วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 20:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 20:08
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ได้โปรดให้ความรู้ผมต่อไปนี้ด้วยครับ
1.บัณเฑาะว์ที่เป็นอาสิตตบัณเฑาะว์สามารถอุปสมบทได้หรือไม่ครับ
2.อาสิตตบัณเฑาะว์บรรพชาได้หรือไม่ครับ

3.บุคคลผู้เคยอมองคชาติชายด้วยกันแต่อสุจิไม่ได้หลั่งทั้งยังไม่ได้มีความกำหนัดในชายเพียงแต่ทำไปเพราะความอยากรู้และทดลองทำตามสื่อลามก ว่าจะสนุกเพียงใดจัดเป็นอาสิตตบัณเฑาะว์หรือไม่
4.การที่ชายแท้ๆไม่ได้เป็นกระเทยกำลังหลับแต่ถูกชายคนหนึ่งกระทำการแอบ อมองคชาตินั้นชายผู้ถูกกระทำจัดว่าเป็นอาสิตตบัณเฑาะว์หรือไม่

5.ชายผู้ถูกกระทำดังเช่นในข้อ4สามารถบรรพชาและอุปสมบทได้หรือไม่ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 20:18
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่พุทธเจ้าไม่ให้กระเทยบวชเพราะกระเทยไม่มีสิทธ์บรรลุธรรมครับ การเกิดเป็นกระเทยเป็นกรรมอย่างหนึ่งครับกระเทยจึงเป็นเภทที่อาพับศาสนาก็ไม่ให้กระเทยบวช เวลาจะบวชพระอุปัชฌาย์จะถาม ว่า คันโทสิ๊ เจ้าเป็นกระเทยบ่ :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www



เมื่อเราถูกกระทำ....เรายินดีกับการกระทำนั้นหรือไม่?
ขณะที่เราทดลองกระทำ นอกจากอยากรุ้แล้ว
เรามีความยินดีกับการกระทำนั้นหรือไม่?
ไม่ว่าจะมีคนมาตอบคำถามกี่ร้อยกี่พันคน คำตอบที่แท้จริงก็อยุ่ที่ใจเรา
เป็นหรือไม่เป็น? ตัวเราเองรู้ดี.... :b10:
(แสดงความคิดเห็นในข้อ 3 และข้อ 4 ค่ะ)

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ย. 2011, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่ค้นข้อมูลดูผมเจอดังนี้
พระวินัย ห้ามบวชให้แก่ผู้ไม่สมควรต่อไปนี้
๑. กะเทย(๒) ๒. คนที่ลักเพศ (คือบวชเอาเองโดยไม่ถูกต้อง)
๓. ภิกษุที่ไปเข้ารีตเดียรถีย์ ๔. สัตว์ดิรัจฉาน
๕. ผู้ฆ่ามารดา ๖. ผู้ฆ่าบิดา
๗. ผู้ฆ่าพระอรหันต์ ๘. ผู้ข่มขืนนางภิกษุณี
๙. ผู้ทำสงฆ์ให้แตกกัน ๑๐. ผู้ประทุษร้ายพระพุทธเจ้าถึงยังพระโลหิตให้ห้อ
๑๑. คนมีอวัยวะ ๒ เพศ (อุภโตพยัญชนก)
ทั้งสิบเอ็ดประเภทนี้ ถ้าบวชให้แล้วรู้เข้าภายหลัง ต้องให้สึกไป.

( ๒.) กะเทยหรือที่เรียกว่าบัณเฑาะก์ คือผู้ที่พอใจให้บุรุษเกี่ยวข้องกับตนโดยมีความรู้สึกตนเหมือนเป็นสตรี

อีกข้อมูลที่ค้นเจอ

ข้อความ ในคัมภีร์ระดับหลัง(หลังพระสูตร-พระวินัย)ต้องพิจารณาให้ดี

ในระดับ พระวินัยกล่าวถึงการห้ามบัณเฑาะก์บวชเอาไว้

แต่ ในระดับ อรรถกถา แยกละเอียดยิบ ว่ามีบัณเฑาะก์บางประเภทสามารถบวชพระได้???

อรรถกถาพระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑ ข้อ ๑๒๕ ตัดความมาดังนี้

มีวิจฉัยว่า บัณเฑาะก์มี ๕ ชนิด คือ

อาสิตตบัณเฑาะก์ ๑
อุสุยยบัณเฑาะก์ ๑
โอปักกมิยบัณเฑาะก์ ๑
ปักขบัณเฑาะก์ ๑
นปุงสกบัณเฑาะก์ ๑

ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น บัณเฑาะก์ใดเอาปากอมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ ชื่อ อาสิตตบัณเฑาะก์

ฝ่ายบัณเฑาะก์ใดเห็นอัชฌาจารของชนเหล่าอื่น เมื่อความริษยาเกิดขึ้นแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป บัณเฑาะก์นี้ ชื่ออุสุยยบัณเฑาะก์

บัณเฑาะก์ใดมีอวัยวะดังพืชทั้งหลาย ถูกนำไปปราศแล้วคือ ถูกเขาตอนเสียแล้ว ด้วยความพยายาม บัณเฑาะก์นี้ ชื่อโอปักกมิยบัณเฑาะก์

ส่วนบางคนข้างแรมเป็นบัณเฑาะก์ ด้วยอานุภาพแห่งอกุศลวิบาก แต่ข้างขึ้น ความเร่าร้อนของเขาย่อมสงบไป นี้ชื่อว่า ปักขบัณเฑาะก์

ส่วนบัณเฑาะก์ใด เกิดไม่มีเพศ ไม่มีภาวรูป ในปฏิสนธิทีเดียว คือไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิงมาแต่กำเนิด บัณเฑาะก์นี้ ชื่อนปุงสกบัณเฑาะก์

ในอรรถกถาชื่อกุรุนทีแก้ว่า ในบัณเฑาะก์ ๕ ชนิดนั้น อาสิตตบัณเฑาะก์ และอุสุยยบัณเฑาะก์ ไม่ห้ามบรรพชา, ๓ ชนิดนอกนี้ห้าม

แม้ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น สำหรับปักขบัณเฑาะก์ ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น.

ก็ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนี้ บัณเฑาะก์ใดทรงห้ามบรรพชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาบัณเฑาะก์นั้นฯ

อย่างที่ทำตัวแดงไว้นั้นท่านว่าอาสิตตบัณเฑาะก์คือผู้ที่เอาปากอมองคชาตของชายเหล่าอื่น ถูกน้ำอสุจิรดเอาแล้ว ความเร่าร้อนจึงสงบไป นั้นแสดงว่าจิตใจต้องเกิดกาม ราคะในการทำเช่นนั้น คูณต้องตรวจสอบจิตใจตนเองแล้วว่าใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่และเห็นโทษในการกระทำที่เคยทำไปด้วยความหลงก็น่าจะบวชได้ แต่ทางที่ดีผมแนะนำว่าลองบวชจิตใจดูก่อน โดยการถือศิลอยู่บ้านหรือวัดสักช่วง สามเดือน หกเดือน หรือปีก็ได้ จนมั่นใจว่าศรัทธาอยากบวชจริง แล้วค่อยบวชก็ไม่สาย เพราะคนทั่วไปที่ไม่เป็นบัณเฑาะก์บวชแค่สามวัน เจ็ดวันก็สึกออกมาแล้วมีถมไป smiley

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 38 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร