ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23782
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  rawisada [ 12 ก.ค. 2009, 13:31 ]
หัวข้อกระทู้:  การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

การบริจาคอวัยวะ ในวันนี้
ถ้าตอนเราตาย ไปเกิดใหม่
จะเกิดมาพิการไหมค่ะ

:b10: :b10: :b10: :b10: :b10:

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 13:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

ไม่พิการครับเป็นทานที่มีอานิสงส์สูงมาก

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 14 ก.ค. 2009, 17:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

การบริจาคอวัยวะ เป็นการทำทานอย่างหนึ่งนะคะ
เมื่อเราตายไปแล้ว เราไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้
มีแต่บุญและบาปเท่านั้นที่ติดตามไป
ดังนั้นเราอย่าห่วงเลยนะคะ
เพราะร่างกายเรา เราก็ตายไปแล้ว ไม่ได้ใช้แล้ว
ให้เขาได้นำไปเป็นประโยชน์ครั้งสุดท้ายของชีวิตเรา
ให้เขาได้ใช้อวัยวะ ได้ใช้ร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่
เพื่อให้นักเรียนแพทย์ได้เรียนรู้
วันหนึ่งเขาก็ได้จบออกมาเป็นหมอรักษาคนไข้ไงคะ
ส่วนเรื่องชาติหน้าที่กลัวว่าร่างกายจะพิการไม่ครบ 32
คิดว่าไม่น่าเกีียวกับเรื่องบริจาคร่างกายนะคะ
แต่เป็นเพราะทำกรรมไม่ดีมามากกว่าค่ะ
อย่าเป็นกังวลไปเลยนะคะ...คิดว่า เป็นการทำบุญครั้งสุดท้ายในชีวิต

:b51: :b52: :b53:

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 15 ก.ค. 2009, 12:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

:b8: ถือว่าเป็นทานอย่างหนึ่ง ด้วยจิตที่คิดสละออก เป็นเมตตา
คิดเพื่อจะสงเคราะห์ผู้อื่น จิตในขณะนั้นกว้างใหญ่ ถือว่าเป็น
การสร้างภพในใจที่กว้างขวาง ซึ่งเป็นที่ไปหลังจากภพปัจจุบัน
(ต้องมีเหตุและปัจจัยพร้อม) ด้วยจิตใจเช่นนี้อัตภาพในภพภูมิใหม่
ย่อม กว้างขวางและผ่องใสเกินประมาณ

:b47: กายที่มีอยู่ในภพภูมิปัจจุบัน ก็ได้มาจากใจที่สร้างภพ
ไว้แต่ก่อน ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ความฉลาด หรือฐานะ
ล้วนเป็นวิบากที่มีเงื่อนไขมาแล้วทั้งสิ้น จึงทำให้เราทุก ๆ คนไม่มีใคร
ซ้ำกันเลย เพราะการทำงานทางใจของเราแต่ละท่านต่างกัน :b8:

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 15 ก.ค. 2009, 15:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

ผู้สละอวัยวะเป็นทาน หรือ บริจาคร่างกายเป็นวิทยาทาน เป็นผู้มีจิตใจสูง
ท่านย่อมไม่ห่วงอะไรกับร่างกายสังขาร.... ไปสู่ภพภูมิอื่นอย่างสบายๆ

อาจารย์แพทย์ที่คุมตึกกายวิภาคท่านหนึ่ง กล่าวว่า บางครั้งท่านต้องทำงานดึกๆคนเดียว ท่านกลับไม่เคยประสบปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติใดๆเลย คงเป็นเพราะ เหตุนี้...คือ ท่านเหล่านั้นหมดห่วง ล้วนไปสู่ภพหน้าของท่านหมดแล้ว

ในขณะที่ ผู้ที่ต้องดูแลตึกที่เก็บหลักฐานทางนิติเวช เช่น ศพของผู้ที่ตายผิดธรรมชาติ(เช่น ถูกฆาตกรรม) รอการชันสูตร กลับเจอเรื่องเหล่านี้บ่อยมาก


เวลา ตามีปัญหา เขาแนะให้ทำทานด้วยยาแก่ผู้คน(หรือพระ)ที่เจ็บตา หรือ ทำทานด้วยแว่นตา
เวลา หูมีปัญหา เขาแนะให้ทำทานด้วยยาแก่ผู้คน(หรือพระ)ที่เจ็บหู หรือ ทำทานด้วยเครื่องช่วยฟัง

แล้ว นี่ไม่ได้ถวายเพียงแค่เงิน หรือ ถวายอุปกรณ์ ...แต่ ใช้อวัยวะ หรือ ร่างกายเป็นทาน มันยิ่งต้องเป็นทานขั้นสูงกว่านั้น

คนใจสูง ย่อมมีภพหน้าที่ดี ไม่มีทางเลยที่จะเกิดเป็นผู้พิการ
ถ้าหาก ไม่มีกรรมเก่าที่เป็นอกุศลวิบากอันหนักมากจากอดีตกาลนานไกลมาให้ผลเข้าเวลาเปลี่ยนภพภูมิ

เจ้าของ:  บัวศกล [ 15 ก.ค. 2009, 16:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

ได้บุญสูง ได้แสดงออกถึงจิตที่ปล่อยวางอย่างมาก

และได้เป็นส่วนหนึ่งที่ให้ชีวิตแก่ชาวโลก เพราะ
ชาวโลกที่ป่วยไข้กำลังจะตาย อาจไม่ตาย เพราะได้หมอ

ส่วนหมอ กว่าจะเป็นหมอที่รู้รอบ ก็เพราะได้ร่างกายเราเป็นครูผู้ชี้สอน

ร่างกายเรา มีส่วนช่วยในการผลิตหมอ
หมอก็มีส่วนช่วย เกื้อหนุนต่อชีวิตของใครต่อใครอีกมากมาย

ดังนั้นจึงเป็นเรื่อง ของการสร้างบุญกุศลที่มีสาระมาก
และทำได้ยาก หากใจยังไม่สามารถปล่อยวางบางอย่างได้ลง

อย่างเช่นตัวผมเป็นต้น ผมก็คิดอยากบริจาค
แต่ผมกลัวอายคุณหมอ ยามเขามาจับผมล่อนจ้อน
แล้วล้วงควัก อวัยวะน่าเกลียด สารพัดอย่างในตัวผม
ออกมาวาง ให้ว่าที่หมอน้อย หมอใหญ่ หมอหนุ่ม หมอสาว จ้องเพ่งพิศดู

โดยเฉพาะหมอสาว ผมคงทำใจไม่ได้ถ้าเขาจะมาเห็นอะไรที่น่าอายของกระผม
ผมคิดว่า แม้ตอนเป็นศพ ผมก็ยังคงอายอยู่

ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ขอลุ้นให้ท่านอื่นๆไปบริจาคกันเยอะๆครับ

สาธุ สาธุ ส่วนตัวผมผมอนุญาติให้เขาเอาไปเผาดีกว่า
เพราะตอนเป็นกระดูก คงไม่น่าอายเท่าไรครับ

ขออภัยคุณหมอด้วยครับ ไอ้เรื่องละความ รัก กลัว โกรธเกลียด
ผมก็ยังพอข้างๆคูๆไปได้ แต่ไอ้เรื่องละความขี้อายนี่สิครับ แสนยากเย็นจังเลย

ขอสนับสนุนท่านที่จะไปบริจาคอีกครั้งครับ
และผมเชื่อว่าหากท่านเกิดใหม่ อวัยวะอะไรที่ท่านเคยทำบุญบริจาคไป
ท่านคงได้มาใหม่ชนิดที่ยอดเยี่ยมกว่าเก่า เช่นอาจแข็งแรงขึ้น งามขึ้น
และอายุยืนขึ้น

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยเท่านี้ครับ

:b15: :b15: :b15:

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 15 ก.ค. 2009, 16:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

บัวศกล เขียน:
ได้บุญสูง ได้แสดงออกถึงจิตที่ปล่อยวางอย่างมาก

และได้เป็นส่วนหนึ่งที่ให้ชีวิตแก่ชาวโลก เพราะ
ชาวโลกที่ป่วยไข้กำลังจะตาย อาจไม่ตาย เพราะได้หมอ

ส่วนหมอ กว่าจะเป็นหมอที่รู้รอบ ก็เพราะได้ร่างกายเราเป็นครูผู้ชี้สอน

ร่างกายเรา มีส่วนช่วยในการผลิตหมอ
หมอก็มีส่วนช่วย เกื้อหนุนต่อชีวิตของใครต่อใครอีกมากมาย

ดังนั้นจึงเป็นเรื่อง ของการสร้างบุญกุศลที่มีสาระมาก
และทำได้ยาก หากใจยังไม่สามารถปล่อยวางบางอย่างได้ลง

อย่างเช่นตัวผมเป็นต้น ผมก็คิดอยากบริจาค
แต่ผมกลัวอายคุณหมอ ยามเขามาจับผมล่อนจ้อน
แล้วล้วงควัก อวัยวะน่าเกลียด สารพัดอย่างในตัวผม
ออกมาวาง ให้ว่าที่หมอน้อย หมอใหญ่ หมอหนุ่ม หมอสาว จ้องเพ่งพิศดู

โดยเฉพาะหมอสาว ผมคงทำใจไม่ได้ถ้าเขาจะมาเห็นอะไรที่น่าอายของกระผม
ผมคิดว่า แม้ตอนเป็นศพ ผมก็ยังคงอายอยู่

ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่ขอลุ้นให้ท่านอื่นๆไปบริจาคกันเยอะๆครับ

สาธุ สาธุ ส่วนตัวผมผมอนุญาติให้เขาเอาไปเผาดีกว่า
เพราะตอนเป็นกระดูก คงไม่น่าอายเท่าไรครับ

ขออภัยคุณหมอด้วยครับ ไอ้เรื่องละความ รัก กลัว โกรธเกลียด
ผมก็ยังพอข้างๆคูๆไปได้ แต่ไอ้เรื่องละความขี้อายนี่สิครับ แสนยากเย็นจังเลย

ขอสนับสนุนท่านที่จะไปบริจาคอีกครั้งครับ
และผมเชื่อว่าหากท่านเกิดใหม่ อวัยวะอะไรที่ท่านเคยทำบุญบริจาคไป
ท่านคงได้มาใหม่ชนิดที่ยอดเยี่ยมกว่าเก่า เช่นอาจแข็งแรงขึ้น งามขึ้น
และอายุยืนขึ้น

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยเท่านี้ครับ

:b15: :b15: :b15:


:b1: คุณบัวศกลคะ

ลูกโป่งเพิ่งรู้นะคะว่าคุณขี้อายมากมาก :b3: ...ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ :b14:
เห็นอยู่ในนี้ คุณพูดจาฉะฉาน ตรงไปตรงมา ดูกล้าหาญชาญชัย
แล้วดูบางครั้งโรแมนติกนิดๆ :b16:
อย่าอายเลยค่ะ...
ตอนนั้นอาจมีคุณหมอหลายๆท่าน คงนึกขอบคุณอาจารย์ใหญ่ท่านนี้
ที่เสียสละเพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้กับร่างกายมนุษย์
และนำไปรักษาคนไข้ให้ได้ดียิ่งขึ้น

:b48: อย่าอายเลยนะคะ...คนดี

ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  O.wan [ 15 ก.ค. 2009, 18:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

:b32: :b32: ท่านบัวศกล เห็นด้วยกับคุณลูกโป่ง

:b5: อย่างเช่นตัวผมเป็นต้น ผมก็คิดอยากบริจาค
แต่ผมกลัวอายคุณหมอ ยามเขามาจับผมล่อนจ้อน
แล้วล้วงควัก อวัยวะน่าเกลียด สารพัดอย่างในตัวผม
ออกมาวาง ให้ว่าที่หมอน้อย หมอใหญ่ หมอหนุ่ม หมอสาว จ้องเพ่งพิศดู

โดยเฉพาะหมอสาว ผมคงทำใจไม่ได้ถ้าเขาจะมาเห็นอะไรที่น่าอายของกระผม
ผมคิดว่า แม้ตอนเป็นศพ ผมก็ยังคงอายอยู่
:b6:

:b14: ลูกสาวก็จะเรียนหมอค่ะ แต่เค้าบอกแม่ว่า หนูไม่อยากเรียนอาจารย์ใหญ่ที่เป็นผู้ชายเลย
:b15: หนูคงอายนะเวลาที่เค้าแก้ผ้า :b32: :b9:แล้วล้วง......ควัก :b2:
:b48: มาบริจาคนะคะ เพราะหมอสาวๆ แรกๆก็อายอาจารย์ใหญ่เหมือนกันค่ะ :b29:

เจ้าของ:  walaiporn [ 15 ก.ค. 2009, 19:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร


โอว่!!!!!! .. พระเจ้า .... คุณมังกืออะไรจะขี้อายขนาดนั้น :b5:

ตายไปแล้วจะไปรู้อะไรล่ะคะน่ะ ... :b14:

เจ้าของ:  บัวศกล [ 15 ก.ค. 2009, 19:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

บัวศกลขอซาบซึ้ง กับท่านผู้หวังดีทุกท่านขอรับ
ที่พากันหวังดี ให้บัวศกล สละความอายไปสร้างมหากุศล

อันเนื่องด้วยว่าบัวศกล ตอนนี้ ได้ฝึกการ สร้างบุญ
ด้วยการ เฝ้ารอ อนุโมทนา เรียกว่า เป็นการสร้างบุญหนึ่งในสิบวิธีที่ผมชักเริ่มถนัดที่สุด

และตอนนี้ก็กำลังจ้องเฝ้ารออนุโมทนาอยู่ หวังว่าใครสักคนในนี้
จะมาเป็นตัวอย่างการบริจาครายแรก
เมื่อนั้นผมจะรีบแสดงตัวอย่าง การอนุโมทนาให้ปรากฏแก่สายตาท่านทั้งหลายทันที


อ้อ.........แล้วคุณแม่ครัวรู้ได้ยังไงครับ ว่าตายไปแล้วจะอายไม่เป็น :b6:


:b28:

เจ้าของ:  walaiporn [ 15 ก.ค. 2009, 19:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

คุณมังกือ...

ในที่นี้นะคะ ... ล้วนบริจาคร่างกายกันแล้วทั้งนั้นแหละค่ะ :b16:

ต้องการหลักฐานยืนยันมั๊ยคะ .. จะจัดส่งไปให้ค่ะ .. :b32:

จาก มันแกวเปลือกหนาหัวแข็ง .. แต่ใจบุญค่ะ :b17:

เจ้าของ:  แมวขาวมณี [ 15 ก.ค. 2009, 21:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

rawisada เขียน:
การบริจาคอวัยวะ ในวันนี้
ถ้าตอนเราตาย ไปเกิดใหม่
จะเกิดมาพิการไหมค่ะ

:b10: :b10: :b10: :b10: :b10:

:b8:
ไม่พิการหรอกค่ะ
เคยได้ยินหรืออ่านเจอมามิทราบว่่าที่ใด ... เพราะนานมากแล้ว(สมัยอยู่ ม.ต้นมั้ง)
"....อันดวงดาวที่มากมายในท้องฟ้ายามราตรี
เทียบจำนวนไม่ได้กับ...ดวงตาที่เรา(ตถาคต)ได้บริจาคเป็นทาน..."


บริจาคอวัยวะ เช่นดวงตา(หรือกระจกต, เลนส์ตา)
เกิดใหม่ จะมีดวงตาสวยงาม อย่างสูงจะได้ ทิพยจักษุ
บริจาคไต เกิดใหม่ จะมีร่างกายบริสุทธิ ไม่เป็นโรคอันเนื่องมาจากไต
และ ฯลฯ

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 15 ก.ค. 2009, 22:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

บัวศกล เขียน:
บัวศกลขอซาบซึ้ง กับท่านผู้หวังดีทุกท่านขอรับ
ที่พากันหวังดี ให้บัวศกล สละความอายไปสร้างมหากุศล

อันเนื่องด้วยว่าบัวศกล ตอนนี้ ได้ฝึกการ สร้างบุญ
ด้วยการ เฝ้ารอ อนุโมทนา เรียกว่า เป็นการสร้างบุญหนึ่งในสิบวิธีที่ผมชักเริ่มถนัดที่สุด

และตอนนี้ก็กำลังจ้องเฝ้ารออนุโมทนาอยู่ หวังว่าใครสักคนในนี้
จะมาเป็นตัวอย่างการบริจาครายแรก
เมื่อนั้นผมจะรีบแสดงตัวอย่าง การอนุโมทนาให้ปรากฏแก่สายตาท่านทั้งหลายทันที


อ้อ.........แล้วคุณแม่ครัวรู้ได้ยังไงครับ ว่าตายไปแล้วจะอายไม่เป็น :b6:


:b28:


ลูกโป่งก็ได้บริจาคแล้วค่ะ ทั้งบริจาคร่างกาย และบริจาคดวงตา
หวังว่า...คงเป็นการให้ครั้งสุดท้ายในชีวิต
ดีกว่าปล่อยร่างกายทิ้งไปเฉยๆ...โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร

สาธุกับทุกท่านที่ร่วมบริจาคร่างกายและการทำความดีอื่นๆนะคะ

ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  บัวศกล [ 16 ก.ค. 2009, 05:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

บัวศกล ขออนุโมทนากับคุณ ลูกโป่งด้วยครับ

คุณลูกโป่งเป็นคนที่น่าอบอุ่นมากเลยนะครับ
ยามที่ผมได้ยินมธุรสวาจา เรียกกล่าวผมว่า บัวศกลคนดี

ผมแทบจะอยากรีบไปบริจาคร่างกายมันซะเดี๋ยวนั้น
ดีว่ายับยั้งชั่งใจไว้ทัน

แล้วจิตมันก็บอกว่า เกือบไปแล้วสิเรา


บัวศกลก็ตามอ่านหลายข้อความคุณลูกโป่งครับโดยเฉพาะเมื่อคุณผ่านเข้ามา
ถึงแม้การมาจะเป็นการอนุโมทนาซะส่วนมาก แต่ก็เป็นการอนุโมทนาที่มีพลังความบริสุทธิ
จริงใจ และอบอุ่นมากเลยครับ

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเล่าบ้าง สาระต่างๆบ้างที่คุณแสดงไว้ในห้องอื่นๆ
บัวศกลไม่ค่อยได้โผล่หน้าไปอ่านครับ เพราะบัวศกลไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนั้น
โดยเฉพาะตัวขี้เกียจ ถ้าเจออะไรยาวๆก็จะขี้เกียจอ่านทันที

คุณลูกโป่งคงไม่ถือสาความขี้เกียจของบัวศกลนะครับ

เพราะถึงไม่ได้ค่อยอ่านแต่ผมก็ชื่นชมและยินดีที่มีเรื่องราวดีๆมากมายเกิดขึ้นที่นี่

ขอบคุณอีกครั้งครับที่เปิดโอกาสให้ผมได้แบ่งส่วนบุญ
ด้วยการอนุโมทนาอีกครั้ง

:b8: :b8: :b8: :b53:

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 16 ก.ค. 2009, 06:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การบริจาคอวัยวะถ้าตายไปจะเป็นอย่างไร

บัวศกล เขียน:
บัวศกล ขออนุโมทนากับคุณ ลูกโป่งด้วยครับ

คุณลูกโป่งเป็นคนที่น่าอบอุ่นมากเลยนะครับ
ยามที่ผมได้ยินมธุรสวาจา เรียกกล่าวผมว่า บัวศกลคนดี

ผมแทบจะอยากรีบไปบริจาคร่างกายมันซะเดี๋ยวนั้น
ดีว่ายับยั้งชั่งใจไว้ทัน

แล้วจิตมันก็บอกว่า เกือบไปแล้วสิเรา


บัวศกลก็ตามอ่านหลายข้อความคุณลูกโป่งครับโดยเฉพาะเมื่อคุณผ่านเข้ามา
ถึงแม้การมาจะเป็นการอนุโมทนาซะส่วนมาก แต่ก็เป็นการอนุโมทนาที่มีพลังความบริสุทธิ
จริงใจ และอบอุ่นมากเลยครับ

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเล่าบ้าง สาระต่างๆบ้างที่คุณแสดงไว้ในห้องอื่นๆ
บัวศกลไม่ค่อยได้โผล่หน้าไปอ่านครับ เพราะบัวศกลไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนั้น
โดยเฉพาะตัวขี้เกียจ ถ้าเจออะไรยาวๆก็จะขี้เกียจอ่านทันที

คุณลูกโป่งคงไม่ถือสาความขี้เกียจของบัวศกลนะครับ

เพราะถึงไม่ได้ค่อยอ่านแต่ผมก็ชื่นชมและยินดีที่มีเรื่องราวดีๆมากมายเกิดขึ้นที่นี่

ขอบคุณอีกครั้งครับที่เปิดโอกาสให้ผมได้แบ่งส่วนบุญ
ด้วยการอนุโมทนาอีกครั้ง

:b8: :b8: :b8: :b53:


:b48: คุณบัวศกลคะ

ขอบคุณความรู้สึกดีดีที่มีให้กันนะคะ :b20:
ลูกโป่งก็รู้สึกเหมือนที่คุณบัวศกลบอกว่า...ที่นี่มีสิ่งดีดีมากมายเกิดขึ้น
ประทับใจเช่นกันค่ะ :b1:
ที่นี่มีคนหลายประเภทอยู่รวมๆกัน
มาให้ได้ศึกษา ได้เรียนรู้ ได้เฝ้ามองดู ได้ปล่อยวาง
ทั้งมิตรภาพ ทั้งความทรงจำดีดี
ทั้งบทเรียน ทั้งข้อโต้แย้ง ทั้งความห่วงใย
อีกหลายอย่างที่พูดยังไงก็พูดได้ไม่หมด
มีเพียงความรู้สึกดีดีที่มอบให้ด้วยความจริงใจ...สำหรับมิตรภาพที่ดีดี
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ได้ทำความดีกันต่อไป

ลูกโป่งไม่ถือสาความขี้เกียจของบัวศกลหรอกค่ะ
บางทีลูกโป่งก็แอบเป็นเหมือนกัน :b16: :b3:
ทำในสิ่งที่ชอบ ชอบในสิ่งที่ทำนะคะ
ขอให้เป็นสิ่งที่ดีดี ถูกต้อง ถูกธรรม...ก็พอ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด...เหมือนกับเป็นวันสุดท้ายของชีวิต...

ขอบคุณที่ตื่นมาตอนเช้า...แล้วได้รับกำลังใจดีดีจากคุณ...ซาบซึ้งค่ะ :b36: :b20: :b48:
ขอบคุณจริงจริง :b8:

ลูกโป่งขอไปอาบน้ำ เตรียมตัวสวดมนต์ และปฏิบัติธรรมนะคะ(ช่วงเข้าพรรษา)

ธรรมะสวัสดีค่ะ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/