วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 01:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ส.ค. 2009, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ส.ค. 2009, 12:09
โพสต์: 20

สิ่งที่ชื่นชอบ: ของขวัญของชีวิต
อายุ: 22

 ข้อมูลส่วนตัว


:b45: :b45:
:b8: ขอบพระคุณมากๆนะค่ะ :b8: สำหรับทุกท่านที่ช่วยแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจหนู
:b20: หนูรู้สึกซึ้งใจมากๆเลย จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆค่ะ

ทุกท่านมีน้ำใจสละเวลามาพิมพ์ข้อความเพื่อให้กำลังใจหนู เพื่อสอนให้หนูคิด
ถ้าหนูได้มีโอกาสทำบุญหรือทำความดีอะไร หนูขออนุโมธนาบุญให้กับคุณด้วยนะค่ะ
ขอพระคุณมากๆค่ะ

สิ่งที่ทุกท่านบอก หนูจะระลึกไว้เสมอเมื่อยามที่หนูท้อ หรือหมดกำลังใจจะที่สู้ค่ะ

ถ้าหนูจะยอมแพ้ต่อสิ่งรอบข้างก็เพราะตัวหนูเองค่ะ ทุกวันนี้แม้หนูจะศึกษาธรรมะ อ่านบทความธรรมะมามากเท่าไร่ ก็ได้แต่ช่วยขัดเกลาจิตใจหนูให้ดีมากขึ้น(เท่านั้น) แต่หนูก็ยังไม่เข็มแข็งพอที่จะต้องทนกับชะตากรรมของชีวิตหนูได้มากเท่าไร่ค่ะ

แต่สิ่งที่ทุกท่านบอก ช่วยให้หนูคิดและช่วยให้กำลังใจหนู ให้หนูพยายามอดทนต่ออุปสรรคที่ต้องเจอได้มากขึ้น
หนูจะพยายามค่ะ

:b8: ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบใจจริงๆค่ะ :b8:

:b16: หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่โลกนี้หนูได้เจอคนดีๆแบบพวกคุณค่ะ


:b45: :b45: :b45:


แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 26 ส.ค. 2009, 10:33, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2009, 01:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


น้ำตกสีเขียว เขียน:

เรื่องราวที่ตัวหนูต้องพอเจอแบบนี้ มันคือกรรมเมื่อชาติที่แล้วของหนูใช่ไมค่ะ

หนูควรจะทำยังไงดีค่ะ ถึงจะหลุดพ้นบ่วงกรรมเรื่องแบบนี้ที่หนูไม่ได้ทำชาตินี้ได้ มีหนทางแก้ไขหรือบรรเทาให้เบาบางลงได้ไมค่ะ


ถึงแม้ทุกวันนี้หนูจะตั้งใจทำความดี อ่านหนังสือธรรมะ หรือเข้าเว็บธรรมะต่างๆเพื่ออ่านบทความดีๆให้ใจหนูสงบร่มเย็น ไม่โกรธแค้นเคืองใคร และหมั่นสวดมนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชินบัญชร พระไตรปิกฎ แต่หนูก็ยังรู้สึกว่าหาทางออกไม่เจอสักที


:b45: หนูควรจะทำไงดีค่ะ ช่วยตอบหนูที :b45:

:b48: ขอพระคุณมากๆล่วงหน้าค่ะ :b48: [/b]


tongue tongue tongue


เห็นเน้นข้อความเป็นสีแดงเอาไว้ หากยังติดใจมองหาสาเหตุ ลองพิจารณาดูนะคะ
เป็นหลักกว้างๆ เพราะหากจะค้นหาสาเหตุแล้วบอกกันแบบจำเพาะเจาะจงคงทำได้ยาก
เราๆ ท่านๆ ไ่ม่มีใครสามารถระลึกชาติได้ว่าเคยทำอะไรไว้ในชาติก่อนๆๆๆๆ นู้น จึงได้รับผลกรรมเช่นนี้
ดีแล้วค่ะ ...ย้อนกลับมาพิจารณา ตัวเรา ดีกว่าไปมอง ข้างนอกนั่น
การแก้กรรม คือ การปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ตัวของเรา นี่แหละค่ะ ง่ายที่สุด
ต่อไปก็สร้างเหตุดีๆ อันเป็นกุศลไว้ซะ ก็ไม่ต้องห่วงผลกรรมในวันข้างหน้าเลยว่าจะเป็นฝ่ายกุศลแน่นอน
ลองพิจารณาแก้ออกทีละปมปัญหาว่ามีอะไร เช่น เขานินทาเรา หรือคำพูดยุยงส่อเสียด ให้คนเข้าใจผิด
เรารู้รสแล้วว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี สร้างความเสียหาย
เราก็ระมัดระวังกายใจและคำพูดไม่ละเมิดศีลข้อมุสา ถือศีล สวดมนต์ ภาวนา เป็นต้น :b53:



รูปภาพ

รูปภาพ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 27 ส.ค. 2009, 03:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2009, 06:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เหตุที่หนู ต้องมาเจ็บปวด เพราะหนูคงถูกฟ้าลิขิต เขียนบทชีวิตของหนู
ให้เป็น ผู้รับบทนางเอก ในนิยายน้ำเน่าเรื่องยาว เรื่องหนึ่งในโลกนี้

นางเอกมักถูกอิจฉา ถูกกลั่นแกล้ง และต้องร้องให้ขมขื่นบ่อยๆ
แต่พอท้ายที่สุดแล้ว ด้วยความดีงาม และความเป็นจริงของสัจจธรรมซึ่งผู้ทำดีย่อมได้ดี
หรือธรรมะย่อมชนะอธรรม หรือ ความอดกลั้น เป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง
ก็จะทำให้นางเอกของเรามีสุข สมหวัง และสุขสดชื่น สมใจปรารถนาจนตัวอิจฉาต้องอกแตกตาย

เพราะหนูกำลังรับบทนางเอก จากผู้เขียนบทชั้นเลิศอยู่ยังไงหละจ๊ะ ตอนนี้หนูจึงต้อง
สวมบทบาท ขมขื่น และเป็นดอกโศก สักหลายๆฉากก่อน

ทนให้เหมาะๆ ตั้งใจมั่นในสิ่งดีให้เข้มแข็ง รอเมื่อถึงวาระอันเป็นฉากตอนท้าย
เรื่องราวร้ายๆก็จะคลายเป็นดี

อย่าร้องให้ให้บ่อยนักนะจ๊ะ มันจะทำให้พลังชีวิตของหนูอ่อนแรง และสิ้นหวังอยู่ร่ำไป
ในทางความคิด ถ้าน้ำตาไม่ยอมไหล หัวใจก็แกร่งพอ การเผชิญสิ่งใดก็ไม่ใช่ปัญหา

ดังนั้นปัญหาที่สำคัญ จึงไม่ใช่เพราะเพื่อนของหนู หรือคนแวดล้อมหนู
แต่มันเพราะใจของหนู และธรรมของหนูยังไม่แกร่งพอ

ถ้าธรรม และพลังใจแข็งแกร่งดีแล้ว ปัญหาอะไรๆก็จะลดลง และน้ำตาก็จะไม่ไหล

เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ คุณนางเอก

:b53: :b53: :b53: :b51: :b51: :b51:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2009, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


แม่หนูน้อย...อย่าทุกข์ไปเลยนะคะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป...
หมั่นทำความดี ใช้เวลาให้มีประโยชน์
อะไรหนักๆ แม่หนูน้อยก็ต้องวางลงบ้าง
อย่ากังวลกับสิ่งที่ล่วงมาแล้ว...อยู่กับปัจจุบันให้ได้
จำเอาไว้นะคนดี...คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก
ขอให้เรามั่นใจว่า เราทำดี คนอื่นจะคิดอย่างไรก็ตาม
เรารู้ตัวเองดีที่สุด ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว
อย่าเป็นกังวลไปเลยจ้ะ...เปลืองความคิดเปล่าเปล่านะ...แม่หนูน้อยคนดี

พี่นำธรรมะมาฝากนะจ๊ะ
ค่อยๆอ่าน ค่อยๆพิจารณา ค่อยๆคิดตาม
แล้วแม่หนูน้อยจะคิดออกว่า
เราต้องทำอย่างไรกับชีวิตดี



ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล


คำนินทาใดๆ ไม่อาจทำคนดีให้เป็นคนไม่ดีไปได้
คนจะดีก็เพราะกรรม คนจะเลวก็เพราะกรรม
หาใช่จะดีเพราะสรรเสริญ หรือจะเลวเพราะนินทาก็หาไม่
ควรถือความจริงนี้เป็นสำคัญ และอย่าทำหรือไม่
ทำอะไรเพราะกลัวนินทาหรือเพราะปรารถนาสรรเสริญ
อย่าทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่แม้เพียงสงสัยว่าเป็นกรรมไม่ดี
แต่จงทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่พิจารณาแล้ว
ตระหนักแน่ชัดว่าเป็นกรรมดีเท่ากัน
แม้ว่าการทำกรรมดีจะมีผู้นินทา

นินทานั้นไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย ถ้าผู้ถูกนินทาไม่รับ คือไม่ตอบ
เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ
ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ
แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด
ผู้นินทาคือ ผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี ไม่ว่าผู้ถูก
นินทาจะรับหรือไม่รับก็ตาม ผู้นินทาย่อมได้รับผล
ไม่ดีแห่งกรรมไม่ดีของเขาอย่างแน่นอน

ดังนั้นแม้เมื่อถูกนินทาแล้ว ก็ให้คิดว่าผู้นินทาเรา
ได้รับการตอบแทนแล้ว คือได้รับผลของกรรมไม่ดี
ซึ่งจะส่งผลให้ปรากฏช้าหรือเร็วเท่านั้น ผลของกรรม
ไม่ดีนั้นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว เราไม่มี
ความจำเป็นต้องตอบแทนแต่อย่างใด

ความเชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรมมีคุณอย่างที่สุด
ผู้ใดทำกรรมไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น
ความเชื่อเช่นนี้จักทำให้ไม่คิดร้ายตอบผู้คิดร้าย
เป็นการระงับเวรภัยไม่ให้เกิดแก่ตน
เป็นการป้องกันตนมิให้ทำกรรมไม่ดี ทั้งทางกายวาจาและใจ
โดยมุ่งให้เป็นการแก้แค้นตอบแทน
ผลจักเป็นความสงบสุขแก่ตนและแก่ผู้อื่นด้วย

: การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



ขอให้เข้มแข็งนะจ๊ะคนดี...พี่เป็นกำลังใจให้นะ แม่หนูน้อย
...เราเลือกเองได้ว่า เราอยากจะสุข หรือทุกข์...อยู่ที่ตัวเราเองเท่านั้น


รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ลูกโป่ง เมื่อ 29 ส.ค. 2009, 17:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2009, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้เป็นจั่งใดบ้างคะ

เล่าให้ชื่นใจหน่อย อิอิ tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หากเราทุกข์แล้ว งอมืองอเท้า ก็คงจะทุกข์ไปทั้งชีวิต หมั่นทำกรรมดี ให้มากเข้าไว้ ความทุกข์จะจางลง โลกจะเบายิ่งขึ้น เมื่อกรรมดีตอบสนอง คราวนี้เราก็จะมีชีวิตที่มีความสุข เหมือนคนอื่นเค้าบ้าง เราสร้างกรรม แล้วกรรมนั้นก็กลับมาสร้างเรา เป็นวงจรอย่างนี้

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 พ.ย. 2007, 13:54
โพสต์: 19

อายุ: 0
ที่อยู่: chachoengsao

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้นะหนู สู้ๆๆๆๆๆ ทำใจให้สงบ พิจารณาถึงปัญหา
เอา คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระคุณมารดาบิดา เป็น
ที่พึง ตั้งสติให้ดี ธรรมะย่อมชนะอธรรมจ้า ตั้งใจเรียนให้จบเพื่ออนาคต
และพ่อแม่นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่าย้ายที่เรียนเลยนะ เสียดายมากมาย อีกแค่เทอมเดียวเอง ไหนๆก้อได้ธรรมะช่วยแล้ว ทำตามคำแนะนำเป็นยังไงบ้างละ ไม่ได้ผลเหรอ?

ทุกอย่างเป็นสภาวะนะ เกิดขึ้นแต่กรรม ถ้าเธอหนีเธอก็ต้องเจอมันอยู่ดีนะ เธอหนีกรรมไม่พ้นหรอก เธอควรที่จะเผชิญหน้าสู้กับมัน ควรที่จะชนะมัน

ขอให้ระวังตัวกับพวกที่คิดในแง่ร้าย เพราะพวกนี้อาจทำอะไรยามเราเผลอได้ แต่ถ้าพวกนั้นได้แค่พูด ก็ไม่ต้องไปสนใจนักหรอกคะ ปากนกปากกา ใครจะสนใจเล่า สนใจทำไมให้ใจหดหู่ เศร้า หมองมัว พวกเขาเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตคุณมาก ทำให้คุณไม่สามารถทนเรียนต่อเพื่อที่จะจบปีการศึกษาเพียงแค่ 1 เทอมได้อย่างไร?

ขอให้คุณสู้ๆนะคะ จำไว้ว่าถ้าเธอหนี ยังไงซะที่ใหม่เธอก็ต้องเจอเหมือนเดิมแหละ อย่าหนีนะ

แต่ถ้าไม่ได้ ไม่ไหวจริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วอะคะ

ไม่มีใครทำให้คุณรุ้สึกแย่ได้นะคะ นอกจากใจของคุณน่ะ จะกระทบไปเอง


แก้ไขล่าสุดโดย kanalove เมื่อ 27 ส.ค. 2009, 23:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 23:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2007, 15:22
โพสต์: 603

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้ายังไง PM มาปรึกษาได้นะคะ msn ได้ หุหุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 16:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2009, 16:12
โพสต์: 14

ชื่อเล่น: korkai
อายุ: 28
ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


สู้ๆ ค่ะน้อง

ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นค่ะ หากเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คนที่ทำอย่างไร สักวันเค้าก็จะต้องได้รับผลเช่นนั้น ขอให้ถือว่าน้องทำดีแล้ว น้องไม่ไปเป็นเหมือนพวกเค้า จำคำนี้ไว้นะคะ "ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว"

เวลาที่เค้าทำไม่ดีกับเรา น้องท่องบทแผ่เมตตาในใจน้องเลยค่ะ ท่องซ้ำๆ หลายๆ รอบ ไม่ให้จิตใจเราอ่อนแอหวั่นไหวไปกับอารมณ์เสียใจนะคะ น้องยังต้องพบเจอผู้คนอีกเยอะ ยังต้องมีสังคมอื่นๆ ใหม่ๆ อีก กลุ่มในมหาวิทยาลัยถือว่ายังน้อย อย่าไปสนใจค่ะ

การเรียน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่น้องจะต้องคิดถึง และก็คิดถึงแต่การเรียนพอ ไม่ต้องสนใจรอบข้าง ใครดีกับเรา เราดี ใครร้ายกับเรา เราแผ่เมตตาให้ ต่างคนต่างใจต่างการเลี้ยงดู ย่อมคิดไม่เหมือนกัน เราเปลี่ยนใจเค้าให้ดีกับเราไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนใจเราได้ เราต่างหากคือผู้กำหนดว่าใจเราจะเป็นอย่างไร

**************************************
^^อุปสรรคในชีวิต คือ แบบทดสอบที่จะทำให้คนเราเข้มแข็ง ถามตัวเองดูว่าอยากจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอ^^

.....................................................
จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง
สะระณัง คะตา ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ ตัสสะ ภะคะวะโต
สาสะนัง ยะถาสะติ ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ
สา สา โน ปะฏิปัตติ อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ
อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุติ ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 13:37
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นกำลังใจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 15:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ในโลกนี้ม่ายมีใครที่ไม่มีทุกข์ หรือหนีทุกข์ไปได้ ยังต้องมีทุกข์เสมอ ไม่ว่าทุกข์กายหรือทุกข์ใจ แม้แต่พี่ๆที่เข้ามาตอบแนะนำและให้กำลังใจเขาก้มีทุกข์นั้น รวมทั้งตัวพี่เอง

พระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าหากจะแก้ทุกข์ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ดับที่เหตุอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะพ้นทุกข์ ดับที่เขาหรือใครหรือยังไง คำตอบคือทุกข์เกิดที่ใจ ก้ให้แก้หรือดับที่ใจเรา แต่เรื่องนี้มันคงจะยากเกินไปที่น้องจะทำได้

วิธีแก้ที่ง่ายๆสำหรับเด็กผ้หญิงอย่างน้องๆ ไม่ยินดี ยินร้าย ไม่ว่าใคร เพื่อน หรือเพื่อนสนิท หรือครูอาจารย์จะว่ากล่าว ก้ให้อดทนเอาไว้ ถึงแม้มันจะหวานอมขมกลืน ทุกข์ที่อยู่ได้ ทุกข์ใจอยู่ยากก็ตามที
ก้ต้องอดทน อดทนอย่างเดียวคงไม่พอต้องมีที่พักใจ ก็คือที่น้องทำอยู่ทุกวันไงคืออ่านหนังสือธรรมกับมาอ่านธรรมะในเวปต่างๆ เป็นต้น จะช่วยผ่อนคลายและปลงไปได้มากพอสมควร ก้ให้ทำวิธีนี้ไปก่อน
ก้คิดเสียว่าเป็นบาปกรรมเก่าที่เกิดมาแล้วเราต้องชดใช้ แต่เราจะชดใช้มันได้ เราก้ต้องมีวิธีแก้ที่เป็นพุทธวิธีสำหรับเตรียมต่อการเผชิญปัญหาในโรงเรียนนั้นด้วยถึงจะมีกำลังสู้อุปสรรคเหล่านี้ไว้ได้อย่างเหมาะสม
เพราะหากสู้ไม่ได้ แล้วทนไม่ไหวเก็บมาคิดให้ฟุ้งซ่านบ่อยๆ จะทำให้เราเครียดและเสียสติ จิตตกทำให้เราบ้า เป็นโรคจิตโรคประสาทเพราะจิตไม่ได้พักผ่อน จะสู้ได้ก้ด้วยการปล่อยวาง ปล่อยอารมณ์ที่ไม่ดีออกจากจิตใจให้หมด เหลือแต่อารมณ์สบายๆไม่สนใจในสิ่งที่เกิดในโรงเรียน เมื่อมาถึงบ้านให้ลืมเรื่องที่เกิดที่โรงเรียนเสีย หากิจกรรมจะดูหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านเวปธรรมตามเนตก็ได้ ขอแต่ให้เราผ่อนคลายจิตที่โดนคนด่าว่ามาตลอดทั้งวัน เมื่อจิตใจเราวางจากเรื่องทั้งหลายก้ให้มาสวดมนต์ตามที่ถนัดอย่างที่เราทำนั้นถูกต้องที่สุด ก้คือสวดอิติปิโส จะตาม พาหุง หรือชิณบัญชรหรือยอดพระกัณฑ์ถือว่าดีทั้งนั้น
แต่ที่สำคํญสวดด้วยจิตสงบหรือสวดด้วยจิตฟุ้งซ่าน ถ้าจิตหวั่นไหวคิดมากไปสวดบทนั้นๆเข้าเราจะไม่ได้อะไรเลยนะ ต้องสวดด้วยจิตใจสบายอบอุ่นผ่อนคลายห่างจากความเครียดและความวิตกกังวล นี่ถึงสวดแล้วถือว่าได้อานิสงสจากการสวดมนต์จริงเมื่อสวดเสร็จจิตเราจะนิ่งสงบและอ่อนโยนมีเมตตาตรงนี้ให้แผ่เมตตาให้ตัวเรา และสรรพสัตว์ทั้ง รวมทั้งพ่อแม่ และเจ้ากรรมนายเวรของเราให้จงได้ เมื่อทำได้อย่างนี้ก้ให้ทำเป็นกิจวัตรเสีย ส่วนกลางวันต้องไปเรียนทุกวัน ก็ให้ใจเย็น อย่ายินดียินร้ายใครด่ามาให้เฉยๆ อยากทำอะไรก้มีสติ ใช้ขันติธรรมคือความอดทนอดกลั้น และอุเบกคือความวางใจเป็นกลางไม่ยินดียินร้ายให้มากๆ เมื่อเรานำมาใช้ได้ จนทนได้ทั้งวัน พอมาถึงบ้านก็ให้น้องทำอย่างที่พูดมาข้างต้น
จนเป็นนิสัย เพราะเรามีบ้านเป็นสวรรค์ไว้พักพิง และมีพ่อแม่เป็นพระอรหันตไว้คอยพิ่งพิงให้ความอบอุ่น
ดังนั้นจงเข้าใจชีวิตของตัวเราเองให้มากๆด้วย

หรือเราจะอ่านเวปธรรมะได้นะ อยู่ตรงข้างล่างสุดใต้บทความที่พี่โพสน์นี้มี2 ลิ้งค์ ซึ่งอ่านแล้วจะเย็นจิตเย็นใจแล้วมีกำลังต่อสู้ชีวิตขึ้นหลายสิบเท่า

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


แก้ไขล่าสุดโดย อินทรีย์5 เมื่อ 31 ส.ค. 2009, 15:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอมอบทความข้างล่างนี้ไว้เป็นกำลังใจคะ เจอจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง

:b48: ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร :b48:

"ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร"
เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า
ทั้งๆ ที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน
ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน
แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์
ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชร
เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม
พร้อมๆกับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก

ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน
ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับอยู่ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ว
จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ?
ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า

:b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54: :b54:

ตัวเองก็เคยมีช่วงเวลาที่แสนขมขื่นใจเช่นนี้
เรารู้สึกเสียเปรียบและคับข้องใจที่เราอดทนแล้วแต่เขาไม่ยอมหยุด
เพราะนิสัยเขาเป็นเช่นนั้นเองเขายังเป็นบัวในตม
แต่คุณพ้นมาแล้วคุณถึงได้มาตั้งกระทู้ในเว็บนี้ไงคะ

เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาหรือใครๆบนโลกนี้ได้
เขาจะเจอบทเรียนของเขาเองถึงจะเปลี่ยนนิสัยใหม่ได้
มีสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือควบคุม กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมไม่ให้คิดร้ายตอบกับเขา
ต้องใช้ความอดทนเหมือนเพชร แล้วคุณจะชนะใจตัวเอง เท่ากับว่าคุณได้ผ่านบททดสอบข้อนี้แล้ว
ระยะเวลาแห่งความวุ่นวายใจนี้ขอให้แผ่เมตตา อ่านหนังสือธรรมะเรื่องกฎแห่งกรรมเยอะๆ
จิตของคุณจะผ่อนคลายได้บ้าง ให้ทำตัวตามปกติกับคนอื่น
สันดานของคนปิดไม่มิด สักวันคนอื่นต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ขอให้เชื่อมั่นความดีที่คุณไม่คิดร้ายกับใคร

ขอให้คุณเป็นเพชรค่ะ...สู้ๆ :b4:

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อถูกนินทาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ทำหูกะทะ
โบราณท่านว่า ปิดตาซ้ายขวา ปิดหูสองข้าง ปิดปากซะบ้าง
นั่งยืนนอนสบ๊าย..สบาย


:b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46: :b46:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2009, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b43: วิธีหนีการนินทา :b43:

นิทานเรื่องของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์นามว่า สัมภวกุมาร อยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าธนัญชัยโกรัพยะ ในกรุงอินทรปรัสถ์ แคว้นกุรุ

วันหนึ่งพระเจ้าธนัญชัยโกรัพยะทรงตั้งคำถามแก่ปุโรหิตว่า ทำอย่างไรบุคคลจึงจะไม่ตกเป็นเป้าของการนินทา และมียศพร้อมทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ซึ่งเป็นคำถามที่ลึกซึ้งมาก คนธรรมดาอย่างปุโรหิตจนด้วยเกล้า จึงถามเพื่อนพราหมณ์ผู้ฉลาดหลักแหลม แต่กระนั้นก็ยังหาคำตอบที่เหมาะสมไม่ได้ จึงไปถามจาก สัมภวกุมาร แม้จะยังมีอายุน้อย แต่ด้วยเป็นถึงพระโพธิสัตว์จึงสามารถตอบปัญหาอันลึกซึ้งนี้แก่พระราชา ดังนี้

หากไม่อยากถูกนินทา และต้องการรักษาไว้ซึ่งยศทั้งในโลกนี้และโลกหน้า บุคคลพึงทำให้ได้ตามนี้

1 ทุกครั้งที่ตระหนัก ( มีสติ ) ได้ ให้ทำแต่ความดี
2 พิจารณาเสมอว่าตัวเรานี้ไม่เที่ยง นั่นคืออย่ายึดติดในขันธ์ 5
3 ละมิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นผิดที่จะทำชีวิตวิบัติให้สิ้น
4 อย่าหยุดกระทำซึ่งกุศลกรรม
5 สิ่งที่ไร้สาระทั้งปวงอย่าพึงกระทำ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า (ข้อนี้สำคัญที่สุด)

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 117 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร