ข้อมูลประกอบเกี่ยวกับรางวัลสันติภาพกูสซี่
มูลนิธิรางวัลสันติภาพกูสซี่ จัดตั้งขึ้นภายใต้พันธกิจในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมการมีธรรมาภิบาลที่ดี ประชาธิปไตย ความเท่าเทียม สันติภาพสากล และเจตจำนงที่ดี ซึ่งมูลนิธิได้ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่องตลอดหลายสิบปี ทั้งภารกิจด้านการให้บริการทางการแพทย์ การช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส การให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่สูญเสีย การลิดรอนศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ การถูกทารุณกรรม ความเจ็บไข้ได้ป่วย ตลอดจนทำงานร่วมกับสมาคมด้านการให้บริการทางการแพทย์แห่งฟิลิปปินส์ องค์กรสลากกินแบ่งเพื่อการกุศลของฟิลิปปินส์ และองค์กรเอกชนต่างๆ
มูลนิธิดำเนินงานภายใต้ค่านิยม ๔ ประการ คือ
G = Godliness เมื่อผู้คนมีพระเจ้าในหัวใจ ที่นั่นจะมีสันติภาพ เนื่องเพราะพระเจ้าคือความรัก และความรักที่ไร้เงื่อนไขจะนำมาซึ่งสันติภาพที่แท้จริง โดยเราสามารถเริ่มต้นสร้างสันติภาพได้จากภายในใจเรา จากนั้นจึงกระตุ้นให้ครอบครัวมีสันติภาพจากตัวอย่างของการกระทำของเรา แล้วจึงขยายจิตวิญญาณแห่งสันติภาพไปสู่ระดับชุมชน ระดับชาติ และระดับโลกได้ในที่สุด
U = Unification ไม่ว่าผู้คนนั้นจะมีสีผิวใด เชื้อชาติใด มีความศรัทธา หรือนับถือศาสนาใด มีวัฒนธรรม หรือมีภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างไร และมีความสนใจในกิจกรรมประเภทใดก็ตาม ถ้าเพียงแค่แต่ละคนมุ่งทำงานเพื่อความดีงามเฉกเช่นเดียวกัน นั่นคือความเป็นหนึ่งเดียว ทั้งนี้ ความเป็นหนึ่งเดียวคือความหลากหลายนั่นเอง (diversity)
S = Service การรับใช้เพื่อนมนุษย์ คือ การรับใช้เจตจำนงของพระเจ้า ซึ่งการรับใช้เพื่อนมนุษย์ที่แท้จริงนั้นจะต้องมาจากหัวใจ โดยปราศจากการคาดหวังสิ่งใดตอบแทน
I = Internationalism การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศฟิลิปปินส์แก่ชาวโลก จากภาพลักษณ์ที่ชาวโลกมองว่าประเทศฟิลิปปินส์มีแต่ผู้ใช้แรงงาน โสเภณี ผู้ก่อการร้าย หมอ ที่ทำงานพยาบาลในทั่วโลก ด้วยการสร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้คนฟิลิปปินส์ ว่าเขาสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก ตลอดจนมีความสามารถที่จะรับมือกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศฟิลิปปินส์ด้วย
สำหรับการมอบรางวัลสันติภาพกูสซี่นั้น ทางมูลนิธิได้จัดตั้งคณะกรรมการนานาชาติขึ้น เพื่อพิจารณามอบรางวัลทั้งในระดับของบุคคลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกที่ทำงานส่งเสริมเกี่ยวกับสันติภาพ สิทธิมนุษยชน การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ การเมือง การศึกษา ศิลปการแสดง วรรณกรรม ยาหรือกลไกชีวภาพ (สรีรศาสตร์) สื่อสารมวลชน ความมีมนุษยธรรม ฟิสิกส์ เคมี ศาสนา ธุรกิจ องค์กรการกุศล เศรษฐศาสตร์ ความเป็นสากล และอื่นๆ
โดยในปี ๒๐๑๑ นั้น มีผู้ได้รับรางวัลจำนวน ๒๐ ท่านจาก ๑๖ ประเทศ ดังรายชื่อต่อไปนี้
๑. The Honorable Norman Inkster (ประเทศแคนาดา) อดีตประธานองค์กรตำรวจสากล (Past Interpol President) ในฐานะที่ท่านผลักดันกฎหมายระหว่างประเทศ และการรักษาสันติภาพ
๒. The Honorable Thakur S. Powdyel (ประเทศภูฏาน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะของผู้ส่งเสริมงานด้านการศึกษา โดยการขับเคลื่อนแนวคิดความสุขมวลรวมประชาชาติสู่การศึกษาในทุกระดับ
๓. Mr.Vladimir Nikolayevich Megre (สหพันธรัฐรัสเซีย) ผู้เขียนวรรณกรรมอันลือชื่อ “อนาสตาเซีย” ซึ่งมียอดขายจำนวนหลายล้านฉบับทั่วโลก ในฐานะของวรรณกรรมเพื่อสันติภาพ
๔. H.E.Phongsavath Boupha (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้แทนรัฐบาลทั้งในระดับอนุภูมิภาคและระดับภูมิภาค รวมทั้งในระดับสากล ในฐานะของการทูตระหว่างประเทศ
๕. ARCHT.Felino Parafox, JR. (ประเทศฟิลิปปินส์) สถาปนิกชื่อดังแห่งประเทศฟิลิปปินส์ ในฐานะของความเป็นเลิศในด้านงานสถาปนิกระดับโลก และการจัดผังเมือง
๖. EX-PRES.James R. Mancham (สาธารณรัฐซีเชลล์) ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐซีเชลล์ ในฐานะของรัฐบุรุษ
๗. Prof.Victor Medikov (สหพันธรัฐรัสเซีย) ผู้ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐศาสตร์ใหม่ (เศรษฐศาสตร์มหภาค) และเป็นผู้เขียนร่วมในการวางแผนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในประเทศรัสเซีย ในฐานะของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
๘. Dr.Thomas K. Stern (ประเทศสหรัฐอเมริกา) กรรมการ The One World Institute ในฐานะของการบริการสังคม และการส่งเสริมมนุษยธรรมนานาชาติ
๙. Mr.Omar Zulfu Livaneli (ประเทศตุรกี) ทูตสันถวไมตรีองค์การยูเนสโก โดยมีความโดดเด่นในด้านงานวัฒนธรรม งานศิลปะ และผู้กำกับภาพยนตร์ ในฐานะของผู้ที่มีความเป็นเลิศในด้านการสืบสานวัฒนธรรม
๑๐. The Honorable Aykut Eken (ประเทศตุรกี) เลขาธิการและเหรัญญิก ของ TURKEY World Federation of Consuls (FICAC) และกงสุลใหญ่ประเทศจาไมก้า และเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรพัฒนาเอกชนหลายองค์กร ในฐานะของการทูตระหว่างประเทศและเอ็นจีโอ
๑๑. EX-PRES. AMOS C. SAWYER (ประเทศไลบีเรีย) อดีตประธานาธิบดีประเทศไลบีเรีย ในฐานะของผู้สร้างสันติภาพในประเทศไลบีเรีย และทวีปแอฟริกา
๑๒. H.E. Shri Mayankote Kelath Narayanan (สาธารณรัฐอินเดีย) ผู้ว่าการรัฐเบงกอลตะวันตก, สาธารณรัฐอินเดีย ในฐานะของการมีธรรมาภิบาลและการรักษาสันติภาพ
๑๓. Dr.Jagdish Gandhi (สาธารณรัฐอินเดีย) ผู้ก่อตั้งโรงเรียนที่มีการสอนในระบบมอนเตสเซอรี่ในลัคนาว ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (จากการบันทึกของกินเนส บุ๊ค เวิร์ลด์ เร็คคอร์ด) และเป็นทายาทของมหาตมะ คานธี ในฐานะของผู้ส่งเสริมสันติภาพโดยผ่านระบบการศึกษา
๑๔. พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ประเทศไทย) ผู้ก่อตั้งเครือข่ายธรรมะออนไลน์ นักการศึกษา และหนึ่งในผู้นำด้านพุทธศาสนาระดับโลก ในฐานะการบริการสังคม และภาวะผู้นำทางจิตวิญญาณ
๑๕. Madam Diana Uribe (ประเทศโคลอมเบีย) สื่อสารมวลชนที่มีชื่อเสียงในประเทศละตินอเมริกา และผู้ได้รับรางวัล Simon Bolivar ในฐานะของนักสื่อสารมวลชน
๑๖. Rev.Fr.Richard Ryan Ho Lung (M.O.P.) (ประเทศจาไมก้า) ผู้ก่อตั้งและผู้นำทางศาสนา มิชชันนารีของผู้ยากไร้ในคิงสตัน และได้ก่อตั้งโครงการทางศาสนา ๔ โครงการสำหรับผู้ยากไร้ในประเทศต่างๆ ได้แก่ จาไมก้า, อินเดีย, ฟิลิปปินส์, เฮติ และอูกานดา, แอฟริกา ในฐานะของการสร้างมนุษยธรรมสากล, การบริการสังคม และภาวะผู้นำทางจิตวิญญาณ
๑๗. SEN.Emanuel Jones (ประเทศสหรัฐอเมริกา) วุฒิสมาชิกแอตแลนต้า จอร์เจีย ในฐานะของงานด้านกฎหมาย และการสร้างสันติภาพ
๑๘. Dr.Yolanda O. Stern (ประเทศฟิลิปปินส์) ประธานกรรมการ The One World Institute และผู้ก่อตั้ง Pearls for Peace ในฐานะของการบริการสังคม และการส่งเสริมมนุษยธรรมสากล
๑๙. Mr.Roland Mosl (ประเทศออสเตรีย) ผู้ก่อตั้ง Planetary Engineering Group Earth ซึ่งได้ส่งเสริมแนวคิดใหม่และนวัตกรรมในการนำมนุษยชาติสู่ยุคของพลังงานแสงอาทิตย์ ในฐานะของการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์
๒๐. EX-PRES. Beghjet Pacolli (สาธารณรัฐโคโซโว) อดีตประธานาธิบดี และรองนายกรัฐมนตรี แห่งสาธารณรัฐโคโซโว
|
