วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 00:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มิ.ย. 2009, 15:21
โพสต์: 43

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ฤาษีแต่เปลือกรูปหนึ่ง นุ่งห่มหนังเสือทั้งเล็บ เกล้าชฏา เหมือนฤาษีทั่วไปนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง คะเนจะให้ชาวบ้านผ่านไปมาเห็นการปฏิบัติของตัว ตามปรกติเมื่อท่านฉันอาหารเสร็จแล้ว อาหารเศษที่เหลือท่านก็เลี้ยงพญาเหี้ยที่อยู่ในจอมปลวกข้างๆอาศรม
ต่อมาวันหนึ่ง ทายิกาได้นำอาหารมีแกงกับ มาถวายแก่ท่านถึงที่อยู่ ด้วยความติดในรสอาหารอันโอชะมื้อนั้น ฤาษีจึงได้ถามทายิกาคนนั้นว่าแกงอะไรจึงได้มีรสชาติวิเศษถึงปานนี้ เจ้าของทานพาซื่อ แจ้งท่านว่าเป็นแกงเนี้อเหี้ย
รุ่งชึ้นเช้า ฤาษีตื่นแต่เช้าตรู่ ตรองหาลู่ทางตามความคิดได้แล้วก็ออกภิกขาจารเครื่องแกงจากชาวบ้าน ได้พอเพียงแล้ว ก็กลับมาสู่อาศรมของตนแกล้งนั่งหลับตาภาวนาตามวัตรปฏิบัติอย่างเคยมา
แต่ทีนี้ขอให้ดูภาพให้ดีว่า คราวนี้ฤาษีเจ้าเล่ห์นั่งเข้าฌานแบบไหนกัน ? เพราะที่มือข้างขวาท่านกำท่อนไม้ไว้ด้วยหมายจะฆ่าพญาเหี้ยแกงกินเสีย ด้วยติดใจรสอาหารเป็นหนักหนา
พญาเหี้ยนี้เป็นเหี้ยโพธิสัตว์ที่แสนฉลาด ครั้นสังเกตเห็นอาการพิรุธของผู้ที่ตนหลงเคารพมานาน
ก็แปลกใจว่า,ทำไมหนอ? วันนี้ฤาษีท่านนั่งหลับๆลืมๆ ชอบกลอยู่, จึงมิได้ประมาท, ฤาษีรอคอยไม่ได้ฤทธิ์ของตัณหาทางลิ้นจัด,เห็นพญาเหี้ยออกมาจากจอมปลวกได้หน่อยเดียว ก็ขว้างด้วยไม้หมายประหาร
ฝ่ายโพธิสัตว์เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว ก็กระโดดหลบเข้าจอมปลวกเสียทัน โผล่เฉพาะหัวออกมาดู มองฤาษี
ด้วยดวงตาอันดูแคลน พลางกล่าวคาถาบริภาษว่า
ข้าแต่ท่านผู้เขลาเมาโมหะ
ข้าฯเข้าใจว่า ท่านเป็นสมณะ จึงเลยละไม่ระแวงระวังตัว
บัดนี้เอาไม้ขว้างเรา หมายประหาร วิธีการมิใช่เป็นเช่นเจ้าขรัว
เป็นสมณะไม่ได้แล้ว เพราะน่ากลัว ประโยชน์อะไร ที่มุ่นหัวเกล้าชฏา
นุ่งห่มหนังเสือทั้งยังมีเล็บ ในจิตเก็บแต่สิ่งรุงรังหนา
ภายนอกแต่สีไว้ใช้พรางตา ทำมายาหลอกชาวบ้าน เท่านั้นเอง

ฤาษีเห็นพลาดท่า ผิดหวัง ก็แกล้งกลบเกลื่อนว่า ออกมาเถิดเหี้ยอย่าโกรธา จงออกมากินอาหารของเรา เมื่อกี้นั้นเราหยอกหลอกเล่น แกล้งทดลอง พอเห็น น้ำใจเจ้า
โพธิสัตว์จึงด่าซ้ำว่า
ทุด! ฤาษีขี้ร้ายใจเบา ข้าเจ้าจักเข้าจอมปลวกมุด
ให้ลึกร้อยชั่วตัวบุรุษ ไม่โผล่ผุดออกรับสิ่งของท่าน
ผู้สำแดงมายาสาไถย ประโยชน์อะไร จักกินซึ่งอาหาร
ของฤาษีมีแต่เปลือก ทำเข้าฌาน ยอมอดตาย ดีกว่าด้านเช่นนั้นแล

สรุปความว่า การประพฤติ กิริยาภายนอก เพื่อลวงผู้อื่นให้เข้าใจว่าตนรู้ธรรมะด้วยการห่มหนังเสือ หรือจีวรคล้ำๆ หรือทำเป็นผู้พูดน้อยในเมื่อข้างในยังรกรุงรังอยู่นั้นจะต้องถูกเหี้ยด่า ถึงแม้คำด่าจะเจาะจงเฉพาะสมณะเท่านั้นก็ตาม แต่เราก็สามารถขยายความออกมาถึงอุกาสกอุบาสิกาได้ด้วย รวมไปถึงนักพูด นักปาฐก ที่เอาธรรมะของพระผู้มีพระภาคซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายไปทำให้ยาก ส่วนพระองค์เองนั้นกลับตรัสว่าท่านทำให้มันตื้นขึ้น ง่ายขึ้น ผู้ที่ทำให้ยากและยุ่งเหยิงขึ้นนั้น นอกจากจะได้ชื่อว่า ทรยศต่อพระศาสดาแล้ว จะต้องสงเคราะห์ไว้ในบรรดาผู้ที่จะต้องถูกเหี้ยด่า นี้อีกโสตหนึ่งด้วย.
(ท่านผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรค๊ะ)


:b8: :b8: :b8: แด่ท่านผู้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ :b53: :b53: :b53:
***********************************************
จากหนังสือ อภิมหามงคลคาถา(โอวาทหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ :b8: )





.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร