วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 22:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 13:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมักจะหาอะไรที่ผมชอบมาเป็นคู่ชกกับผมเสมอพูดเปรียบเที่ยบนะครับ เพื่อให้รู้ว่าตัวผมสู้กิเลสได้จริงหรือเปล่าอย่างเช่นการกิน ผมก็เบื่อการกินขึ้นมาเฉยๆทั้งๆที่ผมชอบกินว่าทำมัยมันวุ่นวายมากจริงๆเรื่องการกินอยู่ของมนุษย์ ตระเวนไปแสวงหากินที่โน้นที่นี่อยู่ร่ำไป วุ่นวายจริงๆผมเลยตั้งใจทานอาหารมื้อเดียวจากปกติสามมื้อ ตอนแรกก็หิวนะ ก็ใช้สติปัญญาทั้งหมดรวมทั้งพิจารณาธรรมต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องปฎิกูล และอื่นๆมากมาย ก็ช่วยได้เยอะเห็นกิเลสเต็มๆเลยที่เรามักจะเรียกความเคยชิน(ความเคยชินของกิเลส) ผมเป็นคนทำอาหารให้ภรรยาผมทานผมต้องเตรียมอาหารประมาณ4-5โมงเย็น ปกติแล้วในช่วงเวลานั้นผมจะหิวมาก ผมทำอาหารไปด้วยความหอมความอร่อยที่ผมตั้งใจทำให้คนอื่นกินมีมาก แต่ผมสามารถที่จะระงับการกินอาหารได้อย่างไม่อยากนักเพราะเราได้ฝึกมาเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการอดทนมีสติและปัญญา ปกติผมเป็นคนชอบกินที่สุดน้ำหนักตั้ง120โล ผมสู้กับมันตรงๆชัดเจน ตอนนี้สบายมากครับ และเรื่องบนเตียงอีกอย่างหนึ่งอันนี้สำคัญมากครับ ในขณะที่เราเป็นนักปฎิบัติธรรมใหม่ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่เข้ากันเลยนะกิจกรรมบนเตียงกับนักปฎิบัติธรรมมันดูแปลกๆแต่ก็ยังอดไม่ได้มันเสพเสียจนเคยชิน แต่ก็อีกนั้นแหละผมมักจะหาคู่ชกอยู่เสมอ อยู่มาวันหนึ่งผมบอกกับภรรยาว่าถ้าเราไม่มีอะไรกันเป็นอะไรมั้ย ภรรยาบอกว่าเธอทำได้เหรอ ผมบอกว่าผมทำได้ และในที่เราสุดผมก็มีคู่ชกอีกแล้วแต่ตัวนี้รุ่นใหญ่ไม่น้อย แต่ก็คิดว่าไม่ตายแน่นอน สุดท้ายมันชกผมเสียจนน่วมเหมือนกันจนเกือบหมดแรงดีที่ผมมีสติและปัญญาอยู่บ้าง ผมออกแรงชกจนหมดตัว ชกเข้าปลายคางของมันจนมันสลบผมชนะมันขาดเลย และตอนนี้ผมกำลังจะหาคู่ชกใหม่อีกคือการตัดออกจากครอบครัวที่ผมรัก ผมขอเธอบวชแล้วอันนี้เป็นคู่ชกที่ผมกำลังจะเปรียบมวยคงอีกไม่นานนี้ครับกำลังหาสถานที่สัปปายะตั้งใจอย่างมาก เพราะเวลาในโลกนี้เหลือน้อยเต็มที่ แชร์ประสบการณ์เฉยๆนะครับมิได้อวดตัวนะครับ ตัวตนเราไม่มีให้อวดอยู่แล้ว เพื่อจะเป็นแบบอย่างได้บ้างผมไม่มีความรู้ในไตรปิฏก มักจะเอาความจริงเข้าแรกเลย แล้วค่อยศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะมีประโยชน์แก่สมาชิกไม่มากก็น้อยครับ สู้ๆๆไม่สู้ก็ไม่ชนะครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


หนีความจริงแล้วคิดว่าชนะความจริง ไม่จริงหรอก
ข่มได้สนิทแล้วดีใจ นานไปก้จะเชื่อไปจริงๆว่าการข่มให้มิดนี้เป็นทางออก

ไม่จริงหรอก ชกผิดรุ่นแล้ว

ไปดูสังโยชน์ 10 ดีๆ
ลำดับดีๆ ให้มันสมควรแก่ฐานะของตน

อดนอนกับเมียได้ก็ดีใจว่าชนะกิเลส
นี่มันกามฉันทะ เป็นข้อที่ 4.

หากยังมีกายเป็นเราอยู่ มันจะไปละกามฉันทะได้ยังไง
ผิดธรรมชาติ เป้นไปไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 13:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่รู้นะ ผมเลิกได้สบายๆ ไม่ต้องกดไม่ต้องกั้นมันเกิดจากจิต ท่านใดจะมีความเห็นอย่างไรน้อมรับครับ
ผมคิดว่าผมปฏิบัติธรรมมาเพื่อการลดละกิเลส เมื่อผมทำได้ผมก็รู้สึกว่ามันทำได้เพราะว่าธรรมะที่เราปฏิบัตินะผมมิได้กระยิ่มยิ้มย่องเหนือผู้ใด ผมยอมทิ้งทุกสิ่งที่ผมมี แม้แต่หน้าที่การงานลูกเมียและครอบครัว เพราะผมศึกษาธรรมมาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งมันไร้สาระเหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนตลอดผมอาจจะพอแล้วก็ได้ทางโลกไม่มีอะไรที่ผมจะทำอีกแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรไปในเมื่อมีคนสนับสนุนผมให้กระทำได้ ผมบอกแล้วไงว่าผมจะเดินให้สุดทาง

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
หนีความจริงแล้วคิดว่าชนะความจริง ไม่จริงหรอก
ข่มได้สนิทแล้วดีใจ นานไปก้จะเชื่อไปจริงๆว่าการข่มให้มิดนี้เป็นทางออก

ไม่จริงหรอก ชกผิดรุ่นแล้ว

ไปดูสังโยชน์ 10 ดีๆ
ลำดับดีๆ ให้มันสมควรแก่ฐานะของตน

อดนอนกับเมียได้ก็ดีใจว่าชนะกิเลส
นี่มันกามฉันทะ เป็นข้อที่ 4.

หากยังมีกายเป็นเราอยู่ มันจะไปละกามฉันทะได้ยังไง
ผิดธรรมชาติ เป้นไปไม่ได้


ที่ว่าผมหนีความจริงผมไม่ได้หนีความจริงผมไม่ได้หนีเข้าป่าที่ไหนผมอยู่กับมันคลุกคลีกับมันตลอดและรู้จักกิเลสดีว่ามันมีพลังงานขนาดไหนและก็รู้วิธีที่จะชนะมันได้ด้วยครับแต่จะอธิบายให้ละเอียดต้องมีการคุยกัยยาวครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อหลายปีก่อน ลูกสาวจบ ม.๓ ผมก็ให้ไปนอนกับแม่ ส่วนผมแยกมานอนต่างหากเดี๋ยวนี้ก็อยากไปอยู่วัดเหมือนกัน
เมื่อเดือนเม.ย.ผมรับศีลทานมื้อเดียว ๗วัน ก็มีปิติทำได้ดี ก็ทำเรื่อยๆมา น้ำหนักลดไปเกือบ ๒๐ โล
ปัจจุบันไม่ทานมื้อเย็น เตรียมอาหารก่อนทาน ทานเฉพาะที่เตรียมไว้ นอกจากนั้น น้ำเปล่าตลอด
ก็มีบางครั้งที่เครียดกับงาน หรืออื่นๆ เปลืองพลังมากรู้สึกเพลียๆ ก็น้ำผึ้งสักช้อนชา ก็ช่วยได้
หรือไปเจองานที่ต้องออกแรงมาก เหงื่อออกมากหรือที่ที่อากาศไม่ดี ก็ใช้น้ำมะนาวครึ่งลูกเติมน้ำเปล่าค่อนแก้ว ช่วยล้างพิษได้ดี
คิดว่าจะค่อยๆเพิ่มรายละเอียดศีลขึ้นเรื่อยๆจนกว่าจะพร้อมมีโอกาศได้ไปอยู่วัดกับหมู่กลุ่ม

ผมรู้จักคู่สามีภรรยาที่ถือศีล ๘ สามคู่แล้ว มีคู่หนึ่งถือศีลมาก่อนแต่ง ผู้ใหญ่ให้แต่งก็แต่ง แต่ก็อยู่กันอย่างพี่น้อง
เท่าที่รู้สองคู่ ทานมื้อเดียว แต่ทำงานหนักกว่าผมหลายเท่า ผมคิดว่าเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติอย่างนั้นบ้าง

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่จำเป็นหรอกคับ ไม่ต้องอธิบายก็ได้
ของแบบนี้มันได้เสียกับตัวเองทั้งนั้นแหละครับ

ผมก็แค่เตือนว่ามีเหวตรงนี้ตรงนั้น ระวังไว้
เขาเอาไม่เอาช่างเขา เพราะคนตกเหวไม่ใช่ผม


คนปฏิบัติธรรมส่วนมากติดดี
แพ้ความดีเสียมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 17:25
โพสต์: 281

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="wic"]เมื่อหลายปีก่อน ลูกสาวจบ ม.๓ ผมก็ให้ไปนอนกับแม่ ส่วนผมแยกมานอนต่างหากเดี๋ยวนี้ก็อยากไปอยู่วัดเหมือนกัน
เมื่อเดือนเม.ย.ผมรับศีลทานมื้อเดียว ๗วัน ก็มีปิติทำได้ดี ก็ทำเรื่อยๆมา น้ำหนักลดไปเกือบ ๒๐ โล
ปัจจุบันไม่ทานมื้อเย็น เตรียมอาหารก่อนทาน ทานเฉพาะที่เตรียมไว้ นอกจากนั้น น้ำเปล่าตลอด
ก็มีบางครั้งที่เครียดกับงาน หรืออื่นๆ เปลืองพลังมากรู้สึกเพลียๆ ก็น้ำผึ้งสักช้อนชา ก็ช่วยได้
หรือไปเจองานที่ต้องออกแรงมาก เหงื่อออกมากหรือที่ที่อากาศไม่ดี ก็ใช้น้ำมะนาวครึ่งลูกเติมน้ำเปล่าค่อนแก้ว ช่วยล้างพิษได้ดี
คิดว่าจะค่อยๆเพิ่มรายละเอียดศีลขึ้นเรื่อยๆจนกว่าจะพร้อมมีโอกาศได้ไปอยู่วัดกับหมู่กลุ่ม

ผมรู้จักคู่สามีภรรยาที่ถือศีล ๘ สามคู่แล้ว มีคู่หนึ่งถือศีลมาก่อนแต่ง ผู้ใหญ่ให้แต่งก็แต่ง แต่ก็อยู่กันอย่างพี่น้อง
เท่าที่รู้สองคู่ ทานมื้อเดียว แต่ทำงานหนักกว่าผมหลายเท่า ผมคิดว่าเป็นไปได้ที่จะปฏิบัติอย่างนั้นบ้าง[/quo


ดีครับสู้ๆเป็นกำลังใจให้ครับอย่าปล่อยให้กิเลสมันชนะเราครับ เรามีปัญญาเรามีสติสู้ๆ และก็ขอขอบคุณท่านที่ตักเตือนเพื่อความไม่ประมาท ขอบคุณครับ

.....................................................
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thai.dhamma.org


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.ค. 2009, 22:19
โพสต์: 271

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำได้ยาก แต่ก็อยากทำ กำลังใจครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 18:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


เย้ๆๆ ทีทำมาดีหมด เป็นเหตุเป็นปัจจัย ไม่ถึงที่สุดวันนี้ วันหน้าก็ได้
หนทางอีกยาวไกล :b12: ว่าก็ว่า ไปวัดดีกว่า......

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 19:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5975

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กามโภคี เขียน:
เย้ๆๆ ทีทำมาดีหมด เป็นเหตุเป็นปัจจัย ไม่ถึงที่สุดวันนี้ วันหน้าก็ได้
หนทางอีกยาวไกล :b12: ว่าก็ว่า ไปวัดดีกว่า......





ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย ไม่ใช่มาทำเฉพาะในชาตินี้หรอกค่ะ จริงป่ะ :b32:

อย่าลืมกล่าวขออโหสิกรรมต่อกันนะคะ หากภรรยาไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ แต่พูดแบบขัดไม่ได้

จะกลายเป็นวิบากในชาติต่อๆไปไม่รู้จบ จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางนะคะ ...

จงอย่าเชื่อใจในสิ่งที่ภรรยาพูดออกมานะคะ ให้ขออโหสิกรรมต่อกันเสีย ...

จะได้ไม่มีวิบากร่วมกันต่อไป ...

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2009, 22:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2009, 23:02
โพสต์: 157

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่รู้ทั้งสามีภรรยาถือศีลทั้งคู่ คู่แรกสามีถือศีลก่อนโดยภรรยายินยอม
อีกคู่เข้าใจว่ารับศีลพร้อมกัน
ก็มีบางคู่ ภรรยาถือศีลก่อนโดยสามียินยอม แต่ผมยังไม่ได้ไปพบปะพูดคุยด้วยก็เลยไม่ยืนยัน

.....................................................
มาตามหา เพื่อนร่วมทาง

ประโยชน์สูง-ประหยัดสุด > > ต้องทำให้ได้ คือแก้ไขตนเอง > > ฝึกหยุด-ไม่หยุดฝึก >
ไม่มีเวลาสำหรับความชั่วบาปอีกแล้ว. ." ทุกวินาทีเป็นวินาทีแห่งบุญ "
เราจะฝึกฝนตนเพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 46 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร