วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 00:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 09:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


dhama เขียน:
ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง
ทำไมนายไม่ชอบเที่ยวล่ะ ผมตอบว่าให้เราไปดูสีขาว สีเขียว สีแดง สีอื่นๆ อีกหรือ ให้ไปรับความเย็น ความร้อนโดยเหตุผลไม่สมควรผมไม่เสียเวลาไปหรอก เพราะที่นี่ก็มี

ทำไมนายกินน้อยล่ะ ? ผมตอบว่าพระพุทธองค์บอกว่าอาหารเพียงเมื้อเดียวก็พอเพียงแก่ร่างกายเราแล้ว แล้วนายไม่หิวเหรอ ? ก็รู้สึกหิวเหมือนกัน มันอาจจะเป็นความเคยชินเก่าๆ เราทนได้มันอาจจะเป็นสักพักในระยะแรกๆแต่มันก็เป็นฝึกการอดทนดีนะ แล้วเรื่องรสอร่อยละนายตัดได้มั้ย ? เราคงตัดที่จะไม่รับรู้รสชาติเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่อะไรก็กินได้ไม่แสวงหาขอเพียงมีอยู่เท่านั้น แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างละ ? เชื่อแล้วละว่าทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น

แล้วนายไม่มีความรู้สึกอย่างว่าหรือ ? ผมบอกว่าผมเสพมานานแล้ว ก็รู้สึกว่ามันซ้ำซากกับรสชาติอยากเลิกเพื่อพิสูจน์คำสอน และนายเลิกได้หรือยัง ? ถ้าถามแบบนี้ตอบตรงเลยเรายังไม่ขาดจากจิตจริงหรอกแต่เรารู้ว่ามันขาดได้ เพราะเราไม่สนใจมันนานแล้ว แล้วเราก็มีสติปัญญาแข็งแรงพอที่จะไม่ให้มันอยู่เหนือเราได้

แล้วนายยังฟังเพลงและดูทีวีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าจะให้เราเปิดเราคงไม่เปิดฟังหรอกแต่ถ้ามันมากระทบโสดก็ฟังได้ไม่ได้รังเกลียดอะไร ทีวีก็เช่นกันเราอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ดูบ้างแต่ไม่ถือรีโมทเหมือนแต่ก่อน ใครจะเปลี่ยนช่องไปไหนก็ได้ไม่เหมือนก่อนเราเป็นผู้กำหนดช่องเอง

และที่นายทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ? เหตุผลสูงสุดก็เพื่อการหลุดพ้นน่ะ แต่ถ้ามันหลุดพ้นไม่ได้ มันก็ยังดีที่เราได้กล้าทำ อย่างน้อยสุดมันก็คงให้เรารู้ว่าอะไรมันคืออะไร และที่สุดแล้วมนุษย์จำเป็นจะต้องมีศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นศรัทธาในพระเจ้า หรือแม้กระทั้งตนเอง


ถ้าหากผมยังชอบ

นอนห้องติดแอร์

มองสาวสวย สีแดง สีเขียว

รัปทานอาหาร ๓ มื้อ

นอนกับเมีย(อันนี้ประพฤติลำบากเพราะไม่มีเมีย ขอยกเลิก)

ชอบดูทีวี


แตผม(สมมุติว่า)ฝักใฝ่ธรรมะ มีเอกัคตาจิตระลึกถึงมรณะสติสม่ำเสมอ

อย่างนี้ผมจะหมดสิทธิ์ต่อคิวนิพพานไหมครับ

ท่านdhama


หรือว่าผมประพฤติปฏิบัติตามที่ท่านdhamaปฏิบัติแล้วก็จะถึงนิพพานแน่นอน


หรือว่านิพพานนั้นต้องอาศัย ปัญญา

ปัญญาต้องอาศัยสมาธิ



ฉนั้น

เราต้องทำใจไม่ให้อยาก หรือ ละเว้น

กิน เที่ยวสนุก ประเวณี


หรือ

ให้รู้จักความอยาก

กิน เที่ยวสนุก ประเวณี


ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 10:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ก็อยู่ที่ความพอดีของแต่ละคนเนาะ

จะเอาหรือไม่เอา อะไรก้ตาม
คือถ้าไม่มีคนเดือดร้อน แม้แต่ตัวเองเดือดร้อน ก็ใช้ได้

มีคำคมและลึกซึ้งมากของท่านฮวงโป

อ้างคำพูด:
คนเป็นอันมาก
มักถูกปิดกั้นเสียจากการรู้แจ้งต่อจิต โดยปรากฏการณ์ต่างๆซึ่งแวดล้อมอยู่รอบๆตัวเขา
และถูกปิดกั้นเสียจากการรู้แจ้งต่อหลักธรรมที่สำคัญที่สุดโดยเหตุการณ์ต่างๆเฉพาะตน

ดังนั้น เขาจึงพยายามหาทางหลีกเลี่ยงจากปรากฏการณ์ต่างๆ
ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นเสีย


ด้วยหวังว่าจะทำให้จิตของเขาสงบ หรือ
พยามที่จะระงับเหตุการณ์ต่างๆเสีย
ด้วยหวังว่าจะยึดหน่วงเอาธรรมะนั้นได้


เขาไม่เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า
การทำอย่างนี้เป็นการกลบเกลื่อนปรากฏการณ์ต่างๆด้วยจิต,
กลบเกลื่อนเหตุการณ์ต่างๆด้วยหลักธรรม


จงเพียงแต่ทำจิตของเธอให้ว่างเท่านั้น
ปรากฏเป็นสิ่งแว้ล้อมต่างๆ ก็จะเป็นของว่างไปในตัวมันเอง


จงให้หลักการต่างๆหยุดแกว่งแล้วเหตุการณ์ต่างๆก็หยุดวุ่นวายได้ด้วยตัวของมันเอง

จงอย่าใช้ จิต ไปในทางอุตริแผลงๆเช่นนั้นเลย

คนส่วนมากขี้ขลาดต่อการทำจิตของตนให้ว่าง
โดยเกรงไปว่า เขาจะพลัดตกลงไปในความว่าง
เขาเหล่านั้นไม่ทราบว่า จิต ของเขาเองเป็น"ความว่าง,

คนโง่มัวแต่หลบหลีกปรากฏการณ์ต่างๆ ไม่หลบ จากความคิดปรุงแต่ง,
ส่วนคนฉลาดย่อมหลบหลีกจากความคิดปรุงแต่ง และไม่ต้องหลบหลีกปรากฏการณ์
"



(คำสอนอันลึกซึ้งนี้ ส่วนหนึ่งได้เล็งถึงพวกพุทธบริษัท
ซึ่งปฏิบัติสมาธิภาวนาโดยหวังจะถอนออกซึ่งโลกฝ่ายวัตถุ
เพียงชั่วคราว ~ ผู้แปล)


ที่มา:
บทที่๒๑ หน้าที่๖๑ หนังสือคำสอนของท่านฮวงโป
แปลโดยท่านพุทธทาสภิกขุ
สำนักพิมพ์เครือเถา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ก็อยู่ที่ความพอดีของแต่ละคนเนาะ
จะเอาหรือไม่เอา อะไรก้ตาม
คือถ้าไม่มีคนเดือดร้อน แม้แต่ตัวเองเดือดร้อน ก็ใช้ได้


smiley

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
ก็อยู่ที่ความพอดีของแต่ละคนเนาะ

จะเอาหรือไม่เอา อะไรก้ตาม
คือถ้าไม่มีคนเดือดร้อน แม้แต่ตัวเองเดือดร้อน ก็ใช้ได้

มีคำคมและลึกซึ้งมากของท่านฮวงโป


อ้างอิงคำพูด:
คนเป็นอันมาก
มักถูกปิดกั้นเสียจากการรู้แจ้งต่อจิต โดยปรากฏการณ์ต่างๆซึ่งแวดล้อมอยู่รอบๆตัวเขา
และถูกปิดกั้นเสียจากการรู้แจ้งต่อหลักธรรมที่สำคัญที่สุดโดยเหตุการณ์ต่างๆเฉพาะตน

ดังนั้น เขาจึงพยายามหาทางหลีกเลี่ยงจากปรากฏการณ์ต่างๆ
ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นเสีย

ด้วยหวังว่าจะทำให้จิตของเขาสงบ หรือ
พยามที่จะระงับเหตุการณ์ต่างๆเสีย
ด้วยหวังว่าจะยึดหน่วงเอาธรรมะนั้นได้


เขาไม่เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า
การทำอย่างนี้เป็นการกลบเกลื่อนปรากฏการณ์ต่างๆด้วยจิต,
กลบเกลื่อนเหตุการณ์ต่างๆด้วยหลักธรรม

จงเพียงแต่ทำจิตของเธอให้ว่างเท่านั้น
ปรากฏเป็นสิ่งแว้ล้อมต่างๆ ก็จะเป็นของว่างไปในตัวมันเอง


จงให้หลักการต่างๆหยุดแกว่งแล้วเหตุการณ์ต่างๆก็หยุดวุ่นวายได้ด้วยตัวของมันเอง

จงอย่าใช้ จิต ไปในทางอุตริแผลงๆเช่นนั้นเลย

คนส่วนมากขี้ขลาดต่อการทำจิตของตนให้ว่าง
โดยเกรงไปว่า เขาจะพลัดตกลงไปในความว่าง
เขาเหล่านั้นไม่ทราบว่า จิต ของเขาเองเป็น"ความว่าง,

คนโง่มัวแต่หลบหลีกปรากฏการณ์ต่างๆ ไม่หลบ จากความคิดปรุงแต่ง,
ส่วนคนฉลาดย่อมหลบหลีกจากความคิดปรุงแต่ง และไม่ต้องหลบหลีกปรากฏการณ์"



(คำสอนอันลึกซึ้งนี้ ส่วนหนึ่งได้เล็งถึงพวกพุทธบริษัท
ซึ่งปฏิบัติสมาธิภาวนาโดยหวังจะถอนออกซึ่งโลกฝ่ายวัตถุ
เพียงชั่วคราว ~ ผู้แปล)


ที่มา:
บทที่๒๑ หน้าที่๖๑ หนังสือคำสอนของท่านฮวงโป
แปลโดยท่านพุทธทาสภิกขุ
สำนักพิมพ์เครือเถา


น้องชาติสยาม

:b35: :b35: :b35:


อ่านแล้วอึ้งไปเลย

เหมือนวัวที่ถูกขังในคอกมานาน

เมือประตูคอกเปิดออก

ใยยังอยู่กับคอก



เห็นด้วยกับน้องชาติสยามครับ

อ้างคำพูด:
ก็อยู่ที่ความพอดีของแต่ละคนเนาะ

จะเอาหรือไม่เอา อะไรก้ตาม
คือถ้าไม่มีคนเดือดร้อน แม้แต่ตัวเองเดือดร้อน ก็ใช้ได้


จริต และความเหมาะสมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ขออย่างเดียว

ปฏิบัติธรรมแล้วอย่าเพื่อเอาไปข่มกัน

ว่าฉันเคร่งกว่าเธอ

ฉันวิเศษกว่าเธอเพราะฉันไม่นอนกับเมียแล้ว

เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น

กิเลสที่เกิดแก้ยากมาก


ปัจจุบันที่พบมากในบรรดาผู้ปฏิบัติธรรมคือ

ชอบตำหนิผู้อื่น

เหมือนตนเองเป็นผู้ทรงธรรม

ผิดมากครับ



การปฏิบัติธรรมคือการแสวงหาครับ

ไม่ใช่การแสดงละคร


อ้าวได้เวลาคอนเสริทของน้องชาติสยามแล้ว

แต่อย่าได้ไปแสดงการปฏิบัติธรรมในนั้นนะครับ

เห็นเนื้อหนังมังสาก็เห็นไปให้รู้ว่าแน่น ว่า ขาว ว่าอวบอั้น

ไม่ต้องไปX-RAY(แสดงอุปทาน)เห็นกระดูกเต้น(ขออนุญาตคุณวลัยพรครับที่นำมายกตัวอย่างเป็นธรรม

สาธก อย่าโกรธผมนะครับพี่สาวใหญ่)

สำคัญว่าเมื่อเห็นแล้วให้กำหนดรู้ลงไป(สอนแทนท่านกรัชกาย)

เห็นขาวให้รู้ว่ามันขาว

เห็นอวบอั้นก็กำหนดรู้ลงไป

แต่ห้ามจินตนาการต่อ



ธรรมชาติของมนุษย์ครับ

บางโอกาสก็อยากนั่งกรรมฐาน

บางโอกาสก็อยากดูหนังโป๊

นั่นแหละคือธรรมะจริงๆ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะไม่ใด้เกิดจากการเลียนแบบพระอริยะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 12:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
การปฏิบัติธรรมคือการแสวงหาครับ

ไม่ใช่การแสดงละคร


:b8: :b8: :b8:

อ้างคำพูด:
อ้าวได้เวลาคอนเสริทของน้องชาติสยามแล้ว

แต่อย่าได้ไปแสดงการปฏิบัติธรรมในนั้นนะครับ

เห็นเนื้อหนังมังสาก็เห็นไปให้รู้ว่าแน่น ว่า ขาว ว่าอวบอั้น

....

ธรรมชาติของมนุษย์ครับ

บางโอกาสก็อยากนั่งกรรมฐาน

บางโอกาสก็อยากดูหนังโป๊

นั่นแหละคือธรรมะจริงๆ


แล้วคุณ mes ไปด้วยรึเปล่าครับ...
นี่ถ้าคุณไป ผมชักจะอยากไปซะแล้วสิ่

:b20: :b20: :b20:

แต่ผมว่าจากข้อเสนอที่ผมขอไป
คุณชาติสยามคงไม่ยอมให้ผมไปด้วยแล้วล่ะ

:b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: คุณ mes :b40:
:b41: ปัจจุบันที่พบมากในบรรดาผู้ปฏิบัติธรรมคือ

ชอบตำหนิผู้อื่น

เหมือนตนเองเป็นผู้ทรงธรรม

ผิดมากครับ


:b41: ข้อนี้เห็นด้วยเลยค่ะ โดยเฉพาะเวลาไปเจอตัวจริง เสียงจริง
คือยิ่งถ้าบางสถานที่เหมือนเป็นทีมเวิร์คมาเลยค่ะ
ประเภทข้ามาคนเดียว :b7:(ตัวเรา ) อย่ามาทำแหยม
ได้แต่เอามุมเสาใหญ่เป็นกัลยาณมิตรไปโดยปริยาย :b21:
ทำให้ผู้มาใหม่ รู้สึก :b6: :b5: ไม่น่ามาเลย
:b48: ที่จริงกลุ่มประเภทนี้เค้าก็เก่งนะคะต้องขอ :b8: ด้วย
เพราะเค้ามีจิตเจริญในธรรมเหมือนๆกัน ถึงได้มารวมพลังกันศึกษา+ปฎิบัติ
แต่คำพูด+การกระทำ ก็น่าที่จะโอนอ่อนผ่อนตาม
:b48: เคยมีคนในลานนี้แนะนำว่า ให้รู้จักอยู่ให้ได้ในทุกสถานการณ์ เหมือนกับสิ่งต่างๆ
ที่มากระทบเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ก็รู้สึกดีขึ้น(ในบางครั้ง :b32: ค่ะ)

แต่ประโยคนี้ของคุณ :b4: :b4: :b4: :b4: :b4: tongue

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:

อ้าวได้เวลาคอนเสริทของน้องชาติสยามแล้ว

แต่อย่าได้ไปแสดงการปฏิบัติธรรมในนั้นนะครับ

เห็นเนื้อหนังมังสาก็เห็นไปให้รู้ว่าแน่น ว่า ขาว ว่าอวบอั้น

ไม่ต้องไปX-RAY(แสดงอุปทาน)เห็นกระดูกเต้น(ขออนุญาตคุณวลัยพรครับที่นำมายกตัวอย่างเป็นธรรม

สาธก อย่าโกรธผมนะครับพี่สาวใหญ่)

สำคัญว่าเมื่อเห็นแล้วให้กำหนดรู้ลงไป(สอนแทนท่านกรัชกาย)

เห็นขาวให้รู้ว่ามันขาว

เห็นอวบอั้นก็กำหนดรู้ลงไป

แต่ห้ามจินตนาการต่อ





ไม่ว่ากันค่ะ อยากจะยกก็ยกกันไป โหสิๆๆๆๆๆ tongue

เพียงจะบอกว่า จะอุปทานหรือไม่อุปทาน อันนั้นมันก็เรื่องของคนอื่นๆเขา

เขาจะทำอย่างไรเพื่อรักษาจิตของเขาเอาไว้ มันก็เรื่องของคนอื่นๆเขา

กิจอันใดที่กระทำแล้วทำให้จิตออกห่างจากสมาธิ กิจอันนั้นไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

แต่ .. ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการจะใช้ค่ะ ไม่ว่ากันๆๆๆ tongue

ที่สำคัญที่บอกว่า เมื่อเห็นแล้วให้กำหนดรู้ลงไปนั้น ใช้กับกิเลสที่มากระทบอายตน่ะค่ะ

ไม่ใช่มาใช้กับสิ่งที่ไม่ควรใช้ อันนี้ต้องใช้ให้ถูกสถานการณ์ด้วยนะคะ :b16:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต่างคนต่างความคิดบางคนคิดว่าอวด บางคนคิดว่าข่ม บางคนชมว่าเก่งก็สุดแต่ความคิดจริงๆ ธรรมชาติเป็นเช่นนั้น เพราะท่านไม่เคยรู้จักผม และผมก็ไม่เคยบอกว่าผมเป็นใคร ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้ทั้งนั้น เป็นสิทธิ์แต่ละคน มิได้ห้ามใคร แต่เป็นสิ่งที่ผมทำและผมก็มีความสุขในสิ่งผมทำ และก็มีหลายคนทำได้ และทุกคนก็จะทำได้แน่นอนมันไม่ใช่วิเศษอะไร มันเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำได้ในอนาคตถ้าความพร้อมมาถึง มันเป็นตัวอย่างแห่งการที่เราได้รสพระธรรม ให้มองในสิ่งดีเถอะไม่มีอะไรจริงๆผมเพื่อนร่วมทางเดินกับทุกท่าน

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 14:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ค. 2009, 20:44
โพสต์: 341

ที่อยู่: ภาคตระวันออก

 ข้อมูลส่วนตัว




คำอธิบาย: นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ความเพียรเท่านั้นที่จะทำให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์

pic08.jpg
pic08.jpg [ 39.09 KiB | เปิดดู 4909 ครั้ง ]
สาธุในความเพียรชอบของท่านกัลญาณมิตรผู้เจริญในธรรมครับธรรมะคือธรรมชาติถ้าผู้ปฏิบัติธรรมไม่เบียดตนเองและเบียดเบียนผู้ร่วมการเกิดและการอยู่ร่วมกันในสังคมทุกสรรพสิ่งในโลกของธรรมะคือธรรมชาติครับท่านกัลญาณมิตรขอท่าน จงเจริญสุขและเจริญธรรมให้ถึงฝั่ง นิพพานโดยพลันเถิด

:b42: สาธุ :b42:

:b42: เทพบุตร :b8:

.....................................................
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ท้งปวง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 14:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




f54802676.gif
f54802676.gif [ 16.55 KiB | เปิดดู 4904 ครั้ง ]
แล้วแต่วาสนา :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 14:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ถ้าหากผมยังชอบ

นอนห้องติดแอร์

มองสาวสวย สีแดง สีเขียว

รัปทานอาหาร ๓ มื้อ

นอนกับเมีย(อันนี้ประพฤติลำบากเพราะไม่มีเมีย ขอยกเลิก)

ชอบดูทีวี


แตผม(สมมุติว่า)ฝักใฝ่ธรรมะ มีเอกัคตาจิตระลึกถึงมรณะสติสม่ำเสมอ

อย่างนี้ผมจะหมดสิทธิ์ต่อคิวนิพพานไหมครับ

ท่านdhama


หรือว่าผมประพฤติปฏิบัติตามที่ท่านdhamaปฏิบัติแล้วก็จะถึงนิพพานแน่นอน


หรือว่านิพพานนั้นต้องอาศัย ปัญญา


อันนี้ผมขอตอบคุณmesนะครับเพราะถือว่าคุณระบุถามdhama สิ่งที่คุณบอกว่าชอบนอนแอร์ ทานอาหาร3มื้อ ชอบดูทีวี ขอตอบทานอาหาร3 มื้อ ถ้าท่านยังอดไม่ได้ก็ค่อยๆลดเพื่อขัดเกาพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเรื่องนี้มาก เรื่องการดูทีวีต้องถามตัวเองว่าเราติดหรือเปล่า เช่นว่าไม่ดูไม่ได้เลย อันนี้ติด แต่ถ้าดูแล้วไม่ติดก็okลองทดสอบจิตใจเราดูการนอนแอร์ก็เช่นเดียวกันครับ เราจะลดละเลิกอะไรก็ต้องใช้ปัญญาครับปัญญาจะพาเราลดละเลิกได้ แต่ถ้าปัญญาน้อยก็ยังลดละอะไรได้อยาก เพราะปัญญามีแต่เป็นปัญญาความรู้ผู้อื่นที่เราไปอ่านเจอแล้วก็จำ ทำให้เราลดละอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าเป็นปัญญาของเราที่เป็นสภาวะที่เราพบเอง(หมายความว่าไตรลักษณ์นะครับ)โดยปัญญาของพระพุทธองค์นำทางในเรื่องสุตะ ปัญญานั้นแหละครับเป็นปัญญาที่ประหานกิเลสโดยตรง สิ่งที่ถามว่าประพฤติตามผมเลยคงไปไม่ได้หรอกพระนิพานนะ เพราะกว่าผมจะทำได้ผมขัดเกลามานานมากพอสมควร เราต้องใช้ปัญญาเข้าไปละ ไม่ใช่เชื่อว่าผมทำได้แล้วเอาไปละ แต่ถ้าท่านมีปัญญาเห็นโทษมากพอซึ้งผมไม่รู้ว่าท่านขนาดไหนก็ลองได้นี่ครับผมคิดว่าท่านทำได้นะครับ และทุกท่านก็ทำได้แน่นอน ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 14:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้เป็นเหตุ ละเป็นผล รู้แล้วละได้ทั้งเหตุและผล

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ส.ค. 2009, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างนี้ผมจะหมดสิทธิ์ต่อคิวนิพพานไหมครับ

ท่านdhama

ตอบคุณmes ถือว่าคุณต่อคิวอยู่ครับ เพราะคนที่เอียงหูฟังธรรมมีน้อยเหรอเกินบางคนเปิดเจอเปลี่ยนทันที่เลยก็มี อันนี้น่าเป็นห่วงแต่ก็เถอะ อย่าหยุดอยู่ที่สุตตะ พัฒนาให้สู่จินตาหาเหตุผลมารองรับ และก็พัฒนาสู่ภาวนามยปัญญา ลดละเลิก ในจิตอกุศลให้หมดเป็นสมุจเฉท

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 126 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron