ผู้ที่ยังมีความสำคัญตน ซึ่งทุกคนนี่ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง ก็จะต้องรู้สึกว่ายังมี

อยู่แน่ ๆ เพียงแต่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ เพราะเหตุว่า ผู้ที่ไม่มีคือพระอรหันต์ และความ

สำคัญตนนี่ จะมีอย่างละเอียดจนกระทั่งถึงขั้นที่ต้องการให้กุศลเกิด หรือ

ว่าทำกุศลต่าง ๆ เพื่อความสำคัญของตนว่าเป็นคนดี นี่คือความล้ำลึกของอกุศล

ซึ่งถ้าปัญญาไม่รู้ทันอกุศลนั้น ๆ ก็ไม่สามารถที่จะละคลาย แม้แต่ขณะที่ทำกุศล

ก็จะต้องพิจารณาว่า เป็นผู้ที่ทำเพื่ออะไร เพราะเหตุว่า บางคนนี่ ยังมีความ

สำคัญตนอยู่มาก เพราะฉะนั้น ทำกุศลก็เพื่อความสำคัญตนว่าเป็นคนดี...

ซึ่งถ้าปัญญาไม่รู้ทันอกุศลนั้น ๆ ก็ไม่สามารถที่จะละคลาย แม้แต่ขณะที่ทำกุศล

ก็จะต้องพิจารณาว่า เป็นผู้ที่ทำเพื่ออะไร..."

หากยังไม่มีความเข้าใจ

หรือยังไม่รู้เรื่องราวของสภาพธรรม

ที่มากพอ มั่นคงพอ

ก็ไม่สามารถรู้ลักษณะของสภาพธรรม

และก็ไม่มีทางที่จะรู้ชัด รู้แจ้ง

ฟังธรรม....น้อมพิจารณาสภาพธรรมที่ปรากฎ....ค่อยๆเข้าใจธรรม....



ปัญญาทำหน้าที่เข้าใจ.....



พระโสดาบันขึ้นไปเท่านั้น ที่จะรักษาศีลได้ครบอย่างน้อยก็ 5 ข้อ ทุกวัน แต่เรา



เป็นปุถุชน บางวันก็ครบ บางวันก็ขาด มีเหตุปัจจัยให้ล่วงก็ล่วงเพราะมีกิเลส ให้ยัง



ห่วงในชีวิตบ้าง ญาติบ้าง ทรัพย์บ้าง ฯลฯ ฉะนั้น ปัญญาที่เกิดจากการศึกษาพระธรรม



เท่านั้น ที่จะช่วยให้ล่วงศีลน้อยลง เมตตามากขึ้น ละอายบาป กลัวบาปโดย



ความเป็นบาปมากขึ้น วิธีที่นอกเหนือไปจากนี้ ไม่มีเลย เพราะปัญญาเห็นถูกใน



สภาพธรรม(ตัวจริง)มีแต่ในพระพุทธศาสนา





เอาบุญมาฝากวันนี้ได้ให้แม่และพ่อบริจาคพระบรมสารีริกธาตุ และพระปัจเจกธาตุ

ไปประดิษฐานที่วัดป่าที่ปราจีนบุรี เพราะมีโครงการสร้างพระธาตุเจดีย์

และได้ถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม

ให้ธรรมะเป็นทาน และไปร่วมงานถวายพระกฐินมีกฐินเต็มวัดเลย

และเจริญวิปัสสนา กำหนดอิริยาบทย่อย และฝึกสมถคือ มรณานุสติ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ จาคานุสติ

และสีลานุสติด้วย และรักษาอาการป่วยของแม่ให้อาการดีขึ้นอีกด้วย และได้ศึกษาธรรม ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย