ภรรยาผมนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น!!!
ผมกับภรรยาอยู่ด้วยกันเพราะผมทำเธอท้อง โดยที่ผมไม่ได้รักเธอเลย ก็เลยเป็นเหตุให้ผมไม่เคยดูแลเอาใจใส่หรือสนใจเธอเลย แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกันผมก็รู้สึกว่าเวลากลับบ้านมาก็อยากเจอเธอ เธอทำให้ผมทุกอย่าง หาข้าว อยากกินอะไรเธอก็หามาให้ อีกใจผมก็สงสารทิ้งเธอไม่ลง เลยต้องจำใจอยู่กับเธอตั้งแต่นั้นมา
หลังจากนั้นผมก็แอบนอกใจเธอบ่อยๆ ทำเธอร้องไห้หลายครับ ผมไม่เคยบอกเธอว่ารักเลย
จนปัจจุบันนี้เรามีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ลูกผมรักมาก
ผู้หญิงที่ผมไปยุ่งเกี่ยวด้วยระหว่างที่แต่งงานกับภรรยาแล้ว
คนแรกเธอมีแฟนอยู่แล้วและแฟนเธอไปทำงานต่างประเทศ ผมก็ได้ย้ายเข้าไปพักอยู่กับเธอฉันสามีภรรยา จนกระทั้งแฟนเธอใกล้จะกลับมาเราก็เลยเลิกกัน ช่วงนั้นผมหนีแฟนไปทำให้แฟนผมร้องไห้ทุกวัน
คนต่อมา เธอก็มีแฟนอยู่แต่เธออยู่หอพัก และเธอไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน ผมเป็นคนแรก ทั้งๆที่แฟนเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ผู้หญิงสองคนที่ผมยุ่งเกี่ยวด้วยยังไม่ได้แต่งงานนะครับ ปัจจุบันนี้ผมก็ยังแวะเวียนไปหาเธอบ่อยๆ โดยที่แฟนผมหรือแฟนฝ่ายหญิงไม่รู้
แต่!!! ไม่นานมานี้ผมเพิ่งทราบว่าแฟนผมได้ไปมีอะไรกับชายคนอื่นซึ่งเธอบอกว่าชายคนนี้บอกรักเธอทุกวันซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้จากผมจนกระทั่งเลยเถิดมีอะไรกัน เค้าบอกว่าชายคนนี้ตอนแรกเป็นคนดีมาก จนเมื่อได้ภรรยาผมแล้ว ธาตุแท้ก็ออก แฟนผมพยามตีตัวออกห่าง พยามเลิก ก็ถูกขู่ต่างๆนาๆว่าจะทำร้ายผมมั่งหรือจะเอาเรื่องนี้มาบอกผมมั่ง ด้วยความที่ภรรยารักผมกับลูกมาก จึงต้องยอมโดนบังคับให้มีอะไรกันอีกหลายครั้ง มันทั้งด่าทั้งตบด้วยความที่แฟนผมกลัวผมรู้และกลัวผมเป็นอันตรายเธอจึงยอม แม้กระทั่งมันบอกว่าหากต้องการให้เรื่องนี้จบ แฟนผมต้องตายสถานเดียว วันนั้นแฟนผมเลยตัดสินใจวิ่งไปกลางถนนเพื่อให้รถชนแต่ชั่วนั้นก็มาดึงไว้ มันพยามขู่ต่างๆนา ล่าสุด ช่วงแรกแฟนผมหลงในคารมมันก็เลยให้รูปและให้มันถ่ายรูปตอนอยู่ด้วยกัน แต่เ้ข้าใจว่าไม่ใช่รูปหรือคลิปตอนที่มีอะไรกัน แฟนผมก็พยามขอให้มันลบ มันหลอกแฟนผมให้ไปหาและบอกว่าจะลบหลักฐานออกให้แต่แล้วก็โดนมันหลอก และถูกบังคับให้มีอะไรกันอีกครั้ง ซึ่งมันก็บอกว่าหากไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่งพราย เธอต้องยอมมีอะไรกับมัน
สุดท้ายแฟนผมก็ต้องยอม
เมื่อผมทราบเรื่องถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่กับเธอเพราะความรัก ผมก็ถึงกับน้ำตาไหล เจ็บในใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่ผมจะำทำใจยอมรับมันได้ ผมเห็นหน้าภรรยาทีไร ผมก็มักจะนึกถึงภาพที่ภรรยาผมมีอะไรกับชั่วนั่นทุกครั้งไป มันช่างทรมานเหลือเกินครับ
จะเลิกผมก็สงสารลูก ที่เล่ามานี้ผมก็พยามนึกว่ามันเป็นกรรมที่ผมได้ก่อขึ้นมา แต่อยากทราบความกระจ่างว่ากรรมที่ผมได้ก่อ มันให้ผลทันตาในชาตินี้เลยเหรอครับ
ช่วยตอบข้อสงสัย เพื่อผมจะได้ปลงและคิดเสียว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกรรมของผม หรือกรรมของใคร เพื่อผมจะได้ไม่ต้องคิดให้เสียใจอีก ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะคุณkamman
ดิฉันไม่กล้าตอบในเรื่องของกรรมในอดีต แต่แนะนำได้ว่าคุณควรเริ่มรักษาศีลห้า และมีสติอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วเวลาจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ขอให้คุณอย่าท้อและเชื่อในเรื่องของการรักษาศีลห้า การทำความดีนะคะ

พระพุทธองค์ทรงสอนว่า

ทำเหตุเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น

สิ่งนี้เราเรียกว่า "กรรม"

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม

หาก จขกท. เข้าใจกรรม 3 คือ กายกรรม (การกระทำทางกาย) วจีกรรม (การกระทำทางวาจา) และมโนกรรม (การกระทำทางใจ) จะเห็นปัญหาตลอดสาย

ขอบคุณครับ ผมควรทำยังไงดีระหว่าง
-แก้แค้น กับ
-ให้อภัย ซึ่งอันนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมยอมให้อภัยจริงๆ หรือเปล่า ลึกๆผมอยากฆ่าชายคนนั้นให้ตาย แต่อีกใจผมก็กลัวว่าติดคุกไปแล้วต้องได้รับความทรมาณมากขึ้นอีก พ่อแม่ลูกภรรยาจะอยู่อย่างไรเมื่อขาดผมไปซักคน เพราะผมเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่อีกใจก็คิดว่าตัวเองขี้ขลาดที่ไม่ยอมแก้แค้นให้ภรรยาตัวเอง ตกลงต้องทำอย่างไรดีครับ

พยายามเข้าหาธรรมะ เจริญสติภาวนา ถ้ามีสติปัญญาก็จะเกิด

ทุกการตัดสินใจย่อมมีผลต่อการกระทำ

พิจารณาพระไตรลักษณ์ครับ เราไม่ใช่เจ้าของสิ่งต่างๆ เขาย่อมไม่สามารถอยู่ภายใต้ความปราถนาของเราได้ เราบังคับก็ไม่ได้ แล้วชีวิตเราคือกองทุกข์เคลื่อนที่ ในเมื่อมันเป็นทุกข์จะให้มันสุขได้อย่างไร มองโลกเฉพาะเวลานี้ ไม่คิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ไม่ย้อนอดีตที่ผ่านไปแล้ว ปฏิบัติตนให้มีแต่กุศลจิตในใจ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด หากปล่อยให้ความโกรธเข้าแทรก คนเราเมื่อโกรธแล้วก็ฆ่าได้แม้กระทั่งคนใกล้ตัว ขอเป็นกำลังใจช่วยครับ
หากเกิดการขู่ ก็แจ้งตำรวจเลยครับให้กฏหมายทำหน้าที่ของมัน

ผมแยกเป้น 2 เรื่องแล้วกัน

1. เรื่องปัญหาที่ผู้ชายคนนั้น กับครอบครัวคุณ
2. ปัญหาเรื่องความรู้สึกของคุณที่มีต่อภรรยา


ปัญหาข้อ 1. ดูรูปการณ์แล้ว คุณดำเนินคดีสบายมาก เพียงแต่มันต้องวางกับดัก เก็บหลักฐานกันหน่อย เพื่อจะได้เอาไว้มัดตัวไม่ให้หลุดคดี ซึ่งผมคิดว่าคุณลองปรึกษาตำรวจได้เลย มันไม่มีอะไรมาก ชนะแน่ๆ ข้อหาเยอะมาก คงรวมๆแล้วหลายสิบปี ขู่ฆ่าอย่างเดียวก็สบายแล้ว

2. ปัญหาเรื่องความรู้สึกของคุณที่มีต่อภรรยา ข้อนี้พูดยาก

ว่างๆผมอยากให้คุณลองทำอย่างนี้ เวลาเคี้ยวๆอาหารอยู่ อย่างเอร็ดอร่อย
ในขณะกำลังเคี้ยวอยู่นั้นแหละ ให้คายออกมาดู

แล้วให้คุณสังเกตุว่า เมื่อครู่นี้ มันอยู่ในปากแท้ๆ กำลังดื่มด่ำอย่างเอร็ดอร่อย
แค่ออกมานอกปากเท่านั้น ทำไมมันกลายเป็นของสกปรกไปได้
แสดงว่า ที่สกปรกนั้นไม่ใช่อาหาร

กรณีถ้าเป็นกรรมของเรา แล้วเราดำเนินคดี จะมีผลต่อกรรมมั้ยครับ
สมมติชาติแล้วผมทำเค้า ชาตินี้เค้าทำคืน แล้วผมดำเนินคดี ชาติต่อไปจะเป็นยังไง

...ชีวิตตัวเราเป็นผู้กำหนด...ควรมักน้อยและพอใจในสิ่งที่ตนมีและได้มาจึงสำคัญ...
...เพราะคิดไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองได้ครอบครองไว้แล้ว...ถ้าไม่เลิกแสวงหาตามความพอใจ...
...ก็จะจมปลักอยู่กับการคิดว่าไม่พอใจไปตลอด...ก็ไม่อาจมีความสุขในชีวิตได้เลย...
...เพราะคุณทักษาสร้างปัญหาให้ตัวเองแก้...ไม่ได้คิดที่จะอยู่แบบพอเพียง...
...การมีคู่ให้มีผัวเดียวเมียเดียว...ซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน...คบอยู่กินฉันสามี-ภรรยาทีละคน...
...เลือกการสำส่อนได้กับผู้หญิงทุกคน...ทั้งๆที่มีภรรยาแล้วเท่ากับไม่รับผิดชอบครอบครัว...
...การรับผิดชอบครอบครัวต้องดูแลกันทั้งร่างกายและจิตใจ...ไม่ใช่ให้ข้าวให้น้ำแล้วจบ...

พิจารณาดูนะครับ

-ตัวคุณเองก็ผิดมาแต่ต้นที่ทำให้ภรรยาคุณต้องเป็นเช่นนั้น ดังที่เล่าข้างต้น

ที่ถามว่า ตอนนี้ควรทำยังไงดี ระหว่างแก้แค้น กับ ให้อภัยชายคนนั้น หากฆ่าเขาตาย ก็กลัวไอคุกๆดังวิตกนั้น

เอางี้ดีกว่า

ตอนนี้คุณกับภรรยากลับมาที่จุดเริ่ม คือ ให้อภัยกันและกัน คุณเองก็จะหยุดพฤติกรรมหาเศษหาเลยข้างนอกดังว่านั่น

ส่วนภรรยาคุณก็หยุดพฤติกรรมแล้ว คือว่า รู้เห็นธาตุแท้ ของ ผช.คนนั้นแล้ว แต่ปลีกตัวออกมาไม่ได้ เพราะถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายคุณเป็นต้น

ประเด็น ผช.คนนั้น คุณบอกกับเขาเลยว่า เรื่องราวทั้งหมดที่เขาทำกับภรรยาคุณๆ รู้หมดแล้ว เราให้อภัยภรรยาแล้ว ต่อไปอย่ามายุ่งกับเมียกรูอีกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นจะแจ้งความ แค่นี้เขาก็ไม่กล้าแล้ว

อนึ่ง หากไม่มั่นใจตัวเองว่า จะทนพูดจบประโยคไหม ก็พาเจ้าหน้าที่ไปเป็นเพื่อน พูดกันต่อหน้าตำรวจเลย เท่านี้เขาก็ไม่กล้ามายุ่งกับภรรยาคุณอีก

(ถ้าถึงขนาดนี้แล้ว ผช.คนนั้น ยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว ก็สมควรตาย)


ต่อนี้ไป คุณก็ทำหน้าที่ของสามีตามหลักคิหิวินัย คือ น้อบน้อมทิศตามหลักอริยชน ดังนี้

-ทิศเบื้องหลังภรรยา สามีพึงบำรุงด้วยสถาน 5
1.ด้วยยกย่องนับถือว่าเป็นภรรยา
2. ด้วยไม่ดูหมิ่น
3. ด้วยไม่ประพฤตินอกใจ
4.ด้วยมอบความเป็นใหญ่ให้
5.ด้วยให้เครื่องประดับ

มีคำกลอนเพื่อจำง่ายๆ

สามีดีมี 5 ท่านว่าไว้
หนึ่ง ตั้งใจยกย่องประคองขวัญ
สอง ไม่ถูกภรรยาให้จาบัลย์
สาม ปักใจมั่นไม่นอกใจจนวางวาย
สี่ ความเป็นใหญ่ให้สายสมร
ห้า ให้อาภรณ์ประดับสำหรับร่าง
-สมบัตินี้มีครบไม่จบจาง เป็นเยี่ยงอย่างยอดสามีดีนักเอย.


-ภรรยาเมื่อได้รับบำรุงฉะนี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์สามีด้วยสถาน 5

1. จัดการงานดี
2. สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามีดี
3. ไม่ประพฤตินอกใจสามี
4. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ไว้
5. ขยันไม่เกียจคร้านในกิจการทั้งปวง

ที.ปาฏิ.11/204

-ภรรยาดีมี 5 ท่านว่าไว้

หนึ่ง ตั้งใจจัดการงานเคหา
สอง สงเคราะห์เพื่อนผัวตัวไปมา
สาม เสน่หาสามีไม่นอกใจ
สี่ รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้อย่าให้ขาด
ห้า หมั่นปัดกวาดบ้านเรือนอย่าเชือนไถล
-สมบัติห้านี้มีในนารีใด ต้องนับได้ว่าเลิศประเสริฐเอย.

เอวังครับ

เวลานี้เหมือนถ่านไฟอยู่บนหัว
จะมัวมาคิดเรื่องกรรม หรือว่าจะเอาถ่านออกก่อน
เลือกให้ดีนะครับ

ฟังเพลงประกอบคำตอบ

ตั้ง "สติ" ให้มั่นแล้วใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา...หาทางออกที่ดีที่สุดให้กับคุณ
และครอบครัวคุณ....
ดีชั่วทางสังคมตัดสินโดยกฏเกณฑ์ของสังคม...ดีชั่วทางธรรมตัดสินที่กรรมที่กระทำ
...สิ่งใดที่สามารถกำหนดและแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง...ให้เลือกปฏิบัติในสิ่งนั้นก่อน

กรรม (กฎแห่งกรรม) ค่อยๆ ศึกษาที่

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 95#msg5095

ยาวหน่อยแต่จัดเป็นตอนๆ