วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 276 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2010, 20:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
Eikewsang เขียน

คุณ enlighted คงต้องเคยพบ
เทศนาธรรมนี้ นะครับ

"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอก
ถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุ
ของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้

ถ้าไม่ติดอยู่ที่ "เหตุ" แล้ว ย่อมแสดงว่า คุณ enlighted
ก็ต้องรู้แจ้งแทงตลอด แล้วซิครับ
ฉะนั้น จึงขออนุญาต

ถามคุณ enlighted
คำว่า......

"เมื่อยังติดอยู่ที่เหตุและผล อันเป็นเงาของจิต"

เหตุ หมายถึงอะไร

ผล หมายถึงอะไร

เงาของจิต หมายถึงอะไร


.........................................................................................................

สุเมธดาบสนั้น กระทำการตกลงใจว่า
“ เราจักเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ”
เพื่อที่จะใคร่ครวญถึงธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อตรวจตราดูธรรมธาตุทั้งสิ้นโดยลำดับว่า
“ ธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้ามีอยู่ ณ ที่ไหนหนอ
เบื้องสูงหรือเบื้องต่ำในทิศใหญ่หรือทิศหน้อย ” จึงได้เห็น


"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอก
ถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุ
ของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้


นี่คือ เหตุ และผล และเงาความเคลื่อนของจิต
ของสุเมธดาบส เมื่อสี่อสงไขยแสนกัปป์


ก็แค่สงสัย จะอธิบายอย่างไรก็ว่าไป
แล้วก็ไม่ขอวิจารณ์ คำอธิบายล่ะนะ
เพราะแต่ละท่าน ต่างก็มีปัญญาทั้งนั้น

แต่ในเมื่อกระทู้ข้างต้นโน้น มู่งดูแคลนผู้อื่นเป็นประมาณ
ยิ่งกว่าต้องการอธิบาย ถึงกับมีการดูแคลนผู้อื่น อวดอ้างภูมิธรรมของตน


แล้วทำไม....ไม่อวดเก่ง ให้ตลอด
หรือหมดภูมิธรรมแล้ว........จึงไม่ตอบคำถามนี้



"ขอความกรุณาขยาย หรือ แปลความหมายของคำว่า
เพราะยังมีเครื่องเศร้าหมองเป็นบัญญัติ มากำบังความรู้ที่เป็น ธาตุรู้

เครื่องเศร้าหมองที่เป็น....."บัญญัติ".....มีด้วยหรือครับ

ขอความกรุณายกตัวอย่างสัก 2-3 ชนิดได้มั๊ยครับ"


แก้ไขล่าสุดโดย Eikewsang เมื่อ 11 เม.ย. 2010, 20:46, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2010, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2010, 04:38
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kamonchanok เขียน:
Eikewsang เขียน:

สวัสดีครับ คุณ enlighted และ คุณKamonchanok

ขอขั้นจังหวะการสนทนาสักหน่อย
ที่ราบรื่นเป็นไปได้ดีมาตลอด

แต่เนื่องจาก ผมไม่เข้าใจถ้อยคำของ คุณenlighted ในหลายแห่ง
รวมทั้ง ความเข้าใจของคุณ Kamonchanok ด้วย

จึงต้องขออนุญาตสอบทาน เพื่อเพิ่มพูนความรู้

ที่สำคัญผมรู้สึกว่า มีบางประโยคซึ่งดูเหมือน
คุณ enlighted ก็ยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริง
แต่คุณ Kamonchanok เข้าใจ จึงน่าสงสัย???????

เรื่องมันเริ่มต้นจาก


(1......)คุณKamonchanok ตั้งคำถามถึงกระทู้ของ คุณenlighted คือ
enlighted เขียน:
สติ...เกิด...ทำให้หยุดคิด(หลง)/อยาก(ตัณหา)
แล้วสติก็ดับลง

Kamonchanok เขียน:
ทำไมไม่มีใครนำคำกล่าวของคุณไปขยายความคะ
หรือว่าสิ่งที่คุณกล่าวมา มันไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึง คุณค่าทั้งทางบัญญัติ
และทางสภาวะ
หรือว่า ทุกคนเมื่อปฏิบัติจนถึงจุดนี้แล้ว ไม่เห็นว่ามันดับลง


คุณ enlighted ตอบว่า

enlighted เขียน:
สติ เกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต


คุณ Kamonchanok แสดงท่าทีว่า เกิดดวงตาเห็นธรรม
กับธรรมดังกล่าวเพียงไม่กี่ประโยค จึงเข้ามาขอบคุณ

Kamonchanok เขียน:
ค่ะ ...
พี่คะ พี่เข้ามาแนะบ่อย ๆ ได้รึเปล่าคะ
เพราะอ่านคำชี้แนะของพี่แล้ว เฉิ่มรู้สึกได้ถึงความหยุด ความนิ่งในภาษา
และจุดที่พี่ชี้นั้น มันชัดเจน ชัดเจน และสอดคล้องกับสิ่งที่สะท้อน อยู่ภายใน
ขอบคุณค่ะ ภาษาของพี่ทำให้ เฉิ่ม ได้กลิ่นความสงบนิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ลึก ๆ
และมันกำลังเคลื่อนตัวแผ่กระจายออกมา แทรกซึมไปทุกอณู
เหมือนหมีที่จำศีลในฤดูหนาวมานาน มันกำลังจะตื่นเพราะมันเริ่มได้กลิ่นฤดูใบไม้ผลิโชยมา
ขอบคุณค่ะ


คำว่า ...."สติเกิดพร้อมจิต ดับพร้อมจิต".....

มันก็แค่ธรรมพื้นๆ ไม่เห็นมีความลึกซิ้งอะไร แฝงอยู่เลย

ขออภันนะครับที่ต้องว่ากล่าวกันตรงๆ


จึงขออนุญาตถามคุณ Kamonchanok ว่า
เข้าใจอะไรในประโยคดังกล่าว


มากกว่า เอกกุปปาทะ เอกนิโรธะ เอการัมมณะ

คือ การเกิดพร้อม ดับพร้อมกัน และมีอารมณ์เดียวกัน ของจิตกับเจตสิก

00000000000000000000000000000000000000000000000000000


:b1: ข้าพเจ้าจะตอบในแบบของข้าพเจ้า
ซึ่งข้าพเจ้าจะตอบอย่างไร เมื่อไรนั้น ข้าพเจ้าไม่ซี้ซั้วตอบแน่นอน
เพราะธรรมของพระพุทธองค์นั้น บริสุทธิ์หมดจดแล้ว ลึกซึ้งแล้วอันสัจจะ
ครบถ้วนกระบวนความ สมบูรณ์พร้อมแล้วทั้งอรรถ และความหมาย
เพราะผู้สอนนั้น ถึงพร้อมแล้ว เสมอแล้ว หมดจดแล้ว
ข้าพเจ้าเคารพแล้ว มิอาจล้วงล้ำธรรมอันใดของพระพุทธองค์ แม้แต่เพียงนิดก็ไม่อาจคิด
ถ้าข้าพเจ้าจะกล่าวสิ่งใด
ข้าพเจ้าจะสอบทานกับธรรมของพระพุทธองค์อย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อน
และพึงกล่าวในสิ่งที่เหมาะ ที่ควรเท่านั้น

ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้ากำลังจะเริ่มกระทำ
ซึ่งข้าพเจ้าจะไม่ข้ามบท ข้ามตอน จะค่อย ๆ ทำไปที่ละนิด ตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ
และค่อย ๆ ไล่ไปทีละนิด

ซึ่งกว่าจะถึงคำตอบของท่าน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวันใด

ท่านจะรอคำตอบของข้าพเจ้าเพื่อให้ตนหายสงสัย
หรือท่านจะยังกิจอันใด อันเป็นไปเพื่อให้ตนสิ้นสงสัยเอง ข้าพเจ้าไม่ว่ากระไร
ยิ่งแต่จะเป็นการดี :b12:

เพราะยังไงซะ การที่ข้าพเจ้าจะยังกิจอันใดเพื่อให้ท่านหายสงสัยในตอนนี้
ข้าพเจ้าไม่เห็น กุศลจะบังเกิดขึ้นกับผู้ใดเลย และแม้กับตัวข้าพเจ้าเอง

:b8:

ส่วนสิ่งที่ท่านห็นและคิดว่าเกิดนั้น

คุณ Kamonchanok แสดงท่าทีว่า เกิดดวงตาเห็นธรรม
กับธรรมดังกล่าวเพียงไม่กี่ประโยค จึงเข้ามาขอบคุณ


ถ้าท่านเป็นข้าพเจ้า ท่านจะรู้ว่า ไม่ใช่ไม่กี่ประโยค
ทุกอย่างมันสะสมมาตั้งแต่ ข้าพเจ้าเริ่มตระหนักถึง ลมหายใจ
มันคือวิถี ที่ข้าพเจ้าอยู่กับมันมานานแสนนาน
ท่านคิดว่า จะต้องใช้หน้ากระดาษเท่าไร จึงจะเพียงพอต่อการบอกเล่า

ซึ่งอย่างสั้นที่สุดที่ข้าพเจ้าจะกล่าวก็คือ ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์

เพราะคำสอนของพระพุทธองค์ ท่านได้วางแนวทางเอาไว้ให้เดิน
คือทางเดินอันเป็นไปในการหว่านเมล็ดพันธ์ (โอกาสในการเห็นธรรม) เอาไว้
ทุกอย่างดำเนินมาเรื่อย เมื่อจังหวะที่โครงสร้างทุกอย่างประชุมรวมกัน มันก็บังเกิดผล
ท่านระบุวันที่ได้หรือ ว่ามะมวงจะติดผลในวันใด เวลาใด
ท่านบอกได้แค่ว่า มันจะออกในฤดูร้อน แต่กระนั้นต้นมะม่วงที่ท่านปลูกต้องออกดอก
ต้องมีฝนชะลานในช่วงค่อน ๆ ฤดูหนาว
เมื่อท่านเห็นปัจจัยเพียงเท่านี้ ท่านพึงรู้ได้ว่า ท่านจะได้กินมะม่วง
แต่กระนั้นเมื่อมันติดผล ก็ต้องคอยระวังแมลง เราก็ยังต้องบำรุง
และยังต้องดูเรื่อง พายุฤดูร้อนอีก ซึ่งอาจจะทำให้ผลร่วงหล่น
แม้ผ่านพ้นพายุฤดูร้อน ก็ยังต้องระวังในเรื่องเด็กมาขโมยสอยไปเสียก่อน :b1:

ผลบางผล อยู่สูงจึงรอดมือเด็ก
แต่กระนั้น เราอาจจะต้องออกแรงปีนขึ้นไปเก็บ
หรือมีกัลยาณมิตรเดินผ่านมา เห็นส่งไม้สอยมาให้ :b1:
ประมาณ ถูกที่ ถูกเวลา :b1:

"ถ้าคำกล่าวของพระพุทธองค์ แก้ไขข้อสงสัยของท่านไม่ได้
แล้วใยท่านคิดว่า คำกล่าวของข้าพเจ้า แก้ไขข้อสงสัยของท่านได้
และใยข้าพเจ้าจะคิดว่าข้าพเจ้าควรกล่าวสิ่งใดให้ท่านหายสงสัย"


ถึงตอนนี้ หากท่าน หรือผู้ใดยังมีสิ่งใดขัดข้องใจอยู่
และคิดจะสืบสาวหาความต่อเนื่อง กับข้าพเจ้าต่อ
ได้โปรดอ่านข้อความสีนำเงินตัวหนา ๆ ด้านบนอีกรอบ

:b8:

ข้าพเจ้าขอยุติการสนทนาในกระทู้นี้แต่เพียงเท่านี้

:b8:


ตุ๊กกกกกก....แก้...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2010, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 18:14
โพสต์: 435

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




new61.gif
new61.gif [ 1.3 KiB | เปิดดู 4349 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:
มาร่วมฟังธรรมค่ะ

โลกบังธรรม...อารมณ์บังจิต...

:b12: :b27: :b32: :b2: :b5: :b3: :b33: :b14: :b10: :b30:

.....................................................
สรุปคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นของ ไม่ยาก
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ (ด้วยความจริงใจ)
3. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
4. เป็นกรณีพิเศษ ปฏิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นนิพพาน แล้วตั้งใจไปพระนิพพานได้ในที่สุด"


แก้ไขล่าสุดโดย sirisuk เมื่อ 11 เม.ย. 2010, 20:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2010, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:

:b12: :b12: เสพอารมณ์ แต่พอเหมาะ เพราะข้าพเจ้ารู้จักเสพ จึงเสพแต่พอควร :b10: :b10: :b6:


* การชี้สภาวะ เป็นยาพิษชนิดร้ายแรง เก็บให้พ้นมือเด็ก


:b3: :b16: :b32: :b20:

Eikewsang เขียน:

ก็แค่สงสัย จะอธิบายอย่างไรก็ว่าไป
แล้วก็ไม่ขอวิจารณ์ คำอธิบายล่ะนะ
เพราะแต่ละท่าน ต่างก็มีปัญญาทั้งนั้น

แต่ในเมื่อกระทู้ข้างต้นโน้น มู่งดูแคลนผู้อื่นเป็นประมาณ
ยิ่งกว่าต้องการอธิบาย ถึงกับมีการดูแคลนผู้อื่น อวดอ้างภูมิธรรมของตน


แล้วทำไม....ไม่อวดเก่ง ให้ตลอด
หรือหมดภูมิธรรมแล้ว........จึงไม่ตอบคำถามนี้



"ขอความกรุณาขยาย หรือ แปลความหมายของคำว่า
เพราะยังมีเครื่องเศร้าหมองเป็นบัญญัติ มากำบังความรู้ที่เป็น ธาตุรู้

เครื่องเศร้าหมองที่เป็น....."บัญญัติ".....มีด้วยหรือครับ

ขอความกรุณายกตัวอย่างสัก 2-3 ชนิดได้มั๊ยครับ"


พิษกำเริบแระ

:b1: :b14: :b16: :b5: :b4:

Eikewsang เขียน:

ตุ๊กกกกกก....แก้...


ออกอาการ สำรอกตัวตน

อนุโมทนาสาูธุ

:b8: :b8: :b17: :b17: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 เม.ย. 2010, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Eikewsang เขียน:
enlighted เขียน:
Eikewsang เขียน

คุณ enlighted คงต้องเคยพบ
เทศนาธรรมนี้ นะครับ

"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอก
ถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุ
ของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้

ถ้าไม่ติดอยู่ที่ "เหตุ" แล้ว ย่อมแสดงว่า คุณ enlighted
ก็ต้องรู้แจ้งแทงตลอด แล้วซิครับ
ฉะนั้น จึงขออนุญาต

ถามคุณ enlighted
คำว่า......

"เมื่อยังติดอยู่ที่เหตุและผล อันเป็นเงาของจิต"

เหตุ หมายถึงอะไร

ผล หมายถึงอะไร

เงาของจิต หมายถึงอะไร


.........................................................................................................

สุเมธดาบสนั้น กระทำการตกลงใจว่า
“ เราจักเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ”
เพื่อที่จะใคร่ครวญถึงธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อตรวจตราดูธรรมธาตุทั้งสิ้นโดยลำดับว่า
“ ธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้ามีอยู่ ณ ที่ไหนหนอ
เบื้องสูงหรือเบื้องต่ำในทิศใหญ่หรือทิศหน้อย ” จึงได้เห็น


"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอก
ถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุ
ของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้


นี่คือ เหตุ และผล และเงาความเคลื่อนของจิต
ของสุเมธดาบส เมื่อสี่อสงไขยแสนกัปป์


ก็แค่สงสัย จะอธิบายอย่างไรก็ว่าไป
แล้วก็ไม่ขอวิจารณ์ คำอธิบายล่ะนะ
เพราะแต่ละท่าน ต่างก็มีปัญญาทั้งนั้น

แต่ในเมื่อกระทู้ข้างต้นโน้น มู่งดูแคลนผู้อื่นเป็นประมาณ
ยิ่งกว่าต้องการอธิบาย ถึงกับมีการดูแคลนผู้อื่น อวดอ้างภูมิธรรมของตน


แล้วทำไม....ไม่อวดเก่ง ให้ตลอด
หรือหมดภูมิธรรมแล้ว........จึงไม่ตอบคำถามนี้



"ขอความกรุณาขยาย หรือ แปลความหมายของคำว่า
เพราะยังมีเครื่องเศร้าหมองเป็นบัญญัติ มากำบังความรู้ที่เป็น ธาตุรู้

เครื่องเศร้าหมองที่เป็น....."บัญญัติ".....มีด้วยหรือครับ

ขอความกรุณายกตัวอย่างสัก 2-3 ชนิดได้มั๊ยครับ"





Eikewsang แสดงปัญญา มหาปัญญา ได้แค่ ตุ๊ดๆๆๆ...แก้ แค่นั่นหรือ
แสดงธรรมเรื่องสุเมธดาบส บ้าง จะได้เห็นปัญญา Eikewsang หน่อย




เรื่องสุเมธดาบส ยังไม่จบ


สุเมธดาบสนั้น กระทำการตกลงใจว่า
“ เราจักเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ”
เพื่อที่จะใคร่ครวญถึงธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อตรวจตราดูธรรมธาตุทั้งสิ้นโดยลำดับว่า
“ ธรรมที่กระทำให้เป็นพระพุทธเจ้ามีอยู่ ณ ที่ไหนหนอ
เบื้องสูงหรือเบื้องต่ำในทิศใหญ่หรือทิศหน้อย ” จึงได้เห็น


"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุง ตะถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธจะ เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอก
ถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุ
ของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้


นี่คือ เหตุ และผล และเงาความเคลื่อนของจิต
ของสุเมธดาบส เมื่อสี่อสงไขยแสนกัปป์
[/quote]

เหตุ เกิด สี่อสงไขแสนกัปป์ ต่อเนื่องมายาวนาน
เงาแห่งความเคลื่อน ไหลตลอดสาย สี่อสงไขยแสนกัปป์

พระพุทธเจ้าทีปังกร ที่ให้เดินเหยียบหลังนั่นไง ที่สามารถชี้และแสดง
เหตุต้องละ ผลต้องละ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เงาแห่งความแสวงหา เคลื่อนปิดบัง จิต ท่องสังสารวัฎ ควานหาไปอีก สี่อสงไขย แสนกัปป์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Eikewsang เขียน:


แล้วทำไม....ไม่อวดเก่ง ให้ตลอด
หรือหมดภูมิธรรมแล้ว........จึงไม่ตอบคำถามนี้


"ขอความกรุณาขยาย หรือ แปลความหมายของคำว่า
เพราะยังมีเครื่องเศร้าหมองเป็นบัญญัติ มากำบังความรู้ที่เป็น ธาตุรู้

เครื่องเศร้าหมองที่เป็น....."บัญญัติ".....มีด้วยหรือครับ

ขอความกรุณายกตัวอย่างสัก 2-3 ชนิดได้มั๊ยครับ"



.............................................................................



จะแสดงให้ Eikewsang ตุ๊ดๆๆๆ..แก้ ฟัง
คงไม่ต้องท้าวความบัญญัติ คืออะไรบ้าง

ตัวอย่าง เครื่องเศร้าหมองของบัญญัติ ตัวอย่าง คุณวัลลัยพร ก็แสดงไว้แล้ว
ที่พูดโดยสมมุติ หาอารณ์ปรมัตถ์ไม่ได้



ลองดูอารมณ์ปรมัตถ์ล้วนๆๆ ที่เป็นเครื่องเศร้าหมอง มากำบังธาตุรู้ ดีกว่า

ขอเชิญ Eikewsang ตุ๊ดๆๆๆ..แก้ แสดงปัญญาวิจารณ์ด้วย

ราชกุมาร ! ครั้งนั้น ความรู้สึกข้อนี้ ได้บังเกิดขึ้นแก่สหัมบดีพรหม เพราะเธอรู้ความปริวิตกในใจของเราด้วยใจ. ความรู้สึกนั้นว่า "ผู้เจริญ ! โลกจักฉิบหายเสียแล้วหนอ ผู้เจริญ ! โลกจักพินาศ เสียแล้วหนอ, เพราะเหตุที่จิตแห่งพระตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า น้อมไปเพื่อความขวนขวายน้อย, ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม" ดังนี้. ลำดับนั้น สหัมบดีพรหมได้อันตรธานจากพรหมโลก มาปรากฎอยู่เฉพาะหน้าเรา รวดเร็วเท่าเวลาที่บุรุษแข็งแรง เหยียดแขนออกแล้วงอเข้าเท่านั้น.....


แก้ไขล่าสุดโดย enlighted เมื่อ 12 เม.ย. 2010, 00:34, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
จะแสดงให้ Eikewsang ตุ๊ดๆๆๆ..แก้ ฟัง
คงไม่ต้องท้าวความบัญญัติ คืออะไรบ้าง

ตัวอย่าง เครื่องเศร้าหมองของบัญญัติ ตัวอย่าง คุณบัลลัยพร ก็แสดงไว้แล้ว
ที่พูดโดยสมมุติ หาอารณ์ปรมัตถ์ไม่ได้



ลองดูอารณ์ปรมัตถ์ล้วนๆๆ ที่เป็นเครื่องเศร้าหมอง มากำบังธาตุรู้ ดีกว่า



หน้าเกลียดน่า..Walai..อ่านเป้น..บัลลัย....ได้งั้ย..

หากพิมพ์ผิดก็แก้เสียนะครับ.. :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แก้คำผิดครับ บัลลัยพร แก้เป็น วัลลัยพร
อารณ์ แก้เป็น อารมณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
ชื่อว่า จิตเศร้าหมอง
เพราะยังมีเครื่องเศร้าหมองเป็นบัญญัติ นอนจมอยู่
มากำบังความรู้ที่เป็น ธาตุรู้
จึงไม่อยู่ปรมัตถ์เพียงฝ่ายเดียว
เหยียบเรือสองแคม บัญญัติ ปรมัตถ์
เป็นปกติ ของจิตเศร้าหมอง
รู้ ไม่แตกต่างใดๆ



แล้วมาดู อารมณ์ ปรมัตถ์ล้วนๆๆๆๆๆๆๆ
ว่ามีเครื่องเศร้าหมอง ตรงไหน อย่างไร

ราชกุมาร ! ครั้งนั้น ความรู้สึกข้อนี้ ได้บังเกิดขึ้นแก่สหัมบดีพรหม เพราะเธอรู้ความปริวิตกในใจของเราด้วยใจ. ความรู้สึกนั้นว่า "ผู้เจริญ ! โลกจักฉิบหายเสียแล้วหนอ ผู้เจริญ ! โลกจักพินาศ เสียแล้วหนอ, เพราะเหตุที่จิตแห่งพระตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า น้อมไปเพื่อความขวนขวายน้อย, ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม" ดังนี้. ลำดับนั้น สหัมบดีพรหมได้อันตรธานจากพรหมโลก มาปรากฎอยู่เฉพาะหน้าเรา รวดเร็วเท่าเวลาที่บุรุษแข็งแรง เหยียดแขนออกแล้วงอเข้าเท่านั้น.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
แก้คำผิดครับ บัลลัยพร แก้เป็น วัลลัยพร
อารณ์ แก้เป็น อารมณ์

แหม... ผิดแบบนี้ ก็แย่นะคะ... เกือบดูไม่ออกเลยนะคะเนี่ย ว่าผิดจริงๆหรือจงใจ...
แหมมมมมมม

สุดยอดแห่งสติและความไพเราะคะ คุณ enlighted


อิอิ นู๊รับมั้ยได้คะ คนแบบนี้ :b12: :b12: :b12:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 00:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ
:b17: :b32: สงกรานต์นี้...หนุกหนาน :b13: :b9:
รูปภาพ
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41:
รูปภาพ
:b48: :b48: :b48: รูปภาพ :b48: :b48: :b48:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 12 เม.ย. 2010, 01:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 01:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


varinne เขียน:
enlighted เขียน:
แก้คำผิดครับ บัลลัยพร แก้เป็น วัลลัยพร
อารณ์ แก้เป็น อารมณ์

แหม... ผิดแบบนี้ ก็แย่นะคะ... เกือบดูไม่ออกเลยนะคะเนี่ย ว่าผิดจริงๆหรือจงใจ...
แหมมมมมมม

สุดยอดแห่งสติและความไพเราะคะ คุณ enlighted


อิอิ นู๊รับมั้ยได้คะ คนแบบนี้ :b12: :b12: :b12:



นั่นเรียกว่า ดึงดูด ความเห็นผิด เห็นถูก ของเธอออกมานั่นแหละ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

จิตบางคนเหมือนสุนัข ที่เห่าได้ตลอดเวลา แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อย ๆ ... สังฆปรินายก ฮวงโป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

จิตบางคนเหมือนสุนัข ที่เห่าได้ตลอดเวลา แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อย ๆ ... สังฆปรินายก ฮวงโป


ดีแต่เพ่งโทษคนอื่น บอกได้คำเดียว

น่ารังเกียจ คะ
:b48:

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2010, 01:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 23:38
โพสต์: 193

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อ.. อีกอย่างหนึ่งนะคะ

ดูเหมือนคนที่บอกว่าตัวเองเป็นชาวพุทธ มาอยู่ในศาสนาพุทธเนี่ย

ธรรมะ ไม่ได้ขัดเกลาจิตใจของคุณเลย

น่าสงสารจังเลยนะคะคนประเภทนี้

อย่างน้อยช่วยสำรวม กิริยา วาจา

ให้มันไพเราะ หน่อย ก็ดีนะคะ

หวังว่าเราขอแค่นี้ คงไม่ทำให้คุณรุ้สึกเหมือนอดแตกตายหรอก

.....................................................
หากไม่สนใจหลักธรรมปลีกย่อย แล้วจะบรรลุหลักธรรมใหญ่ได้ยังไง -- กวนอู

"ทรัพยกรมนุษย์หากตายไป บริษัทฯ สามารถหามาแทนได้ แต่ทรัพยากรครอบครัวนั้น ครอบครัวไม่สามารถหามาแทนได้"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 276 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 83 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร