วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 17:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 08:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 07:54
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


เวลาทำบุญต้องตั้งใจอธิษฐานรึเปล่าครับ ถ้าไม่ทำได้รึเปล่าครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


อันที่จริงไม่ต้องตั้งกระทู้ก็ได้นะคะ
ลองเสริชหาในกูเกิ้ล หรือกระทู้ก่อนๆ ดูก็น่าจะมีอยู่

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ จขกท. ทำบุญเพื่ออะไรละคะ
ถ้าทำบุญเพื่อสละออกซึ่งความตระหนี่ เพื่อบำรุงศาสนา ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ลอกมาให้อ่านค่ะ

การอธิษฐานหลังทำบุญควรทำหรือไม่

อ่านต่อ : http://my.dek-d.com/me_dasie/blog/?blog ... z1Ca1CMVIc

เคยเห็นคนที่ทำบุญแล้วขอให้รวยทันตาเห็น

หรือคนที่ขอให้สวยหยดย้อยราวกับเทพธิดาบ้างหรือเปล่าคะ

ถ้าเคยก็ขอถามต่อว่าตัวคุณเคยอธิษฐานขอแบบนั้นบ้างหรือเปล่า



ที่เริ่มต้นด้วยประโยคคำถามเช่นนี้

เพราะอยากชี้ให้เห็นคุณและโทษของการอธิษฐานหลังทำบุญเสร็จคะ



ถ้ากล่าวกันตามจริงแล้วก็ต้องยอมรับว่าการอธิษฐานหลังทำบุญทำทานเสร็จนั้น

ทางพุทธเราเชื่อว่ามีอยู่จริง และได้ผลตามที่ขอจริง

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่าสิ่งที่ขอนั้นตรงกับเหตุที่ทำและมีอานิสงค์เพียงพอต่อการให้ผลหรือไม่



และแม้ไม่อธิษฐานเลยก็ใช่ว่าเราไม่ได้ผลบุญนั้นนะคะ

ผลบุญนั้นย่อมมีอยู่ และจะให้ผลแก่เราตราบเท่าที่กำลังบุญนั้นยังไม่หมดแรง

แต่พระท่านเคยเปรียบให้ฟังว่า เหมือนเราปล่อยน้ำทิ้ง

น้ำย่อมไหลออกอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าน้ำย่อมกระจัดกระจาย

และให้ผลได้ไม่เหมือนที่เราต้องการ ถ้าเราอธิษฐานกำกับ

ผลของบุญก็จะได้ตามที่เราต้องการ เปรียบกับน้ำที่เราปล่อยทิ้งนั้น

ย่อมไหลไปในทางที่เราต้องการคะ




ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่าอธิษฐานอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อธิษฐาน

คำตอบคือ อธิษฐานด้วยความไม่โลภ เพราะความโลภเป็นด้านตรงข้ามกับเจตนาที่ดีในการทำบุญคะ




การทำบุญคือการทำประโยชน์ให้ผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยทรัพย์หรือกำลังก็ตาม

สิ่งที่ได้คือ จิตใจที่คิดแต่จะสละออก และความปลื้มใจทั้งก่อนทำ ขณะทำและหลังทำบุญคะ

เพราะฉะนั้นความตระหนี่เกิดให้เกิดความคับอกคับใจขนาดไหน

ความคิดให้ก็เป็นขั้วตรงข้ามที่ทำให้จิตใจของเราเปิดกว้างออกเท่านั้นคะ



เมื่อเราทำบุญแล้วอธิษฐานขอให้รวยขอให้สวยขอให้เก่ง

จิตที่มีความโลภขณะขอนั้น จะทำให้เราเกิดโรคทางใจ คือแทนที่จะละความหวง

กลับได้ความอยากเพิ่มขึ้นอีก

และแม้จะสวยรวยเก่งตามที่ขอ

ก็จะสวยรวยเก่งแบบไม่เป็นสุขนัก เพราะได้ของแถมเป็น

ความอยากได้เพิ่มขึ้นแบบไม่มีที่สิ้นสุดคะ



ทางที่ดีการอธิษฐานควรขอผลทางใจหรือความคืบหน้าในความดีที่ได้ทำยิ่งๆขึ้นไป

เช่น ด้วยทานที่ข้าพเจ้าทำไว้ชอบแล้วขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นในทานและศีลยิ่งๆขึ้นไป

หรือ ขอให้ข้าพเจ้าลดความตระหนี่ลงได้ หรือขอให้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ทำบุญยิ่งๆขึ้นไป

เป็นต้น เมื่ออธิฐานให้เราเดินในหนทางบุญอันส่งผลให้สุขใจแบบต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ

ก็เท่ากับว่าเราปิดกั้นหนทางบาปที่จะนำแต่ความเดือดร้อนมาให้คะ



ก่อนที่คิดจะอธิษฐานเช่นนี้ได้ จะต้องมีใจเชื่ออยู่ก่อนว่าผลของทานมีจริง

บาปบุญมีจริง ทำบุญแล้วได้ผลคือความสุขใจในปัจจุบัน และจะเป็นประกัน

ให้อุ่นใจว่า ในอนาคตถ้าเราไม่ประมาท ผลของบุญย่อมช่วยเราให้เป็นสุขได้เสมอ



ถ้าไม่เชื่อว่าบุญมีจริง คราวหน้าถ้าทำบุญใหญ่ๆ เช่น ถวายของแด่พระสงฆ์

ก็ลองอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูปดูนะคะ ว่าด้วยบุญที่ข้าพเจ้าช่วยทำนุบำรุงพระศาสนา

ขอให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ในเร็ววันด้วยเถิดว่าบุญมีจริงบาปมีจริงเจ้าค่า


.............................. :b51: :b46: :b53:

อันที่จริงความหมายของคำว่าอธิษฐาน ไม่ใช่การขอ แต่คือ การตั้งใจมั่นว่าจะกระทำสิ่งใดต่างหาก
ซึ่งหากอธิษฐานด้วยกุศลจิตก่อน ขณะ หรือหลังการทำบุญ ก็จะยิ่งมีแรงผลักดันที่ดีให้สัมฤทธิ์ผล

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


อธิษฐานหรือไม่อธิษฐานก็ได้

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ
๑. บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคทาน (ทานมัย)
๒. บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย)
๓. บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย )
๔. บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย)
๕. บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย)
๖. บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย)
๗. บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย)
๘. บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย)
๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย)
๑๐. บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ม.ค. 2011, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue สวัสดึค่ะ คุณจขกท

การทำบุญนั้น ถ้าทำด้วยใจที่เป็นกุศล ย่อมได้รับผลเป็น "บุญ" สั่งสมไว้ในดวงจิต
การอธิษฐาน คือการตั้งจิตขอร้องต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เพื่อผลอย่างใดอย่างหนึ่ง การอธิษฐานต้องทำ "เหตุ" ให้ตรงจึงจะได้ผลสมปรารถนา
การอธิษฐานไม่ควรเป็นไปเพื่อเอากิเลสมาทับถมใจ ผู้รู้ย่อมไม่นิยมทำเช่นนั้น
ตรงกันข้าม ผู้รู้นิยมอธิษฐานเกิดมาพบพระพุทธศาสนา และมีสัมมาทิฏฐิ
มีปัญญาเห็นแจ้ง มีดวงตาเห็นธรรม ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นการ อธิษฐานเพื่อ
นำพาชีวิตพ้นไปจากความทุกข์ แต่ที่สำคัญต้องทำเหตุให้ตรง
จึงจะสมปรารถนาตามคำอธิษฐาน :b41: :b41:

ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม :b8:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2011, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ต.ค. 2008, 21:45
โพสต์: 11


 ข้อมูลส่วนตัว


"เวลาทำบุญต้องตั้งใจอธิษฐานรึเปล่าครับ ถ้าไม่ทำได้รึเปล่าครับ"

(ความเห็น)...การตั้งใจที่จะทำบุญคือการ"ให้"...ส่วนการตั้งใจอธิฐานนี่ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วยคำว่า "ขอ"...ดังนั้น ควรพิจารณาว่า ตั้งใจจะ "ให้" หรือตั้งใจจะ "ขอ"...

หมายเหตุ...การให้ คือ การละซึ่ง"ความเห็นแก่ตัว"...ส่วนการ"ให้"เพื่อ "ขอ" ก็กลับเข้าสู่ความเห็นแก่ตัว :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2011, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


viewtopic.php?f=7&t=36575&p=245097#p245097

อ้างคำพูด:
การอธิษฐานจิตนั้นท่านแปลว่าการตั้งจิตให้แน่วแน่มั่นคง หรือการ ตั้งใจเด็ดเดี่ยว แต่ในภาษาไทย อธิษฐานมีความหมายเพี้ยนไป กลายเป็นว่า อ้อนวอนปรารถนา

ในภาษาพระ "อธิษฐาน" แปลว่า ตั้งมั่น ทำให้เด็ดเดี่ยว คือตั้งจิตเด็ด เดี่ยว ใครที่จะทำอะไรอย่างเอาจริงเอาจังมุ่งมั่นที่จะให้สำเร็จ มักจะต้อง อธิษฐานจิต คือตั้งใจเด็ดเดี่ยวแต่เริ่มต้น ว่าเราต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ ให้ถึงจุดหมายอย่างแน่นอน


น่าเสียดายปัจจุบันยังมีพุทธศาสนิกชน เข้าใจไขว้เขวถึงความหมายของคำว่า "อธิษฐาน" อยู่มาก
สาเหตุที่ท่าน จขกท. ตั้งกระทู้ถามนี่ เพราะเกรงว่าจะเป็นการ "ขอ" ใช่มั้ยคะ

ลองอธิษฐานแบบนี้ดู
อ้างคำพูด:
ขออานิสงส์ผลบุญนี้ส่งผลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายสมความปรารถนา
ในสิ่งที่เป็นความปรารถนาอันดีงามทุกประการเทอญ...สาธุ


ทุกครั้งที่ทำบุญสร้างกุศล ดิฉันก็อธิษฐานค่ะ แต่ไม่เคยขอให้....รวย หรืออะไรทำนองนี้
อธิษฐานขอให้มีสุขภาพดี (ก็หมั่นดูแลสุขภาพ) ขอให้มีกำลังกายและใจเพียงพอที่จะทำบุญ ศึกษา ปฏิบัติธรรม เมื่อสละทาน สละทรัพย์ ก็อธิษฐานจิตขอทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงมั่นสืบไป เกิดชาติหน้าก็ขอให้อย่าได้ขาดกำลังทรัพย์เพื่อทำบุญกุศลน้อยใหญ่
ขอให้พบและได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ทุกชาติไปจนเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน (โดยการน้อมนำใจศึกษาปฏิบัติ) เช่น ชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ แนะนำชักชวนเพื่อนฝูงที่รักใคร่นับถือไปปฏิบัติธรรม เป็นต้น

ในความเห็นส่วนตัว การอธิษฐาน เป็นการสร้างกำลังใจให้กับตัวเองอย่างหนึ่ง
อธิษฐานบ่อยๆ ระลึกถึงบ่อยๆ เตือนตัวเองให้เร่งขวนขวายปฏิบัติ
อธิษฐานแทบตาย หากไม่ปฏิบัติ เทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็คงไม่ช่วย

รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.พ. 2011, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 21:56
โพสต์: 56

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Bwitch เขียน:
คุณ จขกท. ทำบุญเพื่ออะไรละคะ
ถ้าทำบุญเพื่อสละออกซึ่งความตระหนี่ เพื่อบำรุงศาสนา ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ลอกมาให้อ่านค่ะ

การอธิษฐานหลังทำบุญควรทำหรือไม่

อ่านต่อ : http://my.dek-d.com/me_dasie/blog/?blog ... z1Ca1CMVIc

เคยเห็นคนที่ทำบุญแล้วขอให้รวยทันตาเห็น

หรือคนที่ขอให้สวยหยดย้อยราวกับเทพธิดาบ้างหรือเปล่าคะ

ถ้าเคยก็ขอถามต่อว่าตัวคุณเคยอธิษฐานขอแบบนั้นบ้างหรือเปล่า



ที่เริ่มต้นด้วยประโยคคำถามเช่นนี้

เพราะอยากชี้ให้เห็นคุณและโทษของการอธิษฐานหลังทำบุญเสร็จคะ



ถ้ากล่าวกันตามจริงแล้วก็ต้องยอมรับว่าการอธิษฐานหลังทำบุญทำทานเสร็จนั้น

ทางพุทธเราเชื่อว่ามีอยู่จริง และได้ผลตามที่ขอจริง

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่าสิ่งที่ขอนั้นตรงกับเหตุที่ทำและมีอานิสงค์เพียงพอต่อการให้ผลหรือไม่



และแม้ไม่อธิษฐานเลยก็ใช่ว่าเราไม่ได้ผลบุญนั้นนะคะ

ผลบุญนั้นย่อมมีอยู่ และจะให้ผลแก่เราตราบเท่าที่กำลังบุญนั้นยังไม่หมดแรง

แต่พระท่านเคยเปรียบให้ฟังว่า เหมือนเราปล่อยน้ำทิ้ง

น้ำย่อมไหลออกอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าน้ำย่อมกระจัดกระจาย

และให้ผลได้ไม่เหมือนที่เราต้องการ ถ้าเราอธิษฐานกำกับ

ผลของบุญก็จะได้ตามที่เราต้องการ เปรียบกับน้ำที่เราปล่อยทิ้งนั้น

ย่อมไหลไปในทางที่เราต้องการคะ




ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่าอธิษฐานอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อธิษฐาน

คำตอบคือ อธิษฐานด้วยความไม่โลภ เพราะความโลภเป็นด้านตรงข้ามกับเจตนาที่ดีในการทำบุญคะ




การทำบุญคือการทำประโยชน์ให้ผู้อื่นไม่ว่าจะด้วยทรัพย์หรือกำลังก็ตาม

สิ่งที่ได้คือ จิตใจที่คิดแต่จะสละออก และความปลื้มใจทั้งก่อนทำ ขณะทำและหลังทำบุญคะ

เพราะฉะนั้นความตระหนี่เกิดให้เกิดความคับอกคับใจขนาดไหน

ความคิดให้ก็เป็นขั้วตรงข้ามที่ทำให้จิตใจของเราเปิดกว้างออกเท่านั้นคะ



เมื่อเราทำบุญแล้วอธิษฐานขอให้รวยขอให้สวยขอให้เก่ง

จิตที่มีความโลภขณะขอนั้น จะทำให้เราเกิดโรคทางใจ คือแทนที่จะละความหวง

กลับได้ความอยากเพิ่มขึ้นอีก

และแม้จะสวยรวยเก่งตามที่ขอ

ก็จะสวยรวยเก่งแบบไม่เป็นสุขนัก เพราะได้ของแถมเป็น

ความอยากได้เพิ่มขึ้นแบบไม่มีที่สิ้นสุดคะ



ทางที่ดีการอธิษฐานควรขอผลทางใจหรือความคืบหน้าในความดีที่ได้ทำยิ่งๆขึ้นไป

เช่น ด้วยทานที่ข้าพเจ้าทำไว้ชอบแล้วขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นในทานและศีลยิ่งๆขึ้นไป

หรือ ขอให้ข้าพเจ้าลดความตระหนี่ลงได้ หรือขอให้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ทำบุญยิ่งๆขึ้นไป

เป็นต้น เมื่ออธิฐานให้เราเดินในหนทางบุญอันส่งผลให้สุขใจแบบต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ

ก็เท่ากับว่าเราปิดกั้นหนทางบาปที่จะนำแต่ความเดือดร้อนมาให้คะ



ก่อนที่คิดจะอธิษฐานเช่นนี้ได้ จะต้องมีใจเชื่ออยู่ก่อนว่าผลของทานมีจริง

บาปบุญมีจริง ทำบุญแล้วได้ผลคือความสุขใจในปัจจุบัน และจะเป็นประกัน

ให้อุ่นใจว่า ในอนาคตถ้าเราไม่ประมาท ผลของบุญย่อมช่วยเราให้เป็นสุขได้เสมอ



ถ้าไม่เชื่อว่าบุญมีจริง คราวหน้าถ้าทำบุญใหญ่ๆ เช่น ถวายของแด่พระสงฆ์

ก็ลองอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูปดูนะคะ ว่าด้วยบุญที่ข้าพเจ้าช่วยทำนุบำรุงพระศาสนา

ขอให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ในเร็ววันด้วยเถิดว่าบุญมีจริงบาปมีจริงเจ้าค่า


.............................. :b51: :b46: :b53:

อันที่จริงความหมายของคำว่าอธิษฐาน ไม่ใช่การขอ แต่คือ การตั้งใจมั่นว่าจะกระทำสิ่งใดต่างหาก
ซึ่งหากอธิษฐานด้วยกุศลจิตก่อน ขณะ หรือหลังการทำบุญ ก็จะยิ่งมีแรงผลักดันที่ดีให้สัมฤทธิ์ผล


ผู้เจริญในธรรม นำพาซึ่งความจริง ไม่เคร้าหมอง สว่าง สะบายใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.พ. 2011, 06:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


บาป อยู่ที่เจตนา
บุญ ก็น่าจะอยู่ที่เจตนา เช่นกัน
การทำบุญ ที่แล้วสักแต่ว่าทำ ไม่ได้เจตนา ...............ระวังจะไม่เป็นบุญ เป็นแค่กิริยา
ดุจดัง พระอรหันต์ ไม่ทำบุญไม่ทำบาป ไม่ว่าทำอะไร เป็นแค่กิริยา

การเดินๆ ไปแล้วทำอาหารหล่น เราก็เดินพ้นไป สุนัขมาถึง เห็นอาหารก็กินอย่างดีอกดีใจ
เราได้บุญหรือไม่............................?????????

เราแค่ทำอาหารหล่น ..............เท่านั้น (น้ำไหลไปแล้ว เราเปิดก๊อกแล้ว)
เราไม่ได้มีเจตนาให้อาหารนี้ กับใคร ผู้ใดทั้งสิ้น แค่ทำหล่น

แต่อาหารนั้นได้ทำให้สุนัขหลายตัว หายหิว พ้นจากความทุกข์ทรมาน คือความหิว

เราได้บุญหรือไม่...

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 54 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร