ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=24064 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | โดเรมี [ 19 ก.ค. 2009, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
คืออยากทราบว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงในการปฏิบัติธรรมนั้น จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคืออะไร และควรทำอย่างไรจึงถึงจุดสุดท้ายได้โดยง่าย ขอคำแนะนำด้วยคะ |
เจ้าของ: | moddam [ 19 ก.ค. 2009, 18:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
ตามที่ผมคิดนะครับ น่าจะเป็นการทำจิตให้บริสุทธิ์ครับ เพื่อจะได้ไม่มีความทุกข์งัยครับ |
เจ้าของ: | Bwitch [ 19 ก.ค. 2009, 19:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
เพื่อรู้จักและเข้าใจตนเองค่ะ เช่น ตัวเราเกิดมาทำไม อะไรคือที่สุดของชีวิต ขอเพิ่มเติม มีสติ viewtopic.php?f=2&t=23424 และได้ปัญญา viewtopic.php?f=2&t=22926 |
เจ้าของ: | ชิโนะซึเกะ [ 19 ก.ค. 2009, 19:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
ผมคิดว่าเพื่อศึกษาให้รู้ความเป็นจริงครับ |
เจ้าของ: | ผู้ไม่รู้ [ 19 ก.ค. 2009, 19:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
...คาราวะท่านผู้เจริญครับ... ...จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติธรรม ก็เพื่อ "แสวหาความหลุดพ้น" ครับ... ...ส่วนวิธีที่จะทำให้ถึงซึ่งจุดสุดท้ายได้ง่าย คือ "การขยันหมั่นเพียรขัดเกลาจิตใจของตนเอง" ครับ... (...เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ โปรดใช้วิจารณญาณ...) |
เจ้าของ: | matchima [ 19 ก.ค. 2009, 19:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
ความสงบสุข .... แห่งจิตใจ รู้จักตนเองได้มากขึ้นค่ะ |
เจ้าของ: | Supareak Mulpong [ 19 ก.ค. 2009, 20:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
พระอริยะสาวกได้ตรัสถามพระพุทธองค์ว่า ความรู้ต่างๆ มากมายที่พระพุทธองค์นำมาสอนนั้นมีขอบเขตไปแค่ใหนกัน พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า "สิ่งที่เราสอนนั้นมีแต่เรื่องทุกข์ และการดับทุกข์ สิ่งอื่นใดนอกจากนี้เราไม่ได้สอน" พุทธศาสนสนิกชนทั้งหลาย นิพพานนั้นเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด เราชาวพุทธเกิดมาในยุคที่มีพระพุทธศาสนาอยู่ นึกดูนะครับ ชั่วอายุของโลก มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาไม่กี่ครั้ง กัปป์นี้จะเกิด 5 ครั้ง องค์ปัจจุบันก็เป็นองค์ที่ 4 แล้ว แต่ละครั้งศาสนาก็จะมีอายุราวๆ 5000 ปี เรามีบุญขนาดใหนที่ได้เกิดมาในแผ่นดินที่ถือพุทธ ถ้าไม่เอาชาตินี้ ก็ต้องรอพระศรีอริยเมตรัยแล้ว |
เจ้าของ: | ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ [ 19 ก.ค. 2009, 20:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
นิพพิทา วิราคะ วิสังขาร อสังขตธาตุ อสังขตธรรม สูญญตา นิพพาน |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 19 ก.ค. 2009, 21:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
พูดตามทฤษฏีนะ จุดมุ่งหมายคือถอดถอนความเห็นผิด เห็นอะไรผิด ... ก็เห็นว่ากายนี้คือเรา ของเรา ใจนี้คือเรา ของเรา ความเห็นที่ถูกนั้นคือ กายนี้ก็ไม่ใช่เรา แม้แต่ใจนี้ก็ไม่ใช่เรา การจะถอดความเห็นสองอย่างนี้ได้ ไม่ใช่ว่าคิดเอา แต่ว่าต้องรู้เห็นด้วยจิตที่มีคุณภาพ จึงเป้นที่มาของการเจริญสมาธิ ซึ่งก็คือการพัฒนาจิตนี้ให้มีคุณภาพเพียงพอที่จะรู้เห้นตามความเป้นจริง สามารถแยกแยะความจริงออกจากความลวงได้ ยึดถือรูปก็เป้นทุกข์ ยึดถือนามก็เป็นทุกข์ ถอดถอนความเห้นว่ากายนี้เป็นเราได้ ก็เรียกได้ว่าถึงโสดาบันแล้ว ถอดถอนความเห้นว่าจิตนี้เป้นเรา ก็ถึงอรหันต์ สำหรับผู้ปฏิบัติ รู้คร่าวๆแค่นี้ก็พอ แล้วก้ลงมือได้แล้วจ๊ะ รู้มากจะยากนานแบบผม |
เจ้าของ: | กามโภคี [ 19 ก.ค. 2009, 21:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
ชาติสยาม เขียน: พูดตามทฤษฏีนะ จุดมุ่งหมายคือถอดถอนความเห็นผิด เห็นอะไรผิด ... ก็เห็นว่ากายนี้คือเรา ของเรา ใจนี้คือเรา ของเรา ความเห็นที่ถูกนั้นคือ กายนี้ก็ไม่ใช่เรา แม้แต่ใจนี้ก็ไม่ใช่เรา การจะถอดความเห็นสองอย่างนี้ได้ ไม่ใช่ว่าคิดเอา แต่ว่าต้องรู้เห็นด้วยจิตที่มีคุณภาพ จึงเป้นที่มาของการเจริญสมาธิ ซึ่งก็คือการพัฒนาจิตนี้ให้มีคุณภาพเพียงพอที่จะรู้เห้นตามความเป้นจริง สามารถแยกแยะความจริงออกจากความลวงได้ ยึดถือรูปก็เป้นทุกข์ ยึดถือนามก็เป็นทุกข์ ถอดถอนความเห้นว่ากายนี้เป็นเราได้ ก็เรียกได้ว่าถึงโสดาบันแล้ว ถอดถอนความเห้นว่าจิตนี้เป้นเรา ก็ถึงอรหันต์ สำหรับผู้ปฏิบัติ รู้คร่าวๆแค่นี้ก็พอ แล้วก้ลงมือได้แล้วจ๊ะ รู้มากจะยากนานแบบผม วรรคแรกคือถอนอัตตาไช่ไหมครับ วรรคที่สอง วิปัสสนาปัญญาใช่เปล่า วรรคที่สามถอนสักกายทิฏฐิได้แล้วใช่ไหม ถ้าตอบไม่ใช่ ผมเอาอนุโมทนาคืน |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 19 ก.ค. 2009, 22:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
กามโภคี เขียน: ถ้าตอบไม่ใช่ ผมเอาอนุโมทนาคืน ทำอย่างกะพันทึบ มียึดลูกอมคืนด้วย ไม่ให้หรอก เราหิวอนุโมทนา ให้แล้วเราหวง ไม่ให้คืน กามโภคี เขียน: วรรคแรกคือถอนอัตตาไช่ไหมครับ ไม่รู้สินะ ใช่ปะ ถ้ารู้แจ้งว่ากายไม่ใช่ของเรา จิตก้ยังไม่ใช่เรา มันคงไม่เหลือความเป้นเราแล้วล่ะ คงจะใช่คำว่าอัตตา เนาะ ไม่แน่ใจ กามโภคี เขียน: วรรคที่สอง วิปัสสนาปัญญาใช่เปล่า อืม เรียกรวมๆว่าสัมมาสมาธิก็แล้วกันเนาะ กว้างดี ตอบผิดบาลีเดี๋ยวโดนยึดลูกอม ผมหวงนะ กามโภคี เขียน: วรรคที่สามถอนสักกายทิฏฐิได้แล้วใช่ไหม เอ วรรคสามนี่มันครอบสังโยชน์ทั้ง 10 แล้วนะ เพราะว่า "จิตก็ไม่ใช่เรา" นี่มันขั้นสุดยอดแล้วล่ะ จบข่าวแล้ว คงเลยป้ายสักกายทิฐิมาหลายป้ายแล้วล่ะนะ วรรคนี้มีทั้งหมด 10 ป้ายนะจ๊ะ เราพูดป้ายแรกกับป้ายสุดท้าย นี่ๆ อย่ามาชวนเยอะ เด๊่ยวคนเขาจะหนีวัดหมด อุตส่าห์พาง่ายแล้วนะเนียะ |
เจ้าของ: | มัทนา ณ หิมะวัน [ 19 ก.ค. 2009, 22:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
เพื่อ....วิมุตติ = ความหลุดพ้น โดย....ศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามหลักใหญ่ คือ ไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา และด้วยการปฏิบัติตามแนวทางของ "มรรคมีองค์ ๘" เจ้าค่ะ |
เจ้าของ: | damjao [ 20 ก.ค. 2009, 08:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง วิสัยทัศน์ หรือ ภาพในอนาคตที่เราอยากมีอยากเป็น เมื่อเราปฏิบัติธรรมนั้นก็เพื่อขัดเกลากิเลสของเราให้เบาบาง ดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน มีแสงสว่างส่องทาง จนในที่สุดของที่สุดแล้วหลุดพ้น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่เย็นสนิท ไม่มีร้อนเลย เมื่อนั้นเป็นนิพพาน |
เจ้าของ: | Bwitch [ 20 ก.ค. 2009, 09:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
กามโภคี เขียน: เอ วรรคสามนี่มันครอบสังโยชน์ทั้ง 10 แล้วนะ เพราะว่า "จิตก็ไม่ใช่เรา" นี่มันขั้นสุดยอดแล้วล่ะ จบข่าวแล้ว คงเลยป้ายสักกายทิฐิมาหลายป้ายแล้วล่ะนะ วรรคนี้มีทั้งหมด 10 ป้ายนะจ๊ะ เราพูดป้ายแรกกับป้ายสุดท้าย โอ้โห....จิตไม่ใช่ของเรานี่...ทำได้ยังไงคะ เป็นสภาวะที่ว่างเปล่าหรือเปล่าคะ หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลสทั้งมวล ไม่มีความทุกข์ แล้วความสุขละค่ะ ...เรียนถามค่ะ พูดถึง นิพพาน สำหรับผู้ที่เริ่มต้นปฏิบัตินี่จะดูว่าไกลเกินเอื้อมหรือเปล่าคะ ทุกคนปรารถนานิพพานกันทั้งนั้น แต่เท่าที่ศึกษาจากกระทู้ต่างๆ ที่นี่ ถ้าไม่ใช่พระโสดาบัน เห็นทีจะยาก ปุถุชนอย่างเรา บัวใต้น้ำอย่างดิฉันไม่กล้าพูดคำนี้ออกมานะคะ บารมี (บุญเก่า) ก็ไม่มี หรือมีก็คงจะน้อยมาก ชาตินี้จึงพอจะมีฉันทะ แต่วิริยะกับอุตสาหะความเพียรนี่กำลังพยายามอยู่นะคะ คือ หมั่นให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติค่ะ อีกคำถามนะคะ การตั้งใจมั่นของเรา จะต้องกำหนดจิตก่อน คืออธิษฐานจิตก่อนทุกครั้งที่ปฏิบัติใช่หรือไม่คะ ว่าขอพระนิพพานเป็นจุดหมายจะเป็นชาตินี้หรือชาติไหนๆ ก็ตาม เรียนถามเพิ่มเติมค่ะว่า คำว่า สมมุติสงฆ์ หมายความว่าอย่างไรคะ (เดี๋ยวจะลองค้นดู) ขออนุโมทนาสำหรับคำตอบค่ะ:b8: ได้มาแล้วค่ะ แบ่งปันเป็นธรรมทานนะคะ...สาธุ ท่านใดจะกรุณาอธิบายเพิ่มเติมก็จะอนุโมทนาสาธุค่ะ สมมติสงฆ์ คือ พระที่ออกบวช โดยเป็นที่สมมติ หรือ โดยมีมติ-ยอมรับว่า นี้คือ ผู้ที่ออกบวชในบวรพระพุทธศาสนา โดยยังมิได้เป็นอริยะบุคคล กล่าวคือ ยังไม่ได้เป็น โสดาบันบุคคล,สกิทาคามีบุคคล,อนาคามีบุคคล หรือ เป็นพระอรหันต์ แต่อริยะบุคคล คือ โสดาบันบุคคล,สกิทาคามีบุคคล,อนาคามีบุคคล หรือ เป็นพระอรหันต์ ซึ่งอาจเป็นฆราวาสได้ทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็น อริยะบุคคล โดยที่สถานะปัจจุบัน ได้บวชเป็นภิกษุ ก็จะมีชื่อเปลี่ยนไปเป็น พระอริยสงฆ์ สำหรับ วิถีสู่อริยะบุคคลนั้น ลองเข้าไปฟังดูที่นี่ครับ ดีมากๆครับ http://kanlayanatam.com/Myimage-index/ariya.htm หรือ ชมเป็น VCD ได้โดยตรงที่ http://kanlayanatam.com/dr_snong/vcd/ariya.wmv |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 20 ก.ค. 2009, 09:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การปฏิบัติธรรมนั้นจุดสุดท้ายจริงๆนั้นเพื่ออะไร |
Bwitch เขียน: โอ้โห....จิตไม่ใช่ของเรานี่...ทำได้ยังไงคะ เป็นสภาวะที่ว่างเปล่าหรือเปล่าคะ หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลสทั้งมวล ไม่มีความทุกข์ แล้วความสุขละค่ะ ...เรียนถามค่ะ - ทฤษฏีมันว่าอย่างนั้นน่ะจ๊ะ ทำยังไง... นี่ก็เจริญสติปัฏฐานไงจ๊ะ แต่จะไปอธิบายว่ามันสูงต่ำดำขาวเปรี่ยวหวานมันเค้มอะไรยังไงนี่ เราๆท่านๆคงพ้นวิสัยจะไปรู้รสอันนี้ล่ะจ๊ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |