ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

จะช่วยยังไงดีคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23653
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  หมูตอน [ 10 ก.ค. 2009, 09:23 ]
หัวข้อกระทู้:  จะช่วยยังไงดีคะ

หนูมีญาติที่สนิทอยู่คนหนึ่งนะคะ ทั้งๆที่เค้าอายุมากแล้ว ประมาณ31ปีแล้ว แต่เค้าเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตในเรื่องใดๆเลย
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนก็เรียนไม่จบเพราะเรื่องยาเสพย์ติด เคยพาแฟนเก่าไปทำแท้งแล้ว 2 ครั้งโดยเค้าพูดว่าเป็นความประสงค์ของแฟน เนื่องจากยังเรียนอยู่ไม่อยากให้พ่อแม่รู้ เรื่องการงานก็ไม่รุ่งเรืองอะไร แต่ที่ไม่ลำบากเนื่องจากที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัว มีพี่สาวกับพี่เขยคอยอุดหนุนค้ำชู

เรื่องความรักก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เรื่องเงินก็ไม่มีเก็บเลย เก็บเงินไม่อยู่

แล้วเค้าเป็นคนที่อารมณ์ร้อนมากเลยพี่สาวเค้าบอกหนูว่าที่เค้าควบคุมสภาวะอารมณ์ตัวเองไม่ได้เพราะเค้าติดยาบ้าด้วย
เค้ามักจะพูดว่าเค้าเลิกติดยาบ้าได้แล้ว แต่พี่สาวเค้าบอกว่าไม่เป็นความจริงเนื่องจากเค้า
ยังมีอารมณ์แปรปรวนแล้วยังเก็บเงินไม่อยู่เลยและโกหกผู้อื่นอยุ่บ่อยๆนะคะซึ่งหนูสังเกตแล้วก็เป็นความจริงค่ะ และในสมัยก่อนก็ลักขโมยเงินและของมีค่าในบ้านของพี่สาวไปบ่อยๆเพื่อไปซื้อยาบ้า


ประกอบกับเค้ามีญาติรุ่นน้องที่ค้าขายยาบ้า ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอบายมุข ชอบโทรมาหาเค้าบ่อยๆ
บอกให้เค้าเลิกคบ เค้าก็บอกว่ามันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะเป็นน้องเป็นญาติกัน


หนูพยายามช่วยพี่เค้าโดยพูดถึงเรื่องบุญกรรม ซื้อหนังสือไปให้อ่าน เค้าก็รู้และเชื่อเลยนะคะว่าทำไมชีวิตเค้าจึงเป็นแบบนี้ตามที่หนังสือบอก หนูเลยชวนไปทำบุญบ้าง

เรื่องชวนไปทำบุญใส่บาตรเนี่ยเค้าก็ไปอยู่นะคะ แต่ถ้าจะให้ไปฟังธรรม ปฏิบัติธรรมก็เลี่ยงไปทุกที บอกให้สวดมนต์ก็ยังไม่สวดเนี่ยงจากขี้เกียจอะไรประมาณนี้ และหนูก็พูดบอกเค้าแล้วด้วยการทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลยังไม่เพียงพอหรอก กับสิ่งที่เค้าทำไป แต่เค้าก็ยังไม่เริ่มซักที

เค้าก็พูดว่าเค้าจะปรับตัวใหม่ ก็ยังไม่รู้ว่าเค้าจะโกหกหนูอีกรึป่าว เห็นทุกวันนี้ก็ไม่เห็นจะทำประโยชน์อะไรให้ตัวเองหรือคนอื่นเลย นอนแล้วก็กิน แล้วก็ทำงานในออฟฟิศบ้างเล็กๆน้อยๆ แล้วตอนนี้ก็เหมือนสุขภาพเค้าไม่ค่อยดีเลย เพราะสูบบุหรี่อีก หมอบอกว่าเป็นหลอดลมอักเสบ

พอพูดเรื่องธรรมมะมากเข้าเหมือนเค้าไม่มีปัญญาที่จะรับฟัง เหมือนหนูพูดแล้วเค้าก็ฟังผ่านๆไป ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดหนูทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่น่าคิดทั้งนั้นเป็นเรื่องง่ายๆที่นำไปใช้ได้ทั้งนั้น ทั้งๆที่หนูมีจิตใจที่จะช่วยเหลือเค้าให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะหนูรู้ว่ากรรมที่เค้าทำมานั้นมากนัก สงสารเค้ามากๆ ไม่รู้ว่ากรรมที่เค้าทำมาจะส่งผลใดๆในอนาคตอันใกล้นี้
อยากจะช่วยพี่เค้าจริงๆค่ะ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 ก.ค. 2009, 09:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะช่วยยังไงดีคะ

พรหมวิหารธรรม มี ๔ ข้อ

๑.เมตตา ความรักความหวังดีปรารถนาจะให้ใครต่อใครเป็นสุข มีความสุข
๒.กรุณา ความสงสารคิดจะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ทับถม
๓.มุทิตา ความพลอยยินดี ในเมื่อผู้อื่นได้ดีมีความสุขสมปรารถนา
๔. อุเบกขา ความวางใจเฉยดูอยู่ (เฉยรู้) ในเมื่อผู้อื่นเติบใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ที่จะดำรงตนในสังคม
ได้แล้ว หรือ เขาใช้ชีวิตไปตามวิถีทางของเขา
(ขยายความว่า เมื่อเราปฏิบัติตามข้อ ๑-๓ แล้ว เขาก็ยังมียังเป็นเช่นเดิม คือ เป็นไปตาม มโนกรรม วจีกรรม กายกรรมของเขา เราเองก็พึงใช้อุเบกขาธรรม จีงอยู่เป็นสุขได้
ไม่อย่างนั้น เราเองจะเป็นทุกข์เพราะผู้อื่น จนกระทั่วว่าไม่มีเมตตา ไม่มีความกรุณา ให้ตัวเอง)

เจ้าของ:  หมูตอน [ 10 ก.ค. 2009, 09:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะช่วยยังไงดีคะ

กรัชกาย เขียน:
พรหมวิหารธรรม มี ๔ ข้อ

(คือว่า เมื่อเราปฏิบัติตามข้อ ๑-๓ แล้ว เขาก็ยังมียังเป็นเช่นเดิม คือ ตามวิถึ มโนกรรม วจีกรรม กายกรรมของเขา เราเองก็พึงใช้อุเบกขาธรรม ไม่อย่างนั้นแล้ว เราเองจะเป็นทุกข์เพราะผู้อื่น จนกระทั่วว่าไม่มีเมตตา ไม่มีความกรุณา ตัวเองได้)



ถูกต้องเลยค่ะคุณกรัชกาย คือว่าที่เป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้มันใช่เรื่องของตัวเองเลย

อยากพยายามช่วยเค้า เคยให้เงินเค้ายืม แล้วหนูยังไม่ทำงานเลยอ่ะ ก็ต้องขอจากพ่อแม่ ก็โกหกพ่อแม่อีก บ้าไปแล้ว อันนี้หนูก็เครียดอยู่ เค้าก็คงจะไม่มีปัญญาจะมาคืนหนูหรอก
ตัวเองกลับสร้างบาปขึ้นมาอีกกลายเป็นเรื่องบาปกันไปใหญ่แล้ว

ตอนนี้ตัดสินใจจะสัญญากับตัวเองแล้วจะไม่โกหกพ่อก่ะแม่อีกแล้วกับเรื่องเงินๆทองๆเนี่ยค่ะ



อนุโมทนาบุญสำหรับคุณกรัชกายที่มาแนะนำทางออก เพราะยิ่งทำให้ความคิดหนูหนักแน่นขึ้นไปอีก

:b47: :b47: :b8: :b8: :b8: :b47: :b47:

เจ้าของ:  หมูตอน [ 10 ก.ค. 2009, 09:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จะช่วยยังไงดีคะ

เมื่อคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง “ปล่อยมันไป” ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัวแต่จะนับ “เม็ดทรายในแม่น้ำคงคา” (มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง) เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่ คนที่ทำตัวเป็น “มิสเตอร์เยส” นั้น เขาจะไม่มีวันได้อยู่อย่างมีความสุขหรอก เพราะหลังจากที่คุณ “เยส” กับเรื่องนี้กับคนนี้ไปแล้ว ก็จะมีเรื่องใหม่ และคนใหม่ มาขอให้คุณทำอะไรอยู่เสมอ ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ปล่อยมันไป” หรือมิเช่นนั้น จากบทเรียนคราวนี้ คุณก็ควรฝึกเป็น “มิสเตอร์โน” บ้าง เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย

จากคำกล่าวของท่าน ว.วชิรเมธี

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/