วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 14:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 87 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2011, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 20:18
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว




emotion_Msn021[1].gif
emotion_Msn021[1].gif [ 10.2 KiB | เปิดดู 4056 ครั้ง ]
..
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2011, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แสงธรรม14 เขียน:
..


ชะรอยจะประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแล้วมั้งตะเอง

แต่ก็ยังฮากลิ้ง กิ๊วๆ :b13:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2011, 16:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2011, 20:18
โพสต์: 90


 ข้อมูลส่วนตัว




emotion_Msn046[1].gif
emotion_Msn046[1].gif [ 13.95 KiB | เปิดดู 4050 ครั้ง ]
เป็นเรื่องธรรมดาครับ ไม่แปลกที่ถูกเจ้าของกระทู้ไล่ออกเพราะการแสดงความคิดเห็นของคุณปลงชะมีแต่เรื่องไร้สาระ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความแตกแยก ทั่วไปกัดคนนั้นคนนี้
หวังว่าถ้าคุณยังฟังภาษาคนรู้อยู่ ก็คงไม่เข้ามาป่วนอีกนะครับ :b13: :b13: :b29: :b29:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2011, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แสงธรรม14 เขียน:
เป็นเรื่องธรรมดาครับ ไม่แปลกที่ถูกเจ้าของกระทู้ไล่ออกเพราะการแสดงความคิดเห็นของคุณปลงชะมีแต่เรื่องไร้สาระ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความแตกแยก ทั่วไปกัดคนนั้นคนนี้
หวังว่าถ้าคุณยังฟังภาษาคนรู้อยู่ ก็คงไม่เข้ามาป่วนอีกนะครับ :b13: :b13: :b29: :b29:


คนอาร๊ายยย เข้าข้างตัวเอง ยกหางตัวเองก็เป็นด้วย หาว่าเขาไร้สาระ แต่ตัวเองตอบกระทู้ด้วยความเข้าใจผิดๆ อย่างนี้มีคนเคยพูดไว้ว่าอะไรนะ อ่อ ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด หรือ ไปไหนมา สามวาสองศอกไง คุ้นๆมั้ยจ๊ะ

เอ๊ะ แล้วคุณล่ะฟังภาษาคนรู้เรื่องรึเปล่าน๊า ใครเอ่ยเสนอหน้าเข้ามาก่อน แถมมาถึงก็มาด่าเขาฉอดๆๆๆ อย่างนี้เขาเรียกว่า บ้วนน้ำลายใส่หน้าตัวเองข๊ะ กิ๊วๆ รูปภาพ

น่าอายน๊ะข๊ะ แต่ก็ฮากลิ้ง กลิ้งไปกลิ้งมา กิ๊วๆ :b28: :b13: :b32:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2011, 20:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ท่านจางฯ เขียน:
เพราะโดยความเป็นจริง ผู้กราบไหว้ เขาไม่ได้กำลังกราบไหว้วัตถุที่เป็นพระพุทธรูป
แต่เขากำลังกราบไหว้พระพุทธเจ้า กายก้มกราบพุทธรูปทองเหลืองแต่ใจกำลังนึกถึง
พระพุทธองค์


สาธุค่ะ :b8:


นึกถึงวัดที่ไม่มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้บุชา

จะเป็นลักษณะเช่นใดหนอ :b10: ?

จะเป็นวัดอยูไหมหนอ :b10: ?

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเลิกไหว้พระพุทธรูปมาประมาณ5ปีแล้วก็เพราะได้ประสบมาด้วยตัวเอง ใครเคยเข้าสู่สภาวะคนไกลจะตายบางปะ(ความรู้สึกบอกว่าอย่างนั้น)มันเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจว่าตายไปคงตกนรกแน่ๆนึกถึงแต่บาปที่ตัวเองทำเอาไว้ผมก็ไม่อยากตกนรกคิดในใจว่าต้องมีวิธีให้พ้นนรกได้แน่ๆก็เลยนึกถึงพระพุทธเจ้าก็เลยเอาพระพุทธรูปเป็นพระพุทธเจ้าเพราะว่าไปยึดเอารูปนี้เป็นพระพุทธเจ้าใจผมก็คิดมาได้ว่าเราไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเราเกิดไม่ทันท่านหน้าตาท่านหมือนพระพุทธรูปเปล่าก็ไม่รู้ตายไปคงแย่คงซวยเดี่ยวยมบาลบอกว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าหน้าตาไม่เหมือนรูปปั้นผมคงตกนรกแน่ๆ ใจผมก็คิดมาได้แว้บหนึ่งว่าแล้วพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนบวชก็ไม่เคยบวชเรียนก็ไม่รู้ถึงแก่นแต่เคยเรียนเรื่องพุทธประวัติ ผมก็เลยนึกถึงตอนเจ้าชายสิทธถะจะออกบวชไปเจออะไรมาบางเมื่อบวชแล้วได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านึกออกขึ้นมาได้ทันทีเลยครับ ไปเจอคนแก่ คนเจ็บ คนตาย คนเกิด แลผู้ออกบวชเพื่อหาโมกธรรม ผมก็เลยนึกถึงคนแก่ เจ็บ ตาย และเกิด ได้เรื่องเลยครับทีนี้จะว่าไปเกิดปาฎิหารย์ก็ว่าได้ ได้เห็นสัจจะธรรมโดยแต่จริงครับ ผมได้หมุนกงล้อธรรมจักรแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 00:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าวังทอง เขียน:
ผมเลิกไหว้พระพุทธรูปมาประมาณ5ปีแล้วก็เพราะได้ประสบมาด้วยตัวเอง ใครเคยเข้าสู่สภาวะคนไกลจะตายบางปะ(ความรู้สึกบอกว่าอย่างนั้น)มันเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจว่าตายไปคงตกนรกแน่ๆนึกถึงแต่บาปที่ตัวเองทำเอาไว้ผมก็ไม่อยากตกนรกคิดในใจว่าต้องมีวิธีให้พ้นนรกได้แน่ๆก็เลยนึกถึงพระพุทธเจ้าก็เลยเอาพระพุทธรูปเป็นพระพุทธเจ้าเพราะว่าไปยึดเอารูปนี้เป็นพระพุทธเจ้าใจผมก็คิดมาได้ว่าเราไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเราเกิดไม่ทันท่านหน้าตาท่านหมือนพระพุทธรูปเปล่าก็ไม่รู้ตายไปคงแย่คงซวยเดี่ยวยมบาลบอกว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้าหน้าตาไม่เหมือนรูปปั้นผมคงตกนรกแน่ๆ ใจผมก็คิดมาได้แว้บหนึ่งว่าแล้วพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนบวชก็ไม่เคยบวชเรียนก็ไม่รู้ถึงแก่นแต่เคยเรียนเรื่องพุทธประวัติ ผมก็เลยนึกถึงตอนเจ้าชายสิทธถะจะออกบวชไปเจออะไรมาบางเมื่อบวชแล้วได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านึกออกขึ้นมาได้ทันทีเลยครับ ไปเจอคนแก่ คนเจ็บ คนตาย คนเกิด แลผู้ออกบวชเพื่อหาโมกธรรม ผมก็เลยนึกถึงคนแก่ เจ็บ ตาย และเกิด ได้เรื่องเลยครับทีนี้จะว่าไปเกิดปาฎิหารย์ก็ว่าได้ ได้เห็นสัจจะธรรมโดยแต่จริงครับ ผมได้หมุนกงล้อธรรมจักรแล้ว




เจ้าวังทองหลาง :b6:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2011, 06:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


นำข้อธรรมดีๆมาฝากยามเช้าครับ ครั้งนี้ขอเสนอของพระเถระยุคนี้บ้าง (ตัดมาเป็นบางตอนที่เกี่ยวกับเรื่อง
นี้เท่านั้น)

แนบไฟล์:
nanta.GIF
nanta.GIF [ 68.52 KiB | เปิดดู 4021 ครั้ง ]


ปาฐกถาธรรมเรื่อง “พระที่แท้จริง” วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

เดี๋ยวนี้พระพุทธรูปกลายเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ เป็นของศักดิ์สิทธิ์ไปในรูปหนึ่ง คนเข้าไปกราบไหว้โดยเอาการวิงวอนขอร้อง บนบานศาลกล่าว เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนประสงค์ การกระทำในรูปนั้นอยากจะบอกญาติโยมโดยตรงไปตรงมาว่า ผิดหลักการของพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาสอนให้ปฏิบัติธรรม ไม่ใช่สอนให้ไปวิงวอนขอร้องบนบานศาลกล่าว…

พูดอย่างไม่เกรงใจก็ว่ายังไหว้อย่างเด็กเกินไป ไม่ได้ไหว้อย่างคนมีสติ มีปัญญา มีความคิดความอ่าน แล้วเป็นเด็กมาเป็นร้อยๆ ปี ไม่ใช่เป็นเด็กๆอยู่น้อย เป็นเด็กอยู่นาน ไม่ยอมเจริญเติบโตในด้านจิตวิญญาณ ยังเป็นเด็กเรื่อยไป แตะต้องไม่ได้ ใครไปแตะต้องเข้าโกรธเอาเลย หาว่ามาดูหมิ่นดูแคลนพระพุทธเจ้าอะไรต่างๆ นานา

ซึ่งเนื้อแท้ไม่ใช่อย่างนั้น เราไหว้เพียงเพื่อให้นึกถึงพระคุณของพระองค์ เช่น เราเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปก็ต้องไปกราบเพื่อเอาภาพนั้นเป็นสิ่งจูงใจ ให้ได้นึกไปถึงจริยาวัตรอันดีอันงามของพระองค์ ให้นึกถึงพระคุณที่มีอยู่ในพระองค์ ว่ามีอะไรบ้าง เช่นเรานึกถึงพระคุณเก้าประการที่เราสวดมนต์แปลว่า “อิติปิโส ภะคะวา” แม้เพราะเหตุอย่างนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น “อะระหัง” เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์ได้สิ้นเชิง เราต้องนึกไปถึงเรื่องเหล่านั้น…

หรือถ้าเราเคยอ่านพระพุทธประวัติ เราก็ไปนั่งนึกทบทวนประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เกิดความรักความเคารพต่อพระองค์ เราเห็นความดีเราก็รักมากขึ้น เคารพมากขึ้น ถ้าไหว้เฉยๆ ไม่มีอะไรเท่าใด นอกจากว่าทำใจให้หยุดได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ว่าไม่ก้าวหน้าเท่าใด นอกจากว่าทำใจให้หยุดได้ชั่วขณะหนึ่ง จึงควรนึกว่าพระองค์ดีอย่างไร นึกให้ละเอียดตามประวัติที่เราได้อ่านได้ศึกษามา แล้วเราก็ควรอธิษฐานใจว่าเราจะสร้างพระพุทธเจ้าขึ้นไว้ในใจของเรา สร้างอย่างไร สร้างไว้ในใจก็คือเอาพระคุณของท่านนั่นแหละมาใส่ไว้ในใจของเรา

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2011, 07:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


เช้าที่สดใสอีกวัน

พบเจอเรื่องราวในอรรถกถา ไม่ได้เกี่ยวกับการมีหรือไม่มีของพระพุทธรูป แต่มีข้อที่น่าสังเกตุในเรื่องที่จะ
นำมาให้อ่าน เรื่องนี้เนื่องมาจากการเห็นรูปเปรียบที่คล้ายพระพุทธเจ้า แล้วได้พุทธานุสสติ ทำพุทธานุสสติ
ให้เป็นบาทกรรมฐานแล้วบรรลุพระอรหันต์ได้

แม้จะไม่ได้เกี่ยวพันกับเรื่องกราบไหวพระพุทธรูปโดยตรง แต่มีข้อน่าคิดเกี่ยวกับการเห็นพระพุทธรูปโดยนัย
อยู่ เห็นว่าน่าจะเก็บเข้าไว้ในสติปัญญากัน ขออนุญาตนำมาฝาก

อรรถกถาวินัยปิฎก บริวาร (วินยฺยกถา สมนฺตปสาทิกา) เรื่องอานิสงส์การกวาด

ได้ยินว่า พระปุสสเทวเถระ ผู้อยู่ที่กาฬันทกาฬวิหาร กวาดลานเจดีย์ทำอุตรางสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง แลดูลานเจดีย์ซึ่งเกลี่ยทรายไว้เรียบร้อย ราวกะลาดด้วยดอกย่างทราย ให้เกิดปีติและปราโมทย์มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ได้ยืนอยู่แล้ว.

ในขณะนั้น มารได้จำแลงเป็นลิงดำเกิดแล้วที่เชิงเขา เรี่ยรายโคมัยไว้เกลื่อน ที่ลานเจดีย์ ไปแล้ว.
พระเถระไม่ได้อาจเพื่อบรรลุพระอรหัต, กวาดแล้ว ได้ไปเสีย.
แม้ในวันที่ ๒ มาร ได้จำแลงเป็นโคแก่ กระทำประการแปลกเช่นนั้นนั่นแล.
ในวันที่ ๓ ได้นิรมิตอัตภาพเป็นมนุษย์ มีเท้าแก เดินเอาเท้าคุ้ยรอบไป.
พระเถระคิดว่า บุรุษแปลกเช่นนี้ไม่มีในโคจรตามประมาณโยชน์หนึ่งโดยรอบ นี่คงเป็นมารแน่ละ จึงกล่าวว่า เจ้าเป็นมารหรือ ?

มารตอบว่า ถูกละผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นมาร บัดนี้ไม่ได้อาจเพื่อจะลวงท่านละ.ฯ

พระเถระถามว่า ท่านเคยเห็นพระตถาคตหรือ ?

มารตอบว่า แน่ละเคยเห็น.

พระเถระกล่าวว่า ธรรมดามาร ย่อมเป็นผู้มีอานุภาพใหญ่ เชิญท่านนิรมิตอัตภาพให้คล้ายอัตภาพของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าก่อน. ฯ

มารกล่าวว่า ข้าพเจ้าไม่สามารถนิรมิตรูปเช่นนั้น ผู้เจริญ แต่เอาเถอะ ข้าพเจ้าจักนิมิตรูปเทียมที่จะ
พึงเห็นคล้ายรูปนั้น
ดังนี้

แล้วได้จำแลงเพศของตนตั้งอยู่ด้วยอัตภาพคล้ายพระรูปของพระพุทธเจ้า

พระเถระแลดูมารแล้วคิดว่า มารนี้ มีราคะ โทสะ โมหะ ยังงามถึงเพียงนี้ พระผู้มี
พระภาคเจ้าจะทรงงามอย่างไรหนอ ? เพราะว่า พระองค์ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ โดยประการ
ทั้งปวง ดั่งนี้แล้ว

ได้ปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว
มารกล่าวว่า ผู้เจริญ ข้าพเจ้าถูกท่านลวงแล้ว.
ฝ่ายพระเถระกล่าวว่า มารแก่ จะมีประโยชน์อะไร ที่เราจะลวงคนเช่นท่าน.



ในวรรคแรก แสดงให้เห็นว่าพระเถระได้กวาดลานเจดีย์ เมื่อทำสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว มีความศรัทธา
เพราะการเห็นเจดีย์ ได้ห่มผ้าเรียบร้อย ยืนมองเจดีย์ เกิดความปีติปราโมชในเจดีย์ โดยมีพระพุทธเจ้า
เป็นอารมณ์ แสดงว่า การได้แลเห็นวัตถุอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่องจะโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยหมายไป
ทางพระพุทธเจ้า ก็สามารถทำให้พุทธานุสติบังเกิดได้ และสามารถนำมาเป็นบาทของการปฏิบัติได้


มารไม่สามารถเนรมิตรูปที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าได้ จึงได้ทำรูปเทียมซึ่งมีอัตภาพคล้ายพระพุทธเจ้า
ฝ่ายพระเถระมองความงามของรูปเทียมพระพุทธเจ้า เกิดปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์(พุทธานุสติ)
สามารถนำปีตินั้นมาเป็นบาทของการเจริญวิปัสสนาได้

การกราบการไหวหรือการปฏิบัติต่อพระพุทธรูป พระปฏิมา เจีดีย์สถาน จะดีหรือชั่ว หรือมีผลออกมาประ
การใด ย่อมสุดแท้แต่เจตนาหรือมุมมองของคน

พบอะไรท่าน่าสนใจแล้วจะนำมาฝากอีกครับ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ย. 2011, 20:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตอนนี้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน
ซึ่งเขาเคยเป็นชาวพุทธมาก่อนแต่เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนศาสนาไปเป็นคริสต์
และเคร่งครัดมาก

ไม่มีอะไรที่พอจะอาศัยกราบไหว้ได้ในอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ เวลาจะสวดมนต์
จะกราบห้าครั้ง...ครั้งที่หนึ่งระลึกถึงพ่อ ครั้งที่สองระลึกแม่ ครั้งที่สาม สี่ ห้า
คือพระรัตนไตร...ซึ่งสิ่งที่มองเห็นอยู่ในใจก็คือพระพุทธรูปนั้นเอง

จะเป็นปูน จะเป็นไม้ หรือจะเป็นทอง เมื่อระลึกถึงคราใด ก็จะเกิดความรุ้สึก
ปิติ ซาบซ่าน กลัวบาป ละอายต่อบาป ไม่คิดชั่ว
คิดแต่จะทำให้ดีที่สุด มีกำลังศัทธาในความดีมากขึ้น

แค่อยากคุยด้วยค่ะ

อนุโมทนา :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2011, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


บ้างเวลาเราไกลจาก คนที่เรารัก เช่น แฟนที่ยังรักและคิดถึงอยู่เสมอ การได้ดูรูปที่เก็บไว้ทำให้มีกำลังใจและคลายความคิดถึงลงไปได้บ้าง Kiss

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2011, 01:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


คนที่กราบไหว้พระพุทธรูปนั้นมีหลายประเภท ไหว้เพื่อน้อมลงสู่พระรัตนตรัยก็เยอะ แล้วหากคนนั้นน้อมลงด้วยจิตกุศลธรรม เป็นเหตุต่อเนื่องสู่การทำความเพียร รักษาศีล ก็สมควรแก่การอนุโมทนา

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 87 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 115 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร