ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ปัญญา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23447 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 04 ก.ค. 2009, 08:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | ปัญญา |
ถ้าเป็นปัญญาจริงๆ ก็จะไม่หนีไปไม่ให้รู้นิมิต เพราะตามเป็นจริง หลังเห็น ก็จะต้อง รู้นิมิตของสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นปกติ เป็นธรรมดา เพียงแต่จะต้องอาศัยความเข้าใจ ถูก เห็นถูกที่เจริญขึ้น ที่จะสามารถรู้ได้ว่า ...เพราะมีนามธรรมที่รู้นิมิต การรู้นิมิตจึงมีได้ เป็นสิ่งที่สติสัมปชัญญะ ควรจะระลึกได้ว่าเป็นแต่เพียงสภาพธรรมประเภทหนึ่ง เป็นแต่ เพียงเครื่องอาศัยระลึกชั่วขณะที่สภาพธรรมนั้นปรากฏอยู่เท่านั้น บ่อยๆ เนืองๆ จนกว่า จะรู้ถูกต้องเพิ่มขึ้นตามลำดับ ...ที่สำคัญคือรู้แล้วละ..เบื้องแรกคือละความไม่รู้ในสภาพ ธรรมที่ปรากฏ ละความติดข้อง ยินดีในความเห็นผิด ...ที่ยึดถือสภาพธรรมที่ปรากฏว่า เป็นเรา เป็นตัวตน ลำดับของพระสาวกที่ได้เข้ามาเฝ้าฟังพระธรรมและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ในอรรถกถาท่านเรียงเป็นลำดับตั้งแต่พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นต้นมา เช่น ข้อความในอรรถกถาว่า พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 560 พระสาวกมี ๓ อย่าง คืออัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก. บรรดาพระสาวก ๓ พวกนั้น พระสาวกเหล่านี้ คือท่านพระ- อัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ พระอัสสชิ พระนาลกะ พระยสะ... สัตว์บุคคลที่มีชีวิต มีใจครองเมื่อต้องการสื่อความหมายด้วยกาย จิตจะเป็นสมุฏฐานให้รูปชนิดหนึ่งเกิดเคลื่อนไหวกายให้สื่อความหมาย เรียกว่ากายวิญญัติรูป เกิดขึ้นในการเคลื่อนไหวที่เป็นหน้าตาหรือท่าทาง เมื่อแยกเป็นกลาปที่เล็กสุด เมื่อจิตต้องการสื่อความหมาย รูปจะประกอบด้วยอวินิพโภครูป 8 กับกายวิญญัติรูป 1 และเมื่อร่างกายเคลื่อนไหวเป็นกิริยาท่าทาง รูปก็จะประกอบด้วย อวินิพโภครูป 8 กายวิญญัติรูป 1 และวิการรูป 3 แต่ถ้าการเคลื่อนไหวไม่ต้องการสื่อความหมายอะไร รูปจะมีแต่อวินิพโภครูป 8กับวิการรูป 3เกิดร่วม ไม่มีกายวิญญัติรูปเกิดในกลาปนั้นๆ รูป เป็นสภาพที่ไม่รู้อะไร การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพราะจิตเกิดมีวาโยธาตุทำให้กายไหวแล้วก็ดับไป แล้วก็มีจิตเกิดดับ มีรูปเกิดดับไปตามปัจจัยอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ สัตว์ บุคคล จึงไม่มีจริง เพราะเป็นเพียงสภาวะของนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น ขณะทีเป็นกุศลต่างจากขณะที่เป็นอกุศล ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ได้ กุศล / อกุศล / ธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดเพราะเหตุปัจจัย เป็นอนัตตา แม้ไม่ทำอย่างอื่น นั่งฟังอย่าง ตั้งใจ ก็มีโอกาสที่อกุศลจิตจะเกิดแทรกคั่น สลับ กับกุศลที่เข้าใจพระธรรมได้ ถ้าเป็น ผู้ที่มีปัญญา รู้ตัวเองตามเป็นจริงว่า มีกิเลสมาก และรู้ว่าขณะที่ไม่ฟัง จิตเป็นอกุศลเป็น ส่วนใหญ่ ก็จะเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม เพราะรู้ว่าโอกาสของการฟังพระธรรม มีน้อยกว่าโอกาสของการงานที่ทำด้วยอกุศล และรู้ว่าการอบรมเจริญปัญญาก็เป็นสิ่งที่ ประเสริฐกว่าการไปทำอย่างอื่นด้วยอำนาจของอกุศล |
เจ้าของ: | rawisada [ 10 ก.ค. 2009, 23:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญา |
ความคุณสำหรับความรุ้ดีๆนะค่ะ มีประโยชน์มากมาย ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ ปฎิบัติ มีธรรมะ มาข่มจิต ค่อยๆคิด หาทางออก จนเห็นแสง มันมาจาก ปัญญา อันแข็งแรง ที่เราแปลง มาได้จาก ปฎิบัติธรรม |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |