วันเวลาปัจจุบัน 23 เม.ย. 2024, 14:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 109 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญกับกุศล และ บาปกับอกุศล ต่างกันอย่างไร ? โ ด ย : พระธรรมปิฎก ( ป.อ.ปยุตฺโต)



ความหมายของคำว่า กุศล ก็ให้เข้าใจตามลักษณะที่ว่ามานี้ ส่วนที่เป็นอกุศลก็ตรงกันข้าม
ดังได้ยกตัวอย่างไปแล้ว เช่นเมื่อเมตตาเกิดขึ้นในใจเป็นอย่างไร โทสะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร
ลักษณะก็จะผิดกันให้เห็นชัดๆว่าผลมันเกิดทันที อย่างที่เรียกว่า เป็นสันทิฏฐิโก เห็นเอง เห็น
ทันตาคำที่เนื่องกันอยู่ กับคำว่า "กุศล" และ "อกุศล" ก็คือคำว่า "บุญ" และ "บาป"

บุญกับกุศล และ บาปกับอกุศล ต่างกันอย่างไร ?

ในที่หลายแห่งใช้แทนกันได้ อย่างในพุทธพจน์ที่ตรัสถึงเรื่อง ปธาน คือความเพียร ๔ ก็จะ
ตรัสคำว่า "อกุศล" กับคำว่า "บาป" ไปด้วยกัน อยู่ในประโยคเดียวกัน คือเป็นข้อความที่ช่วย
ขยายความซึ่งกันและกัน เช่นว่า....

ภิกษุยังฉันทะให้เกิดขึ้น ระดมความเพียร เพื่อปิดกั้นบาปอกุศลธรรม ซึ่งยังไม่เกิด มิให้เกิด
ขึ้นนี้เรียกว่า สังวรปธานแสดงให้เห็นว่า บาปกับอกุศลมาด้วยกัน แต่สำหรับบุญกับกุศล ท่าน
บอกว่า มันมีความกว้างแคบกว่ากันอยู่หน่อย คือกุศลนั้น ใช้ได้ทั้ง โลกียะ และ โลกุตตระ เป็น
คำกลางๆ และเป็นคำที่ใช้ในทางหลักวิชาการมากกว่า บางทีก็ระบุว่า โลกิยกุศล โลกุตตรกุศล
แต่ถ้าพูดเป็นกลางๆ จะเป็นโลกิยะก็ได้ เป็นโลกุตตระก็ได้

ส่วนคำว่า บุญ นั้น นิยมใช้ในระดับโลกิยะ แต่ก็ไม่เสมอไป มีบางแห่งเหมือนกันที่ท่านใช้ใน
ระดับโลกุตตระ อย่างที่แยกเรียกว่า โอปธิกปุญญะ แปลว่าบุญที่เนื่องด้วยอุปธิและ อโนปธิก
ปุญญะ ไม่เนื่องด้วยอุปธิ เป็นต้น หรือบางทีใช้ตรงๆว่า โลกุตตรปุญญะบุญในระดับโลกุตตระ
แต่โดยทั่วไปแล้ว บุญใช้ในระดับโลกิยะ ส่วนกุศล เป็นคำกลางๆใช้ได้ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ
นี่เป็นความกว้างแคบกว่ากันนิดหน่อย ระหว่างบุญกับกุศลในแง่รูปศัพท์ ซึ่งก็อาจเอาไปช่วย
ประกอบเวลาอธิบายเรื่องกรรมได้ แต่เป็นเรื่องเกร็ดไม่ใช่เป็นตัวหลักแท้ๆ บุญ นัยหนึ่งแปลว่า
เป็นเครื่องชำระสันดาน เป็นเครื่องชำระล้างทำให้จิตใจสะอาด ในเวลาที่เป็นเครื่องชำระสัน
ดาน เป็นเครื่องชำระล้างทำให้จิตใจสะอาด ในเวลาที่สิ่งซึ่งเป็นบุญเกิดขึ้นในใจ เช่นมีเมตตา
เกิดขึ้น ก็ชำระจิตใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์หรือศรัทธาเกิดขึ้น จิตใจก็ผ่องใส ทำให้หายเศร้าหมอง
หายสกปรกความหมายต่อไป พวกนักวิเคราะห์ศัพท์ แปลบุญว่า นำมาซึ่งการบูชา หรือทำให้
เป็นผู้ควรบูชา คือใครก็ตามที่สั่งสมบุญไว้ สั่งสมความดี เช่นสั่งสมศรัทธา เมตตา กรุณา
มุทิตา ผู้นั้นก็มีแต่คุณธรรมมากมาย ซึ่งทำให้เป็นผู้ควรบูชา

ฉะนั้น ความหมายหนึ่งของบุญก็คือ ทำให้เป็นคนน่าบูชา และอีกความหมายหนึ่งก็คือ ทำให้
เกิดผลที่น่าชื่นชม เพราะว่าเมื่อเกิดบุญแล้ว ก็มีวิบากที่ดีงามน่าชื่นชม จึงเรียกว่ามีผลอันน่าชื่น
ชม ใกล้กับพุทธพจน์ที่ว่า "สุขสฺเสตํ อธิวจนํ ยยิทํ ปุญฺญานิ" ซึ่งแปลว่า ภิกษุทั้งหลาย

คำว่า บุญ นี้ เป็นชื่อของความสุขเมื่อบุญเกิดขึ้นในใจแล้ว จิตใจก็สบายมีความเอิบอิ่มผ่องใส
บุญก็จึงเป็นชื่อของความสุขนี้เป็นอย่างๆ ที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องบุญ ส่วนบาปนั้นตรงกันข้าม
บาปนั้น โดยตัวอักษร หรือโดยพยัญชนะแปลว่า สภาวะที่ทำให้ถึงทุคติ หรือทำให้ไปในที่ชั่ว
หมายถึงสิ่งที่ทำให้จิตตกต่ำพอบาปเกิดขึ้น ความคิดไม่ดีเกิดขึ้น โทสะ โลภะ เกิดขึ้น จิตก็ตก
ต่ำลงไป และนำไปสู่ทุคติด้วย และท่านยังให้ความหมายโดยพยัญชนะอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นสิ่ง
ที่คนดี พากันรักษาตน ให้ปราศจากไป หมายความว่า คนดีทั้งหลายจะรักษาตนเองให้พ้นไป
จากสิ่งเหล่านี้ จึงเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นบาป เป็นสิ่งที่คนดีละทิ้ง พยายามหลีกหลบเลี่ยงหนี
ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย นี่เป็นความหมายประกอบ ซึ่งอาจจะเอาไปใช้อธิบายเป็นเกร็ดได้ ไม่ใช่
ตัวหลักแท้ๆ เอามาพูดรวมไว้ด้วยในแง่ต่างๆ ที่เราจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง "กรรม"

http://www.dhammathai.org/store/karma/karma12.php



หมั่นศึกษานะคะ tammykung จะได้ไม่หลงทาง :b16:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


ความแตกต่างกันระหว่างบุญกับกุศล/บาปกับอกุศล--วศิน อินทสระ

:b39: บาปกับอกุศล
บาปกับอกุศลนั้น มีความหมายใกล้เคียงกัน ใช้แทนกันได้ มีหลายแห่งที่ บาป อกุศล มาด้วยกัน ตามหลังกันมา เช่นในเรื่องปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง มีเพียรระวังบาปเป็นต้นในที่นั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ยังความพอใจให้เกิดขึ้น, พยายาม, ปรารภความเพียร, ประคองจิต, ตั้งความเพียร เพื่อความไม่เกิดขึ้นแห่งบาปอกุศลที่ยังไม่ได้เกิด เพื่อละบาปอกุศลที่เกิดแล้ว, เพื่อความเกิดขึ้นแห่งกุศล (ไม่มีคำว่าบุญ) ที่ยังไม่เกิด, เพื่อให้กุศลที่เกิดแล้ว ดำรงอยู่และเจริญบริบูรณ์ยิ่งขึ้นไป"
(มัคควิภังคสูตร และ อง. จตุก. ๒๑/๒๐/๑๓)

:b44: บุญกับกุศล
ส่วนคำว่า "บุญกับกุศล" นั้น มีความหมายกว้างแคบ สูงต่ำกว่ากัน
บุญมีความหมายแคบและต่ำกว่ากุศล
กุศลมีความหมายสูงและกว้างกว่าบุญ
บุญเป็นฝ่ายโลกียะอย่างเดียว เป็นฝ่ายวัฏฏคามี (วนเวียนอยู่ในวัฏฏะ)
ส่วนกุศลเป็นโลกียะก็มี เป็นโลกุตระก็มี โลกุตรบุญนั้นไม่มี กุศลฝ่ายโลกียะนั้นเท่ากับบุญได้ บุญเป็นซีกหนึ่งของกุศลคือซีกโลกียะ

ตามปกติการให้ทาน รักษาศีล แม้จะให้ทานมากเพียงไร รักษาศีลมากและนานเพียงไร บริสุทธิ์เพียงไรก็ยังอำนวยผลให้เพียงแค่สวรรค์ ๖ ชั้น และมนุษยภูมิเท่านั้น ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ยังเป็นอุปธิเวปักกา (ให้ผลเป็นขันธ์อยู่ เมื่อยังมีขันธ์ก็ยังมีทุกข์) อุปธิ แปลว่า กิเลสก็ได้ ฉะนั้น อุปธิเวปักกา จึงแปลว่ามีผลเป็นกิเลสก็ได้ด้วย เช่นว่าให้ทานรักษาศีลด้วยมุ่งหมายว่าจะได้ไปเกิดเป็นเทพพวกใดพวกหนึ่ง เพื่อได้เสวยกามารมณ์ให้สมอยากโดยไม่ยาก ขณะที่ตั้งความปรารถนานั้นก็เป็นกิเลสตัวโลภะหรือราคะแล้ว เมื่อไปเกิดเป็นเทพสมความต้องการก็เพลิดเพลินในกามคุณอันเป็นทิพย์ กิเลสยิ่งเป็นตัวเหตุของทุกข์ใหญ่ นี่คืออานิสงส์ของฝ่ายบุญ

คราวนี้มาพูดถึงฝ่ายกุศลบ้าง กุศลนั้น แปลว่า "ฉลาด" หรือตัดกิเลสเหมือนหญ้าคา (กุส แปลว่าหญ้าคา, ล แปลว่า ตัด รวมความว่า กุศล ก็แปลว่า ตัดกิเลสอันเหมือนหญ้าคา) เพราะทำให้ตายได้ยาก ต้องถอนโคนกันจริง ๆ เราจะพบในพระบาลีบ่อย ๆ ว่า "ถอนตัณหาพร้อมทั้งรากได้แล้ว (สมูลํ ตณฺหํ อพฺพุยฺห) เป็นผู้หมดอยาก ดับสนิท (นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต)

การเจริญวิปัสสนาเพื่อเห็นไตรลักษณ์แล้วละโลภะ โทสะ โมหะ เสียได้ นั่นแหละเป็นมหากุศล อนึ่ง การให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือทำความดีใด ๆ ก็ตามแล้วมุ่งเอาความสิ้นอาสวะ มุ่งพระนิพพาน มุ่งกำจัดกิเลส ต้องการผลเหมือนกัน แต่ผลที่ต้องการนั้นคือความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่ต้องการเวียนว่ายตายเกิด มุ่งความสิ้นภพ สิ้นชาติ การทำความดีนั้นก็เป็นกุศล เป็นปัจจัยแก่พระนิพพานได้

บุญกับกุศลมีความต่างกันบ้างเหมือนกันบ้างดังกล่าวมานี้ ในส่วนที่เป็นบุญท่านถือว่าเป็นเครื่องข้องอยู่ เพราะยังอำนวยผลเป็นขันธ์และเป็นกิเลส แม้จะเป็นฝ่ายดีก็ตาม ท่านจึงสอนให้ละเสีย ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า
"โยธ ปุญญญฺจ ปาปญฺจ อุโภ สงฺคํ อุปจฺจคา
อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ ตมฺหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ"
ผู้ใดในโลกนี้ละเครื่องข้องทั้ง ๒ คือบุญและบาปได้แล้ว
เรา (ตถาคต) เรียกผู้นั้น ผู้ไม่เศร้าโศก ปราศจากธุลี
(คือกิเลส) บริสุทธิ์แล้วว่า เป็นผู้ประเสริฐ"
(เล่ม ๒๕ ข้อ ๓๖ หน้า ๗๐)


http://www.dharma-gateway.com/ubasok/wa ... in-015.htm

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2010, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tammylala เขียน:
ในความคิดของผม ไม่น่าจะบาป ไม่รู้ว่าถูกต้องไหมครับ


ไม่บาปก็ไม่บาป จบ ไม่ต้องปรุงแต่งต่อ

ไปดูหนังสักรอบดีไหม :b1: :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 14 ม.ค. 2010, 21:31, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ม.ค. 2010, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้ ไม่รู้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะไปยึดเอา จึงตรงต่อการตรัสรู้ ไม่ ติด ไม่ยึดรู้ วาง ว่างอยู่เองแล้ว จะหมดความเป็นสัตว์โลก ปุถุชนก็ตรงที่ไม่อะไรกับอะไร กับรู้นี่ละ จะปลงโลก ปลงธรรมก็ตรงนี่ละ ที่เป็นต้นขั่วปฏิจจสมุปบาท โมหะ อวิชาก็ตรงนี้ละ หากจะเอาเฉพาะวิชา หมายถึง เอาความเข้าใจ นั้นนี้ไปตลอด ก็ย่อมหาเข้าใจสงสัยไปตลอด จึงกลายเป็นว่าอวิชา ในวิชา เป็นติดรู้ ยึดรู้ไปแล้ว สรุป สั้นๆ รู้ ไม่รู้ ไม่ใช่สิ่งที่จะไปยึดเอา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 109 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 52 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร