เนื่องด้วยวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ของทุกปี
รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ

จึงอยากให้ทุกท่านตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย
อันเป็นมรดกที่ล้ำค่าของคนไทย
ที่ทรงคุณค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ ให้สืบทอดต่อไปแก่คนไทยรุ่นหลัง

จึงอยากเชิญชวน ให้มีการใช้ภาษาไทย ของคนไทย
"ให้ถูกต้องตามอักขระวิธี" ทั้งการอ่าน การเขียน
และทั้งในเว็บบอร์ดลานธรรมจักรแห่งนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี
ให้สมกับเป็นเว็บที่มุ่งเน้นประโยชน์แก่การประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ชอบ

ผู้ใดที่มักใช้คำไทยผิดๆ ภาษาไทยแอ๊บแบ้ว ทั้งการสะกดคำไม่ถูกต้อง
จะด้วยเจตนาใดก็ตาม อยากให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ภาษาเสียใหม่ครับ
ตามที่ในหลวงท่าน ก็ทรงห่วงการใช้ภาษาไทย ของคนไทยอยู่ไม่น้อย

คนไทยต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องนะครับ

อนุโมทนาสาธุ ค่ะ คุณariyachon

อนุโมทนาสาธุครับ (ไม่ใช่ "สาธุงับ")

อนุโมทนาสาธุครับ(ในเน็ตใช้ผิดกันมาก)

กลุ้มจริงๆเทียว

ชาติก็มีจริตชอบสนุกสนานอยู่ร่ำไปตามประสาเด็กๆ
ขอยกพ่อชาติสยามไว้สักคนหนึ่งเถิดพ่อคุณ

ที่จริง เรื่องภาษาไทยนี้ ก็อยากจะพูดอยู่บ้างว่า
แต่ขอพูดสั้นๆก็พอว่า

ถ้าอยากจะให้คนไทย ใช้ภาษาไทย ก็ต้องทำให้ภาษาไทยตอบสนองการใช้งาน
มีมาตรฐานของตัวเอง แล้วก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตามกระแสของกาลเวลา

เรื่องตลกสองเรื่องของภาษาไทย
คือไปข่มขืนภาษาของเขามา แต่ไม่มีปัญญาจะเอามา เลยจับผสมไทยเข้าไปนิดนึง
เช่นคำว่า วีดีทัศน์ มาจาก Video
คือข่มขืนเอาเข้ามา ไม่ยอมให้มันเป้นคำฝรั่งว่าวีดีโอไปเลย เลยตีหัวเข้าบ้านมา
ได้เป็นคำว่า "วีดีทัศน์"


เรื่องตลกเรื่องที่สอง
คุณชื่ออะไรกันบ้างครับ ชื่อจริงๆน่ะ
อย่างผมสมมุติว่าชื่อชาติสยาม

เวลาไปทำ passport ผมก็เกิดอุตริกลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าชื่อผมแปลว่าอะไร
ผมเลยไปแปลชื่อผม แล้วไปทำพาสปอร์ตว่า "Mr. National of Siam"
..............
คุณว่าผม...อุบาทว์ไหมครับ?
เป็นการดูถูกตนเอง ดูถูกภาษาตนเอง ดูถูกชาติตนเองอย่างที่สุด

เชื่อไหมครับว่ามีคนเขาทำแบบนี้


ก็ "ถนนพระราม .. " ทั้งหลายนั่นไงล่ะครับ
ที่ไปแปลกันว่าเป็น "Rama ..."

แหม ผมก็คิดดี..
เข้าใจว่าอยากให้ฝรั่งเข้าใจว่าหมายถึงอะไร

แต่มันอุบาทว์ครับ

ผมไม่เห็นว่าถนน ฌอง เอลิเซ่ เขาจะเรียกตัวเองในภาษาอังกฤษว่า
"Elysian Fields" ซึ่งหมายถึงถนนสายหนึ่งในเทพนิยายกรีกที่ประมาณว่าสวยงามราวกับสวรรค์

เขากลับใช้คำว่า "The Avenue des Champs-Élysées"
นี่ นอกจากจะไม่ยอมแปลชื่อตัวเองแล้ว ยังแถมเครื่องหมาย ' accent (แอ็ค-ซอง) มาด้วย
โปรดรู้ไว้ด้วยว่า ภาษาอังกฤษไม่มีเครื่องหมาย ' แต่ฝรั่งเสศเธอมั่นมาก
ถ้าไม่อยากเขียนชื่อฉัน ก็อย่าเขียน เพราะชื่อฉันเขียนอย่างนี้

ที่ยิ่งไปกว่านั้น Champs-Élysées ถ้าไปออกเสียงว่า "แช้มป์ เอลิซีส" นี่
คุณผรั่งเศสเขาก็จะมองจิกตั้งแต่ผมเส้นที่โ่ด่ที่สุดของคุณ
ลงไปจนถึงฝุ่นเม็ดสุดท้ายที่เกาะรองเท้าคุณอยู่
ย้อนขึ้นย้อนลง ดีไม่ดีถ่มน้ำลายให้ดูอีก
เขาหาว่าไม่ให้เกียรติ ไม่มีความศิวิไลส์ หูตาไม่กว้าง เป็นคนโง่
ก้จริงของเขา ใครมาเรียกชื่อเราเอง แล้วเรียกไม่ถูกไม่พอ
ยังมาเปลี่ยนชื่อเราอีก เราก็เคืองเหมือนกัน

"สถานีพระราม 9 ..... รามานายสเตชั่น"

ชื่อเฉพาะก็คือชื่อเฉพาะ "คำนาม"น่ะ รู้จักไหม"คำนาม"


อีกอันฝากให้ไปตลกกันนิดนึง
มันเป็นค่านิยมวิปลาสของผู้นำในสมัยต่างๆ ที่สร้างภาพว่าตัวเราล้าสมัย
และต้องการสื่อสารทางการปกครองว่าเรากำลังทำสิ่งใหม่ๆ ประเทศกำลังพัฒนา
ก็เลยไปเอาคิดภาษาใหม่ๆเข้ามา เพื่อเอามาเหยียดภาษาเดิมของตนเอง
เช่น กิน....... ใช้กันมา 700 กว่าปี เดี่ยวนี้ใครพูดว่ากินข้าว จัดว่าไร้การศึกษา
พูดว่ากินข้าวในหนังสือราชการไม่ได้ ถือว่าไม่ถูก ต้องพูดว่า"รับประทาน" พูดสั้นๆว่า "ทานข้าว"
ก็ไม่ทราบว่าเกิดโรคจิตประสาทอะไรกันขึ้น อยู่ดีๆคำว่ากินเป็นภาษาไม่สุภาพ

อย่างคำว่า สวัสดี ไม่รู้มาจากไหน
เขาใช้กันแต่เดิมว่า "ไหว้" "ฉันไหว้จ๊ะ"
เดี๋ยวนี้ใครไปพูดอย่างนี้ เขาถามหาชะลอมกับของฝากจากบ้านนอก

ค่านิยมวิปลาสเหล่านี้แหละ
มันมีส่วนไปสร้างความแตกแต่งระหว่างสังคมต่างจังหวัดกับสังคมกรุงเทพ
ใครพูดภาษาไทยเดิม ภาษาถิ่น ภาษาตระกุลคำโดด กลายเป็นพวกไม่มีการศึกษา
ล้าสมัย ไม่พัฒนา
ใครพูดภาษาสันสกฤตมากๆ ยิ่งพูดยากศัพท์แปลก ยิ่งดูเลอค่ามาจากสวรรค์

ภาษาอิสานบ้านผม ไม่มีหรอกพวกคำยืม คำแขก คำสันสกฤต
กินก็กิน พูดกันมาเกือบพันปี กินก็คือกิน
กลายเป็นว่า ภาษาท้องถิ่น กลายเป้นภาพของ"ความล้าสมัย"

ผมทำงานเกี่ยวกับ computer
เวลาเขาพยามจะอธิบายอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทย ร้อยละร้อยห้าสิบ
..... "อ่านไม่รู้เรื่อง"
เห็นมากี่ปีๆ ไม่เคยพูดภาษาคนให้คนเข้าใจ
ถ้าใครพอใช้ภาษาอังกฤษได้บ้าง แล้วไปอ่านเอาที่ต้นฉบับ
จะเรียนรู้ได้เร็วกว่าที่แปลแล้ว เพราะเขาพยามจะแปลในสิ่งที่ตัวไม่มี

เรามันล้าสมัยกว่าเขา เขาสร้างอะไรขึ้นมาใหม่ เขาก้ใส่ชื่อให้มัน
แต่เราอุตริจะแปลให้หมดทุกอย่าง อยากจะได้เป็นภาษาไทยให้หมด
อย่างตำว่า "วีดีทัศน์" นั่นไงครับ ความพยามที่แสนจะตลกของภาษาไทย

แลวที่จริงก้หลอกตัวเองว่าที่แปลนั้น เป้นภาษาไทย
ความจริงไม่ใช่ เรายืมสันสกฤตมาเยอะ ยืมบาลีมาพอสมควร
ใครยืม.... ก็พวกชอบแต่งกลอนนั่นแหละ
สนองตันหาแต่งกลอนมากจนไม่รุ้จะเอาคำไหนมาเล่นแล้ว
เบื่อมุกเดิม ก็เลยไปควานหาภาษาอื่นๆมาเล่นเสียเยอะแยะไปหมด
แล้วก็ไม่ใช่ภาษาที่ใช้กันอยู่ในตอนนั้นด้วย เรียกว่า ที่ว่าภาษาไทย ภาษาไทย ภาษาไทย
ที่จริงก็แทบจะไม่ใช่ภาษาไทยเลย ไปเอาเขามาทั้งนั้น

วันนี้โลกตะวันตกก้าวหน้า แต่ก็ไม่ยอมเอาของเขาเข้ามา
เอาภาษาเก่าล้าสมัยไปสู้แบบกำปั้นทุบดินอยู่อย่างนี้
ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากกับภาษาไทย แต่ผมตลก

คือพวกคุณๆที่อยู่ข้างบน (ระดับบริหารราชการ) ช่วยใช้ให้มันมีมาตรฐานเสียก่อน
ถ้ามันไม่มีมาตรฐาน จะไปรักษายังไงให้มีมาตรฐาน

แล้วที่สำคัญที่สุด ก่อนจะมารักษาภาษาไทย
พึงทราบว่าภาษาก็เป้นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
"ภาษาย่อมมีการเปลี่ยนแปลง" ภาษาที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือภาษาที่ไม่มีใครใช้แล้ว
ความหมายไม่ดิ้นอีกแล้ว แต่โลกมันดิ้น
จะเอาบาลีสันสกฤตที่ไหนไปใช้แทนคำว่า อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ นิวเคลียร์

เวลากวดขันภาษาไทยทีก็มาลงแต่ ร.เรือ กับ ล.ลิง
ตื้นน่ะ ขอบอก ตื้นมาก

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนะ ภาษไทยนี่นะ
คือแค่เกรดม.ปลาย ไม่เคยต่ำกว่า 4 เกรดมหาลัยไม่เคยต่ำกว่า A น่ะ
เวลาคุยกับครูอาจารย์ คุยเป็นโคลงสี่สุภาพ เอกเจ็ด โทสี่ ไม่มีตกไม่มีเกิน ไม่มีผิดตำแหน่ง
เท่านั้นเอง

เราไม่รู้จิงๆล่ะ ถ้าไม่ดูทีวีเราก็ไม่รู้จริงๆ

สมัยเราทำเกรด 4 มันไม่มีวันภาษาไทยแห่งชาตินี่นา
เราไม่ผิดน๊าาา

สมัยเราเขาถือเอาเป็นวันเดียวกับวันสุนทรภู่น่ะ
แต่ก็ไม่ได้ชื่อว่าวันภาษาไทยแห่งชาตินะ
ประมาณว่าเป็น package พ่วงกับวันสุนทรภู่ คือการอนุรักษ์ภาษาไทย