วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 15:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 04:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 03:10
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ในฐานะผู้เริ่มปฎิบัติธรรมใหม่ เริ่มเข้ามาหาความรู้ในเว็บต่างๆ ส่วนมากหากเข้ามาในกระทู้สนทนาทีไร มักไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากมักมีบทความหรือข้อคิดเห็นของผู้อวดรู้(คิดมาก,ฟุ้งเฝ้อ) มาถกเถียงกันหาข้อยุติไม่ได้ ทำตัวเหมือนนักกฎหมายที่ตีความธรรมะเข้าข้างตัวเองเสมอ อยากให้พุทธศานิกชนพึงสำนึกไว้ ว่าเราควรใช้วัจนะธรรมที่ถูกต้อง ชี้แจงให้ผู้สงสัยในธรรมนั้นได้รู้ดีกว่า อย่าใช้มิจฉาทิฐิส่วนตัวมากล่าวอ้างบิดเบียนในธรรมนั้นเลย อ่านธรรมะในหน้าสนทนารู้สึกตัวเองช่างไกลกับพระพุทธเจ้าเหลือเกิน ใช้คำที่เข้าใจยาก?สับสนกับความเห็นที่หลากหลาย(อจินไตย) และที่รับไม่ได้สุดคือใช้พุทธวัจนะหรือหลักทำคำสอนในการการเสียดสีดูถูกดูแคลนกัน นี่หรือพุทธศาสนิกที่ดีควรทำกัน ช่วยลดจิตใจในการเอาชนะกันเถอะครับ อ่านมาตอบหรือจำมาตอบ? ยังดีและน่านับถือกว่า นั่งเทียนมาตอบ? แม้จะผูกถ้อยคำได้สระสรวยน่าฟังเพียงใด ก็ไม่ต่างจากน้ำหวานที่เคลือบอยู่บนยาพิษฉันนั้น วิสัยเราก็แค่มนุษย์(สัตว์ชนิดนึงที่ฝึกได้เท่านั้น) ต้องฝึกฝนเพื่อให้จิตใจสูงขึ้นไปครับ อย่าเอาแต่รู้ธรรมมากแค่กระพี้ แล้วปรุงแต่งก็แค่ฉาบกายว่าตัวเองดีแล้วยอดแล้วเถอะ ผ้าขาวห่อกายก็เน่าได้เหม็นได้เหมือนกับผ้าสีดำหรือไหนๆไม่ต่างกัน ดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ภายนอก ลองถามด้วยจิตที่ไม่ปรุงแต่งด้วยความคิดแบบธรรมชั้นสูง(ฟุ้งเฟ้อ,เฟ้อเจ้อ) ดูว่า ธรรมะคืออะไร? ธรรมชาติใช่ไหม? แล้วทำไมธรรมมะมันเข้าใจยากจังฟ๊ะ??

ผมเคยบวชเณรตามพระบิณฑบาตร เห็นลุงคนนึงใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวก้อนกับกล้วยทุกวันๆ พวกผมจะอมยิ้มนึกขำอยู่เสมอ แล้วเปรยกับหลวงตาติดตลกไปว่า "ทำบุญแค่นี้จะได้อะไรอ่ะท่าน? ถ้าแกตายไปคงกินกล้วยอย่างเดียวเลยนะขอครับ" หลวงตาถามตอบว่า "เอ็งล่ะทำอะไร?" "???" "อย่าคิดว่าเราบวชแล้วเห็นว่าเขากราบไว้ จะมาหลงตัวเองว่าสูงส่งกว่าผู้อื่นนะ เราคือภิกษุ แปลว่าผู้ขอ เขาให้เราเพื่อให้เราได้มีชีวิตสืบสานศาสนาต่อไป ลองคิดดูสิว่าจิตใจชาวบ้านตาสีตาสา กับพระเณรอย่างเอ็งที่รู้ธรรมมากกว่า ใครจะจิตใจสูงกว่ากัน"

ใช่ครับหลวงตา.."สิ่งที่เราคิดว่ารู้ จริงๆแล้วเราไม่ได้รู้อะไรเลย"

"ควรเคารพกันที่จิตใจที่ดีงาม มากกว่าภาพลักษณ์ที่ดีงาม" หลงวันนี้...วันไหน..จะถึงนิพพาน


แก้ไขล่าสุดโดย anisa2521 เมื่อ 30 พ.ค. 2010, 05:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แล้วทำไมธรรมมะมันเข้าใจยากจังฟ๊ะ??


ที่เข้าใจง่ายๆก็มี เช่น ถึงวันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ หิ้วปิ่นโตหาบสำรับไปวัดทำบุญ ฟังพระสวดอิติปิโส พาหุง มหากา
ลงจากศาลาใส่บาตรประจำวัน หากวัดติดแม่น้ำ ก็เอาอาหารเลี้ยงปลา ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนรู้ไม่ทะเลาะ คนทะเลาะเพราะไม่รู้.

หลักธรรมคำสอนของพระศาสดา ทรงมีหลากหลายวิธีในการเข้าถึงธรรม และเพราะมนุษย์มีหลายจำพวก จะใช้หลักธรรมเดียวกันให้ถึงเหมือนกันยังไม่ได้.แม้แต่พระสาวกแต่ละรูปยังตรัสสอนให้บรรลุธรรมด้วยพระสูตรคนล่ะอย่าง

มีหลักธรรมถึง 84000 วิธีที่ให้เหมาะกับอุปนิสัยของแต่หมู่เหล่ามิใช่หรือ. [b]"อุปมาดังฝนที่ตกไปทั่วฟ้า ตกลงมาบนดินจนชุ่มเสมอกันแล้ว.แต่เมล็ดของต้นถั่วเชียวก็ไม่ได้โตเท่าเมล็ดของต้นสนเลยแม้ว่าจะได้น้ำเท่ากันไม่ว่ากาลใด คนก็เช่นกันถ้าท่านรู้ว่าเขาทะเลาะก็พึงนิ่งเสียทำตนให้สงบก็เพียงพอแล้วเพราะพึงรู้ว่านี้เป็นธรรมชาติของคน".[/b]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ทำไมธรรมมะมันเข้าใจยากจังฟ๊ะ??


ที่เข้าใจยากก็มี เช่น ที่

เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ ก่อนที่จะประกาศธรรม ได้ทรงมีพุทธดำริว่า

“ธรรมที่เราเข้าถึงแล้วนี้ ลึกซึ้ง เห็นยาก หยั่งรู้ตามยาก สงบ ประณีต ตรรกะหยั่งไม่ถึง ละเอียดอ่อน

เป็นวิสัยที่บัณฑิตจะพึงทราบ”

“ธรรมเราเข้าถึงโดยยาก เวลานี้ ไม่ควรประกาศ ธรรมนี้มิใช่สิ่งที่สัตว์ผู้ถูกราคะโทสะครอบงำจะรู้เข้าใจง่าย

สัตว์ทั้งหลายผู้ถูกราคะย้อมไว้ ถูกกองความมืดคืออวิชชาห่อหุ้ม จักไม่เห็นภาวะที่ทวนกระแส ละเอียดอ่อน

ลึกซึ้ง เห็นยาก ละเอียดยิ่งนัก”

ธรรมในที่นี้ หมายถึง ปฏิจจสมุปบาท และนิพพาน (จะว่าอริยสัจจ์ 4 ก็ได้ใจความเท่ากัน)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้นี้ตรงกับใจผมเลยครับ

ต่างคนต่างยึดถือเอาทิฐิตัวเอง ทิฐิของอาจารย์ สำนักอาจารย์ตนเองเป็นใหญ่

ความจริงใครจะศรัทธาอย่างไรไม่ผิดหรอกครับเป็นเรื่องธรรมชาติ

ใรที่ศรัทธาแล้วอยากแบ่งความศรัทธาให้ผู้อื่นก็ไม่ผิด

แต่ที่ผิดคือพวกที่หาพวกให้เกลียดชังอาจารย์หรือสำนักอาจารย์ที่ตนไม่ชอบ อย่างนี้ถือว่าไม่ถูก

เป็นการสร้างความแตกแยกแน่นอน

แต่ที่เวปนี้ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างนี้น้อยมาก

อีกพวกหนึ่งคือผู้ที่ปริยัติมา

รู้เรื่องพระไตรปิฎกมากกว่าคนทั่วไป

เวลาสนทนาจะต้องพระไตรปิฎกแป๊ะๆ

ผมเห็นว่าท่านอรหันต์ที่บรรลุธรรมต่างมีความเชี่ยวชาญมีทักษะในด้านที่แต่ละท่านถนัดเป็นปัจเจกบุคคล

สมมุติมีใครไปขอคำแนะนำจากท่านผมคิดว่าบางท่านคงอธิบายให้เข้าใจได้ยาก

เพราะบางท่านไม่ทักษะในการอธิบาย

สู้พวกที่ปริยัติมาและมีทักษะในทางการบรรยายไม่ได้

ฉนั้นการมีความสามารถในการบรรยายอธิบายความจึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องวัดคุณธรรมของบุคคลได้

ผมเคยเขียนโพสตเอาไว้ว่า

ที่ลานธรรมจักรแห่งนี้ผมเชื่อว่ามีอริยบุคคลอยู่

ตอนนี้ก็ยังเชื่อ

ท่านเหล่านั้นอาจจะมีความรู้เรื่องพระไตรปิฎกไม่มาก

แสดงธรรมไม่เก่ง

แต่คุณธรรมท่านสูง

ท่านไม่อวดตัวและไม่เปิดเผยตัว


ผมทราบว่ามีท่านที่ผมคุ้นเคยชื่นชอบหลายท่านอำลาจากไปเพราะเหตุผลตามกระทู้นี้

ผมเองก็ขัดแย้งอย่างรุนแรงกับผู้ที่กล่าวโจมตีครูบาอาจารย์อย่างที่ทุกท่านทราบ

หลายท่านอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผม

ผมต้องขออภัย

แต่ผมถามว่าถ้าเรายอมให้คนพวกหนึ่งสามารถสร้างวาทะกรรมขึ้นมาใส่ร้ายใครง่ายๆ

สังคมจะเหลืออะไรไหม

นอกจากพวกปลิ้นปล้อนและซากปลักหักพัง

สังคมต้องยกย่องคนดีที่ควรยกย่อง

กล้าตำหนิคนกระทำผิด


และไม่ใช่ว่าครูบาอาจารย์เท่านั้นที่เราไม่ควรโจมตีใส่ร้าย

ผมว่ากับทุกคนเก็ไม่ควรทำ


การสนทนาธรรมควรจะเป็นว่าใครมีอะไรมาแบ่งปันกัน

ไม่ใช่

แก่ต้องอย่ากล่าวอย่างนั้น ห้ามพูดอย่างนี้ กล่าวอย่างนั้นไม่ตรงกับอาจารย์ฉันเคยกล่าวหรือฉันเคยรับรู้มา


ผมจะบอกว่า

ความรู้ของพระอรหันต์คือ ยถาภูตญานทัสสนะ คนธรรมดาไม่มีใครเคยรู้หรอก

ใครรู้ก็เห็นแจ้งนิพพาน

วิธีปฏิบัติก็เช่นกัน

ถกเถียงกันมากจนถึงกับสบประมาทกล่าวเยาะเย้ยกระแหนะกระแหน่กัน

ยกตัวอย่าง

สำหรับคำภาวนาที่มีบางท่านใช้หนอเช่น

หายใจเข้า ก็ภาวนาว่าเข้าหนอ

หายใจออก ก็ภาวนาว่าออกหนอ

ก็ถูกนำไปล้อเลียนว่า

เข้าแหน่ ออกแหน่

ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาปฏิบัติธรรมกันด้วยอะไร

ทำไมปฏิบัติธรรมแล้วยังใจแคบ เห็นแก่ตัว ขาดเมตตา

ฉนั้นก่อนสนทนาธรรมวางมานะตนเองลงก่อนจะดีไหม


และอย่าเอามันเอาฮาเข้าว่า

รักษากฎกติกามารยาทให้แข็งแรง

เรื่องนี้อยากยกความดีให้กับคุณชาติสยาม

อะไรผิดลุกขึ้นมาจัดการให้ถูกเสีย อย่าทำเป็นธุระไม่ใช่

โดยไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิใครเขาเท่านั้น

เสรีภาพต้องมีคู้กับความรับผิดชอบ

ขอบคุณครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


anisa2521 เขียน:
ช่วยลดจิตใจในการเอาชนะกันเถอะครับ อ่านมาตอบหรือจำมาตอบ? ยังดีและน่านับถือกว่า นั่งเทียนมาตอบ?

เขาตอบกระทู้ให้นั้นชอบแล้วด้วยประการทั้งปวง...หากจะอ่านมาตอบหรือจำมาตอบหรือมาตอบแบบใดก็แล้วแต่..นั่นไม่สำคัญเพราะนั่นเป็นภูมิปัญญาความรู้ของเขาที่ได้ศึกษา..อ่าน..ฟัง...หรือจากการปฏิบัติมาแสดงความคิดเห็นเข้ามา...อาจจะไม่ถูกใจหรือไม่เข้ากับจริตของ จขกท. เพราะเราๆท่านๆไม่ได้เป็นผู้บรรลุธรรม..ไม่ใช่พระอาจารย์ที่รอบรู้..เพราะฉะนั้นโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านคำตอบด้วยจงอนุโมทนา สาธุ...เขาไปเถิด..รู้ก็สักว่ารู้..เห็นก็สักว่าเห็น.ทุกอย่างมันอยู่ที่จิตเรานี่แหละอย่าให้มีกิเลสเข้ามาก็แล้วกัน
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รวบรวมพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน

พระประจำวันเกิด-อาทิตย์

viewtopic.php?f=23&t=22595


-วันเกิด-จันทร์

viewtopic.php?f=23&t=22597


-วันเกิด-อังคาร

viewtopic.php?f=23&t=22598


-วันเกิด-พุธกลางคืน

viewtopic.php?f=23&t=22605


-วันเกิด-พุธกลางวัน

viewtopic.php?f=23&t=22600

-วันเกิด-พฤหัสบดี

viewtopic.php?f=23&t=22602


-วันเกิด-ศุกร์

viewtopic.php?f=23&t=22603


-วันเกิด-เสาร์

viewtopic.php?f=23&t=22604


เกี่ยวกับถวายสังฆทาน

viewtopic.php?f=23&t=26035

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สำหรับคำภาวนาที่มีบางท่านใช้หนอเช่น

หายใจเข้า ก็ภาวนาว่าเข้าหนอ

หายใจออก ก็ภาวนาว่าออกหนอ

ก็ถูกนำไปล้อเลียนว่า

เข้าแหน่ ออกแหน่


ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาปฏิบัติธรรมกันด้วยอะไร

ทำไมปฏิบัติธรรมแล้วยังใจแคบ เห็นแก่ตัว ขาดเมตตา

ฉนั้นก่อนสนทนาธรรมวางมานะตนเองลงก่อนจะดีไหม




:b1: ขอแก้ข่าวกะท่าน mes หน่อย น่าจะกำลังเข้าใจอะไรผิด จำได้ว่า กรัชกายใช้

อ้างคำพูด:
เข้าแหน่ ออกแหน่
ครั้งสนทนาคุณวลัยพร

เป็นงี้ครับ บางคนบางกลุ่มต้าน หนอ หาว่าเป็นของพม่า ฯลฯ

กรัชกายจึงว่า เมื่อไม่เอาหนอ เปลี่ยนเป็นคำอื่นได้ แล้วยกตัวอย่าง แหน่

พองแหน่ ยุบแหน่ :b32:

ไม่ได้พูดเล่น พูดจริงๆ ผู้ปฏิบัติอย่ายึดติดคำนี้ ไม่เอาทั้งหนอ ทั้งแหน่ ก็ยังได้

เมื่อลมเข้า ลมออกสั้น (ท้องพองท้องยุบก็สั้นตามลมเข้าออก) ก็ภาวนาเพียง พอง ยุบ พอง ยุบ พองยุบ

พองยุบ ก็พอก็ได้

เอาอีกก็ยังได้ แม้ผู้นับถือศาสนาอื่น เขาจะประยุกต์คำภาวนา พุทโธ ลมเข้า พุท ลมออก โธ

เปลี่ยนพุทโธ เยซู ก็ได้ ตัวอย่างเช่น ลมเข้าบริกรรมภาวนา "เย" ลมออกบริกรรมภาวนา "ซู"

เยซูๆๆๆๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ mes ยังมีอะไรข้องใจในกรัชกายอีกไหมครับ หากมีอนุญาตให้ไถ่ถามได้ที่กระทู้นี้ได้เลย เพราะกระทู้

เข้ากับเรื่องพอดี เชิญครับ :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 20:24
โพสต์: 43

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b26: ขี่คุยไง จึงขัดแย้งกัน พวกขี้คุย :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณ mes ยังมีอะไรข้องใจในกรัชกายอีกไหมครับ หากมีอนุญาตให้ไถ่ถามได้ที่กระทู้นี้ได้เลย เพราะกระทู้

เข้ากับเรื่องพอดี เชิญครับ


เกิดการเข้าใจผิดที่บังเอิญจริงๆครับ

ของคุณกรัชกายผมไม่ติดใจ ผมเข้าใจ


แต่ที่ผมหมายความถึงเป็นของพี่เหลิมที่สนทนากับคุณวลัยพรในหน้าสติ สมาธิครับ

ซึ่งตรงนั้นเป็นการแสดงความคิดลักษณะถากถางกัน ไม่ถูกต้อง

ใครถนัดอย่างใดก็ได้

ขอโทษคุณกรัชกายที่ทำให้เข้าใจผิด


ถ้ามีเวลาหาเจอจะยกมาเป็นตัวอย่างครับ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ค. 2010, 03:10
โพสต์: 34

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรียนคุณศรีสมบัติ
หากการบอกธรรมที่ผิดบิดเบียนต่อความเป็นจริง(จะรู้ไม่รู้ก็ตาม) ผมมองว่าต่อให้เจตนาดีหรือจิตใจบริสุทธิ์เพียงใด ก็คงไม่ต่างจากเด็กไร้เดียงสาที่ยื่นซองพิษให้ผู้อื่นฉันนั้น(ผลคือตายเหมือนกัน) หากเรารู้ไม่มากหรือไม่รู้อะไรเลย ควรเป็นผู้ฟังที่ดีจะดีกว่า หรือไม่ก็ทำตัวเป็นนิสิตฯค้นคว้าหาความรู้มาตอบ ผมอยากให้มองความถูกต้องมากกว่าเจตนา หากคุณทำผิดมันก้คือผิด แต่เจตนาเป็นเครื่องบงบอกว่าคุณเล็งผลแบบไหน?
สมมุติว่า..ผมอยากทำประทัด..แต่คุณไม่รู้..ไปถามจำจากปากคนอื่นมาสอน(คนนี้อาจไม่ชอบคุณก็ได้)..แต่พอระเบิดตูมมือขาดขึ้นมา..ผมควรสาธุการใครดี? (1.คุณที่สอนผมมาผิดๆเพราะรู้ไม่จริง 2.คนที่สอนคุณ รู้จริงแต่บอกไม่หมด อาจหวังผลให้คุณเสียหาย 3.ตัวผมเอง ไม่รู้แต่รับรู้สิ่งผิดๆมา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


anisa2521 เขียน:
ในฐานะผู้เริ่มปฎิบัติธรรมใหม่ เริ่มเข้ามาหาความรู้ในเว็บต่างๆ ส่วนมากหากเข้ามาในกระทู้สนทนาทีไร มักไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากมักมีบทความหรือข้อคิดเห็นของผู้อวดรู้(คิดมาก,ฟุ้งเฝ้อ) มาถกเถียงกันหาข้อยุติไม่ได้ ทำตัวเหมือนนักกฎหมายที่ตีความธรรมะเข้าข้างตัวเองเสมอ อยากให้พุทธศานิกชนพึงสำนึกไว้ ว่าเราควรใช้วัจนะธรรมที่ถูกต้อง ชี้แจงให้ผู้สงสัยในธรรมนั้นได้รู้ดีกว่า อย่าใช้มิจฉาทิฐิส่วนตัวมากล่าวอ้างบิดเบียนในธรรมนั้นเลย อ่านธรรมะในหน้าสนทนารู้สึกตัวเองช่างไกลกับพระพุทธเจ้าเหลือเกิน ใช้คำที่เข้าใจยาก?สับสนกับความเห็นที่หลากหลาย(อจินไตย) และที่รับไม่ได้สุดคือใช้พุทธวัจนะหรือหลักทำคำสอนในการการเสียดสีดูถูกดูแคลนกัน นี่หรือพุทธศาสนิกที่ดีควรทำกัน ช่วยลดจิตใจในการเอาชนะกันเถอะครับ อ่านมาตอบหรือจำมาตอบ? ยังดีและน่านับถือกว่า นั่งเทียนมาตอบ? แม้จะผูกถ้อยคำได้สระสรวยน่าฟังเพียงใด ก็ไม่ต่างจากน้ำหวานที่เคลือบอยู่บนยาพิษฉันนั้น วิสัยเราก็แค่มนุษย์(สัตว์ชนิดนึงที่ฝึกได้เท่านั้น) ต้องฝึกฝนเพื่อให้จิตใจสูงขึ้นไปครับ อย่าเอาแต่รู้ธรรมมากแค่กระพี้ แล้วปรุงแต่งก็แค่ฉาบกายว่าตัวเองดีแล้วยอดแล้วเถอะ ผ้าขาวห่อกายก็เน่าได้เหม็นได้เหมือนกับผ้าสีดำหรือไหนๆไม่ต่างกัน ดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ภายนอก ลองถามด้วยจิตที่ไม่ปรุงแต่งด้วยความคิดแบบธรรมชั้นสูง(ฟุ้งเฟ้อ,เฟ้อเจ้อ) ดูว่า ธรรมะคืออะไร? ธรรมชาติใช่ไหม? แล้วทำไมธรรมมะมันเข้าใจยากจังฟ๊ะ??

ผมเคยบวชเณรตามพระบิณฑบาตร เห็นลุงคนนึงใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวก้อนกับกล้วยทุกวันๆ พวกผมจะอมยิ้มนึกขำอยู่เสมอ แล้วเปรยกับหลวงตาติดตลกไปว่า "ทำบุญแค่นี้จะได้อะไรอ่ะท่าน? ถ้าแกตายไปคงกินกล้วยอย่างเดียวเลยนะขอครับ" หลวงตาถามตอบว่า "เอ็งล่ะทำอะไร?" "???" "อย่าคิดว่าเราบวชแล้วเห็นว่าเขากราบไว้ จะมาหลงตัวเองว่าสูงส่งกว่าผู้อื่นนะ เราคือภิกษุ แปลว่าผู้ขอ เขาให้เราเพื่อให้เราได้มีชีวิตสืบสานศาสนาต่อไป ลองคิดดูสิว่าจิตใจชาวบ้านตาสีตาสา กับพระเณรอย่างเอ็งที่รู้ธรรมมากกว่า ใครจะจิตใจสูงกว่ากัน"

ใช่ครับหลวงตา.."สิ่งที่เราคิดว่ารู้ จริงๆแล้วเราไม่ได้รู้อะไรเลย"

"ควรเคารพกันที่จิตใจที่ดีงาม มากกว่าภาพลักษณ์ที่ดีงาม" หลงวันนี้...วันไหน..จะถึงนิพพาน


คำถามตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ ก็สุภาพดี

แต่อ่านในเนื้อหา ถึงรู้คำตอบ ว่าทำไม

คำตอบคือ
เพราะมี คนอย่างท่าน anisa2521 อยู่ในโลกนี้อีกมากมาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 พ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 103

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="mes"]กระทู้นี้ตรงกับใจผมเลยครับ

ต่างคนต่างยึดถือเอาทิฐิตัวเอง ทิฐิของอาจารย์ สำนักอาจารย์ตนเองเป็นใหญ่

ไม่เสมอไปทุกคนครับ

ความจริงใครจะศรัทธาอย่างไรไม่ผิดหรอกครับเป็นเรื่องธรรมชาติ

ถ้าไม่พิจารณาให้รอบด้าน ก็ผิดครับ

ใรที่ศรัทธาแล้วอยากแบ่งความศรัทธาให้ผู้อื่นก็ไม่ผิด

ถ้าเป็นศรัทธาในสิ่งที่ควรก็ไม่ผิดครับ

แต่ที่ผิดคือพวกที่หาพวกให้เกลียดชังอาจารย์หรือสำนักอาจารย์ที่ตนไม่ชอบ อย่างนี้ถือว่าไม่ถูก

ไม่มีใครอยากสร้างความเกลียดชังในหมู่ชาวพุทธหรอกครับ มันบาป บางท่านจะยังไม่เข้าใจจนกว่าความจริงจะปรากฎ ซึ่งผมคิดว่าคงอีกไม่นานเกินรอหรอกครับ ได้เห็นแน่ครับ เมื่อความจริงมันแสดงตัวเอง

เป็นการสร้างความแตกแยกแน่นอน

เค้ากำลังช่วยกันแยกคนดีออกจากคนร้าย ต่างหากละครับ

แต่ที่เวปนี้ดูเหมือนจะ

อีกพวกหนึ่งคือผู้ที่ปริยัติมา

รู้เรื่องพระไตรปิฎกมากกว่าคนทั่วไป

เวลาสนทนาจะต้องพระไตรปิฎกแป๊ะๆ

อันนี้บางทีก็อ่านไม่รู้เรื่องครับ ก็เลยผ่านๆบ้าง


ผมทราบว่ามีท่านที่ผมคุ้นเคยชื่นชอบหลายท่านอำลาจากไปเพราะเหตุผลตามกระทู้นี้

น่าเสียดายจริงๆด้วยครับ

ผมเองก็ขัดแย้งอย่างรุนแรงกับผู้ที่กล่าวโจมตีครูบาอาจารย์อย่างที่ทุกท่านทราบ

เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบคุณนี่ละครับ ตอนนี้ถึงต้องมานั่งใช้กรรม ให้เค้าด่าเล่นอยู่ในลานธรรมนั่นละครับ "เราทำกรรม ก็ต้องรับผลนั้น" นี่ละครับ ของจริงเลย กำลังโดนอยู่เมื่อวันสองวันนี้เองครับ5555

แต่ผมถามว่าถ้าเรายอมให้คนพวกหนึ่งสามารถสร้างวาทะกรรมขึ้นมาใส่ร้ายใครง่ายๆ

สังคมจะเหลืออะไรไหม

ซักวันคุณก็จะเข้าใจความปราถนาดีอันนั้นครับ ตอนนี้คุณก็เปิดใจรับรู้ข่าวสารอีกด้านนึงบ้างเถิดครับ

นอกจากพวกปลิ้นปล้อนและซากปลักหักพัง

สังคมต้องยกย่องคนดีที่ควรยกย่อง

กล้าตำหนิคนกระทำผิด

อนุโมทนาครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2010, 14:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...จงมองความขัดแย้งให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม...
...เพราะผู้อ่านจักได้คิดพิจารณาได้ชัดเจนขึ้น...
...ว่าจักทำความเห็นให้ถูกต้องได้อย่างไร...
:b12:
:b44: :b44:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 30 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร