คุณ ไม่สายเกินไป

คุณรู้สึกไหมขอรับว่าเราคุยกันเนี่ย เหมือนๆคนบ้ากับคนสติเฟื่องคุยกัน ดูๆเลอะเทอะเละเทะน่อมแน้ม พิกลอยู่นะว่าไหม คุณรู้สึกอย่างนั้นไหมขอรับ

เมื่อรู้สึกตรงกัน

ขอถาม คุณจะเลือกข้างไหนขอรับ

จะแก้ได้มันก็เริ่มที่ตัวเรานี่แหละครับ นับ 1 ที่ตัวเราก่อนสิขอรับ

นี่ท่านกรัชกายไม่ยอมนับแล้วก็อ้างไปเรื่อย ปล่อยให้คนอื่นเขานับก่อนถ้าเขาไม่นับท่านก็ไม่นับเหรอ

มันก็ เอวัง นะขอรับ ขอบคุณละกันที่มาตอบไปเรื่อยๆ นะขอรับ

ฝากคุณกรัชกายนะขอรับ

1. การสวดมนต์นี่ประโยชน์มันอยู่ตรงไหนขอรับ(มีหลักฐานอ้างอิงไหม)แล้วโทษของมันหละยังไงบ้าง

2. การทำบุญกับพระทุศีลนี่ มันเป็นบุญยังไง มันเกิดบาปยังไง(มีหลักฐานอ้างอิงไหม)

3. ประเพณีที่มันผิดๆๆ นี่ ยังจะทำอยู่อีกไหม ถ้าจะทำแล้วทำไมไม่ทำให้มันถูกไปเลยหละ

4. ทางสายกลางที่ว่าหนะ เป็นแนวทางของใครถ้าไม่ใช่แนวทางของพระพุทธเจ้าหรือ ว่าไงหละท่าน

5. ที่ว่าอุเบกขาหนะ มันต้องประกอบด้วยอะไร ถึงจะเป็นอุเบกขาอย่างที่พระพุทธองค์สอนไว้

เอาแค่นี้แหละ ........... ขอรับ

เอาเป็นว่าสรุปละกันจะได้จบๆ นะขอรับ

ผมไม่ห้ามใคร ที่ยังอยากให้ทานกับพระทุศีล ปล่อยให้ทำกันต่อไป ตามใจเขา เขาจะบำรุงพระทุศีลในพุทธศาสนาก็ช่างเขา

ผมเพียงแต่นำพุทธบัญญัติมาบอก นำพระพุทธพจน์มาบอก ว่า ทำทานแบบนั้นได้บาป เพราะเป็นการสนับสนุนพระให้ทุศีล

ผมต้องการให้ ผู้ที่ต้องการทำบุญกับพระแท้ๆ เพราะต้องการได้บุญจริงๆ จะได้รู้ความจริง และทำบุญอย่างถูกต้องเท่านั้น

ผมไม่ไปขัดขวางทางใคร ที่จะแสวงหาลาภสักการะ สมบัติเงินทองเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ด้วยการยอมเป็นพระทุศีล

ผมทำหน้าที่ปกป้องรักษาพระพุทธศาสนา ตามที่พระพุทธเจ้าสั่งฝากเราเอาไว้ในฐานะอุบาสกและอุบาสิกา เพื่อบูชาพระคุณของพระองค์

ผมต้องการแยกพระสงฆ์ที่แท้จริง ออกจาก พระสงฆ์จอมปลอม เพื่อให้เด็กเยาวชนที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ไม่สับสนกับ พระสงฆ์ที่มีอยู่อีกต่อไป

และขอนำพระพุทธพจน์ต่อไปนี้มาแสดง ....ครับ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาที่เดินตามฝูงโคไป แม้จะร้องว่า ข้าพเจ้าเป็นโค ข้าพเจ้าเป็นโค
แต่สีของมันไม่เหมือนโค เสียงก็ไม่เหมือน รอยเท้าก็ไม่เหมือน
มันก็ได้แต่เดินตามฝูงโค ร้องไปว่า ข้าพเจ้าเป็นโค ข้าพเจ้าเป็นโคเท่านั้น ฉันใดก็ดี

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้
เดินตามหมู่ภิกษุ แม้ประกาศไปว่า ข้าพเจ้าเป็นภิกษุ ข้าพเจ้าเป็นภิกษุ
แต่ฉันทะ (ความยินดี) ในการสมาทานอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา
ของภิกษุรูปนั้น ไม่มีเหมือนภิกษุอื่นๆ ภิกษุนั้นก็ได้แต่เดินตามหมู่ภิกษุประกาศไปว่า
ข้าพเจ้าเป็นภิกษุ ข้าพเจ้าเป็นภิกษุเท่านั้น ฉันนั้นเหมือนกัน

เพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกในข้อนี้ว่า
ฉันทะของเราจักมีอย่างแรงกล้าในการสมาทานอธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
(จากพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕ เล่ม ๓๔ หน้า ๔๔๘ - อ้างอิง ๙)

ขอบคุณท่านกรัชกายนะขอรับที่มาตอบ

เคยบอกให้คนขวางโลกไปบวชคู่กับขงเบ้ง แล้วก็จับสมมุติสงฆ์ (ตามความเข้าใจของคุณ) ฆ่าให้หมด
ปฏิวัติวัฒนธรรมใหม่ ทุบวัดทิ้งทุบพุทธปฏิมาที่มีอยู่ในประเทศไทยทิ้งให้หมด ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อใหญ่ หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระหรหมเอราวัณ ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้คนหลงงมงาย
แล้วก็ตั้งตนเองเป็นสังฆโลก (คล้ายๆสังฆราช) ดูแลกันสองคนกับคู่หูดังกล่าว
แล้วก็ประกาศรับผู้เข้ามาบวชใหม่ ตั้งกฏอย่างเข้มงวด รับเฉพาะผู้ที่มีความคิดเห็นเดียวกับตนเท่านั้นบวช
นอกนั้นฆ่าให้หมด

เรียบร้อยโรงเรียนคนขวางโลก

ปล. รับคุณไม่สายเกินไป บวชเป็นภิกษุณี ด้วยจะได้สะอาดเสียทีโลกมนุษย์




"อยากรู้ใจ?"

http://radio.sanook.com/music/player/%E ... %AD/47782/

ไม่ต้องไปฆ่าเขาหรอกขอรับ ไม่ถึงร้อยปีมันก็ตายไปเองแหละ

พระไตรปิฎกมีไว้เป็นตัวแทนพระศาสดาอยู่แล้วขอรับ ยึดอะไรมากมายให้วุ่นวาย ปล่อยๆ มันมั่งนะขอรับ

การบวชก็ใช่ว่าจะสำเร็จเป็นสงฆ์ได้ง่ายๆ ซะเมื่อไหร่กัน และฆราวาสก็ไม่มีข้อห้ามไม่ให้เป็นสงฆ์นี่นา
แค่นี้ก็ต้องให้บอกด้วยนะท่านกรัชกาย

สุดท้ายท่านกรัชกายก็แค่นี้แหละขอรับ ขอให้สนุกนะขอรับ ยังไงก็ขอให้มีสติอยู่กับบุญนะขอรับจะได้ดี

ยังไงก็ขอให้มีสติอยู่กับบุญนะขอรับจะได้ดี

กรัชกายมากด้วยความสงสัย (ใช่วิจิกิจฉาในนิวรณ์หรือไม่ไม่ทราบ) ที่คนขวางโลกพูดมาสงสัยอยู่สามคำ "สติ" "บุญ" "ดี"

คนขวางโลก ช่วยบอกความหมายของแต่ละศัพท์ดังกล่าวด้วยขอรับว่าหมายถึงอะไรบ้าง โดยสาระภาวะนั้นๆ จะเกิดหรือเจริญขึ้นด้วยวิธีใด เช่น "สติ" ได้แก่อะไร แล้วสติจะเกิดด้วยการทำอย่างไร

"บุญ" อะไรขอรับ บุญ แล้วทำยังไงจึงเกิดมีบุญ

"ดี" ล่ะขอรับ คือ อะไร ทำไงจึงจะดี เช่น อาหารดี ดนตรีเพราะ ถุกใจ อย่างนี้ดีไหมขอรับ

มีตัวอย่างประกอบด้วยนะขอรับ เพราะว่า ผู้อ่านส่วนมากยังใหม่ต่อการศึกษาทางธรรม

ตอบ ๆ อ่านๆไปแล้วรู้สึกว่า....."ขนโคมีมากกว่าเขาโค" จริงๆค่ะ ...เพราะถ้าคุยกันไปก็จะเพี้ยนกันไปใหญ่....เสียสัญญาน...

"ขนโคมีมากกว่าเขาโค" จริงๆ

เออ...วันนี้คุณไม่สายเกินไป พูดเข้าท่า ขนวัวมากกว่าเขาวัว พูดอีกก็ถูกอีก เขาโคมีแค่ ๒ เขา
ขนมีเต็มตัว นับไม่ถ้วน


เป็นอย่างนี้ขอรับ เราจะพูดธรรมโดยยกศัพท์ใดก็ตามขึ้นพูดเนี่ย จะต้องรู้ความหมาย ผู้พูดจึงจะ
ได้ประโยชน์จากคำศัพท์คำนั้นๆ นำไปปฏิบัติก็ไม่ผิดเพี้ยน

พูดแล้วไม่รู้ความหมาย เพียงแต่พูดๆๆ จะต่างอะไรกับคนละเมอพูดเล่า

ยกตัวอย่าง คำว่า "บุญ" บางคนบางสำนัก เข้าใจผิดไปไกล ว่าใส่บาตรเป็นต้นแล้ว ต้องรีบกรวดน้ำ ไม่อย่างนั้นบุญจะหนีขึ้นฟ้ากลับสวรรค์ ฯลฯ

แล้วคุณไม่สายเกินไปล่ะ เข้าใจคำว่า บุญ อย่างไร

ว่าแต่ ขนโค กับรอยเท้าโค ที่เหยียบย่ำบนแผ่นดินนี้อันไหนมากกว่ากันครับ

คำว่า “ดี” ก็เช่นกัน เป็นคำพูดที่กว้าง (ตามภาษาไทย)
ดังนั้นคุณไม่สายเกินไปและคนขวางโลก ศึกษาลิงค์นั้นสิครับ ว่าตรงกับใจเราไหม และจะเข้าใจความหมาย “กรรม” ตามพุทธศาสนาด้วย

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15732


นำมาให้ดูตรงนี้นิดหน่อย ดังนี้ =>


ปัญหาเกี่ยวกับความดี-ความชั่ว


กรรมเป็นเรื่องของความดีและความชั่วโดยตรง เมื่อพูดถึงกรรม จึงควรพูดถึงเรื่องความดี

และความชั่วไว้ด้วย เพื่อช่วยให้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรรมชัดเจนยิ่งขึ้น

เรื่องความดีและความชั่ว มักมีปัญหาเกี่ยวกับความหมายและหลักเกณฑ์ที่จะวินิจฉัย

เช่น อะไรและอย่างไรจึงจะเรียกว่าดี อะไรและอย่างไรจึงจะเรียกว่าชั่ว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเช่นนี้มีมากเฉพาะในภาษาไทยเท่านั้น

ส่วนในทางธรรมที่ใช้คำบัญญัติจากภาษาบาลี ความหมายและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องนี้

นับได้ว่าชัดเจน ดังจะกล่าวต่อไป





คำว่าดีว่าชั่ว ในภาษาไทยมีความหมายกว้างขวางมาก

โดยเฉพาะคำว่าดี มีความหมายกว้างยิ่งกว่าคำว่าชั่ว

คนประพฤติดีมีศีลธรรม ก็เรียกว่า คน ดี

อาหารอร่อยถูกใจ ผู้ที่กินก็อาจพูดว่า อาหารมื้อนี้ ดี หรืออาหารร้านนี้ ดี

เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพหรือทำงานเรียบร้อยคนก็เรียกว่า เครื่องยนต์ ดี

ไม้ค้อนที่ใช้ได้สำเร็จประโยชน์สมประสงค์ คนก็ว่า ค้อนนี้ ดี

ภาพยนตร์ที่สนุกสนาน ถูกใจคนที่ชอบก็ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ ดี

ภาพเขียนสวยงามคนก็ว่า ภาพนี้ ดี หรือ ถ้าภาพนั้นอาจขายได้ราคาสูงคนก็ว่าภาพนั้น ดี

ตอนเช้าค่ะคุณกรัชกราย
ไม่ได้เห็นบทแบบนี้มาสักพักแล้วนะคะ อ่านแล้วเพลินดี แต่ไม่มีความสามารถ จะสนทนาด้วย
ขอแค่ตามอ่านนะคะ
วันนี้ตั้งใจมีเพลงหวานๆ เพราะมากๆ ความหมายก็ดีนะคะ ไว้ให้คุณฟัง ตอนเช้าๆ
แต่คงต้องไปดูใน You tube เพราะส่งแบบคุณทำไม่เป็นค่ะ
When you say nothing at all ของ Ronan Keating
เหมาะสำหรับหนุ่ม-สาว น่ะค่ะ ฟังแล้วดูโลกมันสวยงามน่ะค่ะ
เผื่อคุณกรัชกราย จะฟังแล้วแอบยิ้ม
ขออนุญาติใช้กระทู้นี้ขัดจังหวะนะคะ

สวัสดีครับ คุณ O.wan
สบายดีนะขอรับ
ฟังครับ

When you say nothing at all

http://www.imeem.com/ltdhuat/music/4i8t ... ng-at-all/

ช่าย...คุณกรัชกายเป็น....สัทธรรมปฏิรูปตัวจริง ....เพราะที่คุณอ้างมานั้น คือหนังสือที่.........เรื่องนี้ลึกซึ้งมากรึ..เปล่าค่ะ.....จุดประสงค์อย่างไร....แต่ก็มีการร่ำร้อง...แต่งหนังสือ"ภัยพุทธศาสนาในประเทศไทย"และมีการถามหาพระอรหันต์ในประเทศไทยบอกว่าองค์นี้องค์นั้นเป็นพระอรหันต์แต่ทำไมไม่มาดูแลช่วยท่านทำนุบำรุงพระศาสนาด้วย....แต่พอออกมาเปิดเผยพระไตรปิฎกให้ประชาชนอ่านและบอกว่าวัตถุที่อยู่เต็มแผ่นดินนั้นไม่ใช่วัตถุในพระศาสนาพระพุทธองค์ไม่สั่งไว้เป็นตัวแทนได้ กลับหาว่าผิดวินัย และเห็นท่านเงียบ ๆ ไม่ออกมาว่าอย่างไร...รอดูอยู่น๊า.. ....คุณกรัชกายอ่านรึเปล่า....จริง ๆ แล้วดิฉันก็อ่านอยู่นะหนังสือที่คุณกรัชกายนำมาอ้าง(เพราะดิฉันอ่านหนังสือทุกอย่างแม้ของศาสนาอื่น ๆ)...แต่ปฏิรูปมากไปหน่อยไม่ค่อยเป็นแบบธรรมชาติ....เพราะท่านตัดโลกทิพย์ออกหมด..แต่ท่านน่ะท่องนะ...ยะถา....สัพพี....รักขันตุสัพพเทวตา ...น่ะแต่บอกว่าเป็นคำเปรียบเปรย....ก็ท่าน ..บอกว่าเห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน รู้สักแต่ว่ารู้....แล้วที่สวดท่องน่ะ..สวดท่องทำไม ไม่เป็นการโกหกรึเปล่า...ฝากถามท่านให้หน่อยนะคะ.....และความพยายามของท่านจะไปหาเณรมาบวชเรียนมาก ๆ หนะ...อย่าทำเลยค่ะ...ก็ที่เห็น เณรแต๋ว...พระตุ๊ด..อย่างนี้แย่จัง...และพระดัง ๆ....เก่ง ๆ หนะ...คล้ายดาราด้วยหละ.....ที่ออกข่าวเรื่องที่คนเขาลองยิงเหรียญอะไรสักอย่าง ว่าเป็นอนันตริยกรรม....โอโฮ้...เราซิจะเผาให้ดู.........วัตถุนอกศาสนาแท้ ๆ...ชื่นชมด้าย..เป็นพระในพระศาสนานะนี่ โถ ๆ...ไม่ต้องบอกว่าวาจาสามหาวหรอกนะค่ะ พูดในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย แต่ไม่ถูกใจใคร นั้น....อีกเรื่องหนึ่ง..