วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:53  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 13:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
๑๐. อฆมูลสูตร
ว่าด้วยทุกข์และมูลเหตุแห่งทุกข์

พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงทุกข์และมูล
เหตุแห่งทุกข์แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกข์เป็นไฉน? ทุกข์คือ
รูป ทุกข์คือเวทนา ทุกข์คือสัญญา ทุกข์คือสังขาร ทุกข์คือวิญญาณ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้
เรียกว่าทุกข์.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มูลเหตุแห่งทุกข์เป็นไฉน? ตัณหานี้ใด นำให้เกิดในภพ
ใหม่ ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิดเพลิน มีปกติเพลิดเพลินยิ่งในอารมณ์
นั้นๆ ได้แก่กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่ามูลเหตุแห่งทุกข์


:b12: :b12: :b12:

:b16: :b16: :b16:

ก็พระพุทธองค์กล่าวต้นเหตุแห่งทุกข์ ไว้แล้ว
คุณต้องการให้คนอื่น ๆ มาเชื่อคุณ ไม่เชื่อพระพุทธองค์หรืออย่างไร
ทำไม ต้องเชื่อคุณ ช่วยบอกเหตุผลทีเถอะ

:b12: :b12:



เหตุผล ผมปฏิบัติมาอย่างนี้ผมก็เห็นอย่างนี้ แล้วมันก็ดับทุกข์ได้จริง ดับทีละน้อย
ค่อยปฏิบัติเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทุกข์มันก็หายไปทีละน้อย การมีศีล ให้ทาน ทำดี มีสมาธิ มีสติเกิดขึ้น
มันคือ ผล เราศึกษาธรรมให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือศึกษาไปเพื่อดับทุกข์ ที่ผมโต้ตอบ หรือแนะนำ ก็ไม่ได้หวังผลอะไร

ศึกษาธรรมเพิ่มความปวดหัว เสียเวลา สุดท้ายจบแค่กฎไตรลักษณ์ ท่านไม่เชื่อลองพิสูจน์ดู
10 - 20 ปีแล้วแต่ท่าน ท่านก็จะรู้เอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 18:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


การปลงตก...กับการเห็นด้วยปัญญา

มันต่างกัน...

อย่างหนึ่ง....เขื้อโรคหลบใน

อีกอย่าง...ถอนรากถอนโคน

ไปถามพวกที่เชื้อโรคหลบใน...100 % จะตอบว่า...หายแล้ว

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 19:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับและพี่ๆทุกท่าน :b8:
**โดยส่วนของผมที่ปราศจากอคติหรือทิฏฐิใดๆนั้น ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่ไม่เที่ยง เกิดดับที่กล่าวว่า"สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ และ ความไม่เที่ยงนั้นเป็นทุกข์" แต่ว่า......ทุกข์ตัวนี้จะต้องเป็นไปในความหมายที่ว่า"การไม่สามารถทนอยู่ในสภาวะเดิมหรือสภาพเดิมได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา" ซึ่งก็คือตัวทุกข์แห่งกฏไตรลักษณ์นั่นเองครับ ทุกข์ตัวนี้เป็นสภาวะครับ แต่ถ้าเป็นทุกข์ในความหมายอื่นที่ไม่ใช่ลักษณะนี้ผมก็ขอบอกว่านั่นคือความเห็นที่ผิดครับ
**ทุกข์ในความหมายอื่นที่เป็นตัวอารมณ์นั้นไม่ได้มีเหตุมาจากความไม่เที่ยง เกิดดับ แต่มีเหตุมาจาก อุปทาน ควายึดมั่นถือมั่นในอัตตาทั้งหลายรวมถึงที่เป็นอนัตตาทั้งหลายด้วยเช่นกันครับ ถามว่าทำไมเราจึงเกิดอุปทานจึงมีอุปทานก็เพราะอวิชชาความไม่รู้เท่าทันในสัจธรรมทั้งหลายที่แสดงควมจริงออกมาอย่างเปิดเผยตลอดเวลา แสดงออกมาโดยความเที่ยงของมันอย่างนั้นตลอดเวลา
**พูดง่ายๆทุกข์ตัวแรกในกฏไตรลักษณ์นั้นเป็นทุกข์ที่ไม่ได้เกิดจากเรา ถึงไม่มีเราไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมา มันก็เกิดขึ้นเองในธรรมชาติของมันอยู่ตลอดเวลาเป็นธรรมดาของมัน
**พูดง่ายๆอีกทุกข์ตัวที่สองนั้นเป็นทุกข์ที่เกิดจากเรา เกิดขึ้นเพราะมีเรามีเขา ถ้าไม่มีเราไม่มีเขา ทุกข์ตัวนี้ก็ไม่เกิดครับ
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 20:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับและพี่ๆทุกท่าน :b8:
**โดยส่วนของผมที่ปราศจากอคติหรือทิฏฐิใดๆนั้น ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่ไม่เที่ยง เกิดดับที่กล่าวว่า"สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ และ ความไม่เที่ยงนั้นเป็นทุกข์" แต่ว่า......ทุกข์ตัวนี้จะต้องเป็นไปในความหมายที่ว่า"การไม่สามารถทนอยู่ในสภาวะเดิมหรือสภาพเดิมได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา" ซึ่งก็คือตัวทุกข์แห่งกฏไตรลักษณ์นั่นเองครับ ทุกข์ตัวนี้เป็นสภาวะครับ แต่ถ้าเป็นทุกข์ในความหมายอื่นที่ไม่ใช่ลักษณะนี้ผมก็ขอบอกว่านั่นคือความเห็นที่ผิดครับ
**ทุกข์ในความหมายอื่นที่เป็นตัวอารมณ์นั้นไม่ได้มีเหตุมาจากความไม่เที่ยง เกิดดับ แต่มีเหตุมาจาก อุปทาน ควายึดมั่นถือมั่นในอัตตาทั้งหลายรวมถึงที่เป็นอนัตตาทั้งหลายด้วยเช่นกันครับ ถามว่าทำไมเราจึงเกิดอุปทานจึงมีอุปทานก็เพราะอวิชชาความไม่รู้เท่าทันในสัจธรรมทั้งหลายที่แสดงควมจริงออกมาอย่างเปิดเผยตลอดเวลา แสดงออกมาโดยความเที่ยงของมันอย่างนั้นตลอดเวลา
**พูดง่ายๆทุกข์ตัวแรกในกฏไตรลักษณ์นั้นเป็นทุกข์ที่ไม่ได้เกิดจากเรา ถึงไม่มีเราไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมา มันก็เกิดขึ้นเองในธรรมชาติของมันอยู่ตลอดเวลาเป็นธรรมดาของมัน
**พูดง่ายๆอีกทุกข์ตัวที่สองนั้นเป็นทุกข์ที่เกิดจากเรา เกิดขึ้นเพราะมีเรามีเขา ถ้าไม่มีเราไม่มีเขา ทุกข์ตัวนี้ก็ไม่เกิดครับ
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ :b8:



ขอบพระคุณที่เห็นความสำคัญของคำว่า ไม่เที่ยง
แต่ความหมายที่แท้จริงของคำว่า ไม่เที่ยง คือ การไม่สามารถทนอยู่ในสภาวะเดิมหรือสภาพเดิมได้ ไม่คงทนถาวร มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามเหตุและปัจจัย

ทุกข์ตัวแรก และทุกข์ตัวที่สอง มีความหมายเหมือนกัน หมายถึง ทุกข์ธรรมชาติ การเสื่อม
การสลาย หมดสภาพ ส่วนทุกข์ใจ คือ ทุกข์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเอง จากอวิชชาเพราะความไม่เที่ยงของจิต



เช่น เห็นร่างกายตนเองแก่ หนังเหี่ยว เกิดความทุกข์ใจไม่อยากแก่ ไม่อยากเหี่ยว ไม่อยากตาย
ต้นเหตุมาจากความไม่เที่ยง วิธีดับทุกข์ คือฝึกให้เห็นสรรพสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นเรื่องธรรมดา

"สิ่งใดมีการเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับเป็นธรรมดา"


แก้ไขล่าสุดโดย ไม่เที่ยง เกิดดับ เมื่อ 18 ม.ค. 2012, 20:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 20:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับ :b8:
**ขอผมปุจฉาพี่สักหน่อยนะครับ
1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
2.ประกอบด้วยธรรมอะไรบ้างครับ
3.องค์ธรรมแห่งไตรลักษณ์นั้นตัดอย่างใดอย่างหนึ่งทิ้งไปได้ไหมครับ
4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะหรืออาการดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
5.ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ทางใจดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
6.สุดท้ายถ้าความไม่เที่ยงเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย เราจะดับเหตุแห่งทุกข์หรือดับความไม่เที่ยงได้ยังไงครับ
ขอบคุณในคำตอบล่วงหน้านะครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 20:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


:b17: :b17: :b17:
เข้าใจถาม....ๆ ... :b12: :b12:

รอคุณไม่เที่ยง...ดีกว่า
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับ :b8:
**ขอผมปุจฉาพี่สักหน่อยนะครับ
1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
2.ประกอบด้วยธรรมอะไรบ้างครับ
3.องค์ธรรมแห่งไตรลักษณ์นั้นตัดอย่างใดอย่างหนึ่งทิ้งไปได้ไหมครับ
4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะหรืออาการดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
5.ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ทางใจดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
6.สุดท้ายถ้าความไม่เที่ยงเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย เราจะดับเหตุแห่งทุกข์หรือดับความไม่เที่ยงได้ยังไงครับ
ขอบคุณในคำตอบล่วงหน้านะครับ :b8:


คุณลูกพระป่าถามคุณไม่เที่ยง ผมขออนุญาตตอบด้วยแล้วกัน

ไตรลักษณ์ ลักษณะ 3 ประการ อนิจจตา ทุกขตา อนัตตตา
ไตรลักษณ์ เป็นลักษณะของขันธ์ ๕ มีครบทั้ง ๓ ลักษณ์

ความดับทุกข์มีเพราะความดับแห่งอวิชชา ตัณหา อุปาทาน นันทิ ราคะ ฉันทะ ในขันธ์ ๕
จะดับความไม่เที่ยง ก็ต้องละความยึดถือในธรรมทั้งปวง หลุดพ้นและปรินิพพาน
จะละทุกข์ทางใจ ก็ต้องละตัณหาและทิฏฐิในสิ่งที่ไม่เที่ยงทั้งหลาย


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 18 ม.ค. 2012, 21:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอคำอธิบายอีกครั้งครับ
ถ้ากฎไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง แล้วสิ่งไม่มีชีวิต มันเกิดดับมั้ย มันไม่เที่ยงมั้ย แล้วตัวมันเองมีทุกข์มั้ย
ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับ :b8:
**ขอผมปุจฉาพี่สักหน่อยนะครับ
1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
2.ประกอบด้วยธรรมอะไรบ้างครับ
3.องค์ธรรมแห่งไตรลักษณ์นั้นตัดอย่างใดอย่างหนึ่งทิ้งไปได้ไหมครับ
4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะหรืออาการดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
5.ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ทางใจดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
6.สุดท้ายถ้าความไม่เที่ยงเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย เราจะดับเหตุแห่งทุกข์หรือดับความไม่เที่ยงได้ยังไงครับ
ขอบคุณในคำตอบล่วงหน้านะครับ :b8:




1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
คือ กฎที่พระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นจากการเห็นแจ้งความจริงของธรรมชาติ ว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย ตั้งอยู่เพราะเหตุปัจจัย สุดท้ายดับไปเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีตัวตนของสิ่งนั้น

2.อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา/เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป/ไม่เที่ยง เกิดดับ

3.ตัดไม่ได้ มีเกิดก็ต้องมีตั้งอยู่ มีตั้งอยู่ก็ต้องมีดับไป ตามหลัก "อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท"
เป็นเหตุปัจจัยต่อเนื่องกัน เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล เมื่อไม่มีผลก็คือไม่มีเหตุให้เกิด

4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะ หรือทุกข์ธรรมชาติ ดับไม่ได้ บังคับไม่ได้ เช่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย การเกิด แก่ เจ็บตาย นำไปสู่ความทุกข์ใจของมนุษย์ ดังนั้นต้องพิจารณาขันธ์ 5 เพื่อดับตัวตนของเรา ฆ่าตัวตนของเรา นี่ไม่ใช่เรา เป็นการดับทุกข์ใจ เราก็ไม่กลัวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย

5 ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ หรือทุกข์ใจ ดับได้เพราะทุกข์นี้เราสร้างขึ้นเอง ดับได้จากการพิจารณา อายตนะภายนอก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ทำให้เกิด โลภ โกรธ หลง
เพราะความไม่เที่ยงของจิต เกิดตัณหา อุปทาน และทุกข์ใจตามมา

6. ความไม่เที่ยงดับไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้นของมัน เป็นการดับความทุกข์ใจของมนุษย์เพราะความไม่เที่ยงของขันธ์ 5 และความไม่เที่ยงของสิ่งมากระทบ รูปไม่เที่ยง เสียงไม่เที่ยง กลิ่นไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง สัมผัสไม่เที่ยง ใจคิดลึกไม่เที่ยง ทำให้เกิด โลภ โกรธ หลง ทำให้เกิดตัณหา และทุกข์ใจตามมาทันที ต้องฝึกพิจารณาขันธ์ 5 และ อายตนะภายนอกทั้ง 6 เพื่อให้รู้
ขณะปัจจุบัน ว่าสรรพสิ่งมีเกิด มีดับไปเป็นธรรมดาของมันอย่างนั้น
มีเกิดก็ต้องมีดับไป มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่คงสภาพ เพราะว่ามัน ไม่เที่ยง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขอคำอธิบายอีกครั้งครับ
ถ้ากฎไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง แล้วสิ่งไม่มีชีวิต มันเกิดดับมั้ย มันไม่เที่ยงมั้ย แล้วตัวมันเองมีทุกข์มั้ย
ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ :b8:
คำตอบตามที่ใส่สีน้ำเงินไว้ครับ ส่วนที่ถามว่ามีทุกข์มั้ยโดยอาการแล้วมีแต่โดยอารมณ์ไม่มีครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


ความเห็นต่อคำถามของคุณฝึกจิต...

อ้างคำพูด:
ถ้ากฎไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง แล้วสิ่งไม่มีชีวิต มันเกิดดับมั้ย


สิ่งไม่มีชีวิต..ก็เกิดดับ...เช่นกัน..ครับ

ชาวเหนือนิยมปลูกไม้สักใว้ตัดทำบ้านทำเฟอร์นิเจอร์...ปลูก...ไม้สักเกิด...ตัด...ไม้สักดับแต่ท่อนซุงไม้สักก็เกิด

ชาวบ้านเอาท่อนซุงไปแปรรูปเป็นไม้แผ่น....แปรรูป...ท่อนซุงดับ...ไม้แผ่นเกิด

พอได้ไม้เป็นแผ่น ๆ ..บางคนก็เอาไปทำโต๊ะทำเก้าอี๊....ทำโต๊ะ...ไม้แผ่นดับ....โต๊ะไม้เกิด


ถ้าหากชาวบ้านไม่ทำอะไรกับท่อนซุงนั้นเลย...ไม่นานซุงท่อนนั้นก็จะค่อย ๆ ผุพังไปเอง....ผุพัง...ท่อนซุงดับ...แร่ธาตุเกิด

หากชาวบ้านปลูกต้นไม้ในที่ดินนั้นอีก....ต้นไม้ก็จะดึงแร่ธาตุในดินไปสร้างต้นใบรากกิ่ง...อีก

อ้างคำพูด:
แล้วตัวมันเองมีทุกข์มั้ย


วัตถุธาตุทั้งหลาย..มันเองไม่มีทุกข์เพราะมันไม่มีจิตใจ....แต่ธรรมชาติของความไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา...ก็ยังเกิดแก่มันเสมอ


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 18 ม.ค. 2012, 21:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขอคำอธิบายอีกครั้งครับ
ถ้ากฎไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง แล้วสิ่งไม่มีชีวิต มันเกิดดับมั้ย มันไม่เที่ยงมั้ย แล้วตัวมันเองมีทุกข์มั้ย
ขอบคุณครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งมีชีวิต และไม่มีชีวิต ในโลกในจักรวาล ตั้งอยู่ในกฎนี้ทั้งหมด สิ่งไม่ชีวิตก็ไม่เที่ยง(มีการเปลี่ยนแปลง) มีเกิด มีดับ มีทุกข์ (ความไม่คงทน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ไม่เที่ยง เกิดดับ :b8:
**ขอผมปุจฉาพี่สักหน่อยนะครับ
1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
2.ประกอบด้วยธรรมอะไรบ้างครับ
3.องค์ธรรมแห่งไตรลักษณ์นั้นตัดอย่างใดอย่างหนึ่งทิ้งไปได้ไหมครับ
4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะหรืออาการดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
5.ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ทางใจดับได้หรือไม่ถ้าได้ทำอย่างไรครับ
6.สุดท้ายถ้าความไม่เที่ยงเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย เราจะดับเหตุแห่งทุกข์หรือดับความไม่เที่ยงได้ยังไงครับ
ขอบคุณในคำตอบล่วงหน้านะครับ :b8:




1.ไตรลักษณ์คืออะไรครับ
คือ กฎที่พระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นจากการเห็นแจ้งความจริงของธรรมชาติ ว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัย ตั้งอยู่เพราะเหตุปัจจัย สุดท้ายดับไปเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีตัวตนของสิ่งนั้น

2.อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา/เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป/ไม่เที่ยง เกิดดับ

3.ตัดไม่ได้ มีเกิดก็ต้องมีตั้งอยู่ มีตั้งอยู่ก็ต้องมีดับไป ตามหลัก "อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท"
เป็นเหตุปัจจัยต่อเนื่องกัน เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล เมื่อไม่มีผลก็คือไม่มีเหตุให้เกิด

4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะ หรือทุกข์ธรรมชาติ ดับไม่ได้ บังคับไม่ได้ เช่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย การเกิด แก่ เจ็บตาย นำไปสู่ความทุกข์ใจของมนุษย์ ดังนั้นต้องพิจารณาขันธ์ 5 เพื่อดับตัวตนของเรา ฆ่าตัวตนของเรา นี่ไม่ใช่เรา เป็นการดับทุกข์ใจ เราก็ไม่กลัวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย

5 ทุกข์ที่เป็นอารมณ์ หรือทุกข์ใจ ดับได้เพราะทุกข์นี้เราสร้างขึ้นเอง ดับได้จากการพิจารณา อายตนะภายนอก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ทำให้เกิด โลภ โกรธ หลง
เพราะความไม่เที่ยงของจิต เกิดตัณหา อุปทาน และทุกข์ใจตามมา

6. ความไม่เที่ยงดับไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้นของมัน เป็นการดับความทุกข์ใจของมนุษย์เพราะความไม่เที่ยงของขันธ์ 5 และความไม่เที่ยงของสิ่งมากระทบ รูปไม่เที่ยง เสียงไม่เที่ยง กลิ่นไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง สัมผัสไม่เที่ยง ใจคิดลึกไม่เที่ยง ทำให้เกิด โลภ โกรธ หลง ทำให้เกิดตัณหา และทุกข์ใจตามมาทันที ต้องฝึกพิจารณาขันธ์ 5 และ อายตนะภายนอกทั้ง 6 เพื่อให้รู้
ขณะปัจจุบัน ว่าสรรพสิ่งมีเกิด มีดับไปเป็นธรรมดาของมันอย่างนั้น
มีเกิดก็ต้องมีดับไป มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่คงสภาพ เพราะว่ามัน ไม่เที่ยง


ถ้าไม่เกิด แล้วจะดับได้มั้ยครับ

เมื่อเกิด แล้วย่อมเสื่อม และดับไป
สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา


แต่ นิพพาน ที่เที่ยง เป็นสุข และปราศจากทุกข์นั้นเป็นธรรมชาติที่มีอยู่


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 18 ม.ค. 2012, 22:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
4.ทุกข์ที่เป็นสภาวะ หรือทุกข์ธรรมชาติ ดับไม่ได้ บังคับไม่ได้ เช่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย การเกิด แก่ เจ็บตาย นำไปสู่ความทุกข์ใจของมนุษย์ ดังนั้นต้องพิจารณาขันธ์ 5 เพื่อดับตัวตนของเรา ฆ่าตัวตนของเรา นี่ไม่ใช่เรา เป็นการดับทุกข์ใจ เราก็ไม่กลัวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย


ทุกข์คือความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ดับได้ครับ
ทุกข์ คือ เบญจขันธ์ก็ดับได้เหมือนกัน
หากไม่มีปัจจัยให้เกิดแล้ว ทุกข์ใดใดก็เกิดไม่ได้

เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น

เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิจจสมุปบาท อนุโลม
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส
เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้.


ปฏิจจสมุปบาท ปฏิโลม
อนึ่ง เพราะอวิชชานั่นแหละดับโดยไม่เหลือด้วยมรรคคือวิราคะ สังขาร จึงดับ
เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ
เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ
เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ
เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมดับ ด้วยประการฉะนี้.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 77 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 43 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron