วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 22:07  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 08:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า ทางสายกลาง เป็นคำที่แปลมาจากภาษาบาลีว่า มัชฌิมาปฏิปทา เป็นทางที่

ที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย ได้แก่ อริยมรรคมีองค์ ๘ (สัมมา

ทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมา

สติ สัมมาสมาธิ) เป็นทางที่ทำให้ผู้ที่อบรมเจริญ บรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคล

ขั้นต่าง ๆ ได้ ตามระดับขั้นของปัญญาไม่ว่าจะเป็นเพศบรรพชิตหรือเพศคฤหัสถ์ก็ตาม

และประการที่สำคัญ ทางสายกลาง ที่พูดกันในภาษาไทย นั้น ไม่ตรงกับคำสอนทาง

พระพุทธศาสนา เพราะทางสายกลางในทางพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของความเข้า

ใจถูก เห็นถูก เป็นทางที่ไม่เข้าใกล้ส่วนสุด ๒ ทาง คือ การหมกมุ่นอยู่ในกาม และ

การทรมานตนให้ลำบาก





ถ้าคิดเรื่องเพียรมากไปน้อยไป ก็เป็นตัวตนอีก อย่าปนสัมมา-

วายามะในมรรคมีองค์ ๘ กับคำว่า ความพากเพียรพยามยามที่เราใช้กันอยู่

สัมมาวายามะที่เป็นมรรคมีองค์ ๘ เกิดเมื่อมีสติ ระลึกรู้สภาพธรรม ที่เกิด

ปรากฏแล้วเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เพราะความจงใจของเรา ไม่จำเป็นต้อง

คิดถึงเรื่องความพากเพียร เพราะขณะใดที่มีสัมมาสติ ก็มีสัมมาวายามะ

ด้วย สัมมาวายามะ เกิดในขณะที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม เช่น

การเห็น การได้ยิน การคิดนึก และ สี เสียง เป็นต้น ที่ปรากฏในขณะนั้น



พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 45

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาสายกลางที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วย

ปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ

เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น เป็นไฉน ?

ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แหละ คือปัญญาอัน

เห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลี้ยงชีวิตชอบ ๑

พยายามชอบ ๑ ระลึกชอบ ๑ ตั้งจิตชอบ ๑.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือปฏิปทาสายกลางนั้น ที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้ว

ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณได้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ

เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน



สายกลาง มิใช่การหาความพอดีของตนเอง เช่น ทานอาหารแต่พอดี มีอะไรแต่พอดี

ถ้าเป็นอย่างนั้น สายกลางของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันเลย เพราะแต่ละคนก็ทาน

ไม่เท่ากัน มีอะไรก็ไม่เท่ากัน สายกลางแบบนั้น จึงไม่ใช่สัจจธรรม เพราะไม่เป็น

หนึ่ง แต่ธรรมที่เป็นสัจจธรรมย่อมไม่เป็นสองคือ เป็นหนึ่งไม่แปรเปลี่ยนไปตามแต่

ละคน กุศลก็ต้องเป็นกุศล จะคิดว่าเป็นอกุศลตามความพอใจตัวเองก็ไม่ได้ เพราะ

เป็นธัมมะ เป็นสัจจธรรม สายกลางก็เช่นกัน ในเมื่อเป็นหนทางดับกิเลส ก็ต้องมีทาง

เดียว ไม่ขึ้นอยู่กับความพอดี หรือความพอใจของแต่ละคน ดังนั้น ทางเดียวที่เป็น

สายกลางที่สามารถดับกิเลสได้ คือ สติปัฏฐาน หรือ มรรคมีองค์ ๘







เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ขอให้อนุโมทนาด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณรสมน :b8: :b8: :b8:
ขอกราบขอบพระคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 10:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 122 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร