วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 16:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:20
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามหัวกระทู้นะครับ

อยากทราบว่า เท่ากันหรือไม่

ถ้าไม่เท่ากัน
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า พระพุทธรูป รูปนี้ผ่านการสวดแล้ว ?

แล้วถ้าเท่ากัน
จะปลุกเสกทำไมครับ?

ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ
คำถามอาจดูกวนๆนะครับ แต่ผมอยากทราบจริงๆครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 14:59
โพสต์: 31

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอบเท่าที่ถาม

ไม่เท่ากัน
รู้ได้ถ้าเราไปเห็นไปดูไปอยู่ ในงานปลุกเสก หรือรู้ว่าเขาปลุกเสก
ส่วนไม่เห็นไม่รู้ แล้วจะรู้ได้ต้องพัฒนาจิต จึงจะรู้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าผ่านกับไม่ผ่านการปลุกเสกต่างกันหรือไม่...แต่ที่ข้าพเจ้าเจอกับตัวเองก็คือ...
...ตัวเองไปเช่าพระกริ่งห้อยคอหลวงพ่อเงินเป็นโลหะทองเหลืองเลี่ยมกรอบพลาสติกมา...
...ได้ประมาณปีเศษ...ที่ข้างวัดเวลามีพระมาสอบปริยัติเขากางเต้นขายหนังสือธรรมะ...
...กับเครื่องลางต่างๆ...พระกริ่งมีราคาถูกมาก...น่าจะยังไม่ผ่านการปลุกเสกมาก่อน...
...เพราะบางองค์เหรียญละ 10 บาท...คงจำหน่ายให้พระเช่าไปปลุกเสกไว้แจกญาติโยมอีกที...
:b8:
...ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้มาไม่ได้ห้อยคอ...องค์พระสีทองเหลืองหมองคล้ำๆไม่ส่องประกายแสง...
...เพิ่งนำมาห้อยคอได้ประมาณ5-6เดือน...เมื่อ3เดือนก่อนสังเกตุเห็นว่าองค์พระใสเหมือนถูกขัดเงา...
...ทั้งๆที่อยู่ในกรอบพลาสติก...ด้านหน้าซีกขวาไม่ใสออกคล้ำอยู่...เหมือนเหลือให้เปรียบเทียบ...
...ส่วนพระเศียร/ฐานพระ/ด้านหลัง/ด้านข้างเงาแวววาวเหมือนถูกขัดเงา...เลื่อมเป็นสีทองสดใสเลย...
:b20:
...ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีชื่นชมอย่างยิ่ง...เอาไปให้เพื่อนชมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหลืองใสมาก...
...บางคนเขาว่าข้าพเจ้าปฏิบัติได้...หมายถึงปฏิบัติธรรม...ข้าพเจ้าว่าน่าจะมีส่วนเช่นนั้นจริง...
...สิ่งที่ข้าพเจ้าปฏิบัติทุกวันก็คือคิดแต่ในสิ่งที่เป็นกุศลและทำจิตใจให้ผ่องใส...เคร่งครัดในศีล5...
...หมั่นทำบุญให้ทาน...และสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ...แผ่เมตตาจิตอุทิศผลบุญกุศลทุกวัน...
...ข้าพเจ้าจึงมั่นใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง...ท่านแสดงให้ข้าพเจ้าทราบว่าท่านคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม...
:b12:
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 28 ม.ค. 2010, 11:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:20
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


spata300 เขียน:
ตอบเท่าที่ถาม

ไม่เท่ากัน
รู้ได้ถ้าเราไปเห็นไปดูไปอยู่ ในงานปลุกเสก หรือรู้ว่าเขาปลุกเสก
ส่วนไม่เห็นไม่รู้ แล้วจะรู้ได้ต้องพัฒนาจิต จึงจะรู้ได้


ขอคำแนะนำในการพัฒนาจิตหน่อยครับ ว่าคืออะไร
ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2009, 22:46
โพสต์: 167

แนวปฏิบัติ: buddhism
อายุ: 0
ที่อยู่: nontaburi

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42:

ขออนุญาตเสนอความเห็นนะครับ

เป็นความเห็นส่วนตัว ตามแนวทางที่ได้ศึกษามา

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูป เกิดจากองค์ประกอบ ๓ ส่วน

๑.พระพุทธรูปเอง

๒.การพุทธาภิเษก

๓.ผู้ไหว้


อธิบาย

๑.พระพุทธรูปเอง ไม่ว่าจะทำด้วยอะไร ผู้สร้างมีความตั้งใจว่าเป็นตัวแทน เสมือนหนึ่งพระพุทธเจ้า
ย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว

๒.การพุทธาภิเษก คือ การที่ผู้มีบุญญฤทธิ์,อิทธิฤทธิ์,บุญญาบารมี,อำนาจจิต,ผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อธิษฐานจิตเอาไว้ ให้ผู้สักการะบูชาได้รับ หรือ อธิษฐาน โดยอาศัยท่านที่มองไม่เห็น (อทิสสมานกาย)
มีเทวดา เป็นต้น ให้ช่วยผู้สักการะบูชา

๓.ผู้ไหว้ ผู้ไหว้ที่มีบุญญบารมี คุณความดี ที่เหมาะสม เมื่ออธิษฐานจิตบูชา ย่อมได้รับผลสำเร็จ
หรือ ผลานิสงส์มากกว่าผู้ที่มีบุญญบารมีน้อย หรือ ผู้ทุศีล

สรุป

พระพุทธรูป ถ้าไม่พุทธาภิเษก จะได้คุณสมบัติข้อ ๑ และ ข้อ ๓
ถ้าพุทธาภิเษก จะได้คุณสมบัติครบ ๓ ข้อ


แต่แท้ที่จริงแล้วขอให้เป็นพระพุทธรูป จะพุทธาภิเษกหรือไม่
เราชาวพุทธควรเคารพยำเกรงอย่างแรงกล้า
เป็นกุศลมหาศาลครับ


แนวคิดที่นำมาอธิบาย นำมาจากความศักดิ์สิทธิ์ ของพระอริยเจ้าในมิลินทปัญหาครับ

.......................

คารวะ ๖

๑. เคารพในพระศาสดา (สัตถุคารวตา)

๒. เคารพในพระธรรม (ธัมมคารวตา)

๓. เคารพในพระสงฆ์ (สังฆคารวตา)

๔. เคารพในการศึกษา (สิกขาคารวตา)

๕. เคารพในความไม่ประมาท (อัปปมาทคารวตา)

๖. เคารพในการปฏิสันถาร (ปฏิสันถารคารวตา)

ธรรมทั้ง ๖ อย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมของภิกษุ

อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ


ไวโรจนมุเนนฺทระ
................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 17:02
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทุกอย่างอยู่ที่ใจสําเร็จที่ใจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 11:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ธ.ค. 2009, 14:59
โพสต์: 31

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปกติ จิต จะเหมือนน้ำที่ขุ่นฝุ่นละอองต่างๆเหมือนกับกิเลสตัณหาอุปาทาน
เราเพียงแต่ทำให้ฝุ่นละอองจางลงน้ำก็จะใส เราก็สามารถเห็นก้นบ่อได้ชัดเจน
ทิพจักขุญาณ ก็เช่นกัน เมื่อเราพัฒนาจิต ให้ได้ถึงระดับ อุปจาระสมาธิ ก็เหมาะ
แก่การใช้งาน และสามารถอธิฐานขอดูพระว่าปลุกเสกแล้วหรือไม่ก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ม.ค. 2010, 18:20
โพสต์: 16

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ สำหรับคำตอบ แม้อ่านแล้วจะยัง งงๆ อยู่ก็ตามครับ :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2010, 12:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 13:40
โพสต์: 26

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอแสดงความคิดเห็น(ส่วนตัว)บ้างครับ

ในส่วนพระพุทธรูปผมมีแนวคิดว่าพระพุทธรูปคือรูปที่แทนพระศาสดา อย่าไปทำอะไรพระองค์ท่านเลยเพราะพระพุทธเจ้าพระองค์ท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรมแล้ว ที่เห็นๆอยู่ล้วนเป็นสาวกของพระองค์ท่านทั้งนั้น รู้เห็นตามธรรมของพระองค์ทั้งนั้น เอาอะไรไปปลุกพระองค์ท่าน

เหรียญต่างๆที่ไม่ใช่พระพุทธรูป ผมเห็นว่าที่ผ่านการปลุกเสกน่าจะมีคุณวิเศษมากกว่าที่ไม่ผ่านพิธีอะไรเลย

.....................................................
นโม เม สพฺพอริยสํฆานํ
ขอผูกขาดจองขาดในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปทุกภพทุกชาติ
จนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติ
ขอนอบน้อมนมัสการธรรม องค์หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ด้วยเศียรเกล้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2010, 12:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


จะของดออกความเห็นในด้านไม่ใช่ที่พึ่ง ไม่ใช่แก่นแท้ เป้นแค่เปลือกหรือกระพี้ๆลๆ

อำนาจพลังจิต! ครับ


บางคนก้ไม่ได้พุทธานุสติ โดนยิงโดนแทงไม่เข้าก็มี บางคนมีของที่ลงพลังจิตไว้แน่น โดนมีดจิ้มไปทีก้ตาย เสกเสร็จเอาไปลองยิงจะจะก้ไม่ออก พอถึงคราวบ้างก็ตายเอาง่ายๆ ๆลๆ ต่างๆนานา


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 29 ม.ค. 2010, 12:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 13:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 20:54
โพสต์: 163

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมองเป็นแค่ของที่ระลึกมากกว่า และเป็นการค้าพานิชย์แค่นั้นเอง
ไม่มีอะไรไปเปรียบเทียบพระพุทธเจ้าได้ ตัวแทนของพระพุทธเจ้าคือพระธรรม นอกนั้นไม่ใช่ ไม่ว่าจะพระพุทธรูปหรือรูปหล่ออะไรก็ไม่ใช่ ถ้ายังเอารูปหหล่อมาเปรียบเทียบว่าเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าก็อย่าได้เจอธรรมะของพระพุทธเจ้าเลย พวกนี้เจอได้แค่อบายภูมิ เป็นที่ไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2010, 12:33
โพสต์: 91

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจ้าวังทอง เขียน:
ผมมองเป็นแค่ของที่ระลึกมากกว่า และเป็นการค้าพานิชย์แค่นั้นเอง
ไม่มีอะไรไปเปรียบเทียบพระพุทธเจ้าได้ ตัวแทนของพระพุทธเจ้าคือพระธรรม นอกนั้นไม่ใช่ ไม่ว่าจะพระพุทธรูปหรือรูปหล่ออะไรก็ไม่ใช่ ถ้ายังเอารูปหหล่อมาเปรียบเทียบว่าเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าก็อย่าได้เจอธรรมะของพระพุทธเจ้าเลย พวกนี้เจอได้แค่อบายภูมิ เป็นที่ไป

พวก สามแยก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.พ. 2010, 14:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...สัพเพสัตตา...สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น...
:b13:
...ใช้หลักเมตตาคือน้ำ...ใจเย็นๆกันเข้าไว้เอาน้ำลูบใจบ่อยๆ...จิตจะได้ไม่คิดอกุศล...
:b9: :b32:
...ขอให้ทุกท่านระลึกรู้ว่าการกราบไหว้...พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์...
...เป็นการกระทำเพื่อสรรเสริญพระมหาการุณิโกนาโถของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์...
...และที่เรามีสิ่งทดแทนให้กราบไหว้...ใช่เป็นแค่วัตถุ...แต่เราต้องทำด้วยความเคารพ...
:b1:
...คนโบราณสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาแทนพระองค์เพื่อกันการลืมพระองค์...เพื่อให้มนุษย์มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ...
...แต่หลักโดยแท้คือเวลาเรากราบไหว้หรือระลึกถึงคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น...
...ผู้ที่ปฏิบัติถูกต้องและเข้าถึงธรรมล้วนมีจิตใจระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นที่ตรัสรู้นานมาแล้ว...
...เพราะต้องใช้ตาใจมองจึงเห็น...ตาเนื้อมองเห็นวัตถุเพื่อไม่ให้ลืมพระองค์...
:b20:
...ตถาคตกล่าวเตือน...ท่านทั้งหลาย
...ผู้ใดเห็นธรรม...ผู้นั้นเห็นเราตถาคต...ผู้ใดปฏิบัติธรรม...ผู้นั้นปฏิบัติเราตถาคต...
...ผู้ใดปฏิบัติพระสงฆ์...ขึ้นชื่อว่าปฏิบัติต่อตถาคต...แม้ไม่ได้ปฏิบัติต่อตถาคตโดยตรง...
...การได้บูชาพระเจดีย์และพระธาตุและต้นไม้โพธิ์ก็ขึ้นชื่อว่าได้เคารพบูชาเราตถาคต...
:b8: :b8: :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 01 ก.พ. 2010, 14:31, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 66 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร