วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 07:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 19:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 18:58
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกชายติดเกมจะใช้ธรรมะข้อไหนเข้าช่วยดีคะ

ลูกชายอายุ12 ปี ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ค่ะ เราก็พยายามกำหนดเวลาเล่น แล้วก็พยายามหากิจกรรมอื่นให้ทำ เช่นเล่นกีฬา อ่านหนังสือ เค้าก็เชื่อฟังแต่ก็ยังอยากเล่นมากๆ

เกมก็ไม่ได้ซื้อให้ค่ะ เค้าไปหาดาวโหลดมา

มีคำแนะนำดีๆให้มั้ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


downunder เขียน:
ลูกชายติดเกมจะใช้ธรรมะข้อไหนเข้าช่วยดีคะ

ลูกชายอายุ12 ปี ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ค่ะ เราก็พยายามกำหนดเวลาเล่น แล้วก็พยายามหากิจกรรมอื่นให้ทำ เช่นเล่นกีฬา อ่านหนังสือ เค้าก็เชื่อฟังแต่ก็ยังอยากเล่นมากๆ

เกมก็ไม่ได้ซื้อให้ค่ะ เค้าไปหาดาวโหลดมา

มีคำแนะนำดีๆให้มั้ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ


สิ่งที่คุณทำอยู่ ก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้มงวด เด็ดขาด แต่ต้องมียืดหยุ่นบ้าง ถ้าหากมีเวลา ก็พาเขาไปเล่นกีฬา ด้วยตัวคุณเอง บ่อยๆ สักพัก ก็หายอยากเล่นเกมคอมฯ เพราะกีฬา จะสนุก และประทับใจ มากกว่า เกมคอมฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 07:32
โพสต์: 95

แนวปฏิบัติ: หลักวิถีธรรมชาติ - อานาปานสติ,บริกรรมภาวนา
ชื่อเล่น: นุ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ทำอยุ่ดีแล้วครับ หากิจกรรมอย่างอื่นๆมาให้เค้าเล่น และก็ยังดีที่ว่ามีคอมพิวเตอร์อยุ่ที่บ้าน ทำให้เค้ายังอยู่ในความดุแลของเรา ถ้าไม่มีคงจะห่างสายตา ซึ่งจะแย่กว่านี้แน่นอน

ส่วนที่ว่าใช้ธรรมะข้อไหนนั้น ผมก็จนปัญญาเหมือนกันครับ เพราะว่าเกมคอมพิวเตอร์สมัยนี้ เป็นสิ่งดึงดูดของเด็กสมัยนี้มากเหลือเกิน มีหลายรูปแบบทำให้เด็กเพลิดเพลิน ไม่รุ้จักเบื่อ ทำให้เด็กๆไม่ค่อยจะรับฟังเหตุผลเท่าไรนัก

สมัยก่อนผมเองก็เคยติดเกมมากเหมือนกัน(เมื่อก่อนเกมPCยังไม่มีให้เล่น) ไปๆมาๆ ผมเลิกไปเอง

.....................................................
จงทำศีลให้เป็น อธิศีล
ทำจิตให้เเป็น อธิจิต
ทำปัญญาให้เป็น อธิปัญญา


พื้นฐานคุณธรรมความเป็นมนุษย์คือ ศีล๕ กุศลกรรมบถ๑๐ หิริโอตัปปะ และความกตัญญู กตเวทิตา

จุดสูงสุดของการรู้ธรรม เห็นธรรม ก็คือ
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ...สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 22:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2009, 08:46
โพสต์: 405

แนวปฏิบัติ: ดูจิต-อานา
ชื่อเล่น: ขวานผ่าซาก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แนะนำ กระบองเลยครับ

หายแน่ :b12:

แต่ คงไม่ต้องถึงขนาดนั้น :b12:

ชี้โทษให้มากๆ ครับ เด็กก็อย่างนี้แหละครับ หยุดยากครับ

:b53: :b53:

.....................................................
สุ จิ ปุ ลิ...(หัวใจนักปราชญ์)

ปัจจุบันธรรม

โยนิโส มนสิการ
สติ สัมปชัญญะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 00:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอเล่าเรื่องของตัวเองนะค่ะ
เผื่อจะเป็นแนวทางได้บ้าง ลูกชายก็เริ่มจะติดเกมส์
ตอนเขาอายุได้แปดขวบ ด้วยความที่เรารักลูก อยากได้
อะไร ถ้าให้ได้ ไม่เคยปฏิเสธเลย มีพร้อมแทบทุกอย่าง
ที่นี่ปัญหาก็เริ่มมีเพระของมีอยู่ในบ้าน ต่อให้ตั้งเวลา กำหนด
เวลาอย่างไร? ก็ไม่เป็นผล เพราะเราเองก็ไม่ใจแข็งพอกับข้อ
ต่อรอง หรือคำอ้อนวอนของลูก :b16:

เห็นเลยว่าอนาคตต้องปัญหาใหญ่แน่ๆ จนวันหนึ่งเขาดูการแข่ง
กีฬาซีเกมส์ หรืออะไรก็จำไม่ได้ค่ะ แล้วเขาก็ขอไปเรียนว่ายน้ำ
ดีใจมาก ตอนนั้นยอมรับว่าเศรษฐกิจกำลังล่มสลาย แต่คิดว่า
เป็นไงเป็นกัน จะกัดฟันยอมเสียเงิน เพราะมองเห็นว่าเป็นหนทาง
แก้ปัญหานี้ดีที่สุด :b17:

ปัจจุบันไม่มีปัญหานี้ เพราะเลิกเรียนปุ๊ปก็รับไปทำกิจกรรม
คือเรียนดนตรีสองวันต่ออาทิตย์ ไดร์กอล์ฟอีกสามวันต่ออาทิตย์
ต่อจากสองอย่างนี้ก็อยู่ที่สระน้ำจนถึงสามทุ่ม กลับถึงบ้าน
ก็ไม่มีแรงที่จะทำอะไรแล้ว ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์
ก็จัดโปรแกรมเรียนพิเศษ เรียนศิลปะ หรืออะไรก็ได้ที่เขาชอบ
จนหมดทั้งสองวัน จะมีเวลาก็แค่ช่วงเช้าของเสาร์ อาทิตย์
ประมาณสองชั่วโมง ทุกอย่างก็เลยอัตโนมัติ ว่าเขาไม่มีทาง
ติดเกมส์ได้เลย เพราะไม่มีเวลา :b30:

ตอนที่เริ่มให้ลูกเรียนกิจกรรมเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ในสภาพคล่องเลย
ตรงกันข้าม เรียกว่าแทบไม่มีกินด้วยซ้ำไป คนภายนอก
เขามองว่าเป็นเรื่อง "ฟุ่มเฟือย" แต่ตัวเองกลับมองเห็นเป็นเรื่อง
จำเป็น เพราะผลมันอยู่ในอนาคต คิดว่าอย่างไรเสียการลงทุน
ครั้งนี้ ไม่มีขาดทุนแน่ แล้วก็คิดไม่ผิดค่ะ :b13:

เรื่องที่เล่ามานี้ ไม่ได้มีเจตนาโอ้อวด เพราะแต่ละครอบครัว
แต่ละปัญหาอาจจะใช้วิธีเดียวกันไม่ได้ แต่อาจใช้เป็นแนวทางได้
ลูกอายุแค่สิบสอง ยังไม่สายเกินไปถ้าแก้ปัญหาตั้งแต่ตอนนี้
ขอให้โชคดีนะค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 06:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 18:58
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ ตัวเองก็ถึงขั้นลาออกจากงานมาดูลูกอย่างเดียวแล้วค่ะ เพราะมีลูกสามคน คนโตก็12 ถ้าเค้ามีกิจกรรมเยอะๆก็รู้สึกเหนื่อย อารมณ์เสีย หงุดหงิด เพราะเราอยู่ที่ออสเตรเลีย มีอะไรต้องช่วยตัวเองหมด ทำเองหมด ไม่มีเด็กช่วยงานบ้านค่ะ

เด็กสามคน แต่ละคนก็มีปัญหาคนละอย่างค่ะ ลาออกจากงานมาแล้วก็ยังเครียด จิตใจหงุดหงิด บางทีเด็กเถียงกันหน่อยก็จะมีอารมณ์ปรี้ดแตก หรือ บางทีลูกคนเล็กกินข้าวช้า พี่ๆรอไปโรงเรียน เราก็หมดความอดทน อยากจะว๊ากก บางทีก็กลั้นอยู่ บางที่ทนไม่ไหวก็จัดการป๊าบ

หนังสือเลี้ยงลูกอ่านหมดค่ะ ธรรมะทั้งหลายที่จะใช้เลี้ยงลูกรู้หมดค่ะ แต่ทำไม่ค่อยได้ กลุ้มค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย downunder เมื่อ 17 ธ.ค. 2009, 06:34, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 06:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อยู่ต่างประเทศคงต้องเหนื่อยหน่อยนะค่ะ
เพราะกิจกรรมทุกอย่างมันยาก และเร่งรีบไปหมด บางอย่างเรา
ไม่สามารถจัดการเรื่องเวลาได้เลย
ไม่เหมือนเมืองไทย ซึ่งเราสามารถจัดการเวลาให้ลูกได้
ภาพโดยรวมแล้ว ก็คงต้องยัดเยียดกิจกรรมให้เขาให้ได้มากที่สุด
ให้เขาเหลือเวลาที่จะเล่นเกมส์น้อยที่สุดนะค่ะ...คุณแม่คงต้องใช้เวลา
ค่อยๆแก้ไขและเปลี่ยนแปลงทีละนิด :b6:


เลี้ยงเด็กสามคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เรื่องปรี๊ดแตกก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่คุณแม่ยังโชคดีที่มีโอกาสได้เลี้ยงลูกๆเอง แม่บางคนอยากจะดูแล
อยากจะเลี้ยงลูก อยากอยู่ใกล้ๆลูก ต่อให้เหนื่อย ปวดหัวบ้าง หงุดหงิด
บ้างก็ยอม ก็ยังไม่มีโอกาสเลยค่ะ ใจเย็นๆนะค่ะ เหนื่อยกายแต่สุขใจ
โชคดีนะค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


downunder เขียน:
ลูกชายติดเกมจะใช้ธรรมะข้อไหนเข้าช่วยดีคะ

ลูกชายอายุ12 ปี ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ค่ะ เราก็พยายามกำหนดเวลาเล่น แล้วก็พยายามหากิจกรรมอื่นให้ทำ เช่นเล่นกีฬา อ่านหนังสือ เค้าก็เชื่อฟังแต่ก็ยังอยากเล่นมากๆ

เกมก็ไม่ได้ซื้อให้ค่ะ เค้าไปหาดาวโหลดมา

มีคำแนะนำดีๆให้มั้ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ


อย่าคิดมากครับ
ผมเคยเป็นนะยอมรับเลย
ตอนนี้เลิกได้เพราะมองเห็นความน่าเบื่อของมันน่ะครับ
แต่ก็เพราะเราปล่อยให้เขาไปติดอ่านะครับ ก็ต้องค่อย ๆ แก้ไปก่อน
สุ้ ๆ ครับ ให้ความอบอุ่นกับเขามาก ๆ
เอาแบบในหนัง บ้านนี้มีรักได้ยิ่งดี 555+


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การเล่นเกมในคอมพิิวเตอร์ ลองดูว่าเขาเล่นเกมประเภทไหน เช่น ผจญภัย ลับสมอง ฯลฯ แล้วหากิจกรรมตามที่เข้าชอบสิคะ หรือหาเกมเสริมสร้างจินตนาการซะเลย

ทางธรรม อะไรมีเกิดก็จ้องมีดับ จุฬาภินันท์เคยบ้าเกมใน ipod touch มาระยะโตๆ เกมพวก puzzle และ time management น่ะค่ะ แล้ววันนึงมันก็เสื่อมความชอบ

ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ค่ะ เกมมีหลายจำพวก เขาจะติดก็ไม่ผิด แต่ควรติดให้ถูกชนิด แบ่งแวลาให้ได้ เรียน กิน นอน ออกกำลังกาย แค่นี้ก็พอแล้วค่ะสำหรับเด็ก ให้เขาอยู่กับโลกจินตนาการของเขา เราเป็นผู้ปกครองก็คอยคุมดูแลอยู่ห่างๆ

เกมดีๆสมัยนี้มีเยอะมากค่ะ

อย่าขัดใจเขาด้วยการห้ามเขาค่ะ เพราะในใจเขาต่อต้าน รอให้ใจเขาเสื่อมจาดความชอบเองตามหลักไตรลักษณ์ดีกว่าค่ะ รับรองได้ผล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ธ.ค. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ส.ค. 2009, 07:41
โพสต์: 4

โฮมเพจ: gapom55
แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
อายุ: 0
ที่อยู่: นนท์บุรี

 ข้อมูลส่วนตัว www


..ประสบการณ์ที่ผ่านมาครับ เกมทุกประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
..ผมเป็นอีกคนที่เคยติดเกม แต่ก็ได้ประโยชน์มากมายจากเกมเช่นเดียวกัน

1.ก่อนที่จะโทษว่าเกมเป็นเรื่องไร้สาระคุณมองว่าเกิดโทษอะไรรึเปล่า
2.ความเป็นเด็กทำให้ ตอนนี้ยังไม่มีสติ เหตุผลพิจารณา ความถูกผิด


ข้อแนะครับ...
1. ไม่ควรจะตัดขาดให้เค้าเลิกเลยเราเพราะเค้าจะเหมาว่าผู้ใหญ่ไม่มีเหตุผลควรค่อยๆ แทรกด้วยกิจกรรมอีนเข้าไป
2. จำกัดเวลาเล่น ถ้าเป็นไปได้คุณแม่ลองเล่นกับเค้าดูสิครับ จะได้ดึงเค้ามาอยู่กับเราแทนที่จะอยู่กับเพื่อนในเกม

น้องพึ่งอายุ 12 เองครับกำลังติดเพื่อนที่โรงเรียนเด็กก็อยากอวดหรือมีตัวตนในเรื่องที่เพื่อนๆกำลังพูด...
ปัญหาไม่ใหญ่ครับ ค่อยๆแทรกตัวเราเข้าไปครับคุณแม่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2009, 09:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ธ.ค. 2009, 18:58
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆกับประสบการณ์ส่วนตัวที่เล่าสู่กันฟัง ก่อนอื่นคิดว่าคงต้องแก้ที่ตัวเองก่อนอ่ะค่ะ กับลุกคงต้องอดทนกับเค้ามากๆๆๆ หวังว่าเวลาที่ผ่านไปเค้าโตขึ้นจะได้นำสิ่งที่เราปลูกฝังไปใช้ให้เป็นประโยชน์และเป็นคนดี

ปล. จะให้เล่นเกมกับลูกคงไม่ไหวค่ะ เพราะเกมมีแต่ ยิงๆ ฟัน ฆ่า เครือข่ายพวกทำเกมนี้ใหญ่มากค่ะ เป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้าน$$$$ คนทำธุรกิจคิดเกมพวกนี้ไม่นึกถึงบาปกรรมที่เิกิดบ้าง ไม่รู้ว่าเด็กๆติดเกมทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์หนัก ขนาดสามีเพื่อนอายุจะสี่สิบแล้วยังติดเกม เพื่อนยังบ่นกลุ้มๆ แล้วนี่เราจะหวังให้ลูกเบื่อเลิกเล่นไปเองได้เหรอคะ


แก้ไขล่าสุดโดย downunder เมื่อ 18 ธ.ค. 2009, 09:32, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2009, 09:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


downunder เขียน:
ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆกับประสบการณ์ส่วนตัวที่เล่าสู่กันฟัง ก่อนอื่นคิดว่าคงต้องแก้ที่ตัวเองก่อนอ่ะค่ะ กับลุกคงต้องอดทนกับเค้ามากๆๆๆ หวังว่าเวลาที่ผ่านไปเค้าโตขึ้นจะได้นำสิ่งที่เราปลูกฝังไปใช้ให้เป็นประโยชน์และเป็นคนดี

ปล. จะให้เล่นเกมกับลูกคงไม่ไหวค่ะ เพราะเกมมีแต่ ยิงๆ ฟัน ฆ่า เครือข่ายพวกทำเกมนี้ใหญ่มากค่ะ เป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้าน$$$$ คนทำธุรกิจคิดเกมพวกนี้ไม่นึกถึงบาปกรรมที่เิกิดบ้าง ไม่รู้ว่าเด็กๆติดเกมทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์หนัก ขนาดสามีเพื่อนอายุจะสี่สิบแล้วยังติดเกม เพื่อนยังบ่นกลุ้มๆ แล้วนี่เราจะหวังให้ลูกเบื่อเลิกเล่นไปเองได้เหรอคะ



เกมส์ SF แหงเลย :b14:
เอาเป็นว่า ไม่รุ้ว่าเขาจะเบื่อตอนไหน หรืออาจจะเล่นไปตลอดเลย
ก็ดีแล้วที่เรามองเห็นปัญหาได้แล้วจุดหนึ่ง
สิ่งที่เราต้องทำต่อคือ อย่าให้หน้าที่อื่นของเขา หรือเราบกพร่องไปเพราะเจ้าเกมส์นี้เลย
ไม่งั้นเด๋วเราแพ้เกมส์ชีวิต :b32:
และทำ "ใจ" ของเราให้ดีไว้
สุ้ ๆ ครับ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2009, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเรามีความสุขกับอะไร มันก็จะมีใจจดจ่อกับกับสิ่งนั้นแหละครับ

อาจจะเป้นเพราะว่าเด็กๆของเรา "ไม่มีทางเลือกที่จะมีความสุขมากนัก"
ทางแก้ก้คือต้องหาอย่างอื่นที่ทำให้เขามีความสุขกว่านั้น มาล่อเขาออกไป
อย่าไปยัดเยียดนะครับ

กุญแจสำคัญที่คือเด้กต้องมีความสุข
พอเขามีความสุขที่มากกว่าเกมส์ เขาก้เลิกสนใจเกมส์เอง

คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำหน้าที่เป้น "นักสรรหา"
สรรหาโอกาสให้เด็กๆได้ลองทำสิ่งต่างๆ เขาไม่ชอบก้อย่าบังคับ
ไม่ใช่ว่า พ่อแม่เห้นว่าดี ก็ต้องแปลว่าเขาจต้องชอบ ต้องทำ อันนี้ผิด

เมื่อเช้าฟังข่าว ลูกสาวอายุ 19 สมคบกันกับชายที่รักกัน ลวงพ่อไปยิงทิ้งในป่า
เพราะว่าพ่อกีดกัน นอกจากจะกีดกันแล้ว ยังบังคับให้ลูกแต่งงานกับเพื่อนพ่อ อายุ 40 ปลายๆ

ผมก็อยากจะสมน้ำหน้าผู้พ่อ แต่"สงสาร" ดุจะเข้าทีกว่า
เพราะผู้เป็นพ่อไม่รู้เท่าทันตัวเอง ที่ไปยึดถือว่า
ความสุขของพ่อคือความสุขของลูก..แต่ความสุขของลูกนั้นเป้นของพ่อ
พ่อว่าดีต้องดี

แกไม่ได้คิดเป้นคำๆแบบที่ผมสรุปหรอกนะ
แต่เป้นจิตใต้สำนึกของแกมันทำงานโดยสนองความเชื่ออันนั้น สนองอัตตาอันนี้ของแก
โดยไม่รู้ตัวแก


คุณแม่อาจจะเริ่มที่การให้ลูกทำแบบทดสอบความถนัดดูเล่นๆก่อนก็ได้นะครับ
ไปตามร้านขายแบบเรียน เขาจะมีหนังสือแบบทดสอบ ข้อสอบที่วัดวคามถนัดทางอาชีพ
เป็นข้อสอบแบบถามอะไรก็ไม่รู้ ให้ลองซื้อมาหลายๆสำนักนะครับ
แล้วให้ลูกลองทำ แต่ข้อสอบแบบนี้มันไม่ใช่ข้อสอบเอาคะแนแนนะครับ
ให้ทำไปตามความรู้สึก ตรงๆ เพราะว่ากันตามตรง มันเป้นแบบคัดกรองความถนัดมากกว่า
แล้วพอเราทำหลายๆสำนัก เราจะเห้นภาพรวมอันหนึ่งเป้นแนวโน้มของเด็กว่าเขาถนัดไปทางไหน

พอได้ทิศแล้ว
คราวนี้ก็ลองหาโอกาสให้เขาได้ไปลองในสิ่งต่างๆ
เช่นเขาถนัดมาทางศิลปศาสตร์ ก้ต้องค่อยๆย่อยลงไปอีกว่าแบบไหน
คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นกับเรื่องนี้นะครับ
ค้องค่อยๆสู้กับปัญญา
แล้วเมื่อเด็กเจออันที่เขาชอบแล้วนะครับ ผมจะบอกว่า
ช้างก็ฉุดไม่อยู่ เขาไปของเขาลิ่วๆ พ่อแม่ตามไม่ทัน เพราะต้องไปหาเงินมาส่งลูกเรียนอันที่เขาชอบ

เหนื่อยต้นๆ แต่สบายปลายๆ
แล้วลูกคุณจะเป็นอัจริยะคนหนึ่งในเรื่องที่เขาชอบ
(ไม่ใช่อัจฉริยะแบบที่ต้องเทียบกับคนอื่นนะ :b32:
ถ้าจะเป้นอัจฉริยะเพราะต้องการเหนือคนอื่น อันนั้นมันอัจริยะในตันหาแล้วล่ะ ไม่มีความสุขหรอก )


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เตือนสั้นๆไปก่อน เช่น บอกว่าเล่นได้ แต่อย่าจริงจังกับมัน อย่าอิน เอาอย่าเป็นจริงเป็นจังกับมันเป็นเกมส์แค่สมมุติ ไปเรื่อยๆก่อน
จากประสบการณ์ที่เคยเปิดร้านคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต เกมส์
- 90% ของเด็กที่มาใช้บริการเป็นเด็กค่อยข้างมีปัญหาทางครอบครัว เช่นพ่อแม่ไม่ค่อยอยู่ด้วย อยู่ด้วยก็ไม่ค่อยมีเวลา
- ต้องการความภาคภูมิใจในชัยชนะ
- ต้องการเป็นยอมรับจากเพื่อน อยากอวดเพื่อนประมาณนี้
- ต้องการแสดงออก
- ต้องการเพื่อน
- เพื่อความสนุกสนาน
ในขณะที่กลุ่มที่พวกที่ค่อนข้างมีปัญาหาทางครอบครัว มาเล่น โดยมากแล้วมักจะมีการใช้คำหยาบ ด่ากัน ทำให้เป็นคนก้าวร้าวมาขึ้น โดยมากแล้วเกมส์ถูกออกแบบมาไม่ใช่เป็นแบบเล่นแค่ 1 ชั่วโมงจบออกแบบมาเล่นแบบไม่รู้จบ ไปเรื่อย หากจะให้ดีเล่นเอาชนะคนอื่นได้ง่าย หรือมีคุณสมบัติพิเศษ ก็ต้องเติมเงินเข้าไปในเกมส์นั่นๆส่งผลให้ต้องมีการเล่นที่ต่อเนื่องยาวนานและเป็นที่มาของมูลค่าหลายล้านของเกมส์นั่นๆ คือผู้เล่นต้องเล่นหลายชั่วโมง เป็นปีก็มี
หากจะว่าเป็นแล้วจริงต้นขั้วจริงๆคือการหลงสมมุมติภายในจิตใจ ในการนี้ก่อนคืออินกับการใช้ชีวิตมากเกินไป อินกับการดู การรู้ แล้วค่อยไปหลง ไปอินกับสิ่งภายนอกที่เรียกว่าหลงเสพติดเกมส์ ตามมา ไม่มีคำว่าสักแต่ว่า แค่ดู แค่รู้ รู้แล้วแล้วไป ไม่อะไรกับอะไร สิ่งไหนมันก็ยึดไม่ได้ มันเป็นแค่สมมุติ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
หากไม่หลงสิ่งสมมุติภายใน ก็ไม่ไปหลงสิ่งสมมุติภายนอก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2009, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2008, 19:18
โพสต์: 160

ที่อยู่: นนทบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


1. ขู่โรควุ้นในตาเสื่อม
2. ขู่โรคสายตาสั้น
3. ขู่โรคกระดูกสันหลัง
4. ขู่ร่างกายไม่แข็งแรง

เทศน์ทุกวันติดต่อกันนาน ๆ เดี๋ยวก็หายเองครับ :b1:

(ด้วยเหตุผลสี่ประการนี้ผมจึงเลิกติดคอมพ์ฯ)

.....................................................
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 51 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร