ถ้ามีเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งใส่ร้ายว่าพระจี้กงทำบาปแบบนี้แต่ผมก็เลยหาข้อมูลจากgoogle เพื่อหาความเป็นจริงว่าพระจี้กงทำแบบนี้หรือไม่ แล้วพระจี้กงไม่ทำแบบนั้น พฤติกรรมของผมดังกล่าวบาปไหมครับ

ทำจริงหรือไม่จริงก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขานะ

ไม่งั้นเราจะภาวนาไม่ขึ้นนะ นั่งสมาธิยังไงก็ไม่ได้นะ
การปรามาสพระอริยสงฆ์ จะทำให้เราไม่สามารถจะเข้าถึงธรรมได้

ออกมาห่างๆ ทิ้งความสงสัยอันนี้แต่เนิ่นๆจะดีกว่านะครับ


ภาษิตฝรั่งว่า ...."ความอยากรู้อยากเห็น คือสิ่งที่นำแมวไปสู่ความตาย"
ไม่ใช่ว่าห้ามแมวสงสัยนะ แต่แมวมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ถ้าอยากบรรลุธรรม เจริญสมาธิได้ ภาวนาขึ้น
อย่าไปยุ่งกับเขานะ

vอย่าไปสงสัยเลยว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้บาปหรือไม่อย่างไร
เพราะเราได้ทำไปแล้ว แก้ใขอะไรไม่ได้

ให้ตั้งใจทำในสิ่งที่ดีๆต่อไป
ถ้าสงสัยไม่แน่ใจว่าจะบาปหรือไม่ ก็ไม่ควรทำ
เพราะถ้าสงสัยว่าบาปหรือไม่ แล้วฝืนทำลงไปก็ถือว่าผิด

ผมเป็นคนขี้สงสัยเพราะเห็นข้อมูลจากเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งแล้วจึงหาข้อมูลหาความจริงถือว่าบาปหรือไม่แล้วเวลาสวดมนต์บางครั้งก็คิดลบหลู่ในจิตใจท่านมีวิธีแก้ไอย่างไรครับ

ครูอาจารย์ที่ผมนับถือ ท่านบอกว่า
ลบหลู่ในใจไม่เป้นไร เพราะความเผลอมันเป้นธรรมดา



แต่ประเภทประสงค์ร้าย ตั้งใจคิด ตั้งใจมีเจตนาจะลบหลู่
พวกนี้จะได้รับวิบาก


ผ่านไปแล้วช่างมันนะ

ผมยังสับสนว่าตั้งใจคิดหรือเผลอคิด เพราะบางทีผมนั่งเฉยๆความคิดที่ไม่ดีก็มาเฉยๆโดยอารมณ์ไม่ยิ่งดีเลยเมื่อบางครั้งผมพยายามสู้กับมัน ฝ่ายไม่ดีมีกำลังมากขึ้น ผมยิ่งเป็นคนขี้กังวล เพราะผมกลัวบาปมากจนบางครั้งยังเครียดในบางครั้ง แบบนี้ถือว่าเผลอไหม

ต้องถามว่า ท่านเป็นทุกข์มั๊ย ถ้าเป็นก็บาป ไม่เป็นทุกข์ก็ไม่บาปครับ

เป็นกันหมดทุกคนนะครับ
เรื่องคิดไม่ดี เผลอคิด ไม่ตั้งใจคิด ใครๆก็เป็นนะ


กลัวบาปใช่มะ วันหลังก็เวลาเผลอนะ ให้รู้สึกตัวให้ไวๆว่าเผลอแล้ว
อย่าให้เผลอนานนะ บาปของเราจะได้สั้นลงๆไง


เราขี้กังวลใช่มะ เราก็เอาความกังวลนี่แหละเป้นเครื่องมือของเรา
เวลาเราเผลอไปกังวล ก็ให้รู้สึกตัวไวๆ ว่ากำลังกังวลอีกแล้วนะ
กังวลแล้วไม่สบายใจ แต่ชอบเผลอกังวล เราก้หัดรู้สึกตัวให้ไวๆ
อย่าให้เผลอนาน

เรื่องที่คิดกังวลไม่สำคํญนะ สำคัญว่ารู้ตัวว่าเมื่อตะกี้เผลอไปคิด
คอยรู้สึกตัวไว้นะ เมื่อไหร่กังวล เมื่อไหร่เผลอ
ให้รู้ตัวไวๆ

แล้วถ้าอยากคิดก็ปล่อยมันให้คิด อย่าไปบังคั้บไม่ให้คิดนะ
มันอยากบาปนัก ปล่อยมันให้มันบาปแล้วเราคอยตามรู้มันว่าเมื่อไหร่มันจะทำบาปอีก
ให้รู้ตัวไวๆ

ทำไปเรื่อยๆนะ ให้มีความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
ย้ำว่าเรื่อยๆ เนื่องๆ แต่ไม่ต้องกะเกณฑ์ผลลัพธ์นะ

แล้วเด๊่ยวได้ของดีแน่นอน
ถ้าได้ของดีแล้ว บาปเบิบอะไรก็กระเจิงหมด สิวๆนะ

เรียกว่าเผลอครับ

ถ้าไม่อยากคิดต่อ ลองเอาสติมาจับที่ลมหายใจ
หายใจเข้าหายใจออกพร้อมกับนับเลขไปด้วย
หายใจเข้านับ 1 หายใจออกนับ 2 หายใจเข้านับ 3 หายใจออกนับ 4 ต่อไปเรื่อยๆจนถึง10
แล้วเริ่ม 1 ใหม่

เดียวก็ดีขึ้นเองครับ