะถูก
ไม่ใช่ไปรู้แต่เรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม

คุณฝึกจิตก็เหมือนกันครับ เที่ยวไปวิพากษ์คนอื่นว่า
"ตัวอย่าง ของการไม่ปล่อยว่าง และยึดมั่นถือมั่น"
แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นตัวคุณเองที่ไม่ปล่อยวางยึดมั่นถือมั่น

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของพระเกษมท่าน ที่ท่านบอกไปนรก
มันก็เป็นเรื่องของพระเกษมเอง พระเกษมไม่ได้บอกว่า
คุณฝึกจิตหรือจขกทไปนรก การที่คนๆหนึ่งเล่าเรื่องของตัวเอง
กับการที่มีบุคคลที่สามเข้าไปวุ่นวายกับเขาไปปรามาสเขา
คุณว่าใครกันแน่ครับ ที่มันยึดมั่นถือมั่น




ขอบคุณที่เตือนสติครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 18:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมถามผู้รู้

ผมไปคิดเ้รื่องฌาน หรือไม่ฌานของพระที่ใหน

ผมถามเรื่องวิธีแก้ความวิปลาส แค่นั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


แก้วิปลาสชองเราเอง..หากว่ามี...อย่างนั้นรึครับ....

ถ้าอย่างนี้....ก็น่าจะคุย ๆ กันได้

แต่...จะไปแก้คนอื่น...

อันนี้..ไม่เอา...

ไม่ใช่หน้าที่... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


ก่อนอื่นต้องอภัยทุกท่านที่ไม่ได้เข้ามาแวะ
เพราะภารมากเหลือเกิน ที่ได้เข้ามาเพราะมีข่าวไปถึงจึงได้เข้ามา

พอเข้ามาก็เจอกับเรื่องที่ทำให้อดสูจิตรใจเป็นอย่างมาก เมื่อปี พ.ศ 2546
ได้นำพระที่มีจิตรวิปลาสไปให้หลวงพ่อเจียม (ไม่แน่ใจ) หรือเจียร
แห่งวัดถ้ำขามที่หลวงปู่หมั่นท่านเคยจำพรรษาอยู่ที่นั้นที่อำเภอพันนานิคม
จังหวัดสกลนคร ก่อนที่ท่านนี้จะเป็นจิตรวิปลาส ท่านไปนั่งตาดยุงให้ยุงกินเลือด
อยู่ที่ศูนย์พัฒนาพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี นั่งไม่หลับไม่นอนจนสว่าง
พอสว่างก็บอกกับพระทั้งหลายว่าเราไปเจอหมูอ้าปากใส่เราก็ไม่กลัวมัน
เราจับมันหักเขี้ยวมันจนมันตาย เราเลยไม่ได้นอน และก็จะไม่นอนอีกต่อ
พอกับมาถึงวัดอยู่ที่อำเภอปักธงชัย ก็ไม่ยอมนอนประมาณ 4-5 วันก็ได้เจอ
และได้พาท่านไปแก้ที่สกลนครอย่างว่านั้นแหละ
พอไปถึงหลวงที่นั้นท่านก็ให้เอาหัวโขกกับมะขามที่อยู่หน้าถ้ำ 3 ครั้ง
ก็หาย การที่จริงก็หายตั้งแต่เข้าไปในเขตวัดท่านแล้ว แต่เพียง 50 %
พอหัวโขกต้นมะขามอีกทีบอกหายแล้วคุยกันรู้เรื่อง
แต่ก่อนจะไปนั้นพูดกันไร้เรื่องเลย บอกว่าจะเหาะบ้าง
บอกว่าจะลงไปเที่ยวนรกบ้าง ตอนนั่งรถไปก็ด่าคนขับรถไปสุดทาง
จนคนขับรถร้องให้เจ้าของก็ร้องให้ เราผู้พาไปก็เกือบทนไม่ไหว
เกือบจะตีปากท่านแล้ว อันนี้ที่นำมาเล่าให้ฟังก็เพราะเจอมากับตัวเอง
คนที่มีจิตรวิปลาสนี้ไม่ยอมฟังใครทั้งนั้น ทุกคนที่เข้าไปพูดกับท่านนั้นจะผิดหมด
มีท่านผู้เดียวที่รู้และเก่งกว่าทุกคน เราไม่จำเป็นก็อย่าไปก่อเวรก่อกรรมกะท่านนะ
เพราะกรรมของใครของมัน กมฺมุนา วตติ โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นตามกรรม

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
tanaphomcinta

ก่อนที่ท่านนี้จะเป็นจิตรวิปลาส ท่านไปนั่งตากยุงให้ยุงกินเลือดอยู่ที่ศูนย์พัฒนาพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี นั่งไม่หลับไม่นอนจนสว่าง

พอสว่างก็บอกกับพระทั้งหลายว่า เราไปเจอหมูอ้าปากใส่เราก็ไม่กลัวมัน
เราจับมันหักเขี้ยวมันจนมันตาย เราเลยไม่ได้นอน และก็จะไม่นอนอีกต่อ
พอกลับมาถึงวัดอยู่ที่อำเภอปักธงชัย ก็ไม่ยอมนอน ประมาณ 4-5 วันก็ได้เจอ และได้พาท่านไปแก้ที่สกลนครอย่างว่านั้นแหละ

พอไปถึงหลวงที่นั้นท่านก็ให้เอาหัวโขกกับต้นมะขามที่อยู่หน้าถ้ำ 3 ครั้งก็หาย
การที่จริงก็หายตั้งแต่เข้าไปในเขตวัดท่านแล้ว แต่เพียง 50 %
พอหัวโขกต้นมะขามอีกที บอกหายแล้วคุยกันรู้เรื่อง

แต่ก่อนจะไปนั้นพูดกันไม่รู้เรื่องเลย บอกว่าจะเหาะบ้าง บอกว่าจะลงไปเที่ยวนรกบ้าง
ตอนนั่งรถไปก็ด่าคนขับรถไปสุดทาง จนคนขับรถร้องไห้ เจ้าของก็ร้องไห้

เราผู้พาไปก็เกือบทนไม่ไหว เกือบจะตีปากท่านแล้ว อันนี้ที่นำมาเล่าให้ฟัง ก็เพราะเจอมากับตัวเอง


พอรู้ไหมครับว่า ท่านใช้วิธีปฏิบัติแบบใด ถึงได้ทนยุงทนอดนอนได้ขนาดนั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2012, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
tanaphomcinta

ก่อนที่ท่านนี้จะเป็นจิตรวิปลาส ท่านไปนั่งตากยุงให้ยุงกินเลือดอยู่ที่ศูนย์พัฒนาพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี นั่งไม่หลับไม่นอนจนสว่าง

พอสว่างก็บอกกับพระทั้งหลายว่า เราไปเจอหมูอ้าปากใส่เราก็ไม่กลัวมัน
เราจับมันหักเขี้ยวมันจนมันตาย เราเลยไม่ได้นอน และก็จะไม่นอนอีกต่อ
พอกลับมาถึงวัดอยู่ที่อำเภอปักธงชัย ก็ไม่ยอมนอน ประมาณ 4-5 วันก็ได้เจอ และได้พาท่านไปแก้ที่สกลนครอย่างว่านั้นแหละ

พอไปถึงหลวงพ่อที่นั้นท่านก็ให้เอาหัวโขกกับต้นมะขามที่อยู่หน้าถ้ำ 3 ครั้งก็หาย
การที่จริงก็หายตั้งแต่เข้าไปในเขตวัดท่านแล้ว แต่เพียง 50 %
พอหัวโขกต้นมะขามอีกที บอกหายแล้วคุยกันรู้เรื่อง

แต่ก่อนจะไปนั้นพูดกันไม่รู้เรื่องเลย บอกว่าจะเหาะบ้าง บอกว่าจะลงไปเที่ยวนรกบ้าง
ตอนนั่งรถไปก็ด่าคนขับรถไปสุดทาง จนคนขับรถร้องไห้ เจ้าของก็ร้องไห้

เราผู้พาไปก็เกือบทนไม่ไหว เกือบจะตีปากท่านแล้ว อันนี้ที่นำมาเล่าให้ฟัง ก็เพราะเจอมากับตัวเอง


พอรู้ไหมครับว่า ท่านใช้วิธีปฏิบัติแบบใด ถึงได้ทนยุงทนอดนอนได้ขนาดนั้น :b1:


ก็ไม่รู้นะแต่เท่าที่เคยปฏิบัติร่วมกันก็เห็นท่านใช้พุธโธนี้แหละ แต่ท่านเป็นคนอดทนสูงมาก ท่านสามารถไม่นอนสามวันสามคืนก็เคยทำ และเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่พาท่านไปเท่านั้น ก็คิดดูคนเขาขันอาสาจะพาท่านไปยังไม่ยอมเลย ต้องผู้นี้เท่านั้นจึงยอมไป ไม่งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกหัวหรือก้อย ก็คงจะเป็นบุญเคยช่วยกันหรือไงไม่ทราบ เพราะว่าผู้พาไปก็อยู่ชัยภูมิ ท่านอยู่ปักธงชัยโคราช แต่ไม่รู้ว่าได้มาเจอตอนท่านเป็นได้ไง เดี๋ยวนี้ท่านก็มรณภาพไปแล้วแต่ปี 2553

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2012, 17:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณมากๆๆครับ ที่ให้่คำตอบ
สาธุ ๆๆๆๆๆ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2012, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tanaphomcinta เขียน:

ก็ไม่รู้นะแต่เท่าที่เคยปฏิบัติร่วมกันก็เห็นท่านใช้พุทโธนี้แหละ แต่ท่านเป็นคนอดทนสูงมาก ท่านสามารถไม่นอนสามวันสามคืนก็เคยทำ และเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่พาท่านไปเท่านั้น ก็คิดดูคนเขาขันอาสาจะพาท่านไปยังไม่ยอมเลย ต้องผู้นี้เท่านั้นจึงยอมไป ไม่งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกหัวหรือก้อย ก็คงจะเป็นบุญเคยช่วยกันหรือไงไม่ทราบ เพราะว่าผู้พาไปก็อยู่ชัยภูมิ ท่านอยู่ปักธงชัยโคราช แต่ไม่รู้ว่าได้มาเจอตอนท่านเป็นได้ไง เดี๋ยวนี้ท่านก็มรณภาพไปแล้วแต่ปี 2553



เคยสนทนากับลูกศิษย์ท่านคนหนึ่ง ก็ว่าเคยทำ-อีกทั้งแนะนำผู้อื่นก็ว่าแบบ พุทโธ ดังว่านั่นแหละ คือ ท่านแนะนำเขาว่า ให้ท่องพุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถี่ๆเร็วๆแบบไม่มีช่วงว่าง ... ทีนี้ผู้ทำตามรายหนึ่ง (“ผมลองบริกรรม พุทโธ แบบถี่ยิบ ตามที่หลวงปู่สอนเกือบทั้งวันแล้วรู้สึกเหนื่อย และปวดหัวมากครับ ผมควรเปลี่ยนเป็นแบบช้าๆหรือว่าทำช้าสลับเร็วดีครับ”) ถามวิธีแก้ที่บอร์ดของวัด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2012, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


กรัชกาย เขียน:
tanaphomcinta เขียน:

ก็ไม่รู้นะแต่เท่าที่เคยปฏิบัติร่วมกันก็เห็นท่านใช้พุทโธนี้แหละ แต่ท่านเป็นคนอดทนสูงมาก ท่านสามารถไม่นอนสามวันสามคืนก็เคยทำ และเป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่พาท่านไปเท่านั้น ก็คิดดูคนเขาขันอาสาจะพาท่านไปยังไม่ยอมเลย ต้องผู้นี้เท่านั้นจึงยอมไป ไม่งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะออกหัวหรือก้อย ก็คงจะเป็นบุญเคยช่วยกันหรือไงไม่ทราบ เพราะว่าผู้พาไปก็อยู่ชัยภูมิ ท่านอยู่ปักธงชัยโคราช แต่ไม่รู้ว่าได้มาเจอตอนท่านเป็นได้ไง เดี๋ยวนี้ท่านก็มรณภาพไปแล้วแต่ปี 2553



เคยสนทนากับลูกศิษย์ท่านคนหนึ่ง ก็ว่าเคยทำ-อีกทั้งแนะนำผู้อื่นก็ว่าแบบ พุทโธ ดังว่านั่นแหละ คือ ท่านแนะนำเขาว่า ให้ท่องพุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถี่ๆเร็วๆแบบไม่มีช่วงว่าง ... ทีนี้ผู้ทำตามรายหนึ่ง (“ผมลองบริกรรม พุทโธ แบบถี่ยิบ ตามที่หลวงปู่สอนเกือบทั้งวันแล้วรู้สึกเหนื่อย และปวดหัวมากครับ ผมควรเปลี่ยนเป็นแบบช้าๆหรือว่าทำช้าสลับเร็วดีครับ”) ถามวิธีแก้ที่บอร์ดของวัด :b1:


เท่าที่เคยทำมาก็เป็นเหมือนกันแต่ไม่มาก แต่บริกรรมท่องพุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถี่ๆเร็วๆแบบไม่มีช่วงว่าง ก็ได้ผลดีอยู่นะ ถ้ายังไงแล้วเข้าไปอ่านหรือเอาเสียงของท่านไปฟังแล้วอาจหายได้นี้เลยหลวงพ่อพุธ ฐานิโย 19826.สมาธิเพื่อชีวิต (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)



.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 04:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
ผมถามผู้รู้

ผมไปคิดเ้รื่องฌาน หรือไม่ฌานของพระที่ใหน

ผมถามเรื่องวิธีแก้ความวิปลาส แค่นั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรเลย

ลื่นปรืดๆเลยเชียว ก็คุณไม่รู้เรื่องฌาณเรื่องอจินไตยไง ถึงได้มอง
การกระทำของคนอื่นเป็น วิปลาศ

และที่จริงแท้ก็คือ คุณกำลังมองว่า พระเกษมมีจิตวิปลาศ
เพราะพระเกษมบอกว่าได้ไปนรกมา คนที่ศึกษาพระธรรมมาย่อม
ต้องรู้ว่า ความหมายของพระเกษมคือ ตัวเองมีฌาณสามารถไปนรกได้

แต่คุณมันประเภทชอบวิจารณ์คนอื่นด้วยความคะนองปาก
เรื่องจริงไม่จริงไม่สนใจ

deecup เขียน:
[size=150]อันนี้คลิป2 วันที่26 มค 2555
พระเกษม บอกถอดจิตลงนรก ให้ยมฑูตไปหาพ่อที่เจ้าชู้ แล้วบอกต่อยพ่้อ จากหน้าดำมีไฟลุก จนไสจ้า แล้วต่อยอีก2ที จนมีชฎา นุ่งกางเกงแบบพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเต่ะพ่อเข้าไปอีกที จนพ่อมีบริวาณ แล้วพาพ่อไปไว้ยามา แต่ไปเป็นชู้ จึงตกมาที่ชั้นดาวดึงส์ << แก้ึีครับ

คือหลวงพ่อเกษมท่านจิตวิปลาสไปแล้วหรือเปล่า??? จะช่วยยังไง?

ข้อความข้างบนคุณหมายถึงพระเกษมมีจิตวิปลาศใช่มั้ย

แต่ในความหมายของพระเกษมท่านบอกท่านได้ฌาณ (อันนี้ในแง่ของพระเกษม)
ส่วนคุณ มาบอกว่าพระเกษมมีจิตวิปลาศ (แสดงว่าคุณไปปรามาสพระเกษมในเรื่องฌาณ)
สำหรับผมเป็นคนกลางมาตัดสินว่า คุณกำลังทำผิดคำสอนของพระพุทธเจ้า (เรื่องอจินไตย)

สรุปความเห็นสุดท้ายที่มาตอบผม ถ้าไม่ตีความหมายว่าคุณ แถ
ก็ตีได้อีกความหมายว่า คุณวิปลาศเสียเองครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 17:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณสอนผมไม่ให้คิดเรื่องวิปลาส แต่คุณก็คิดว่าผมวิปลาสเสียเอง

ยันกันเองนะ

ตัวคุณมีกี่บุคลิค เนี่ย หรือการเล่นบอร์ดและสนทนาธรรมมากๆ ทำให้โฮฮับผู้รู้ธรรมมากจะเปลี่ยนไป แล้วคำว่าแถ ... เนี่ยมันภาษาอะไร เห็นในภาษาการเมือง เขาใช้เยาะเย้ยอีกฝ่ายหรือเปล่า หรือมันเป็นภาษาธรรมอย่างหนึ่ง ของคุณโฮฮับ เอ๊ะคนรู้ธรรมมาก เขายังไม่หลุดจากการ เยาะเย้ยอีกฝ่ายหรือเปล่า มันน่าจะพ้นไปแล้วน้า ผมว่า

หรือผมไม่รู้ตัว คุณโฮฮับเลย ใช้คำว่า แถ..... กระตุ้นจิตผม ตลกดีเหมือนกัน :b32:


ถ้าผมเป็นคุณรู้มากแบบนี้ ผมเข้าป่าไปปฎิบัติธรรม หรือ ออกบวชแล้ว ธุดงคนเดียวสบาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


ฮึฮึฮึ อย่าเถียงกันเลยท่านเอย...เรื่องของคนอื่นเราเอามาเป็นเรื่องของตนเสียแล้ว ต้องขออภัยด้วยนะ ที่เห็นพวกท่านไม่ลงรอยกัน ฮึฮึฮึ

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2012, 23:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


พระมีหน้าที่ 3 อย่างหลักๆ
1.วิปัสสนาภาวนา
2.สอนธรรม
3.ตักบาตร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2012, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
พระมีหน้าที่ 3 อย่างหลักๆ
1.วิปัสสนาภาวนา
2.สอนธรรม
3.ตักบาตร



[color=#BF0000] ไม่มีมั่งหน้าที่ ถ้าหน้าที่ของเจ้าอาวาสมี 4 ข้อ ตามฏกหมาย อำนาจมี 3 ข้อ ส่วนธุระมีแค้ 2 ข้อเอง คือ คันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ส่วนหน้าที่และอำนาจนั้น
อยู่ในมาตรา ๓๗ เจ้าอาวาสมีหน้าที่ ดังนี้
(๑) บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี
(๒) ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่ หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้น ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือ คำสั่งของมหาเถรสมาคม
(๓)เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์
(๔) ให้ความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล"
"มาตรา ๓๘ เจ้าอาวาสมีอำนาจ ดังนี้
(๑) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่อาศัยในวัด
(๒) สั่งให้บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด
(๓) สั่งให้บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยในวัด ทำงานภายในวัด หรือให้ทำทัณฑ์บนหรือให้ขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้น ประพฤติผิดคำสั่งเจ้าอาวาสซึ่งได้สั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม"
นี้แหละอำนาจหน้าที่ของพระโดยตรงแหละท่านเอย..ฮึฮึฮึ

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2012, 04:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tanaphomcinta เขียน:
ฮึฮึฮึ อย่าเถียงกันเลยท่านเอย...เรื่องของคนอื่นเราเอามาเป็นเรื่องของตนเสียแล้ว
ต้องขออภัยด้วยนะ ที่เห็นพวกท่านไม่ลงรอยกัน ฮึฮึฮึ

ฮะฮะฮะ อย่าเข้ามาเถียงด้วยเลยท่านเอย

คนสองคนเอาเรื่องคนๆเดียวมาเป็นอารมณ์
แต่ท่านคนเดียวเอาเรื่องคนสองคนมาเป็นอารมณ์

ต้องขออภัยด้วยที่เห็นท่านไม่ลงรอยกับผมสองคน ฮะฮะฮะ :b13:

tanaphomcinta เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
พระมีหน้าที่ 3 อย่างหลักๆ
1.วิปัสสนาภาวนา
2.สอนธรรม
3.ตักบาตร



[color=#BF0000] ไม่มีมั่งหน้าที่ ถ้าหน้าที่ของเจ้าอาวาสมี 4 ข้อ ตามฏกหมาย อำนาจมี 3 ข้อ ส่วนธุระมีแค้ 2 ข้อเอง คือ คันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ส่วนหน้าที่และอำนาจนั้น
อยู่ในมาตรา ๓๗ เจ้าอาวาสมีหน้าที่ ดังนี้
(๑) บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี
(๒) ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่ หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้น ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือ คำสั่งของมหาเถรสมาคม
(๓)เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์
(๔) ให้ความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล"
"มาตรา ๓๘ เจ้าอาวาสมีอำนาจ ดังนี้
(๑) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่อาศัยในวัด
(๒) สั่งให้บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด
(๓) สั่งให้บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยในวัด ทำงานภายในวัด หรือให้ทำทัณฑ์บนหรือให้ขอขมาโทษ ในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้น ประพฤติผิดคำสั่งเจ้าอาวาสซึ่งได้สั่งโดยชอบด้วยพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม"
นี้แหละอำนาจหน้าที่ของพระโดยตรงแหละท่านเอย..ฮึฮึฮึ

ฮ่าฮ่าฮ่า กฎหมายมีไว้ใช้บังคับพระสงฆ์และฆราวาส

กฎมหาเถรมีไว้บังคับแค่คณะสงฆ์ไทย

พระธรรมวินัยมีไว้ใช้บังคับ พระสงฆ์ในพุทธศาสนาทุกคน

ฉะนั้นกรุณา แยกแยะในถูกนะครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

คุณไม่เที่ยงแกบอกว่า " พระมีหน้าที่" ความหมายก็คือ พระสงฆ์หรือบรรพชิต
ในพุทธศาสนา ดังนั้นมันต้องเอา พระธรรมวินัยเป็นหลัก
และการปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ถือเป็นหน้าที่ พระสงฆ์ในพุทธศาสนาทุกรูป
ไม่รู้ว่าคุณtana....ถูกมหาเถรชกจนเมาหมัดหรือเปล่าฮ่า ฮ่า ฮ่า :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 57 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร