ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=37865
หน้า 1 จากทั้งหมด 7

เจ้าของ:  wakeup [ 22 เม.ย. 2011, 12:08 ]
หัวข้อกระทู้:  ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

ขอเรียนถามครับว่าผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ
ผมยังเลยไปนึกถึงพระแม่ธรณีผู้เป็นพยานหนึ่งเดียวให้กับพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้ เมื่อมารมาถามพระพุทธเจ้าว่าใครจะเป็นพยานให้ได้ แต่ทุกวันนี้บางกลุ่มบางพวกก็ทั้งเจาะ ทั้งขุด ทั้งระเบิด ฯลฯ พื้นผิวดินนี้ ลงไปถึงใต้ดินอีก รบกวนด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 22 เม.ย. 2011, 14:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

เป็นคำถามที่กว้างมากครับ ถ้าหากตอบจริงๆแล้วต้องบรรยายยาวเป็นสิบหน้ากระดาษ A4 เลยล่ะครับ ถ้าศึกษาจริงๆแล้วจะรู้ว่าบาปครับ มีคนมาก ผลิตมาก ขยะมาก มลพิษมาก บุกรุกป่า สัตว์ไร้ที่อยู่ ฯลฯ มันเป็นคำถามที่กว้าเกินไปครับ แต่ขอสรุปพอเป็นพิธีก็แล้วกันนะครับ หากอยากรู้จริงๆต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ มลพิษสิ่งแวดล้อมอะไรแนวๆนั้นแหละครับแล้วจะรู้ว่ามนุษย์เราบาปแค่ไหน ที่จริงเราก็เรียนกันมาตั้งแต่ประถมซะด้วยซ้ำ

มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติไม่บาปหรอกครับ แต่ถ้าใช้โดยไม่รู้จักคิดน่ะบาปครับ บาปยังไงไปหาข้อมูลเรื่องนี้ได้จากแบบเรียนว่าด้วยเรื่องของมลภาวะสิ่งแวดล้อม การลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ แนวๆนั้นล่ะครับ มีตั้งแต่ระดับประถมถึงระดับด็อกเตอร์เลยครับ

เจ้าของ:  wakeup [ 22 เม.ย. 2011, 14:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

แบบเรียนมีจริงๆหรือครับ แต่มันอาจเขียนไม่ชัดเจนหรือเปล่า เพราะก็เห็นคนมากมายทำลายทรัพยากรอยู่ทุกวัน และก็ได้รับการนับถือยกย่องสำหรับพวกกลุ่มอุตสาหกรรมเพราะนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาล หรือบริจาคเงินให้วัดวาอาราม หรือเป็นspondser ให้พระต่างๆ ได้ออกวิทยุ ทีวี หรือsponsorเว็บบอรด์ธรรม(ก็มีมั๊ง) คือไม่เห็นได้เคยได้ยินจากพระรูปใดตือนนักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล่านั้นว่าเป็นบาปนะ การทำลายทรัพยากรนี้ (หรือว่ากลัวขาดsponserรายใหญ่ก็ไม่รู้นะ:-)
หรือไม่ก็ถูกเชิญไปอบรมให้พนักงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านั้นเพื่อให้ทำงานดีขึ้น (ซึ่งผลก็คือได้ผลผลิตมากขึ้นซึ่งก็มาจากการทำลายทรัพยากรได้มากขึ้นเร็วขึ้น)
มันอาจจะไม่ชัดเจนว่าบาปหรือไม่เพราะทรัพยากรธรรมชาติมันไม่มีชีวิต ก็คงถือว่าไม่ผิดศิล เขาก็เลยทำเอาทำเอา จนโลกเราแย่แล้ว

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 22 เม.ย. 2011, 15:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

wakeup เขียน:
แบบเรียนมีจริงๆหรือครับ แต่มันอาจเขียนไม่ชัดเจนหรือเปล่า เพราะก็เห็นคนมากมายทำลายทรัพยากรอยู่ทุกวัน และก็ได้รับการนับถือยกย่องสำหรับพวกกลุ่มอุตสาหกรรมเพราะนำเงินเข้าประเทศมากมายมหาศาล หรือบริจาคเงินให้วัดวาอาราม หรือเป็นspondser ให้พระต่างๆ ได้ออกวิทยุ ทีวี หรือsponsorเว็บบอรด์ธรรม(ก็มีมั๊ง) คือไม่เห็นได้เคยได้ยินจากพระรูปใดตือนนักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล่านั้นว่าเป็นบาปนะ การทำลายทรัพยากรนี้ (หรือว่ากลัวขาดsponserรายใหญ่ก็ไม่รู้นะ:-)
หรือไม่ก็ถูกเชิญไปอบรมให้พนักงานในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านั้นเพื่อให้ทำงานดีขึ้น (ซึ่งผลก็คือได้ผลผลิตมากขึ้นซึ่งก็มาจากการทำลายทรัพยากรได้มากขึ้นเร็วขึ้น)
มันอาจจะไม่ชัดเจนว่าบาปหรือไม่เพราะทรัพยากรธรรมชาติมันไม่มีชีวิต ก็คงถือว่าไม่ผิดศิล เขาก็เลยทำเอาทำเอา จนโลกเราแย่แล้ว



ต้องไปศึกษาเรื่องห่วงโซ่อาหารด้วย ผลิตมาก มลพิษมาก ขยะมาก ทิ้งลงครอง สัตว์น้ำตาย ทำลายห่วงโซอาหาร มนุษย์ขาดแคลนอาหาร สัว์น้ำขาดแคนอาหาร สัตว์ป่าไร้ที่อยู่ ขาดแคลนอาหาร ฯลฯ อีกมายมายสารพัด พวกนายทุนรู้มั้ย รู้ แต่ก็ทำ เรื่องพวกนี้นานาจิตตัง มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ รู้ว่าบาป แต่ก็จะทำ

เจ้าของ:  wakeup [ 22 เม.ย. 2011, 15:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

เอออ.. แล้วพวกนักธุรกิจอุตสากรรมเหล่านี้จะไปตกนรกขุมไหนก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ ยมบาลคงต้องคิดหน่อยเพราะคงไม่มีมาตั้งแต่อดีดอันใกลโพ้น มนุษย์เราจะทำลายโลก (พื้นแผ่นดิน บ้านของตัวเองแท้ๆ) ทำลายได้ขนาดนี้
:b8:

เจ้าของ:  tonnk [ 22 เม.ย. 2011, 19:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

ผู้ทำลายธรรมชาติเป็นบาปอยู่แล้ว แต่ไม่ทั้งหมดต้องดูเป็นกรณี

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2011, 20:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

ถ้าเจตนาทำผิดกฎหมายทุกชนิด....บาป

แม้จะเจตนาหลบเลี่ยงกฎหมายด้วยช่องโหว่ของกฎหมายเอง..ก็ยังบาป

เพราะต่างก็ทราบดีแล้วว่า..กฎหมายนั้น ๆ....มีเจตนาเพื่ออะไร...

กฎหมาย..คือ..เจตนาการของสังคมนั้น ๆ ...เป็นเจตนาแห่งความดีงาม..เพื่อส่วนรวม

หากการกระทำใดที่ฝ่าผืนเจตนาอันนี้....ก็เท่า ๆ กับการผิดศีล...

เจ้าของ:  สัจจะธรรมของชีวิต [ 28 เม.ย. 2011, 17:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

ตั้งกระทู้แปลกๆๆๆ :b21: :b21: :b21: :b21: :b21:

เจ้าของ:  wakeup [ 28 เม.ย. 2011, 17:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

แปลกอย่างไงครับ

เจ้าของ:  สัจจะธรรมของชีวิต [ 28 เม.ย. 2011, 17:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

มั่วแต่สงสัยว่า ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้จะบาปไหมถ้ารู้แล้วจะละเว้นได้หรอ จริงๆแล้วศีลในระดับสัตว์เดรฉานไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ ถ้าเราจะต้องฆ่าสัตว์เพื่อมาปรุ่งอาหาร ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อประกอบอาชีพก็ทำไปเพราะเป็นสิ่งที่ละเว้นได้ยากในการดำเนินชีวิต แต่ขอให้เรารักษาศีลในระดับมนุษย์คือการไม่ทำร้ายกัน ไม่เบียดเบียนกัน ไม่ข่มเหงกันไม่เอาเปรียบกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน สังคมจะได้มีความสงบสุขมากขึ้น :b8: :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  wakeup [ 28 เม.ย. 2011, 18:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

อ้าว! ถ้ารู้ว่าบาปก็ต้องหาทางละเว้นซิ
ที่ "สัจจะธรรมของชีวิต" บอกว่า "จริงๆแล้วศีลในระดับสัตว์เดรฉานไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ ถ้าเราจะต้องฆ่าสัตว์เพื่อมาปรุ่งอาหาร ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อประกอบอาชีพก็ทำไปเพราะเป็นสิ่งที่ละเว้นได้ยากในการดำเนินชีวิต"
อันนี้ผมหรืออีกหลายคนก็ละได้นะครับ
ส่วน"สัจจะธรรมของชีวิต" บอกว่า "ขอให้เรารักษาศีลในระดับมนุษย์คือการไม่ทำร้ายกัน ไม่เบียดเบียนกัน ไม่ข่มเหงกันไม่เอาเปรียบกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน สังคมจะได้มีความสงบสุขมากขึ้น "
ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ
แต่คนเราก็ควรพยายามยิ่งๆขึ้นไปครับ ถ้าทำได้นะ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 เม.ย. 2011, 21:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

ถ้าจะว่ากันจริง ๆ แล้ว...หากมัวแต่มาซีเรียด...ว่าอะไรบาป..อะไรไม่บาป...จนมากเกินไป...

ก็อาจกลายเป็นความฟุ้งซ่านไปได้...จนจิตไม่สงบพอสำหรับการทำงานของใจ...งานของใจคืองานการสร้างกุศลกรรม..

คือ..เราละ..อกุศล..แล้วก็ต้องให้เกิดกุศลด้วย

ลักษณะจิตที่เป็นกุศล..นี้มีลักษณะ..สงบ..มีปิติ..เป็นสุข

หากเรากำลังละการทำบาปทำกรรม..แต่ผลก็คอยแต่กังวล..ว่าไอ้นี้ก็บาป..ไอ้นั้นก็บาป...ใจกลับไม่สงบ...ก็แสดงว่า..สิ่งที่เรากำลังทำอยู่..ยังถูกไม่หมด...คือยังมีส่วนผิดอยู่...นั้นเอง

และ..หากยังคิดว่า..ทำอย่างนี้..ถูกแล้ว..คือ..คิดว่าการฟุ้งซ่านกังวล..ระวัง..ว่าจะเป็นบาป..นี้ดี..อย่างนี้ก็จัดว่าเป็น..สีลัพตปรามาส...คือยึดถือศีลพรตที่ไม่อาจนำสู่การพ้นทุกข์ได้ว่า..ดี...แบบนี้เข้าขั้นเดินหลงทางเลยละ

จะเห็นว่า..พระท่านที่มุ่งทำกรรมฐานเพื่อการพ้นทุกข์...ท่านเหล่านั้นก็ไม่เคยเห็นมาโจมตี..บริษัทห้างร้าน...ที่อาจมีส่วนในการทำลายธรรมชาติ...แม้จะมาทอดผ้าป่า..มาทอดกฐิน...ท่านก็ให้พรกลับด้วยดี...อย่างนี้...จะกล่าวหาท่านทำไม่ถูก...ไม่ได้

ท่านทำถูก..แต่..เราเอง..คิดไม่ถูก

กลับไปที่..ศีล 5 (หากเป็นฆาราวาส..นะ)..อย่างที่คุณสัจจธรรมฯ ว่านั้นแหละ..ให้ทำก่อน..คือการละบาป..อย่างหยาบ ๆ ให้ได้ก่อน

แล้วตามด้วย...ทำบุญทำกุศล...ก็ให้กลับไปที่..บุญกิริยาวัตถุ 10..บารมี 10..เป็นต้น

หากมีกำลังใจมากขึ้น...ก็มาทำใจให้บริสุทธิ์กัน...ก็ให้ไปดู..มรรค 8..อินทรีย์ 5..พละ 5..หรือ..โพชงค์ 7 เป็นต้น

เกิดมาเวลาในโลก..มีไม่มาก...จะมัวมาเด็ดของหอม...ดอมของสวย..ร่ำรวยบุญอยู่ข้างทาง...แต่ไม่เดิน..เดียวมันจะมืดจะค่ำก่อนนะ... :b12:

เจ้าของ:  wakeup [ 28 เม.ย. 2011, 21:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

อ่านข้างบนแล้วก็เกิดความรู้สึกขึ้นว่า มันเพี้ยนๆกันไปแล้วหรือนี่กับคำสอนของพระพุทธเจ้า คือเห็นคุณกบนอกกะลาก็มีตั้ง4ดาวด้วยนะเนี๊ยน่าจะเป็นคนสนใจธรรมมากระดับหนึ่งเลย แต่มาแนะนำที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น
พุทธก็สอน ทำดี ละชั่ว ทำจิตให้โปร่งใส เราก็ควรปฏิบัติตามซิ ไม่ใช่มาบอกประมาณว่า ไม่ต้องไปคิดมากหรอกอะไรดี อะไรชั่ว อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวฟุ้งซ่าน ซะอย่างไหน เป็นกำลังใจให้คนทำดีจริงๆเลยนะ คงมีคนเช่นนี้อยู่ไม่น้อย สมัยนี้ถึงทำดีทำชั่วมั่วไปหมดเลย สังคมก็เสื่อม ศีลธรรมก็เสื่อ

ที่คุณกบนอกกะลาบอกว่า "จะเห็นว่า..พระท่านที่มุ่งทำกรรมฐานเพื่อการพ้นทุกข์...ท่านเหล่านั้นก็ไม่เคยเห็นมาโจมตี..บริษัทห้างร้าน...ที่อาจมีส่วนในการทำลายธรรมชาติ...แม้จะมาทอดผ้าป่า..มาทอดกฐิน...ท่านก็ให้พรกลับด้วยดี...อย่างนี้...จะกล่าวหาท่านทำไม่ถูก...ไม่ได้"
ผมก็ยังไม่ได้กล่าวหาอะไรอย่างนั้นนะ แต่ว่าคุณกบบอกกะลา ก็รู้สึกได้แล้วเนอะ ผมก็นึกถึงคำสอนของพุทธ ซึ่งสำคัญมาก ที่ว่า หลังจากพุทธจากโลกนี้ไปแล้ว จะให้ใครเป็นพระศาสดา พุทธก็ตอบเลยว่า พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ได้มอบให้ใครเลยนะ ทั้งๆที่ผมเข้าใจว่าณ เวลานั้นพระผู้ทรงอภิญญามากกว่าสมัยนี้มากก็น่าจะมีอยู่มากกว่าสมัยนี้เยอะ พุทธไม่มอบให้ใครเลย ท่านตั้งใจให้เรายึดคำสอนของท่านเป็นหลัก

ที่คุณกบนอกกะลาบอกว่า "หากเรากำลังละการทำบาปทำกรรม..แต่ผลก็คอยแต่กังวล..ว่าไอ้นี้ก็บาป..ไอ้นั้นก็บาป...ใจกลับไม่สงบ...ก็แสดงว่า..สิ่งที่เรากำลังทำอยู่..ยังถูกไม่หมด...คือยังมีส่วนผิดอยู่...นั้นเอง"
ถูกไม่หมดยังไงหล่ะครับ ถ้าทำบาปก็สมควรที่่จิตใจจะไม่สงบ ก็ถูกแล้วนี่
โอ้ยยยยย อะไรกันนี่

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 เม.ย. 2011, 21:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

:b32: :b32: :b32: ...หุ..หุ..หุ

อย่าเพิ่งด่วนปวดหัว..ซิครับ

ใจเย็น ๆ ... :b12:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 28 เม.ย. 2011, 21:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเป็นบาปหรือเปล่าครับ

wakeup เขียน:
อ่านข้างบนแล้วก็เกิดความรู้สึกขึ้นว่า มันเพี้ยนๆกันไปแล้วหรือนี่กับคำสอนของพระพุทธเจ้า คือเห็นคุณกบนอกกะลาก็มีตั้ง4ดาวด้วยนะเนี๊ยน่าจะเป็นคนสนใจธรรมมากระดับหนึ่งเลย แต่มาแนะนำที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น


ต่อให้มีพันดาว...เมื่อยังไม่ถึงที่สุด...มันก็ผิดกันได้

นับประสาอะไรกับ 4 ดาว.. :b9: :b32: :b32:

หน้า 1 จากทั้งหมด 7 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/