วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 07:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ใบโพธ์แก่นธรรม หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

คนทั่วไปย่อมยึดถือพระไตรปิฎกเป็นตำราในการศึกษาพุทธศาสนา
แต่เวลาหลวงพ่อสอนไม่ค่อยเห็นพูดถึงเลย ท่านให้ความเห็นว่า
"พระไตรปิฎกนั้นจารึกหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปีและคัดลอกต่อกันมานับพันปี
... คนเขียนคงเขียนดีแล้ว แต่คนอ่านจะเข้าใจเหมือนคนเขียนหรือไม่ ยังสงสัย
ถ้าจะเอาแต่อ้างตำรา
ก็เหมือนกับว่าเราต้องรับรองคำพูดของคนอื่นซึ่งหลวงพ่อไม่แน่ใจ
แต่สิ่งที่เล่าให้ฟังนั้นขอรับรองคำพูดของตัวเองเพราะจากประสบการณ์จริงๆ"
"ตำราเปรียบเสมือนแผนที่
เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ทางไปหรือยังไปไม่ถึงจุดหมาย
ผู้ที่ไปถึงแล้วแผนที่ก็หมดความหมาย"
"พระไตรปิฎกเขียนด้วยภาษาอินเดีย
เหมาะสำหรับคนอินเดียหรือคนเรียนภาษาอินเดียอ่าน
แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องผูกขาดของคนใดคนหนึ่ง
เป็นเรื่องอยู่เหนือภาษา เชื้อชาติ เพศและเวลา
ถ้าเรารู้ธรรมะที่แท้จริงแล้วจะต้องรู้ และเข้าใจในภาษาของเราได้"
"การศึกษาพระไตรปิฎกนั้นดี แต่อย่าให้ติดและเมาในตัวหนังสือ
มะม่วงมีชื่อเรียกหลายอย่างหลายภาษา อย่ามัวแต่ถกเถียง ตีความ
หรือยึดถือว่าจะต้องเรียกอย่างไร แล้วปล่อยให้มันเน่า
ใครที่ได้กินมะม่วงก็ย่อมรู้ว่ารสมะม่วงเป็นอย่างนั้นเอง
ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไรหรือไม่มีชื่อเลยก็ตาม"

หลวงพ่อชา ตอบปัญหาธรรม
เราควรอ่านตำรับตำรามากๆ หรือศึกษาพระไตรปิฎกด้วยหรือไม่ในการฝึกปฏิบัติ
" พระธรรมของพระพุทธเจ้านั้นไม่อาจค้นพบได้ด้วยตำราต่างๆ ถ้าท่านต้องการจะรู้เห็นจริง ด้วยตัวของท่านเองว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนอะไร ท่านไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกับตำรับตำราเลย จงเฝ้าดูจิตของท่านเอง พิจารณาให้รู้เห็นว่าความรู้สึกต่างๆ (เวทนา) เกิดขึ้นและดับไปอย่างไร ความนึกคิดเกิดขึ้นและดับไปอย่างไร อย่าได้ผูกพันอยู่กับสิ่งใดเลย จงมีสติอยู่เสมอ เมื่อมีอะไรๆ เกิดขึ้นให้ได้รู้ได้เห็น นี่คือทางที่จะบรรลุถึงสัจธรรมของพระพุทธองค์ จงเป็นปกติธรรมดา ตามธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่าน ทำขณะอยู่ที่นี่เป็นโอกาสแห่งการฝึกปฏิบัติ เป็นธรรมะทั้งหมดเมื่อท่านทำวัตรสวดมนตร์อยู่ พยายามให้มีสติ ถ้าท่านกำลังเทกระโถนหรือล้างส้วมอยู่ อย่าคิดว่าท่านกำลังทำบุญทำคุณให้กับผู้หนึ่งผู้ใด มีธรรมะ อยู่ในการเทกระโถนนั้น อย่ารู้สึกว่า ท่านกำลังฝึกปฏิบัติอยู่เฉพาะเวลานั่งขัดสมาธิเท่านั้น พวกท่าน บางคนบ่นว่า ไม่มีเวลาพอที่จะทำสมาธิภาวนา แล้วเวลาหายใจเล่ามีเพียงพอไหม การทำสมาธิภาวนา ของท่านคือการมีสติระลึกรู้ และการรักษาจิตให้เป็นปกติตามธรรมชาติในการกระทำทุกอิริยาบถ"

บทความตอนหนึ่งในคู่มือมนุษย์(ฉบับสมบูรณ์)/ท่านพุทธทาส : บทที่ ๑/ใจความสำคัญของพุทธศาสนา
"คนที่ไม่เคยเห็นเคยฟังพระไตรปิฎกเลย แต่เคยพิจารณาอย่างละเอียดลออทุกครั้งทุกคราว ที่ความทุกข์เกิดขึ้นแผดเผาในใจของตน; นี้แหละ เรียกว่าคนที่กำลังเรียนพระไตรปิฎกโดยตรงอย่างถูกต้องถ่องแท้ยิ่งกว่าคนที่กำลังเปิดเล่มพระไตรปิฎกในตู้ออกอ่าน แล้วเพียงแต่จำไว้ได้และเข้าใจ. เพราะฉะนั้นเราจงคิดดูว่า แม้แต่ตัวเราเองในบัดนี้ เรารู้จักตัวเราเองดีแล้วหรือยัง ? มันอาจเป็นเช่นเดียวกันกับคนที่ลูบคลำเล่มพระไตรปิฎกอยู่ทุกวัน แต่ไม่รู้จักเพชรหรือรู้จักอมฤตธรรม ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก. ข้อนี้ได้แก่การที่เรามีตัวเรา เราใช้ตัวเรา เราปฏิบัติตัวเรา เราทำอะไรเกี่ยวกับตัวเราอยู่ทุกวัน แต่แล้วเราก็ไม่รู้จักตัวเรา ไม่สามารถจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเราให้ลุล่วงไปได้; ยังคงมีความทุกข์ และยังคงมีตัณหาที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ วัน ตามอายุที่เพิ่มขึ้น. นี่เพราะไม่รู้จักตัวเราอย่างเดียวเท่านั้น. ชีวิตจิตใจ หรือสิ่งที่เราเรียกว่าตัวเรา ที่กำลังเป็นตัวเรา ที่สวมอยู่กับตัวเรา เรายังไม่รู้จัก.
ขอให้ตัดสินใจดู ด้วยความเป็นธรรมเถิดว่า การที่จะไปรู้พระไตรปิฏก หรือไปรู้สิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น ยังยุ่งยากไปกว่าเป็นไหน ๆ เพราะฉะนั้น เราจงหันมาศึกษาตัวพระพุทธศาสนา หรือรู้จักตัวพระพุทธศาสนากัน ด้วยการศึกษาด้วยตัวจริง คือจากสิ่งทั้งปวง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอาจารย์ทั้งหลายกล่าวได้ดีและลึกซึ้ง พระไตรปิฎกเปรียบเสมือนแผนที่สำหรับทุกคน กรณีของหลวงพ่อชากับท่านพุทธทาสกล่าวเกี่ยวกับเรื่องพวกลูบคลำ(ยึดมั่น)ในพระไตรปิฎก โดยมิได้ลงมือปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเพื่อให้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์สักที

ในความคิดของผมเอง เราต้องดำรงไว้ซึ่งอรรถและพยัญชนะทุกตัวอักษร ดำรงไว้ซึ่งธรรมแลวินัยที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่าธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาของเธอต่อไปในการล่วงไปแห่งเรา สมมุติว่าผมเป็นอรหันต์แต่ไม่ได้เรียนปริยัติ ผมจะไม่เที่ยวสอนผู้อื่น ผมจะให้ผู้ที่เป็นอรหันต์ที่เรียนและมีความแตกฉานไปสอนเพราะเมื่อครั้งพุทธกาลพระอรหันต์มีมากมายท่านยังกำหนดคุณสมบัติสำหรับผู้ที่จะต้องไปสั่งสอนนางภิกษุณี ถ้าผมบรรลุธรรมแล้วแต่ไม่ทรงไว้ซึ่งวินัยติเตียนสิกขาบทก็เหมือนคนที่ใช้เรือข้ามฟากแล้วทุบเรือนั้นทิ้ง ขนาดพระพุทธเจ้าท่านอยู่จบพรหมจรรย์แล้วท่านยังหลีกเร้น ยังจงกรม เพื่อเป็นแบบอย่างให้ชนรุ่นหลัง เพื่อมิให้ศาสนาของเราอันตธานไปเราควรทรงไว้ซึ่งธรรมแลวินัย

เดี๋ยวนี้ครูบาอาจารย์บางท่าน ก็ให้ไปนั่งสมาธิเลยภาวนาเลยให้มันสงบ ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยนัก พระพุทธเจ้าท่านพระกาศพรหมจรรย์งามในเบื้องต้น(งามด้วยศีล) งามในท่ามกลาง(งามด้วยสมาธิ) งามในที่สุด(งามด้วยปัญญา) ยกตัวอย่างเช่น เกวัฏฏสูตร แต่ผู้ปฏิบัติเดี๋ยวนี้สงสัยว่าเราทำสมาธิทำไมไม่บรรลุสักที ก็เราทำลัดขั้นตอนโดยไม่ได้ศึกษาตามลำดับ(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ๗. คณกโมคคัลลานสูตร) เพราะครูบาอาจารย์ไม่ได้เรียนปริยัติให้ทั่วถึงด้วย จึงสอนให้ลูกศิษย์นั่งสมาธิเลย โดยไม่ได้ถามว่าเรียนมาหรือยัง รักษาศีลได้หรือยัง ตัดปลิโพธหรือยัง ถือสรณคมน์ถูกต้องหรือยัง จึงยังไม่บรรลุธรรมสักที คนสมัยก่อนเขาบรรลุกันมากมายเพราะว่าเขารู้วิธี ฉะนั้นทุกคนหวังการบรรลุที่ถูกต้อง ควรศึกษาธรรมวินัย ศึกษาตามลำดับไม่ข้ามขั้นตอน เพื่อความดำรงอยู่แห่งสัทธรรม ขอฝากไว้เพียงเท่านี้.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=2024&Z=2057&pagebreak=0

http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=2058&Z=2069&pagebreak=0

:b12:

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 14:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้เอกอนเจอเพื่อนมาปรึกษา
คือเพื่อนที่เขาเข้ามาปฏิบัติธรรม เขาไปปฏิบัติธรรมแล้วมีโอกาสได้พบกับคนที่
แยกกายได้ คือ เขามีอีกกายไปปรากฎอีกที่(คือพี่สาวกับเขาอยู่คนละบ้าน
แต่พี่สาวเห็นเขาทุกวัน คือมาเปิดประตูรับเขาทุกวัน แต่เขาไม่ได้ไปที่บ้านนั้น)
และ จิตเขาจะระลึกไปรู้อะไร เขาก็เข้าไปรู้ได้ทันที
และเขาก็ได้ยินเสียงบริกรรมก้องในหัวตลอด
เห็นโอภาสปรากฎตลอด ฯลฯ
คือสิ่งนี้ปรากฎ แต่เขาไม่รู้ และไม่รู้จะไปต่อยังไง

เจออย่างนี้ จะแนะนำเขาไงดีล่ะ

smiley smiley smiley

เท่าที่ฟังเรื่องราวเบื้องต้นเขาไม่รู้เรื่องจิต เจตสิก
เหมือนเขาจะไม่ได้ศึกษาในเรื่อง ขันธ์ ฯลฯ
คือ เขาปฏิบัติมาแต่เด็ก และผลก็ปรากฎเช่นนั้นเอง

เอกอนก็บอกเพื่อนไป ว่าต้องได้คุยกัน
กะว่า ถ้าเขาไม่เคยศึกษาพระไตรเลยจริง ๆ
ก็จะให้เขาได้ลอง อ่านพระไตร

:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 17:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
วันนี้เอกอนเจอเพื่อนมาปรึกษา
คือเพื่อนที่เขาเข้ามาปฏิบัติธรรม เขาไปปฏิบัติธรรมแล้วมีโอกาสได้พบกับคนที่
แยกกายได้ คือ เขามีอีกกายไปปรากฎอีกที่(คือพี่สาวกับเขาอยู่คนละบ้าน
แต่พี่สาวเห็นเขาทุกวัน คือมาเปิดประตูรับเขาทุกวัน แต่เขาไม่ได้ไปที่บ้านนั้น)
และ จิตเขาจะระลึกไปรู้อะไร เขาก็เข้าไปรู้ได้ทันที
และเขาก็ได้ยินเสียงบริกรรมก้องในหัวตลอด
เห็นโอภาสปรากฎตลอด ฯลฯ
คือสิ่งนี้ปรากฎ แต่เขาไม่รู้ และไม่รู้จะไปต่อยังไง

เจออย่างนี้ จะแนะนำเขาไงดีล่ะ

smiley smiley smiley

เท่าที่ฟังเรื่องราวเบื้องต้นเขาไม่รู้เรื่องจิต เจตสิก
เหมือนเขาจะไม่ได้ศึกษาในเรื่อง ขันธ์ ฯลฯ
คือ เขาปฏิบัติมาแต่เด็ก และผลก็ปรากฎเช่นนั้นเอง

เอกอนก็บอกเพื่อนไป ว่าต้องได้คุยกัน
กะว่า ถ้าเขาไม่เคยศึกษาพระไตรเลยจริง ๆ
ก็จะให้เขาได้ลอง อ่านพระไตร

:b48: :b48: :b48:

ข้อคิดเห็น
อ่านได้แล้วตีความถูก ปฎิบัติได้ ก็ดี ฟังหลวงพ่อหลวงปูต่างๆ แล้วเข้าใจ ปฎิบัติได้ก็ดี แล้วแต่จริตของแต่ละคนครับ
หรือถ้ามาด้านอภิญญา ต้องลองฟังธรรมจากสายหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤษีลิงดำดูครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 17:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ข้อคิดเห็น
อ่านได้แล้วตีความถูก ปฎิบัติได้ ก็ดี ฟังหลวงพ่อหลวงปูต่างๆ แล้วเข้าใจ ปฎิบัติได้ก็ดี แล้วแต่จริตของแต่ละคนครับ
หรือถ้ามาด้านอภิญญา ต้องลองฟังธรรมจากสายหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤษีลิงดำดูครับ


ใช่ค่ะ ว่าจะลองหาโอกาสเจอเขา
และจะลองถามรายละเอียด
และจะส่งเขาไปให้อาจารย์ที่จะรับมือได้ น่ะ

:b1:

คงจะสอบทานจากทิฐิเกี่ยวกับเรื่องรูป-นาม ขันธ์ อายตนะ
ความเห็นในอิทัปปจยตา-ปฏิจจสมุปบาท
และความเห็นเกี่ยวกับสุญญตาธรรม

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ม.ค. 2012, 21:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


จะสอบทานบัญญัติหรือ?...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2012, 11:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
จะสอบทานบัญญัติหรือ?...


ว่า จะสอบทานบัญญัติ ก็น่าจะใช่

พอดีมีข้อสังเกตบางอย่างที่เราตั้งข้อสังเกตไว้อยู่


:b16: :b12: :b12: :b16:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 44 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร