ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

อย่าเพ่งโทษครูบาอาจารย์ โดย ภูเตศวร บทความเตือนใจนักภาวนา เพ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=33876
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  thepkere [ 16 ส.ค. 2010, 15:13 ]
หัวข้อกระทู้:  อย่าเพ่งโทษครูบาอาจารย์ โดย ภูเตศวร บทความเตือนใจนักภาวนา เพ

หลาย วันมานี้มีโทรศัพท์มามากมาย
ถามถึงเรื่องราวของครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ที่กำลังมีชื่อเสียงในแวดวงสอนพระกรรมฐาน
ผู้เขียนเองไม่เคยได้กราบท่าน หรือรู้จักท่านโดยส่วนตัวมาก่อน
หากเคยได้ฟังบรรยายธรรมจากสื่อซีดีมา บ้างเล็กน้อย
และเคยอ่านหนังสือ "ทางเอก" หนังสือที่ท่านเขียนนานมาแล้ว

คำ ถามส่วนใหญ่ที่ลูกศิษย์ลูกหาอยากรู้
คือความเห็นของผู้เขียนต่อแนวทาง การ สอนของท่าน ...
ก็ได้แต่ตอบสั้น ๆ "หลวงปู่พรมก็สอนอย่างนั้น"
หลวง ปู่พรม พรหมโชโต คือครูบาอาจารย์ที่ผู้เขียนเคารพนบนอบอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม
ที่คณะศรัทธาทมยันตี - ภูเตศวร ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี 2541
สมัยท่านเป็นฆราวาส เคยเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่บัว สิริปุณโณ มานานหลายปี

จำได้ว่าหลายปี ที่ผ่านมา หลวงปู่พรมได้ปรารภกับผู้เขียนในวันหนึ่ง

"คนทำงานอย่าง แม้ว มักหาโอกาสนั่งภาวนาได้ยาก
ปู่จะแนะวิธีปฏิบัติง่าย ๆ ให้นะ"

หลัง จากนั้นท่านก็สอนให้เจริญสติด้วยการสังเกตอาการของจิต
อะไรที่กระทบ และจิตรู้สึกอย่างไรให้ "รู้" ตามนั้น

เช่น โกรธ ก็ให้ตามรู้ว่า โกรธ รักให้รู้ว่ารัก เกลียดให้รู้ว่าเกลียด
เกิดราคาก็รู้ว่าเกิดราคะ ฯลฯ

ไม่เพียงหลวงปู่จะย้ำว่า ทำไปเรื่อยสติของเราจะกล้าขึ้นไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
ท่านยังรับรองว่า ...
"เป็นการปฏิบัติที่ลัดเลาะตัดตรง ที่สุด"
เพราะตรงกับสิ่งที่ท่านเคยสอนมานาน

"ทุกอย่างอยู่ที่จิต ใจดวงนี้ จะนรกสวรรค์
หรือ พระนิพพานอยู่ที่ใจดวงนี้เท่านั้น"

เมื่อ เป็นเช่นนี้ ก็คือบทสรุปของคำตอบของผู้เขียนที่ชัดเจนว่า
แนวทางของครู บา อาจารย์รูปนั้นเป็นอย่างไร

เมื่อได้คำตอบเช่นนั้น หลายท่านก็เลยขยายความต่อถึงเรื่องราววุ่น ๆ ที่ว่า
เวลานี้มีกระแสโจมตี ออกมามากมายหลายประเด็น
และอยากให้ภูเตศวรแสดงความคิดเห็นบ้าง

"อย่า เพ่งโทษครูบาอาจารย์"
ผู้เขียนตอบสั้นตามที่เคยเรียนรู้มา
เพราะ ปฏิปทาข้อวัตร ข้อปฏิบัติของครูบาอาจารย์แต่ละรูป แต่ละองค์
ย่อมมีข้อ ผิดแผกแตกต่างกันไปตามวาสนาบารมี
เราไม่รู้ภูมิธรรมของท่านว่าท่านอยู่ ระดับไหน ...

"ไปเพ่งโทษท่านระวังจะลงนรก"

ถึงตรงนี้ก็เลยขอ ยกตัวอย่างบางเรื่องมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจพวกเรากันบ้าง
เรื่องนี้มาจากปาก คำของคุณอนุชิต ปุรสาชิด
ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล
วัด ป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี

วันหนึ่งหลวงปู่บุญจันทร์ พาพระลูกวัดเดินทางไปกราบครูบาอาจารย์
เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต ก่อนออกเดินทางท่านก็คอยพร่ำบอกลูกศิษย์
กรณี "เพ่งโทษ" ครูบาอาจารย์ว่า "อย่าทำ อย่าทำ"

ครูบาอาจารย์องค์แรกที่หลวงปู่บุญจันทร์พาไปคารวะ คือ
หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
จากนั้นมุ่งไปวัดนิโครธาราม จ.หนองบัวลำภู ที่ไม่ไกลจากวัดถ้ำกลองเพลนัก
เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่ อ่อน ญาณสิริ
ว่ากันว่าวันที่ไปถึง หลวงปู่อ่อนท่านนุ่งผ้าสบง กับอังสะผืนเดียวนั่งเหลาไม้ทำกลดอยู่
เมื่อหลวงปู่บุญจันทร์มาถึง และกราบคารวะหลวงปู่อ่อน
ท่านก็เอาจีวรมาพาดบ่าแล้วรับไหว้

มีพระ ลูกศิษย์ที่ติดตามหลวงปู่บุญจันทร์ นั่งคิดสงสัย ...

"ก็ไหนใครต่อ ใครบอกว่าหลวงปู่อ่อนสำเร็จภูมิธรรมชั้นสูงแล้ว
แต่ทำไมไม่มีมารยาทเลย
หลวง ปู่เรานุ่งห่มเรียบร้อยมากราบ
แต่ท่านรับไหว้ไม่เรียบร้อยอย่างนั้นจะ ถูก หรือ?"

คิดเพ่งโทษปุ๊บ หลวงปู่อ่อนก็หันมาปั๊บ ท่านเอ่ยคำทันควัน

"ไอ้ พวกตาเนื้อ ตาเน่า จะไปรู้อะไร
ดีแต่มัว เพ่งโทษครูบาอาจารย์อยู่หรือไง หือ?"

กลับถึงวัด ว่ากันว่าหลวงปู่บุญจันทร์ เรียกพระรูปนั้นมาเทศน์อบรมกัณฑ์ใหญ่
ถึงบาป กรรมในการเพ่งโทษครูบา อาจารย์
โดยเฉพาะท่านเป็นถึงพระอริยเจ้าว่า ผลกรรมนั้นสาหัส สากรรจ์เพียงใด?

ถึงตรงนี้จึงอยากบอกท่านทั้งหลาย ว่า ...

"รู้ อะไรยังไม่แน่ชัด อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์
อย่าตื่น ข่าวตามคำพูดใคร จะมีโทษมากกว่าคุณ"

ก็ต้องขอบอกตรง ๆ แหละครับ
วันนี้ มีญาติโยม ที่เป็นผู้รู้เยอะเหลือเกิน
โดยเฉพาะตามเว็ปไซด์ต่าง ๆ รู้มาก
จน ถึง ขนาดนั่งวิพากษ์ วิจารณ์ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีศีลถึง 227 ข้อ
ขณะที่ ตัว เองศีล 5 ข้อ ยังกะพร่อง กะแพร่งเลยครับ
พวกตามแห่ก็เลยร่วมแจมกัน มันหยด ...
หารู้ไม่ไฟนรกลุกโชติอยู่บนหัวทุกวันโดยไม่รู้ตัว

เมื่อ มี ปุจฉามา ...
ก็ต้องวิสัชนาไปตามปัญญาขี้เท่อไปตามการณ์ละครับ
สำหรับ ความเห็นของภูเตศวร คือ ...


"ถ้ามีใครสักคนสอนให้คนถือศีล ... ฝึกสติ
นำพาผู้คนที่จมอยู่แต่กิเลส มาขัดเกลาให้ดีขึ้น ..
ผู้นั้นมี คุณประโยชน์กับชาติ และพระศาสนา
มีค่าควรกราบไหว้บูชา"

สำหรับ การ ดักจิต ดักใจ สอบอารมณ์ลูกศิษย์ลูกหานั้น
ใครคิดอย่างไรไม่รู้
แต่ เป็นสิบ ๆ ปีที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์ของภูเตศวร
ใช้กระหนาบลูกศิษย์ดื้อ ๆ อย่างเรามานานแล้ว
และเราเชื่ออย่างสุดหัวใจ
ครูบาอาจารย์เก่ง ๆ อย่างนี้มีในเมืองไทยเยอะ

ขนาดท่านรู้ ท่านสอนอย่างนั้น
ทุก วันนี้กิเลสมันยังกดหัวเราซะจนโงไม่ขึ้นเลย

อยากเพิ่มเติมอีกนิดคือ เรื่องของการปฏิบัติเพื่อก้าวสู่ความพ้นทุกข์
อันนี้พระพุทธเจ้าท่านก็ ทรงตรัสไว้ชัดเจนว่า เป็นไปตามจริตนิสัยของแต่ละบุคคล
อันไหนทำแล้วก้าว หน้า ละวางกิเลส .. มีปัญญาได้เร็ว ก็ทำตามนั้น
ถ้าวิธีการของตนไม่ เหมือนของคนอื่น ก็มิได้หมายความว่าของคนอื่นไม่ดีจริงไหม

สำหรับ ภูเตศวร หลวงปู่เสน ปัญญาธโร ท่านย้ำอยู่เสมอ ...

"เอาแต่โลกธรรมแปด นี่แหละ เข้าใจมัน
อยู่เหนือมันให้ได้ ก็พอได้อาศัยแล้ว"

ทุก วันนี้ก็เลยนึกขึ้นได้ ...
แค่อนุโมทนากับความดีที่ผู้อื่นทำ
และไม่ ริษยาความดีมีชื่อเสียงของผู้อื่น
คนเรามันยังทำยากเลย

... เพราะเมตตาธรรมค้ำจุนโลกมันเหลือน้อย ...

จึงอยากฝากทุกคนว่า ควรหมั่นเจริญเมตตาให้มาก ๆ
โลกปัจจุบันจะได้เย็นขึ้นบ้าง
ถ้าไม่ เหลือบ่าฝ่าแรงละก็ ให้ละแล้วต่อกันเถิด
เพราะไฟพยาบาทที่ "เผาใจ"
มัน ร้อนกว่า "ไฟนรก" นะโยม

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/